แนวโน้มของทีมแมนยู ตอนนี้ เราลองวิเคราะห์แบบเทคนิค โดยใช้ทฤษฎีอีเลียตเวฟ มันคือ "คลื่น C" ในแนวโน้มใหญ่ ซึ่งผลงานทีมจะตกต่ำอีกนาน คนที่รู้ทฤษฎีนี้จะทราบ คลื่น C นี้จะลงแรงและลึกมาก
ถ้าเปรียบเทียบแบบวิเคราะห์แบบหุ้น มันคือแนวโน้มขาลง ขนาดใหญ่ ในภาพใหญ่ ถ้าตีกราฟจะเห็นว่า วิกฤตนี้อาจจะกินเวลายาวนานมากกว่า 10 ปี ถ้าหลังนับจากท่านเซอร์อำลาทีมไป (จบแนวโน้มขาขึ้นขนาดใหญ่) เป็นกฎที่ฝืนธรรมชาติไม่ได้
ดังนั้นต่อให้เสริมทีม ถมเงินซื้อนักเตะมากแค่ไหนก็ตามยังไง ไม่สามารถจะฟื้นได้ในช่วงนี้แน่นอน
สิ่งที่พวกคุณจะเห็นต่อไปจากนี้
1. จะมีการเปลี่ยนผู้จัดการไปอีกอย่างน้อย 3-5 คน
ช่วงแรกของผจก ใหม่ ผลงานจะเหมือนดีขึ้น แต่สุดท้าย
ก็จะไปไม่รอด
2. มีการซื้อนักเตะราคาแพงเข้ามาเสริมทีมระดับ 50-100 ล้านปอนด์ ซึ่งทำให้แฟนบอลได้คาดหวัง แต่สุดท้ายนักเตะเหล่านี้ จะไม่สามารถช่วยยกระดับทีมได้
3. ฐานแฟนบอลจะหดลงเรื่อยๆ ตามผลงานทีม ผลประกอบกำไรแนวโน้มลดลง
เอาเป็นว่า แฟนแมนยู ต้องทำใจยอมรับความจริง สำหรับการตกต่ำของทีมในเวลาอีกอย่างน้อย 4-5 ปี จนกว่าจะจบคลื่น C นี้
ซึ่งเรื่องนี้ว่างๆเราจะอธิบายอีกที วันนี้จบแค่นี้ก่อนนะฮะ
วิเคราะห์แนวโน้ม ทีม แมนยู ต่อไปจากนี้อีก 5 ปี
ถ้าเปรียบเทียบแบบวิเคราะห์แบบหุ้น มันคือแนวโน้มขาลง ขนาดใหญ่ ในภาพใหญ่ ถ้าตีกราฟจะเห็นว่า วิกฤตนี้อาจจะกินเวลายาวนานมากกว่า 10 ปี ถ้าหลังนับจากท่านเซอร์อำลาทีมไป (จบแนวโน้มขาขึ้นขนาดใหญ่) เป็นกฎที่ฝืนธรรมชาติไม่ได้
ดังนั้นต่อให้เสริมทีม ถมเงินซื้อนักเตะมากแค่ไหนก็ตามยังไง ไม่สามารถจะฟื้นได้ในช่วงนี้แน่นอน
สิ่งที่พวกคุณจะเห็นต่อไปจากนี้
1. จะมีการเปลี่ยนผู้จัดการไปอีกอย่างน้อย 3-5 คน
ช่วงแรกของผจก ใหม่ ผลงานจะเหมือนดีขึ้น แต่สุดท้าย
ก็จะไปไม่รอด
2. มีการซื้อนักเตะราคาแพงเข้ามาเสริมทีมระดับ 50-100 ล้านปอนด์ ซึ่งทำให้แฟนบอลได้คาดหวัง แต่สุดท้ายนักเตะเหล่านี้ จะไม่สามารถช่วยยกระดับทีมได้
3. ฐานแฟนบอลจะหดลงเรื่อยๆ ตามผลงานทีม ผลประกอบกำไรแนวโน้มลดลง
เอาเป็นว่า แฟนแมนยู ต้องทำใจยอมรับความจริง สำหรับการตกต่ำของทีมในเวลาอีกอย่างน้อย 4-5 ปี จนกว่าจะจบคลื่น C นี้
ซึ่งเรื่องนี้ว่างๆเราจะอธิบายอีกที วันนี้จบแค่นี้ก่อนนะฮะ