หลังจากที่ลุงไม่ได้ไปม่อนแจ่มมา 4-5 ปี ลุงก็อยากกลับไปเก็บภาพจำต่างๆ ก่อนที่มันจะเลือนหายไปโดยสิ่งที่เรียกว่า "ความเจริญ"
ลุงเริ่มต้นทริปที่สนามบินเชียงใหม่ เนื่องจากช่วงเวลาที่ลุงมา (X'mas week - New Year) ร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่ไม่รับจอง ต้อง walk in เท่านั้น ลุงเลยต้องหารถเข้าเมืองเพื่อจะไปเช่ารถ Taxi ก่อนประตูทางออกไปแถวๆ กาดสวนแก้วคิดราคา 180 บาท แต่พอลุงเดินไปอีก 5 ก้าว
พ้นขอบประตูทางออก เจออีกเจ้าคิดลุง 150 บาท เป็นรถ Fortuner ทั้งหมดนะ ถ้าลุงตาไม่ฝาด
ลุงแวะกินชา-กาแฟไปเรื่อย ระหว่างทาง อ้อลืมบอกไป ลุงใช้เส้นทางสะเมิงนะจะ๊ คืออาจจะอ้อมไปหน่อย แต่มันก็ได้บรรยากาศดี เพราะปกติลุงไม่ค่อยได้ขี่มอเตอร์ไซค์ตระเวนเที่ยวแบบนี้บ่อยๆ ไปเรื่อยๆจ๊ะ เหนื่อยก็พัก
ภาพแรกที่ลุงไปถึงม่อนแจ่ม บอกเลยว่าแอบช็อคไป 2-3 วินาที เพราะภาพจำที่ลุงมีคือภูเขากะหล่ำปลี แต่ตอนนี้มันกลายเป็นภูเขาเต็นท์สีขาว
มองไปทางไหนก็เจอแต่เต็นท์ น่าตกใจเหมือนกัน ลุงก็คิดในใจว่าเค๊าจะเห็นอะไรกันมั๊ย นอกจากหลังคาเต็นท์ ตอนนี้ก็รอลุ้นว่าที่พักที่ลุงจองไว้
จะเป็นแบบนี้รึเปล่า เพราะลุงก็เห็นแค่ภาพในเน็ต แต่บุญรักษา.. ที่พักที่ลุงจองไว้มันเลยม่อนแจ่มไปหน่อย ที่พักไม่ค่อยเยอะ และอยู่สูงสุดของดอย
ใครจะขับมอไซค์มา ต้องทำใจหน่อยนะจ๊ะ ทางวิบากมาก

อย่างที่ลุงบอก ทางขึ้นมาคือวิบากมาก ดังนั้นตั้งแต่ check-in ตอน สี่โมงเย็น จน check-out อีกวัน ลุงไม่ไปไหนเลยจ๊ะ ใช้ชีวิตอยู่ในห้อง และบริเวณรอบๆ จุดมุ่งหมายหลักอีกอย่างของลุงคือการกินหมูกระทะบนดอย เรียนตามตรง สิ่งที่คิด และสิ่งที่เป็น มันก็ต้องมีแตกต่างกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมาย จุดมุ่งหมายหลักอีกอย่างของลุงคือ ถ่ายดาวจ๊ะ ลุงรู้ว่า S7 ของลุงมันแก่ และทำอะไรมากไม่ได้ ลุงเลยมีกล้องมาด้วย แต่มา process ต่อในมือถือนะจ๊ะ ลุงไม่มีขาตั้งกล้อง ใช้วางบนหินเอาจ๊ะ รูปที่ได้เลยไม่คม ไม่งาม อย่างคนอื่นเขา
อ้อลุงมาค้างวันที่ 24 ธ.ค. ซึ่งมีงานปีใหม่ม้งของพี่น้องชาวม้งระแวกนั้นพอดี ตอนกลางคืนก็จะได้ยินเสียงประทัด พลุไฟ ทั้งคืน พอตื่นเช้ามา ลุงก็เลยได้ถ่ายรูปหนุ่มสาว ชาวม้ง ที่แต่งตัวกันจัดเต็ม เสื้อผ้าสวยงามมาก สาวม้งสมัยใหม่ นุ่งสั้น กับส้นสูงนะจ๊ะ
สายๆ ลุงก็ลงจากดอย สู่เมืองเชียงใหม่ เปลี่ยนวิถีการท่องเที่ยวจากแนวธรรมชาติ เป็น cafe hopping เหมือนๆ ชาวบ้านชาวเมืองส่วนใหญ่ที่ไปเที่ยวเชียงใหม่ ช่วงที่ลุงมา PM 2.5 รุนแรงมาก แต่ไหนๆ ก็มาละ ก็ต้องยอมเสี่ยงซักหน่อย ใช้วิธีใส่หน้ากาก แว่นตาดำ ดูแลตัวเองไป
เชียงใหม่เองก็เปลี่ยนไปเยอะ มีร้านเกิดใหม่ก็เยอะ ร้านที่หายไปเลยก็มีบ้าง
โลกมันเปลี่ยนไปเร็ว... รึลุงเดินช้า?

เชียงใหม่ ของลุง [25-12-19] - [Samsung S7 ของลุงยังดีเสมอ]
ลุงเริ่มต้นทริปที่สนามบินเชียงใหม่ เนื่องจากช่วงเวลาที่ลุงมา (X'mas week - New Year) ร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่ไม่รับจอง ต้อง walk in เท่านั้น ลุงเลยต้องหารถเข้าเมืองเพื่อจะไปเช่ารถ Taxi ก่อนประตูทางออกไปแถวๆ กาดสวนแก้วคิดราคา 180 บาท แต่พอลุงเดินไปอีก 5 ก้าว
พ้นขอบประตูทางออก เจออีกเจ้าคิดลุง 150 บาท เป็นรถ Fortuner ทั้งหมดนะ ถ้าลุงตาไม่ฝาด
ลุงแวะกินชา-กาแฟไปเรื่อย ระหว่างทาง อ้อลืมบอกไป ลุงใช้เส้นทางสะเมิงนะจะ๊ คืออาจจะอ้อมไปหน่อย แต่มันก็ได้บรรยากาศดี เพราะปกติลุงไม่ค่อยได้ขี่มอเตอร์ไซค์ตระเวนเที่ยวแบบนี้บ่อยๆ ไปเรื่อยๆจ๊ะ เหนื่อยก็พัก
ภาพแรกที่ลุงไปถึงม่อนแจ่ม บอกเลยว่าแอบช็อคไป 2-3 วินาที เพราะภาพจำที่ลุงมีคือภูเขากะหล่ำปลี แต่ตอนนี้มันกลายเป็นภูเขาเต็นท์สีขาว
มองไปทางไหนก็เจอแต่เต็นท์ น่าตกใจเหมือนกัน ลุงก็คิดในใจว่าเค๊าจะเห็นอะไรกันมั๊ย นอกจากหลังคาเต็นท์ ตอนนี้ก็รอลุ้นว่าที่พักที่ลุงจองไว้
จะเป็นแบบนี้รึเปล่า เพราะลุงก็เห็นแค่ภาพในเน็ต แต่บุญรักษา.. ที่พักที่ลุงจองไว้มันเลยม่อนแจ่มไปหน่อย ที่พักไม่ค่อยเยอะ และอยู่สูงสุดของดอย
ใครจะขับมอไซค์มา ต้องทำใจหน่อยนะจ๊ะ ทางวิบากมาก
อย่างที่ลุงบอก ทางขึ้นมาคือวิบากมาก ดังนั้นตั้งแต่ check-in ตอน สี่โมงเย็น จน check-out อีกวัน ลุงไม่ไปไหนเลยจ๊ะ ใช้ชีวิตอยู่ในห้อง และบริเวณรอบๆ จุดมุ่งหมายหลักอีกอย่างของลุงคือการกินหมูกระทะบนดอย เรียนตามตรง สิ่งที่คิด และสิ่งที่เป็น มันก็ต้องมีแตกต่างกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมาย จุดมุ่งหมายหลักอีกอย่างของลุงคือ ถ่ายดาวจ๊ะ ลุงรู้ว่า S7 ของลุงมันแก่ และทำอะไรมากไม่ได้ ลุงเลยมีกล้องมาด้วย แต่มา process ต่อในมือถือนะจ๊ะ ลุงไม่มีขาตั้งกล้อง ใช้วางบนหินเอาจ๊ะ รูปที่ได้เลยไม่คม ไม่งาม อย่างคนอื่นเขา
อ้อลุงมาค้างวันที่ 24 ธ.ค. ซึ่งมีงานปีใหม่ม้งของพี่น้องชาวม้งระแวกนั้นพอดี ตอนกลางคืนก็จะได้ยินเสียงประทัด พลุไฟ ทั้งคืน พอตื่นเช้ามา ลุงก็เลยได้ถ่ายรูปหนุ่มสาว ชาวม้ง ที่แต่งตัวกันจัดเต็ม เสื้อผ้าสวยงามมาก สาวม้งสมัยใหม่ นุ่งสั้น กับส้นสูงนะจ๊ะ
สายๆ ลุงก็ลงจากดอย สู่เมืองเชียงใหม่ เปลี่ยนวิถีการท่องเที่ยวจากแนวธรรมชาติ เป็น cafe hopping เหมือนๆ ชาวบ้านชาวเมืองส่วนใหญ่ที่ไปเที่ยวเชียงใหม่ ช่วงที่ลุงมา PM 2.5 รุนแรงมาก แต่ไหนๆ ก็มาละ ก็ต้องยอมเสี่ยงซักหน่อย ใช้วิธีใส่หน้ากาก แว่นตาดำ ดูแลตัวเองไป
เชียงใหม่เองก็เปลี่ยนไปเยอะ มีร้านเกิดใหม่ก็เยอะ ร้านที่หายไปเลยก็มีบ้าง
โลกมันเปลี่ยนไปเร็ว... รึลุงเดินช้า?