แมวพิการ 4 ขาจากหิมะกัดได้ขาใหม่จากเครื่องพิมพ์ 3D

  
  Dymka is standing tall on her new titanium paws.
(Image: © Kirill Kukhmar/TASS/Getty)

  
  
แมวเพศเมียในรัสเซียที่สูญเสียอุ้งเท้าทั้ง 4 ข้างเพราะหิมะกัด
สามารถเดินวิ่งและปีนบันไดได้อีกครั้ง
ต้องขอบคุณสัตวแพทย์ที่สร้างขาเทียมให้เธอ
ด้วย เครื่องพิมพ์ 3 D ที่วัสดุมีส่วนผสมทำจาก ไทเทเนียม

แมวสีเทาเพศเมียที่แข็งแรงชื่อ Dymka (หมอก/ควัน ในภาษารัสเซีย) มีอายุประมาณ 4 ปี 
คนขับรถยนต์ผ่านทางพบเธอในเดือนธันวาคม 2018
ท่ามกลางหิมะที่รุนแรงใน  Novokuznetsk เขต Siberia
คนขับรถยนต์ได้พาเธอส่งคลีนิคสัตวแพทย์ใน Novosibirsk
ตามเว็บไซต์ข่าวของรัสเซีย Komsomolskaya Pravda

Dymka กำลังทนทุกข์ทรมานจากอาการที่อุ้งเท้า หูและหางของเธอ
เพราะอากาศที่หนาวจัดจนกัดทำลายอวัยวะของเธอจน น้ำเหลือง บวมเป่ง
จนสัตวแพทย์ Sergei Gorshkov ต้องตัดขาทั้ง 4 ข้างที่เสียหายของเธอ
คลีนิคสัตวแพทย์ที่ Novosibirsk  ต้องรักษาแมวอย่างน้อย 5-7 ตัว
เพราะอาการหิมะกัดอุ้งเท้า หูและจมูกจนน้ำเหลืองบวมเป่ง

สัตวแพทย์ Sergei Gorshkov ให้สัมภาษณ์กับ Moscow Times ว่า
Frostbite คือ เนื้อเยื่อตายหรือได้รับอันตรายเนื่องจากความเย็นจัด
ทำให้ผิวหนังและเนื้อเยื่อแข็งตัวโดยเฉพาะที่แขนขา
ในกรณีที่รุนแรงเนื้อเยื่อจะตายและต้องตัดแขนขา

สัตวแพทย์ Sergei Gorshkov และเพื่อนร่วมงานของท่านที่คลินิก
ได้ร่วมมือกับนักวิจัยจาก Tomsk Polytechnic University (TPU) ใน Tomsk ประเทศรัสเซีย
(มหาวิทยาลัยด้านเทคนิคที่เก่าแก่ที่สุดใน Russia ทางฝั่งตะวันออกของ Urals
ก่อตั้งในปี 1896 และเปิดทำการเรียนการสอนในปี 1900)
เพื่อสร้างชุดอุปกรณ์ขาเทียมสำหรับ Dymka
นักวิทยาศาสตร์พัฒนาและประยุกต์การเคลือบไทเทเนียม
โดยใช้ แคลเซียมฟอสเฟต ที่ช่วยยึดติดกับรากฟันเทียม
ไทเทเนียมที่นำมาใช้ด้วยจะแทรกตัวและหลอมรวมเข้ากับกระดูกขาของเธอ
เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและการปฏิเสธการปลูกถ่ายอวัยวะใหม่
ตัวแทนของ TPU รายงานข่าวครั้งนี้
 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

Протезирование 4-х лап у кошки после отморожения (результат через 7 месяцев)


นักวิจัยใช้เครื่องเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ (CT-Scan)
เอกซ์เรย์ขาของ Dymka เพื่อสร้างแบบจำลอง
แล้วพิมพ์แท่งไทเทเนียมเป็นขาของเธอด้วยเครื่องพิมพ์ 3D

ในเดือนกรกฎาคม 2019
Dymka ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะเทียมของเธอ
โดยเริ่มต้นที่ขาหน้า 2 คู่ของเธอก่อน
หลังจากนั้นจึงเริ่มทำขาหลัง 2 คู่ของเธอ
Novosibirsk News ได้รายงาน
ในวิดีโอที่แชร์กับ YouTube
โดยคลินิกสัตวแพทย์ Sergei Gorshkov
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2019

7  เดือนหลังจากที่ทำอุ้งเท้าใหม่ของ Dymka ทั้ง 4 ขา
เธอสนุกกับการตื่นนอนเดินไปรอบ ๆ ห้องตรวจและเล่นกับผ้าห่ม
ภาพระยะใกล้แสดงให้เห็นว่าแท่งไทเทเนียมเชื่อมต่อกับขาของเธอ
ที่ปลายเท้าของเธอทำจากวัสดุสีดำที่ยืดหยุ่นพร้อมพื้นผิวที่มีปุ่มปม

Dymka กลายเป็นแมวตัวที่ 2 ในโลกที่ได้รับขาเทียมโลหะ 4 ขา

ในปี 2016 คลีนิค Novosibirsk ก็ได้ทำแบบคล้าย ๆ กัน
ด้วยการฝังไทเทเนียมลงบนแมวตัวผู้ชื่อ Ryzhik (แดง ในรัสเซีย)
ซึ่งต้องถูกตัดขาที่ถูกแช่แข็งทั้ง 4 ขาของเธอ
ตามรายงานข่าวของ  Moscow Times

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

Ryzhik, the cat gets 4 artificial paws and still eight lives

เรียบเรียง/ที่มา

http://bit.ly/2SkcLGR





ที่มา  http://bit.ly/382KR8O

 ที่มา  http://bit.ly/2S3K0iV








เรื่องเล่าไร้สาระ
 
ตามพจนานุกรมฉบับมติชน แมวเก้าชีวิต หมายถึง
ผู้ที่ประสบความหายนะซ้ำซ้อนหลายครั้ง
ก็ยังกลับมามีฐานะหรือชื่อเสียงได้ดั่งเดิม
หรือแปลไทยเป็นไทยตามภาษาชาวบ้านคือ
คนที่ผ่านความเป็นความตายมาหลายครั้งแล้วยังมีชีวิตรอดมาได้
ทำไมถึง 9 ชีวิต น่าจะเริ่มมาจากความเชื่อของอิยิปต์โบราณ
แมวเป็นสัตว์ที่ได้รับความเคารพตามความเชื่อของอิยิปต์โบราณ
 
ชาวอิยิปต์ที่อาศัยอยู่ที่เมือง Heliopolis นั้น
นับถือเทพย์ Atum-Ra เป็นเทพย์สูงสุด คือ สุริยเทพ
ผู้เป็นต้นตระกูลแก่เทพสำคัญ ๆ หลายองค์
ซึ่งเทพผู้ยิ่งใหญ่ 9 องค์ของชาว Osirian ที่เรียกรวมกันว่า Ennead นั้น
มีดังนี้ Atum Shu Tefnut Geb Nut Osiris Isis Set และ Nephthys
โดยที่เวลา Atum-Ra นั้นเดินทางไปยังเมืองยมโลก Underworld จะไปในรูปของแมว
โดยที่จะรวมชีวิตทั้ง 9 ร่างไว้ในร่างของผู้สร้างร่างเดียว 9 in 1 นั่นเอง
มีบทเพลงสรรเสริญพระเจ้าบทนึง 400 ปีก่อนคริสตกาลได้กล่าวไว้ว่า
O sacred cat Your mouth is the mouth of the god
Atum the lord of life who has saved you from all taint
โอ้ ท่านแมวศักดิ์สิทธิ์ ปากของท่านคือปากของเทพย์ Atum
เจ้าแห่งชีวิตผู้ซึ่งได้ช่วยท่านให้พ้นจากมลทินทั้งปวง
ทั้งหมดนี่น่าจะเป็นที่มาของคำว่า แมว 9 ชีวิต ที่เราได้ยินกัน  ที่มา http://bit.ly/39cyGXc
 

 
 
ส่วนในไทยมีความเชื่อว่า การฆ่าแมวโทษบาปหนักเท่ากับฆ่าเณร
เณรถือศีล 10 มากกว่าฆราวาสที่ถือแค่ศีล 5 หรือศีล 8
น่าจะมาจากยุคเกษตรกรรมต้องเลี้ยงแมวไว้จำนวนหนึ่ง
เพื่อกำจัดหนูนา หนูบ้าน ที่มารังควาญพืชผลเกษตร/ข้าวของในครัวเรือน
และเป็นอุบายว่าห้ามรังแกสัตว์ ให้เมตตาสัตว์
การเตือนด้วยความเชื่อบาปบุญกับข้อห้ามโบราณที่อิงศาสนาพุทธ
ในยุคอดีตมักจะได้ผลกว่าการบอกด้วยข้อเท็จจริง/เหตุผล
และการบังคับตามกฎหมายจารีตประเพณี
เพราะเด็ก/คนบางคนมักจะชอบแหกคอกซึ่งมีอยู่ทุกหนทุกแห่งเสมอ
 
ตามตำนาน สมเด็จพุฒาจารย์โต (โต พฺรหฺมรํสี)
เจ้าตำรับพระสมเด็จที่มีคนนิยมมากที่สุด
ทำเลียบแบบ/ปลอมแปลงมากที่สุด
ราคาซื้อขายในท้องตลาดจัดว่าแพงสุดสุด
เวลาท่านเดินทางไปไหนมาไหน
ถ้าเกิดมีหมาแมวนอนกีดขวางทางเดินของท่าน
ท่านมักจะพูดอย่างสุภาพว่า ขอทางหน่อยนะจ๊ะ
ถ้าหมาแมวไม่ยอมหลีกทาง ท่านก็จะเดินเลี่ยงทางไป
ชาวบ้านถามว่า ทำไปทำไม
ท่านบอกว่า ถ้าเกิดพวกมันเสวยชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ท่านคงจะบาปมหันต์
เพราะมีในพระไตรปิฏกว่า  พระบรมศาสดาเคยเสวยชาติเป็น ช้าง นก เฮี่ย มาก่อน
จริง ๆ น่าจะเป็นอุบายของท่านที่ทำตนเป็นเยี่ยงอย่าง
และให้ชาวบ้านที่นับถือท่านต่างทำตาม จะได้ไม่มีใครกล้ารังแกสัตว์
 

 
เขมร นับถือว่า เฮี่ยเป็นบรรพบุรุษของตน (เฮี่ย เลี่ยงการกรองคำ)
มีในราชพงศาวดารกรุงกัมพูชา ที่ พันตรี หลวงเรืองเดชอนันต์ (ทองดี ธนะรัชต์)
บิดาของจอมพลสฤษดิ์  ธนะรัชต์ เป็นผู้แปลจากภาษาเขมร
มีย่อใน กำเนิดกรุงกัมพูชา พระพุทธองค์นั่งฉันอาหารกับพระอานนนท์
ปรากฏว่ามีเฮี่ยได้โผล่ขึ้นมาจากโพรงเก่าที่พญานาคเคยอยู่
พระพุทธองค์ทรงปั้นข้าวแล้วก็โยนให้เฮี่ยนั้นกิน
เมื่อมันกินเอร็ดอร่อยแล้วก็เลยแลบลิ้นขึ้นมาเลียริมฝีปาก
พระพุทธองค์ก็เลยทรงแย้มพระโอษฐ์ แล้วทำนายว่า
บรรดาคนในราชธานีนี้ จะพูดจาสิ่งใด ๆ ไม่ค่อยยั่งยืนอยู่ในสัตยานุสัตย์
เพราะบุรพกษัตริย์ผู้ตั้งต้นแผ่นดิน  มีชาติกำเนิดเกิดจากสัตว์ตะกวด
อันมีลิ้นแฝดแตกแยกออกเป็นสองซีก

 
มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เคยเขียนว่า
เขมรเหมือนลูกที่เกเรกลับกลอกเชื่ออะไรไม่ได้
ไทยเหมือนแม่ เวียตนามเหมือนพ่อ
พอใครดุด่าหรือตีหน่อย ก็วิ่งหนีไปฟ้องอีกฝ่าย
 
พระบรมไตรโลกนาถเคยไปตีเขมรเป็นเมืองขึ้น
พร้อมนำเข้าหินสลักจำนวนมากมาที่กรุงศรีฯ
ก่อนแพ้พม่าจึงถูกขนไปพม่าหลังเสียกรุง 2112 กับ 2310
ในยุคนั้น นำเข้าพิธีพราหมณ์ สมมุติเทวราช ราชาศัพท์
เปลี่ยนพระนามกษัตริย์ย้อนหลัง ซึ่งจีนก็ทำเช่นกัน
 
กรีกชนะเปอร์เซีย อียิปต์ ก็ชอบเสพย์สุขมีฮาเร็ม
มองโกลก็ชอบมีนางสนม การสอบจอหงวน
พม่าลอกแบบมอญนับถือศาสนาพุทธ เจดีย์ชะเวดะกอง
แต่ยังนับถือผีหลวง/นัต ที่โด่งดังในไทยคือ เทพทันใจ
 
สมัยพระนเศรที่ตัดหัวพญาละแวกเอาเลือดมาล้างเท้า
เพราะทรยศคำสัญญาว่าจะไม่รุกรานสยาม ช่วงพระนเรศยกทัพไปตีพม่า
แต่บางคนระบุว่า แค่พิธีกรรมเอาน้ำล้างหัวพญาละแวกมาล้างเท้าพระนเรศ
แบบวิสัยกษัตริย์ไม่ทำร้ายคนที่ยอมจำนน
 
นักองค์เองหนีการปฏิวัติมาสยามข่วงรัชกาลที่ 1
ต่อมากลับเขมรแล้วไปเข้าข้างเวียตนาม
สยามไม่ไปรบเพราะทั้งสองชาติตกเป็นเมืองขึ้นฝรั่งเศสแล้ว
 
สีหนุเดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้ายกับไทยมาตลอด
เคยไปร่วมหัวจมท้ายกับเขมรแดง ก่อนชิ่งหนี
แกนนำเขมรแดงมี พอลพต เอียงสาลี นวนเจีย(คนสยาม)
นวนเจียเคยเรียนเตรียมวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองรุ่น 5
เลยมึเพื่อนผองน้องพี่ในไทยคอยช่วยเหลือตลอด
ก่อนยุติเพราะถูกจับกุมตัวไปพิจารณาคดีข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
 
ฮุนเซนจับมือกับเฮงสัมรินเชื้อเชิญเวียตนาม
ส่งออกการปฏิวัติล้มล้างลูกพี่เก่าของตน
วันดีคืนดีก็ทะเลาะกับไทยเรื่องเขาเปรี๊ยะวิเฮียร์(พระวิหาร)
คนเขมรจุดติดความรักชาติในเรื่องปราสาทเขมร
ดูได้จากธงชาติเขมรมีรูปปราสาทหินนครวัต
ส่วนไทยจุดติดความรักชาติในเรื่องการเสียดินแดน
ตั้งแต่สงครามอินโดจีน สมัยจอมพลป. พิบูลสงคราม
กับดินแดนเขาพระวิหาร สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
 

 
คำพังเพย ไทยเล็ก เจ๊กดำ เขมรต่ำ ลาวพุงดำ คบไม่ได้
ไทยเล็กน่าจะพิการ/ตัวเตี้ยกว่าคนไทยทั่วไป
ในจดหมายเหตุวันวลิต กับ ลาลูแบร์ สอดคล้องกันว่า
คนสยามรูปร่างสันทัด แข็งแรง ทะมัดทะแมง
สตรีสูงราว 140-150 ซม. ชายสูงราว 150-160 ซม.
คนไทยตัวเล็กคงทำไร่ไถนาไม่ไหว เป็นทหารก็ไม่ได้/ต้องพึ่งพาคนอื่น

เจ๊กดำ ผิวผิดสีคนจีนที่ผิวขาว ผิดแปลกไม่น่าไว้ใจ

เขมรต่ำ(กัมพูชา) อยู่ตอนล่างที่ราบสูงอีสาน
เขมรสูง คน สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะะเกษ
คนแถบนี้พูดภาษาเขมรได้แต่คนละสำเนียง
ชอบกินข้าวจ้าวมากกว่าข้าวเหนียว
นักการเมืองบุรีรัมย์ที่เคยปราศรัยเป็นภาษาเขมร
ด่าอดีตหัวหน้าพรรคของตนว่า อ้ายเตี้ย เตะทีก็กระเด็น

ลาวพุงดำ จะสักยันต์ที่ขา/หน้าท้องจนดำเป็นปื้น
มักจะชอบลองของเล่นคาถาอาคมอยู่ยงคงกระพัน
ส่วนหนึ่งเคยมารบกับสยามที่ไปยึดลาวเป็นเมืองขึ้น
กับมารบกับสยามที่ทุ่งสัมฤทธิ์แล้วแพ้อุบายคุณหญิงโม
จนฝ่ายลาวที่มีแกนนำคือ เจ้าอนุวงศ์ พ่ายแพ้
ครอบครัวและพลพรรคถูกจับมาขังในกรงกลางเมืองหลวง
ให้แสดงละครลาวเป็นตัวตลกให้คนสยามเย้ยหยันเล่น
จนเจ้าอนุวงศ์ตรอมใจตายในที่สุด แต่ท่านคือ วีรบุรุษกู้เอกราชลาว

หลังการรบคราวนั้น มีการกวาดต้อนครัวเรือนคนลาว
ให้ไปตั้งถิ่นฐานที่กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
ก็มีญาติพี่น้องเชื้อสายลาวและพูดลาวได้เป็นอย่างดี
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่