Chiangmai เชียงใหม่ 30 Jan - 2 Feb 2020

Chiangmai เชียงใหม่ 30 Jan - 2 Feb 2020
     ไปเที่ยวเชียงใหม่ครั้งนี้ พวกเราหวังว่าจะไปดูดอกซากุระเมืองไทย ( ดอกพญาเสือโคร่ง) บนเส้นทางเชียงใหม่ ขุนวาง และบนดอยอ่างขาง  ทีมเราทั้งหมด 5 คน โดยมีผู้นำทีมคือ พี่เอิบ เรา รุจา จุ๋มและจอน 
       เรานัดกันว่าเจอกันในวันที่ 30 มกราคม 2020  ที่อาคาร 2 ภายในประเทศ ขาออก เคาน์เตอร์ Air Asia เวลา 9.00  น  พี่เอิบจองตั๋ว FD 3435 เวลา 10.30  am เราออกจากบ้านอยุธยา โดยให้มอเตอร์ไซค์ (พี่วิน ) มารับ ตั้งแต่ 6.30 น  เพื่อขึ้นรถไฟ เวลา 7.11 น  แต่รถขบวนนี้ late เป็น 7.25  ไม่เป็นไรรถไฟใช้เวลาเพียง 50  นาที ก็ถึงดอนเมืองแล้ว เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา (โรคอุบัติใหม่ ต้นเหตุที่เมืองอู๋ฮั่น จีน ) ทำให้เกิดวิตกไปทั่วโลกรวมทั้งไทย บนขบวนรถ เกือบทั้งหมดสวมหน้ากากอนามัย...
    เราเดินทางถึงดอนเมือง 8.20  เราก็เดิน โต๋เต๋ ไปอาคารภายในประเทศ ประตู 9 กำลังมองหาเก้าอี้ว่างนั่งรอ ขณะที่กำลังจะนั่งได้ยินเสียงเรียก เอ้า! จอนนั่นเองไม่เจอกัน  30  กว่าปี ยังผอมเหมือนเดิน  เราคุยกันสัก 2 นาทีไม่ทันนั่ง จอนก็มองเห็นพี่เอิบกับรุจาแล้วเราก็ชวนกันไปนั่งสมทบรอจุ๋ม สักพักจุ๋มก็มาถึง เมื่อครบทีมเรียบร้อยแล้วไป load กระเป๋าของเที่ยวบิน FD 3435 เพราะ check in มาแล้ว จากนั้นพวกเราก็เดินไปเข้า gate เพื่อเดินทางไปเชียงใหม่ ถึงสนามบินเชียงใหม่รับกระเป๋า
  รับกระเป๋าแล้วเดินทางออกประตู 2  นัดกับรถที่พวกเราเช่าขับที่เชียงใหม่ มารอรับแล้วเป็นรถ Vios ค่อนข้างใหม่ สีดำ เริ่มพี่เอิบเป็นโชเฟอร์มือ  1 ก่อนแล้วต่อมาเรามือ 2  ค่อยขับ
  ออกจากสนามบิน เปิด Google map เดินทางไปขุนวาง แต่ก่อนอื่น กองทัพเดินด้วยท้อง จอนกับรุจาเสนอแวะกินข้าวร้าน โอ้กะจู๋ ทุกคนเห็นด้วยแวะกินข้าวก่อน  อาหารอร่อยพอทานได้ สั่งมา  3-4 อย่าง ผลสุดท้ายจานนี้ (รูปล่างนี้) ต้องใส่กล่องตุนไว้เป็นอาหารมื้อต่อไป
เดินทางต่อไปขุนวาง ไปดูโครงการหลวงขุนวางแม้นข่าวจะบอกว่าปีนี้อากาศหนาว ตอนกลางเดือนธันวาคมทำให้ดอกซากุระ บานเร็วกว่ากำหนด เมื่อต้นเดือนมกราคมถึงกลางเดือน (ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจทุกคน ว่าคงไม่เห็นแน่... แต่โปรแกรมวางไว้แล้วก็ต้องดำเนินไปตามแผน...) บนเส้นทางไปขุนวางผ่านร้านข้างทางเห็นส้มสายน้ำผึ้งวางขายแวะซื้ออีก
      เดินทางถึงศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง เมื่อปี พ.ศ. 2518 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9  เสด็จพระราชดำเนินไปยังบ้านขุนวาง มีพระราชดำริให้โครงการหลวงและศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาร่วมกันพัฒนาชีวิตและความเป็นอยู่ของราษฎรในพื้นที่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2528 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวางขึ้น โดยการสนับสนุนงบประมาณจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา มีเป้าหมายหลักเพื่อลดพื้นที่การปลูกฝิ่นและพัฒนาการปลูกพืชเขตหนาวที่มีรายได้มากกว่า เพื่อให้ชาวเขามีพื้นที่ทำกินอย่างถาวร ตั้งถิ่นฐานเป็นหลักแหล่งไม่หันกลับไปทำไร่เลื่อนลอยและบุกรุกทำลายป่า
    วันนี้ที่เราไปถึงศูนย์พัฒนาฯค่อนข้างเงียบไม่มีคนมากนัก ด้านหน้าศูนย์เป็นเหมือนตลาดที่ขายของของชาวเขา ที่เห็นมีไม้ดอก และสตรอเบอร์รี พวกเราซื้อสตรอเบอรี และเข้าไปถ่ายรูปดอกไม้ที่หน้าศูนย์
    
 
       เย็นมากแล้วต้องรีบเดินทางไปที่พักที่จองไว้คือแม่กลางหลวงวิว เพราะอากาศเริ่มเย็นลง ( ถามเจ้าหน้าที่ที่ศุนย์พัฒนาฯว่าอากาศหนาวมากไหม บอกว่า ประมาณ 7-10 C) เมื่อขับรถมาถึงที่พักในหมู่บ้านแม่กลาง เป็นบ้านพักเล็ก ๆ บนเนินเขามองเห็นทุ่งนาและแปลงผักลดหลั่นสวยงาม บ้านหลังเดี่ยว 1  ห้อง  2  เตียง อากาศหนาว เย็นนี้สั่งอาหารที่ร้านของเจ้าของที่พักมีข้าวผัด ต้มยำปลากระป๋อง และผัดกระเพราราดข้าว หลังจากกินข้าวเย็นแล้วเข้านอน (จองบ้านไว้ 2 หลัง)กลางคืนหนาวมาก ต้องใช้ผ้าห่มซ้อน  2  ผืน ( ในใจนึกถึงการแจกผ้าห่มเลย ) เวลาอาหารเช้า  8.00  น เพราะอากาศหนาว
     ก่อนทานข้าวเช้า เดินขึ้นในหมู่บ้านต้องการไปดูการปลูกกาแฟและผ้าทอ  ข้างทางเป็นบ้านชาวเขา ปกาเกอะญอเรียงรายเดินไปสัก  120 m ก็พบโรงขายกาแฟ (สมศักดิ์ โถ่บิเบ กาแฟสด)และผ้าทอ พวกเราแวะไปดื่มกาแฟ  กาแฟที่นี่หอมอร่อยค่อนข้างเข้ม เจ้าของรีบต้มน้ำและชงให้ดื่ม พวกเรา (พี่เอิบกับจอน) ซื้อกาแฟชนิดบดแต่ต้องมา drip และเม็ดคั่วมาบดเองกันมาในราคาทั่วไป (เป็นกาแฟสายพันธุ์อราบิกาที่ปลูกบนดอยแม่กลางคั่วบดขนาดกลาง Medium roast )  รุจาชอบผ้าซื้อผ้านุ่งไปฝากน้อง
 
       หลังจากนั้นกลับมาที่พักรับประทานอาหารเช้าแล้วรีบเดินทางไปอ่างขาง ซึ่งค่อนข้างไกล ต้องใช้เวลาเดินทาง 5-6 h ตอนนี้มือ 1 ยังทำหน้าที่ขับรถ ในขณะนั่งรถไปพวกเราก็สอดส่ายสายตาไป 2 ข้างทาง เพื่อป่ะของกินแล้วก็พบพอดีมีมะละกอ พุทรา ตอนนี้ ของกินเริ่มจะเต็มรถแล้ว  ระหว่างทางแวะทานอาหารกลางวันที่ร้านขาหมู หมานโถ ภูเก็ต จอนเมารถต้องเก็บขาหมูใส่กล่องไว้ เดินทางต่อไปโครงการวิจัยเกษตรที่สูงอ่างขาง พอไปถึงประตูทางเข้าเสียค่าเข้า อ่างขางตอนนี้คนน้อย ดอกไม้ที่สวน 80  ปี ดอกไม้สวยงามตามสมควร เดินชมไม้ดอกแล้วมานั่งทานอาหารว่างของสโมสร...แล้วขับรถวนกลับมาด้านหน้าเจอต้นซากุระกำลังสวย 2-3  ต้น ลงเดินดูแปลงกุหลาบกำลังออกดอกสวยอยู่และซื้อสตรอเบอรี่ชาวเขา
      ออกจากโครงการหลวงอ่างขาง ไปฝางเข้าที่พัก ต้นฝางโฮเตล  เมื่อจัดการนำของเข้าที่พัก ออกไปตลาดฝาง จอนยังนอนพัก หลังจากนั้นกลับมารับประทานอาหารเย็น ผลสุดท้าบซี่โครงหมูอบ ข้าวขาหมู  ได้เป็นอาหารสุนัข...
    วันนี้ เช้าแล้วลงไปทานอาหารเช้าเป็นข้าวต้มหมู ไข้ลวกและกาแฟ ต่อไปเราขับรถ(มือ 2  ทำหน้าที่ ) เดินทางไปสะเมิง เพื่อไปดูสถานีวิจัยโครงการกุหลาบหลวง เราขับรถออกจากโรงแรมต้นฝาง มุ่งหน้าไปไชยปราการ แวะ Hinoki land เมืองญี่ปุ่นในเชียงใหม่ บนเนื้อที่ 83 ไร่ ซื้อตั๋วเข้า Hinoki ค่าเข้า 130.-/คน แต่ให้คูปองคืนไปซื้อของ 80.- ตอนหลังเราซื้อของกัน 2 ชิ้น 400.- แล้วมาจับฉลาก มีหลายคนเช่าชุดญี่ปุ่นเดินถ่ายรูป แต่พวกเราถ่ายรูปอย่างเดียว เดินผ่านประตูอะสะกุสะ เอ้ย ! ประตูแห่งความโชคดี เข้าไปใน อาณาจักร Hinoki
 
     ถอดรองเท้าเดินเข้าปราสาทไม้หอม Hinoki ปราสาททำด้วยไม้สน hinoki นำเข้าจากญี่ปุ่น ตัวปราสาท 4  ชั้น
ต่อตอนที่ 2[/
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่