ชีวิตคู่เนี่ยถ้ามีเรื่องเงินๆทองๆเข้ามา :)มีปัญหาทุกคู่จริงๆ ปัญหาระดับชาติ

เริ่มเรื่องนะครับผมอายุ 37 แฟนอายุ 34 รู้จักกันผ่านแอพในโซเชียล คบกันมาหนึ่งปีพอดี พักอยู่กันคนละที่ เจอกันอาทิตย์ละสองวันผมไปหาเค้าซะเป็นส่วนใหญ่ ผมอยู่ระยอง เค้าอยู่ชลบุรีกำลังปรึกษากันว่าจะย้ายมาอยู่ด้วยกันที่คอนโดผมแต่มาเกิดทะเลาะกันซะก่อน เพราะเค้าเอ่ยปากขอให้ผมช่วยจ่ายค่าห้องให้ 4,000 บาท แต่ผมไม่มีให้เพราะเดือนนี้ผมก็มีปัญหาเรื่องการเงิน
1.ค่าประกันรถยนต์
2.เจ้านายจ่ายเงินเดือนแค่ครึ่งนึง อีกครึ่งจะจ่ายให้แต่ช้าหน่อย

        แต่ที่ทะเลาะเพราะว่าปัญหาการเงินของผมเดือนนี้  ผมได้แจ้งเธอไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ว่าช่วงนี้ผมมีปัญหานะ แล้วเธอก็รับทราบ แต่มาวันที่ 3 ก.พ. ช่วงเย็นๆเธอแชทไลน์มาขอให้ผมช่วยจ่ายค่าห้องให้ 4,000 บาท ผมรู้สึกแย่มากที่เธอก็รู้ว่าผมมีปัญหาการเงินอยู่แต่ก็ยังมาเอ่ยปากขอให้ช่วยจ่ายค่าห้องให้ ผมก็เลยบ่นเธอว่าบริหารเงินไม่เป็น และแนะนำว่าต้องปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงตัวเองเรื่องการบริหารเงินนะ และทิ้งท้ายด้วยคำว่า "พี่ไม่ใช่ธนาคารนะ" เท่านั้นแหละเธอก็บ่นกลับมาว่า ขออะไรไม่ได้เลย เป็นแฟนกันก็หวังว่าจะให้ช่วยเหลือกัน นี่ยังไม่ได้อยู่ด้วยกันขอแค่นี้ก็บ่นๆ ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วขออะไรอีกจะบ่นขนาดไหนอีก น่าเบื่อกับการขอแค่นี้ก็บ่นก็ว่า (แต่เธอบอกว่าเธอไม่ได้เบื่อที่ผมไม่ยอมให้เงินเธอนะ)แล้วเธอก็ทิ้งท้ายว่าอย่างนี้ก็เลิกกันไปเลยดีกว่า เบื่อมากๆ  ส่วนของผม ผมอยากจะบอกว่าที่ผมใช้คำว่า "พี่ไม่ใช่ธนาคารนะ" เพราะเธอทำให้ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ซึ่งอะไรที่ทำให้ผมคิดอย่างนั้น

1.คบกันสองเดือนแรก เอ่ยปากขอยืมเงินสองหมื่นบาท บอกว่าเอาไปใช้หนี้ ค่าดอกมันแพง (เราให้ยืม)ด้วยความที่เราก็อยากจะคบเค้าและก็รักเค้าด้วยเลยให้ยืมไป แล้วเค้าก็รับปากว่าจะทยอยใช้เดือนละ 2,000 หรือมากกว่านั้นถ้ามี ปรากฎว่าเดือนที่สองก็ผิดนัดบอกว่าติดนู่นนี่นั่น ผมก็แนะนำเธอว่าคนเราพูดอะไรแล้วต้องรักษาคำพูดอย่าผิดคำพูดไม่งั้นจะทำให้ชีวิตคู่ไปไม่รอด แล้วผมก็เค้นเธอว่าทำไม ติดขัดอะไรถึงไม่มีเงินใช้คืนให้ผม เธอก็สารภาพมาว่าจริงๆแล้วเธอเป็นหนี้แค่ 5,000 แต่ที่เหลือเอาไปลงทุนเป็นเท้าแชร์กับเพื่อน แต่ลูกแชร์ไม่จ่ายค่างวดเลยไม่มีเงินมาใช้คืนผม  ***โกหกเรื่องยืมเงินอีก แล้วก็ถามว่ามีอะไรที่ยังไม่บอกกันอีก เธอบอกว่ามีหนี้บัตรเครดิตอีกแสนกว่าบาท เป็นหนี้ที่เกิดขึ้นตอนคบกับแฟนเก่า บอกว่าแฟนเก่าสร้างหนี้ขึ้นมาแต่พอเลิกกันแล้วบัตรของเธอ เธอต้องมารับกรรมชดใช้ (อันนี้ไม่รู้ว่าพูดจริงหรือเปล่า) สู้กันต่อไป เราเลือกเค้าแล้ว
    **** สรุปสุดท้ายเธอทยอยใช้หนี้ผม 20,000 บาทจนหมด (เริ่มมีความหวังว่าชีวิตคู่จะไปรอด)

2.เอ่ยปากยืมเงินเรื่องปัญหาแชร์ สืบเนื่องจากปัญหาเดิม ลูกแชร์ไม่มีเงินจ่ายค่างวด (อันนี้แชร์วงใหม่)เท้าต้องสำรองจ่ายแต่เนื่องด้วยเธอเงินเดือนไม่มากเลยไม่มีเงินจ่าย มาออกปากให้ผมช่วยจ่ายหน่อย ผมก็ไม่ช่วยเธอเพราะผมเคยเตือนเธอแล้วทะเลาะกันเรื่องนี้แล้วว่า เธอเงินเดือนไม่มากพอที่จะอยู่ในสถานะของคนที่เป็นท้าวแชร์ได้ ทำอะไรอย่าเกินตัวและที่สำคัญธุรกิจแบบนี้มันเสี่ยงที่จะโดนโกง อย่าทำต่อเลย หารายได้เสริมอย่างอื่นที่มันสุจริตดีกว่า และทิ้งท้ายด้วยว่า "พี่เตือนแล้วนะ ถ้ามีปัญหาเรื่องแชร์อย่าเอาพี่ไปข้องเกี่ยวด้วยนะ" ****สรุปสุดท้ายก็ยังมาเอ่ยปากให้แก้ปัญหาให้ เลยบอกว่าก่อนจะเอ่ยปากให้ใครมาช่วยเรา ลองช่วยตัวเองให้ถึงที่สุดหรือยัง เธอมีแหวนทองใส่ 1 วงรวมที่ผมซื้อให้อีก 1 วงเป็น 2 วง ผมบอกให้เอาตรงนี้ไปขายสิ จะได้แก้ปัญหานี้ได้ด้วยตัวเอง เพราะเราเป็นคนสร้างปัญหาขึ้นมาเอง เธอกลับตอบว่าไม่อยากขายทอง เพราะเวลากลับบ้านไปหาแม่ แล้วแม่จะสงสัยว่าทองไปไหนกลัวแม่กังวลว่ามีปัญหาการเงิน ผมเลยบอกว่าไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอ ตัวเองมีทองใส่ดูดี แต่พอมีปัญหากลับมายืมเงินเราไปแก้ปัญหา ผมเลยยกตัวอย่างว่าสมัยผมเป็นวัยรุ่นผมเคยเกิดอุบัติเหตุขี่มอเตอร์ไซด์ชนคนข้ามถนนเจ็บขาหัก พรบ.รถตัวเองขาดต้องออกค่ารักษาพยาบาลให้คู่กรณีเอง ผมมีทองอยู่เส้นนึง ผมยังขายทองตัวเองเพื่อมาแก้ปัญหาเลย ไม่เอ่ยปากไปขอให้ใครช่วย ซึ่งผมจะสื่อให้เธอรู้นิสัยว่าทรรศนคติของผมเป็นแบบนี้ ถ้าจะคบกันก็ต้องปรับทรรศนคติเรื่องนี้นะ 

3.ค่ากินค่าใช้จ่ายตอนไปออกทริปเที่ยวกันผมเป็นคนออกทั้งหมด ตรงนี้ผมเต็มใจจ่ายเพราะผมเงินเดือนมากกว่าเค้า แต่สิ่งที่ทำให้เสียความรู้สึกคือ พอเค้ารู้ว่าเราจ่ายตรงนี้กลับไม่ค่อยเกรงใจ อย่างเดือนมกราที่ผ่านมาช่วงปีใหม่ไปเที่ยวต่างจังหวัดผมจ่ายเองทั้งหมดค่ากินค่าน้ำมันรถ พอกลับจากต่างจังหวัดผมพาไปกินร้านอาหารหลักพันขึ้นผมก็จ่ายเอง วันถัดมาเธอนัดเจอพี่สาวเธอ ผมพาไปเจอไปกินร้านอาหารผมก็จ่ายทั้งหมด แล้วก็ขอให้ซื้อเสื้อให้สองตัว ผมก็จ่าย แต่ที่ทำให้เสียความรู้สึกคือ เธอบอกว่าห้ามให้ผมซื้ออุปกรณ์แคมป์ปิ้งอีกนะ มันเปลืองเงิน (ผมเป็นสายแคมป์ปิ้ง)ฟังดูเหมือนจะเป็นห่วงว่าผมจะใช้เงินฟุ่มเฟือยกับของพวกนี้ แต่เปล่าเลย อีกสองวันเธอก็มาเอ่ยปากขอให้ผมซื้อเสื้อผ้าให้เธอ ส่งรูปร้านอาหารวิวสวยๆอยากให้ผมพาไปกิน 

****สรุปที่ผมใช้คำพูดว่า"พี่ไม่ใช่ธนาคารนะ"ผมพูดแรงไปมั้ย เค้าถึงได้โกรธและบอกเลิกผม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่