เรื่องมีอยู่ว่า ได้มีเกิดอุบัติเหตุพ่อถอยรถไปเฉียวรถเบ๊นซ์ ซึ่งตามหลังมาเบรคไม่ทัน ทางรถเบ๊นซ์มีประกันภัยชั้น 1 ส่วนทางฝั่งเราไม่มีประกันภัย ทางรถเบ๊นซ์ได้โทรตามเรียกประกันของเขามาและได้ตกลงให้ฝ่ายพ่อเป็นคนจ่ายค่าซ่อม พ่อรับผิดและแจ้งไปว่าจะชดใช้ค่าเสียหายตามจริงในส่วนที่ทำเสียหาย (ตามรูป) ซึ่งตามที่เราติดต่อขอประกันดูรูปว่าเสียหายมากน้อยแค่ไหน และประกันประเมินราคาซ่อมให้ดูว่ามีกี่รายการประมาณเท่าไหร่ ตามรายการดังนี้ 1.กันชนหน้า = 10,000 บาท 2.กระจังหน้า = 15,000 บาท 3.กรอบป้ายทะเบียนหน้า = 2,000 บาท 4. รอตรวจสอบต่อเนื่อง = 15,000 บาท เบ็ตเสร็จประมาณ 42,000 ผ่านไปสักพักไม่ถึงเดือนทางประกันติดต่อมาด้วยทางเจ้าของรถอยากนำรถไปเข้าศูนย์ที่เขาเลือกเองเท่านั้น จากนั้นก็มีใบราคามาจากประกันประมาณ 80,000 ทางเราขอต่อรองลดราคาและขอติดต่อศูนย์เบ๊นซ์ใกล้บ้านเราที่เรารู้จัก และได้รับมาตรฐานเช่นกัน แต่ทางเจ้าของเบ๊นซ์ไม่ยอมโดยแจ้งผ่านทางประกัน เลยต่อรองกับประกันใหม่โดยนายประกันแจ้งกับเราว่าเห็นด้วยว่าแพงไป เลยจะช่วยหาศูนย์ใหม่ให้ราคาถูกกว่านี้ ผ่านไป 1 เดือนอยู่ๆมีบิลมาเรียกเก็บ 87,000 บาท (เขาไม่ต้องให้เราดูรายการก่อนทำการซ่อมก่อนหรือค่ะ) เราดูรายการบางรายการที่เปลี่ยนใหม่ไม่ได้มีในการประเมินครั้งแรกเช่นเปลี่ยนฝากระโปรงใหม่ และ พ่นทำสี เลยแย้งและประกันก็เปลี่ยนคำพูดว่าโดนด้วย รบกวนช่วยดูให้หน่อยค่ะ ว่าสมควรยอมรับมั๊ย พอดีไม่ค่อยรู้เรื่องกฎหมาย แต่ที่ดูในภาพไม่โดนค่ะ และดูจากการประเมินที่ประกันส่งให้ก็ไม่มี ขอลดเขาบอกลดให้สุดได้แค่70,000 บาท เราควรทำยังไงต่อดีค่ะ ทางบ้านไม่มีเงินมากขนาดนั้นพร้อมรับผิดชอบ ผ่อน แต่แค่อยากปรึกษาว่า 70,000 บาทกับแผลตรงนี้เหมาะสมมั๊ยค่ะกับราคานี้ที่ประกันเรียกเก็บ
บริษัทประกันเรียกค่าคอมแพงเกินจริงมั๊ย?