ในขณะที่นักวิเคราะห์ทั่วโลกพยายามทำความเข้าใจถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจของไวรัส Corona เราได้ฟังความคิดเห็นโต้แย้งกันในเรื่องราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity price) นับตั้งแต่การคาดการณ์ของราคาทองคำที่นึกว่าจะพุ่งแรงและการขาดแคลนอาหารทั่วโลกไปจนถึงความเสียหายจากอุปสงค์ที่ลดลง เราตั้งคําถามว่า "อะไรเกิดขึ้นกันแน่"
จากบทวิเคราะห์ของ Morgan Stanley ซึ่งสันนิษฐานว่าไวรัส Corona จะถึงจุดพีคสุดในประมาณเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคมการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกอาจลดลงถึง 0.15 ถึง 0.3 เปอร์เซ็นต์ในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งนี่ยังไม่แย่มากถ้าเทียบกับการคาดการณ์ของสํานักอื่นๆ
• นํ้ามัน
ตัดภาพกลับมาในจีนนั้นน่าสะพรึงกว่ามาก Oil traderในจีนกล่าวว่าอุปสงค์น้ำมันของจีนจะลดลงอย่างน้อย 20% เนื่องจากการล็อคประเทศ และผลอย่างเฉียบพลันต่อการเดินทาง ไม่เพียงเฉพาะ น้ำมันก๊าซ (jet fuel) และความต้องการน้ำมันเบนซิน (gasoline) จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจากปิโตรเคมีตั้งแต่ พลาสติกจนถึงไฮโดรคาร์บอนที่หนักที่สุดเช่น ยางมะตอย สำหรับการก่อสร้างถนน จะได้รับผลกระทบอย่างถ้วนหน้า
ราคาน้ำมันดิบได้ลดลง 25% หลังได้แตะจุดสูงสุดหลังเหตุการณ์ลอบสังหาร Soleimani ในต้นเดือนมกราคม (ซึ่งลดลงถึง 17% นับตั้งแต่ข่าวการแพร่กระจายของไวรัส Corona)
• ทองแดง
ในขณะที่ราคาทองแดงไต่สูงขึ้นจนถึงวันที่ 16 มกราคมเมื่อราคาน้ำมันดิบกําลังร่วงลง ในที่สุดราคาทองแดงได้ลดลง (14% ต่ำกว่าราคาสูงสุดในเดือนมกราคมเมื่อวันศุกร์ 31 มกราคม) การเคลื่อนไหวที่ลดลงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเป็นผลพวงของไวรัส corona ที่กระทบต่อฝั่งอุปสงค์ของจีน
ความต้องการทองแดงของจีนนับเป็นครึ่งหนึ่งของอุปสงค์ทั่วโลกโดยมีการบริโภคประมาณ 1 ล้านตันทุกเดือน และยังเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของโลกด้วยการนําเข้าทองแดงโดยเฉลี่ย 290,000 ตันต่อเดือนจากสถิติเมื่อปีที่แล้ว
ราคาฟิวเจอร์สของทองแดงมักจะถูกเรียกว่า "Doc Copper" หมายความว่า ทองแดงเป็นสัญญาณบ่งชี้ของสุขภาพเศรษฐกิจโลก ทั้ง trader และนักลงทุนจำนวนมากใช้เป็นเครื่องส่งสัญญาณในมหภาค แม้แต่ราคาแร่เหล็กซึ่งมักจะมีความผันผวนมากกว่าทองแดงจะลดลง 18% ก็ไม่ได้ลดลงมากถ้าเทียบกับการเคลื่อนไหวปกติที่ผ่านมา (อย่าลืมว่าราคาเหล็กเคยลดลงถึงหนึ่งในสามในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา)
สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสําคัญการสะสมทองแดงในคลังของจีนเนื่องจากมีการใช้ทองแดงอย่างมากสำหรับธุรกรรมในต่างประเทศและใช้เป็นสินทรัพย์ประกันในการกู้ยืม
• ทองคําและเงิน
ทองคำและเงินมักเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับราคาทองแดงและแร่เหล็กเนื่องจากนักลงทุนเคยชินกับทองเพื่อป้องกันการสูบฉีดสภาพคล่องของธนาคารกลางที่เชื่อมโยง ทำให้เกิดอัตราเงินเฟ้อของสินทรัพย์
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 2.5% ในช่วงที่มีการขายทํากําไรในหุ้นก่อนปิดตรุษจีน แต่กลับลดลงมายืนในจุดเดิม เนื่องจากลักษณะทางกายภาพของทองคําแท่ง (จำเป็นต้องเข้าคิวเพื่อซื้อ) ดูเหมือนว่าพันธบัตรรัฐบาลและ cryptocurrency กลับเป็นสินทรัพย์ที่นิยมถือครองมากกว่าในช่วงโรคระบาดทั่วโลก
• กาแฟ
สินค้าโภคภัณฑ์ที่เป็น soft commodity ตัวหนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบแบบจังๆ จากไวรัส wuhan ก็คือ กาแฟ
ตามที่เราเคยวิเคราะห์ไว้เมื่อโพสที่แล้ว. ราคากาแฟได้เคลื่อนไหวแบบ overreact ต่อข้อมูลการผลิตของฮอนดูรัสและการพยุงราคาของเฮดจ์ฟันด์ และได้ถึงเวลาที่ราคาน่าจะปรับตัวกลับมา
กอรปกับความจริงที่ว่า แม้สังคมการบริโภคกาแฟและการเติบโตอย่างรวดเร็วของคลื่นลูกที่สาม (third wave coffee)ของกาแฟในประเทศจีน อุปสงค์ในกาแฟจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับการที่ผู้บริโภคชาวจีนแวะเวียนมาดื่มกาแฟในร้านกาแฟที่ทันสมัยซึ่งน่าจะไม่เกิดขึ้นหากทุกคนต้องใส่หน้ากากป้องกันและไม่รวมกลุ่มกัน
ราคาฟิวเจอร์สของกาแฟอาราบิก้า ลดลง 31% จากจุดสูงสุดในเดือนธันวาคมและ Barracuda คิดว่า 12-13% ของส่วนที่ลดลงนี้ เนื่องจากการรับรู้ของ dealers ถึงผลกระทบของไวรัส Corona ต่ออุปสงค์ของกาแฟในเอเชีย
สรุปแล้ว จนถึงตอนนี้ไวรัส Corona ได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์โดยหลักๆคือ น้ำมันและกาแฟ ส่วนสัญญาอื่นๆยังคงเป็นไปตามนโยบายรอ 'wait and see’
ในที่สุดจะมีปัจจัยเฉพาะเกิดตามมาเรื่อยไป เช่น ผลกระทบจากความสำคัญของจังหวัดหูเป่ยในการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีฤดูหนาวของจีนหรือ การท่องเที่ยวที่มีผลต่อราคาน้ำมันก๊าซ อย่างไรก็ดีเราไม่ควรลืม 1.2 ล้านล้านหยวนที่รัฐบาลจีนอัดฉีดไว้เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง เงินนี้จะเข้าถึงเศรษฐกิจที่แท้จริงอย่างใด เป็นไปได้ไหมว่าการอัดฉีดครั้งนี้ช่วยนี้จะช่วยราคาทองคำในระยะยาว เราจะมารายงานให้ทราบในโอกาสต่อไป
หากชอบบทความ กดไลค์เป็นกำลังใจให้เฟสบุ๊คเราด้วยที่ @BarracudaStocks ครับ
https://m.facebook.com/barracudastocks
#สินค้าโภคภัณฑ์
#commodityprice
#wuhanvirus
#coronavirus
อ้างอิง
https://www.kitco.com/news/2020-02-02/Gold-price-starts-week-with-small-gains-as-China-returns-from-holidays-coronavirus-continues-to-spread.html
"ไวรัส Corona กับแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์"
จากบทวิเคราะห์ของ Morgan Stanley ซึ่งสันนิษฐานว่าไวรัส Corona จะถึงจุดพีคสุดในประมาณเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคมการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกอาจลดลงถึง 0.15 ถึง 0.3 เปอร์เซ็นต์ในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งนี่ยังไม่แย่มากถ้าเทียบกับการคาดการณ์ของสํานักอื่นๆ
• นํ้ามัน
ตัดภาพกลับมาในจีนนั้นน่าสะพรึงกว่ามาก Oil traderในจีนกล่าวว่าอุปสงค์น้ำมันของจีนจะลดลงอย่างน้อย 20% เนื่องจากการล็อคประเทศ และผลอย่างเฉียบพลันต่อการเดินทาง ไม่เพียงเฉพาะ น้ำมันก๊าซ (jet fuel) และความต้องการน้ำมันเบนซิน (gasoline) จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจากปิโตรเคมีตั้งแต่ พลาสติกจนถึงไฮโดรคาร์บอนที่หนักที่สุดเช่น ยางมะตอย สำหรับการก่อสร้างถนน จะได้รับผลกระทบอย่างถ้วนหน้า
ราคาน้ำมันดิบได้ลดลง 25% หลังได้แตะจุดสูงสุดหลังเหตุการณ์ลอบสังหาร Soleimani ในต้นเดือนมกราคม (ซึ่งลดลงถึง 17% นับตั้งแต่ข่าวการแพร่กระจายของไวรัส Corona)
• ทองแดง
ในขณะที่ราคาทองแดงไต่สูงขึ้นจนถึงวันที่ 16 มกราคมเมื่อราคาน้ำมันดิบกําลังร่วงลง ในที่สุดราคาทองแดงได้ลดลง (14% ต่ำกว่าราคาสูงสุดในเดือนมกราคมเมื่อวันศุกร์ 31 มกราคม) การเคลื่อนไหวที่ลดลงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเป็นผลพวงของไวรัส corona ที่กระทบต่อฝั่งอุปสงค์ของจีน
ความต้องการทองแดงของจีนนับเป็นครึ่งหนึ่งของอุปสงค์ทั่วโลกโดยมีการบริโภคประมาณ 1 ล้านตันทุกเดือน และยังเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของโลกด้วยการนําเข้าทองแดงโดยเฉลี่ย 290,000 ตันต่อเดือนจากสถิติเมื่อปีที่แล้ว
ราคาฟิวเจอร์สของทองแดงมักจะถูกเรียกว่า "Doc Copper" หมายความว่า ทองแดงเป็นสัญญาณบ่งชี้ของสุขภาพเศรษฐกิจโลก ทั้ง trader และนักลงทุนจำนวนมากใช้เป็นเครื่องส่งสัญญาณในมหภาค แม้แต่ราคาแร่เหล็กซึ่งมักจะมีความผันผวนมากกว่าทองแดงจะลดลง 18% ก็ไม่ได้ลดลงมากถ้าเทียบกับการเคลื่อนไหวปกติที่ผ่านมา (อย่าลืมว่าราคาเหล็กเคยลดลงถึงหนึ่งในสามในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา)
สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสําคัญการสะสมทองแดงในคลังของจีนเนื่องจากมีการใช้ทองแดงอย่างมากสำหรับธุรกรรมในต่างประเทศและใช้เป็นสินทรัพย์ประกันในการกู้ยืม
• ทองคําและเงิน
ทองคำและเงินมักเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับราคาทองแดงและแร่เหล็กเนื่องจากนักลงทุนเคยชินกับทองเพื่อป้องกันการสูบฉีดสภาพคล่องของธนาคารกลางที่เชื่อมโยง ทำให้เกิดอัตราเงินเฟ้อของสินทรัพย์
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 2.5% ในช่วงที่มีการขายทํากําไรในหุ้นก่อนปิดตรุษจีน แต่กลับลดลงมายืนในจุดเดิม เนื่องจากลักษณะทางกายภาพของทองคําแท่ง (จำเป็นต้องเข้าคิวเพื่อซื้อ) ดูเหมือนว่าพันธบัตรรัฐบาลและ cryptocurrency กลับเป็นสินทรัพย์ที่นิยมถือครองมากกว่าในช่วงโรคระบาดทั่วโลก
• กาแฟ
สินค้าโภคภัณฑ์ที่เป็น soft commodity ตัวหนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบแบบจังๆ จากไวรัส wuhan ก็คือ กาแฟ
ตามที่เราเคยวิเคราะห์ไว้เมื่อโพสที่แล้ว. ราคากาแฟได้เคลื่อนไหวแบบ overreact ต่อข้อมูลการผลิตของฮอนดูรัสและการพยุงราคาของเฮดจ์ฟันด์ และได้ถึงเวลาที่ราคาน่าจะปรับตัวกลับมา
กอรปกับความจริงที่ว่า แม้สังคมการบริโภคกาแฟและการเติบโตอย่างรวดเร็วของคลื่นลูกที่สาม (third wave coffee)ของกาแฟในประเทศจีน อุปสงค์ในกาแฟจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับการที่ผู้บริโภคชาวจีนแวะเวียนมาดื่มกาแฟในร้านกาแฟที่ทันสมัยซึ่งน่าจะไม่เกิดขึ้นหากทุกคนต้องใส่หน้ากากป้องกันและไม่รวมกลุ่มกัน
ราคาฟิวเจอร์สของกาแฟอาราบิก้า ลดลง 31% จากจุดสูงสุดในเดือนธันวาคมและ Barracuda คิดว่า 12-13% ของส่วนที่ลดลงนี้ เนื่องจากการรับรู้ของ dealers ถึงผลกระทบของไวรัส Corona ต่ออุปสงค์ของกาแฟในเอเชีย
สรุปแล้ว จนถึงตอนนี้ไวรัส Corona ได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์โดยหลักๆคือ น้ำมันและกาแฟ ส่วนสัญญาอื่นๆยังคงเป็นไปตามนโยบายรอ 'wait and see’
ในที่สุดจะมีปัจจัยเฉพาะเกิดตามมาเรื่อยไป เช่น ผลกระทบจากความสำคัญของจังหวัดหูเป่ยในการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีฤดูหนาวของจีนหรือ การท่องเที่ยวที่มีผลต่อราคาน้ำมันก๊าซ อย่างไรก็ดีเราไม่ควรลืม 1.2 ล้านล้านหยวนที่รัฐบาลจีนอัดฉีดไว้เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง เงินนี้จะเข้าถึงเศรษฐกิจที่แท้จริงอย่างใด เป็นไปได้ไหมว่าการอัดฉีดครั้งนี้ช่วยนี้จะช่วยราคาทองคำในระยะยาว เราจะมารายงานให้ทราบในโอกาสต่อไป
หากชอบบทความ กดไลค์เป็นกำลังใจให้เฟสบุ๊คเราด้วยที่ @BarracudaStocks ครับ
https://m.facebook.com/barracudastocks
#สินค้าโภคภัณฑ์
#commodityprice
#wuhanvirus
#coronavirus
อ้างอิง
https://www.kitco.com/news/2020-02-02/Gold-price-starts-week-with-small-gains-as-China-returns-from-holidays-coronavirus-continues-to-spread.html