สวัสดีครับ เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมาผมได้ย้ายเข้ามาที่บ้านเอื้ออาทรในจังหวัดหนึ่งในภาคอิสาน อาศัยอยู่กับพ่อ 2คน และแฟนมาหาเป็นครั้งคราว
เรื่องเริ่มเกิดเมื่อผมย้ายมาได้ 2-3วัน เพื่อนบ้านระแวกนั้นวัยกลางคนก็คุยกับพ่อผมดี แต่มีวัยรุ่นบ้านเยื้อง ดื่มสุราเสียงดังกันแทบทุกคืน และเริ่มมีการพูดจาเสียงดังเสียดสีบ้านผมว่า รำคาญบ้านผมปิดประตูเสียงดัง ซึ่งก็ดังจริงครับเพราะบ้านเก่ามาก ไม่เคยมีคนเช่ามาหลายปี แม้ปิดให้เบามันก็ดังทั้งเสียงประตูและกลอนครับ ประตูไม้โปร่งกระทบวงกบเหล็ก ตอนกลางคืน ที่มีลมพัด (ประตูห้องทุกห้องลูกบิดพังหมดไม่สามารถยึดประตูได้ ซึ่งมีแค่ห้องน้ำที่ใช้ลูกบิดได้ปกติ) ผมก็เงียบ เช้ามาก็หากาวสองหน้ามาปิดทุกบานประตูเพื่อไม่ให้กระทบวงกบเสียงดัง ที่ผ่านมาคนไม่อยู่ลมพัดอาจจะดังแต่ผมมาอยู่ผมทำให้เงียบได้ก็เพื่อส่วนรวมดี ผมคิดสบายๆ และ หาที่ยึดประตูเพื่อไม่ให้ลมพัด แต่ตกกลางคืนที่ก็เริ่มคุกคาม กินเหล้ามาก็ฉี่หน้าบ้านผม พูดจาคุกคามตามเดิม
จนเมื่อวันนี้ผมถึงที่สุดเค้าก็ยังคงยึดติดกับการเอาชนะและกลั่นแกล้งผมทั้งที่ผมไม่เคยทำอะไรให้เค้า วันนี้แฟนผมมาที่บ้าน เอารถยนต์มา พวกผมก็ทานข้าวขึ้นนอนตามปกติ เค้าก็คุยกันเสียงดังปกติ จนเมื่อแฟนผมหลับไป แต่ผมยังไม่หลับ ซึ่งพวกเค้าคิดว่าผมหลับแล้ว ผมสังเกตุผ่านหน้าต่าง พวกเขานำตะปูมาวางดักรถแฟนผมและคุยกันว่า "อย่างนี้ไปทำงานไม่ได้หรอก ยิ่งออกไปทำงานแต่เช้าทุกวัน ไปกูว่ามันคงหัวเสียว่ะ ได้จอด เผลอๆได้เปลี่ยน กูว่า

ได้เปลี่ยนแน่ กูว่า

เดี๋ยวย้าย อยู่ไม่นานหรอก" ซึ่งมันลามมาถึงแฟนผมแล้วและผมรู้สึกได้ว่าถ้าผมไม่จบปัญหานี้ เค้าจะยิ่งได้ใจบานปลายและกลั่นแกล้งคนให้จม ทั้งที่ผมทำงานหาเลี้ยงพ่อ แต่ทุกสิ่งมันกลับเลวร้ายและผมต้องโดนกดขี่ต่อไป ผมกำลังชั่งใจว่า ถ้าผมจัดการเค้าหมดทั้งวง จนไม่หายใจมาแกล้งใครได้อีก ใครได้รับผลกระทบ ผมอนาคตข้างหน้าต้องพัง ทั้งที่เป็นการปกป้องสิทธิเสรีภาพของตัวเอง พ่อผมต้องขาดคนดูแล แต่ถ้าผมไม่ทำ ชีวิตผมก็พังเท่ากัน ผมต้องคอยตามใจพวกเค้า ทั้งที่ผมไม่ได้ผิดอะไร ถ้าผมไม่ทำ ผมก็ต้องใช้ชีวิตเป็นทาศอารมณ์คนและคนเหล่านั้นจะสร้างบรรทัดฐานแบบนี่สืบไป ถ้าผมทำชีวิตผมก็มืดมนในคุกไม่ต่างจากตรงนี้ แต่ที่สำคัญ พวกเค้าจะไปก่อเรื่องกับใครไม่ได้อีก ผมตัดสินใจสั้นไปไหมครับ แต่ผมเข้าใจปรัชญาหนังโจ๊กเกอร์อย่างนึง "การที่โจ๊กเกอร์กลายเป็นคนไม่ดี มันมาจากสังคมที่สร้างภาพให้ดูดีแต่เบื้องหลังเน่าเฟะ สังคมโทษโจ๊กเกอร์เป็นผู้ร้าย แต่ไม่มีใครโทษสภาพแวดล้อมที่บีบคั้นให้โจ๊กเกอร์ทำสิ่งที่ถูกเพื่อตัดเนื้อร้ายสังคม" หรือผมควรจะแก้ปัญหาอย่างไร ทำงานกลับบ้านมาก็เหนื่อยแล้วต้องมาคอยระวัง ต้องมาซ่อมรถ ต้องอะไรอีก
ย้ายบ้านใหม่เจอเพื่อนบ้านที่แย่และรังแกเรา
เรื่องเริ่มเกิดเมื่อผมย้ายมาได้ 2-3วัน เพื่อนบ้านระแวกนั้นวัยกลางคนก็คุยกับพ่อผมดี แต่มีวัยรุ่นบ้านเยื้อง ดื่มสุราเสียงดังกันแทบทุกคืน และเริ่มมีการพูดจาเสียงดังเสียดสีบ้านผมว่า รำคาญบ้านผมปิดประตูเสียงดัง ซึ่งก็ดังจริงครับเพราะบ้านเก่ามาก ไม่เคยมีคนเช่ามาหลายปี แม้ปิดให้เบามันก็ดังทั้งเสียงประตูและกลอนครับ ประตูไม้โปร่งกระทบวงกบเหล็ก ตอนกลางคืน ที่มีลมพัด (ประตูห้องทุกห้องลูกบิดพังหมดไม่สามารถยึดประตูได้ ซึ่งมีแค่ห้องน้ำที่ใช้ลูกบิดได้ปกติ) ผมก็เงียบ เช้ามาก็หากาวสองหน้ามาปิดทุกบานประตูเพื่อไม่ให้กระทบวงกบเสียงดัง ที่ผ่านมาคนไม่อยู่ลมพัดอาจจะดังแต่ผมมาอยู่ผมทำให้เงียบได้ก็เพื่อส่วนรวมดี ผมคิดสบายๆ และ หาที่ยึดประตูเพื่อไม่ให้ลมพัด แต่ตกกลางคืนที่ก็เริ่มคุกคาม กินเหล้ามาก็ฉี่หน้าบ้านผม พูดจาคุกคามตามเดิม
จนเมื่อวันนี้ผมถึงที่สุดเค้าก็ยังคงยึดติดกับการเอาชนะและกลั่นแกล้งผมทั้งที่ผมไม่เคยทำอะไรให้เค้า วันนี้แฟนผมมาที่บ้าน เอารถยนต์มา พวกผมก็ทานข้าวขึ้นนอนตามปกติ เค้าก็คุยกันเสียงดังปกติ จนเมื่อแฟนผมหลับไป แต่ผมยังไม่หลับ ซึ่งพวกเค้าคิดว่าผมหลับแล้ว ผมสังเกตุผ่านหน้าต่าง พวกเขานำตะปูมาวางดักรถแฟนผมและคุยกันว่า "อย่างนี้ไปทำงานไม่ได้หรอก ยิ่งออกไปทำงานแต่เช้าทุกวัน ไปกูว่ามันคงหัวเสียว่ะ ได้จอด เผลอๆได้เปลี่ยน กูว่า