พอรู้ตัวอีกทีก็เข้าสู่ปีที่ 10 แล้วที่แฟนละครชาวไทยได้เห็นพัฒนาการทางการแสดงของ คิม-คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส นักแสดงลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ที่ได้รับการจับตามองตั้งแต่การปรากฏตัวในละครชุดสี่หัวใจแห่งขุนเขา โดยเธอรับบทเป็นทิพย์ธารา หรือหมอน้ำ ในเรื่องธาราหิมาลัย แม้จะยังไม่เจนจัดภาษาไทย แต่เสน่ห์ของสาวน้อยเสียงใส ดวงตากลมโต ก็สะกดใจคนดูได้อยู่หมัด
เราเลยอยากชวนคิมมาประมวลผลเส้นทางบันเทิงในชั่วระยะเวลา 10 ปีแรกของการทำงาน ก่อนเดินเครื่องเดินหน้าลุยต่อไปในฐานะนักแสดงฝีมือดีที่พร้อมจะกระโจนเข้าสู่ทุกบทบาทที่ท้าทาย
เล่าถึงผลงานของคุณที่เราจะได้เห็นในปีนี้ให้ฟังหน่อย
“มีเรื่องดั่งดวงหฤทัยที่ออนแอร์เดือนกุมภาพันธ์นี้ และกำลังถ่ายเรื่องสองเสน่หา ซึ่งเรื่องนี้คิมต้องเล่นเป็นฝาแฝด ถือเป็นเรื่องที่ยากสุดที่เคยเล่น เพราะนอกจากจะต้องเล่นออกมาเป็นสองคาแร็กเตอร์แล้ว บทยังแรงมาก แฝดตัวร้ายคือร้ายสุดๆ และเนื้อหาก็แรง มีเรื่องของการถูกทารุณต่างๆ ทั้งเครียดและเหนื่อย คิมเคยเครียดถึงขั้นที่อยู่ดีๆ แขนก็ชาไปเลยทั้งสองข้าง เหมือนร่างกายเราเกิดอาการช็อกและงง เพราะต้องเข้าฉากดราม่ากะทันหัน เลยชาไปหมดทั้งแขน”
คุณคาดหวังในผลลัพธ์แค่ไหน กับการแสดงครั้งนี้ที่คุณทุ่มพลังงานลงไป
“ไม่ว่าจะแสดงละครเรื่องไหนก็ตาม คิมไม่เคยคาดหวัง และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดแค่นั้น สำหรับเรื่องนี้ อย่างที่บอกว่าเป็นเรื่องที่คิมใช้พลังงานเยอะที่สุดตั้งแต่เคยเล่นละครมา ก็เลยหวังว่าคนดูจะได้เห็นเราในคาแร็กเตอร์ที่เปลี่ยนไป อยากแค่ได้ยินคนพูดว่าคิมเล่นไม่เหมือนตัวละครอื่นๆ ที่ผ่านมา หรือคิมเล่นฉากนี้ดีจังเลย แต่ไม่ได้คาดหวังว่าละครจะต้องเรตติ้งดีมหาศาล”
มีใครอีกที่คุณเคยร่วมงานด้วยแล้วรู้สึกว่าเป็นมากกว่าผู้ร่วมงาน
“พี่แอน ทองประสมถือเป็นตัวแม่ในชีวิตคิมเหมือนกัน พี่แอนสอนคิมเยอะมาก และได้ให้ทัศนคติที่ดีในการใช้ชีวิตหลายเรื่อง และถ้าถามว่าพี่แอนดุไหม... ดุมาก หรือถ้าถามว่าคิมกลัวใครมากที่สุดในวงการ ก็คือพี่แอน เขาเป็นเหมือนทั้งพี่สาวและแม่ในคนเดียวกันเพราะเขาให้ความสบายใจกับเรา ไปๆ มาๆ เลยเป็นมากกว่าผู้ร่วมงาน เขาค่อนข้างจะซัพพอร์ตคิมในทุกด้าน เวลาคิมเจอปัญหาที่ตัวเองคิดว่ามันใหญ่ซะเหลือเกิน แล้วไปปรึกษาพี่แอน เขากลับทำให้เรื่องนั้นกลายเป็นเรื่องเล็กได้ ให้สติโดยที่ไม่เคยเข้าข้างเราเลยด้วยซ้ำ (หัวเราะ)”
“เมื่อก่อนคิมทำงานหนักถึงขั้นไม่ได้ เจอคุณพ่อนานสองเดือนก็มี นึกถึงทีไร ก็เสียใจมาก ดังนั้นสามปีที่ผ่านมานี้ คิมจึงเริ่มบาลานซ์ชีวิตใหม่”
สังเกตว่าในแต่ละปีคุณมีทริปเดินทางท่องเที่ยวสม่ำเสมอ อยากรู้ว่าการท่องเที่ยวสำคัญกับชีวิตแค่ไหน
“สำคัญนะ และเพิ่งมารู้ด้วยว่าสำคัญ หลายปีแรกที่เข้าวงการคิมทำงานหนักมากจนไม่ได้ไปเที่ยวในสถานที่สวยๆ ที่เราอยากไปซะที เช่น สวิตเซอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ ที่ที่เราจะได้ว้าวไปกับวิว จากนั้นเมื่อคุณพ่อของคิมเสีย คิมจึงเพิ่งย้อนกลับมาให้ความสำคัญกับคนใกล้ตัว มันเป็นเรื่องที่รวดเร็วมากเวลาที่ใครสักคนจะไปจากชีวิตเรา เราจึงต้องให้ความรักให้เวลากับครอบครัวมากขึ้น ต้องบาลานซ์งานกับครอบครัวแบบ 50/50 ให้ได้”
สองเสน่หา มีบททารุนด้วยหรือ ชักจะน่าดูขึ้นมาหน่อยแล้ว ดูคิมตั้งใจมากเลย สู้ๆน้า
รอติดตาม ดั่งดวงหฤทัยกันด้วยนะคะ 4 มีนาคมนี้ค่ะ^^
คิมเบอร์ลี่ @ ปก L’OFFICIEL พร้อมบทสัมภาษณ์ ถ่ายทำสองเสน่หา บทแรงและเครียดมากจนเกิดอาการแขนชา😱😱
พอรู้ตัวอีกทีก็เข้าสู่ปีที่ 10 แล้วที่แฟนละครชาวไทยได้เห็นพัฒนาการทางการแสดงของ คิม-คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส นักแสดงลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ที่ได้รับการจับตามองตั้งแต่การปรากฏตัวในละครชุดสี่หัวใจแห่งขุนเขา โดยเธอรับบทเป็นทิพย์ธารา หรือหมอน้ำ ในเรื่องธาราหิมาลัย แม้จะยังไม่เจนจัดภาษาไทย แต่เสน่ห์ของสาวน้อยเสียงใส ดวงตากลมโต ก็สะกดใจคนดูได้อยู่หมัด
เราเลยอยากชวนคิมมาประมวลผลเส้นทางบันเทิงในชั่วระยะเวลา 10 ปีแรกของการทำงาน ก่อนเดินเครื่องเดินหน้าลุยต่อไปในฐานะนักแสดงฝีมือดีที่พร้อมจะกระโจนเข้าสู่ทุกบทบาทที่ท้าทาย
เล่าถึงผลงานของคุณที่เราจะได้เห็นในปีนี้ให้ฟังหน่อย
“มีเรื่องดั่งดวงหฤทัยที่ออนแอร์เดือนกุมภาพันธ์นี้ และกำลังถ่ายเรื่องสองเสน่หา ซึ่งเรื่องนี้คิมต้องเล่นเป็นฝาแฝด ถือเป็นเรื่องที่ยากสุดที่เคยเล่น เพราะนอกจากจะต้องเล่นออกมาเป็นสองคาแร็กเตอร์แล้ว บทยังแรงมาก แฝดตัวร้ายคือร้ายสุดๆ และเนื้อหาก็แรง มีเรื่องของการถูกทารุณต่างๆ ทั้งเครียดและเหนื่อย คิมเคยเครียดถึงขั้นที่อยู่ดีๆ แขนก็ชาไปเลยทั้งสองข้าง เหมือนร่างกายเราเกิดอาการช็อกและงง เพราะต้องเข้าฉากดราม่ากะทันหัน เลยชาไปหมดทั้งแขน”
คุณคาดหวังในผลลัพธ์แค่ไหน กับการแสดงครั้งนี้ที่คุณทุ่มพลังงานลงไป
“ไม่ว่าจะแสดงละครเรื่องไหนก็ตาม คิมไม่เคยคาดหวัง และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดแค่นั้น สำหรับเรื่องนี้ อย่างที่บอกว่าเป็นเรื่องที่คิมใช้พลังงานเยอะที่สุดตั้งแต่เคยเล่นละครมา ก็เลยหวังว่าคนดูจะได้เห็นเราในคาแร็กเตอร์ที่เปลี่ยนไป อยากแค่ได้ยินคนพูดว่าคิมเล่นไม่เหมือนตัวละครอื่นๆ ที่ผ่านมา หรือคิมเล่นฉากนี้ดีจังเลย แต่ไม่ได้คาดหวังว่าละครจะต้องเรตติ้งดีมหาศาล”
มีใครอีกที่คุณเคยร่วมงานด้วยแล้วรู้สึกว่าเป็นมากกว่าผู้ร่วมงาน
“พี่แอน ทองประสมถือเป็นตัวแม่ในชีวิตคิมเหมือนกัน พี่แอนสอนคิมเยอะมาก และได้ให้ทัศนคติที่ดีในการใช้ชีวิตหลายเรื่อง และถ้าถามว่าพี่แอนดุไหม... ดุมาก หรือถ้าถามว่าคิมกลัวใครมากที่สุดในวงการ ก็คือพี่แอน เขาเป็นเหมือนทั้งพี่สาวและแม่ในคนเดียวกันเพราะเขาให้ความสบายใจกับเรา ไปๆ มาๆ เลยเป็นมากกว่าผู้ร่วมงาน เขาค่อนข้างจะซัพพอร์ตคิมในทุกด้าน เวลาคิมเจอปัญหาที่ตัวเองคิดว่ามันใหญ่ซะเหลือเกิน แล้วไปปรึกษาพี่แอน เขากลับทำให้เรื่องนั้นกลายเป็นเรื่องเล็กได้ ให้สติโดยที่ไม่เคยเข้าข้างเราเลยด้วยซ้ำ (หัวเราะ)”
“เมื่อก่อนคิมทำงานหนักถึงขั้นไม่ได้ เจอคุณพ่อนานสองเดือนก็มี นึกถึงทีไร ก็เสียใจมาก ดังนั้นสามปีที่ผ่านมานี้ คิมจึงเริ่มบาลานซ์ชีวิตใหม่”
สังเกตว่าในแต่ละปีคุณมีทริปเดินทางท่องเที่ยวสม่ำเสมอ อยากรู้ว่าการท่องเที่ยวสำคัญกับชีวิตแค่ไหน
“สำคัญนะ และเพิ่งมารู้ด้วยว่าสำคัญ หลายปีแรกที่เข้าวงการคิมทำงานหนักมากจนไม่ได้ไปเที่ยวในสถานที่สวยๆ ที่เราอยากไปซะที เช่น สวิตเซอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ ที่ที่เราจะได้ว้าวไปกับวิว จากนั้นเมื่อคุณพ่อของคิมเสีย คิมจึงเพิ่งย้อนกลับมาให้ความสำคัญกับคนใกล้ตัว มันเป็นเรื่องที่รวดเร็วมากเวลาที่ใครสักคนจะไปจากชีวิตเรา เราจึงต้องให้ความรักให้เวลากับครอบครัวมากขึ้น ต้องบาลานซ์งานกับครอบครัวแบบ 50/50 ให้ได้”
สองเสน่หา มีบททารุนด้วยหรือ ชักจะน่าดูขึ้นมาหน่อยแล้ว ดูคิมตั้งใจมากเลย สู้ๆน้า
รอติดตาม ดั่งดวงหฤทัยกันด้วยนะคะ 4 มีนาคมนี้ค่ะ^^