JJNY : 5in1 พิชัยเปรียบคนไทยกบต้มตายยกหม้อ!/อนค.ล็อกเป้าธรรมนัส/วีระจ่อแจ้งความป่าไม้/ฝุ่น46พื้นที่/TDRIคาด GDP เหลือ 2%

ฟันธง เศรษฐกิจปีนี้ทรุดหนัก! 'พิชัย' เปรียบคนไทยเป็นกบต้ม ที่กำลังตายยกหม้อ!
https://www.khaosod.co.th/politics/news_3505877
 
 
“พิชัย” ชี้ เครื่องยนต์เศรษฐกิจไทยดับทุกเครื่อง เศรษฐกิจปีนี้ทรุดหนัก ย้ำ ปัญหาใหม่ซ้ำเติมปัญหาเดิมเหมือนเร่งไฟต้มกบ ถาม รัฐบาลหมดความน่าเชื่อถือแล้ว คนไทยทนได้หรือ
 
วันนี้ (1 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.30 น. พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวในงานประชุมประจำปี สมาคมขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าและส่งออก ในหัวข้อ “ทิศทางเศรษฐกิจและโลจิสติกส์ไทย ปลายศตวรรษที่ 21 จะไปในทิศทางไหน” ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2563 จะย่ำแย่ และจะหนักกว่าปี 2562 ทั้งนี้เพราะทุกเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจของไทยได้ดับหมดทุกเครื่องแล้ว ถ้าเปรียบเป็นเครื่องบินก็คงจะเตรียมโหม่งพื้นแล้ว ทั้งนี้เพราะเหตุผลดังนี้
 
– การส่งออกในปี 2563 นี้น่าจะไม่ขยายตัวจากปีที่แล้วทึ่ติดลบ 2.65% และอาจจะติดลบด้วยเพราะปีนี้ สหรัฐจะเริ่มตัดจีเอสพีในสินค้าไทยหลายชนิด 573 รายการ ซึ่งจะทำให้สินค้าไทยต้องจ่ายภาษีเต็มและแข่งขันยาก อีกทั้งขาดการลงทุนใหม่ๆมาหลายปีจากสภาวะการเมืองทำให้ไม่มีการผลิตสินค้าใหม่ๆ
 
ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาการส่งออกของไทยเพิ่มเฉลี่ยเพียงปีละ 2 % เท่านั้นซึ่งต่ำมากในขณะที่เพื่อนบ้านโตปีละเป็น สิบกว่าเปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะเวียดนาม  การส่งออกได้แซงหน้าไทยแล้ว อีกทั้งไทยยังเจอภาวะค่าเงินบาทแข็งค่ามากที่อาจจะเริ่มผ่อนคลายแล้วในช่วงนี้
 
– การท่องเที่ยว ที่เคยเป็นพระเอกมาตลอด 5 ปี แต่ปีนี้จะทรุดหนัก โดยมีโอกาสติดลบสูงจากไวรัสโคโรน่า ที่กำลังเริ่มจะระบาดอย่างมากในประเทศจีนและอีกหลายประเทศ และรัฐบาลจีนได้ห้ามประชาชนท่องเที่ยวนอกประเทศแล้ว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด สถานการณ์ยังไม่แน่ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ แต่น่าจะใช้เวลานาน การท่องเที่ยวของไทยจะเสียหายหลายแสนล้านบาท และจะซ้ำเติมเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อยู่แล้วให้หนักยิ่งขึ้น
 
– การใช้จ่ายภาครัฐ ต้องหยุดชะงักเนื่องจากการเสียบบัตรแทนกันของ สส. ฝั่งรัฐบาล ซึ่งทำให้งบประมาณที่ล่าช้าอยู่แล้ว ต้องล่าช้าออกไปอีก
 
– การบริโภคของประชาชน จะลดน้อยลง จากรายได้ที่ไม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรายได้ของเกษตรกรที่ลดลงจากราคาสินค้าเกษตรที่ลดลง อีกทั้งหนี้ครัวเรือนไทยกำลังจะพุ่งเกิน 80% จากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ตลอดหลายปี จะเป็นข้อจำกัดในการบริโภค
 
– การลงทุนภาคเอกชน ยังคงซบเซา เพราะนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศไม่มีความมั่นใจในรัฐบาล ถึงแม้รัฐบาลจะต่อว่าเอกชนอย่างไรเขาก็ไม่ลงทุนในไทย แต่นักลงทุนไทยกลับไปลงทุนต่างประเทศกันมาก เพราะมั่นใจมากกว่า
 
สำหรับด้าน โลจิสติกส์ ตนยังอยากเห็นไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของอาเซียน รัฐควรทุ่มงบประมาณพัฒนาด้านนี้ ซึ่งจะทำให้ไทยพัฒนาต่อไปได้อีก และอยากให้ศึกษาโมเดลธุรกิจของ โกเจ็ก และ แกร๊บ การลดราคาน้ำมันดีเซล 5 บาท โดยลดการเก็บภาษีสรรพสามิต
 
การติดตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทางด้านโลจิสติกส์ ไม่ว่าจะเป็น การใช้โดรนส่งสินค้า รถยนต์ไฟฟ้าแบบไม่ต้องมีคนขับ ไฮเปอร์ลูป แม้กระทั่งการส่งคนไปอยู่บนดาวอังคารจริงๆ ของบริษัทสเปซเอ็กซ์ ของ อีลอน มัสก์ เป็นต้น
 
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าปัญหาเศรษฐกิจของไทยเกิดจากการสะสมปัญหามาตลอด 5 ปีกว่า ที่รัฐบาลไม่ได้สร้างความน่าเชื่อถือทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และ การเมือง ส่งผลกระทบรุนแรงมาจนถึงปัจจุบัน แล้วยังมาเจอปัญหาใหม่ซ้ำเติมทั้งไวรัสโคโรน่า เสียบบัตรแทนกัน ฝุ่น. PM2.5 ภัยแล้ง บาทแข็ง ประปาเค็ม ทำให้ปัญหาเพิ่มขึ้นทุกทาง เหมือนเร่งไฟหม้อต้มกบ และรัฐบาลไม่สามารถรับมือกับปัญหาได้
 
จนประชาชนเริ่มทนกันไม่ไหว แฮชแท็ก #รัฐบาลเฮงซวย จึงขึ้นอันดับหนึ่งหลายครั้ง ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่สงสัยกันว่ารัฐบาลนี้จะสามารถนำพาประเทศฝ่าวิกฤตเหล่านี้ไปได้อย่างไร เพราะ 5 ปีที่ผ่านมายังบริหารประเทศได้ย่ำแย่ขนาดนี้ โดยทั้งนี้ กำลังเข้าสู่โหมดการอภิปรายไม่ไว้วางใจซึ้งคงมีข้อมูลออกมามาก
 
ดังนั้น ในภาวะปัจจุบันที่ทั้งปัญหาใหม่และปัญหาเก่าถาโถมเข้ามา รัฐบาลต้องตั้งหลักให้ได้ จัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง อย่าสะเปะสะปะเหมือนที่ทำมาตลอด ภาวะวิกฤตปัจจุบันต้องการบุคคลที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง ขนาดคนเก่งสุดยังบริหารยากเลย
 
แล้วเอาคนที่ไม่รู้เรื่องแถมยังพูดมั่วๆ ตลอด จะนำพาประเทศผ่านพ้นอุปสรรคได้อย่างไร ถึงเวลาแล้วที่คนไทยจะต้องตัดสินใจว่า ประเทศนี้จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร เพราะถ้าเป็นเหมือน 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยไปไม่รอดแน่ คงเป็นกบต้มตายกันยกหม้อ
 

 
อนาคตใหม่ ล็อกเป้าเชือด "ธรรมนัส" คาสภา "ธนาธร" คุมเกม อภิปรายไม่ไว้วางใจ!
https://www.khaosod.co.th/politics/news_3507198
 
“อนาคตใหม่” เผย “ธนาธร” นั่งนอกสภาฯ คุมเกมอภิปรายด้วยตัวเอง อุบมีไม้เด็ด เชือดรัฐมนตรีเรียงตัว
 
เมื่อวันที่ 1 ก.พ. นายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมของพรรคอนาคตใหม่ ในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นของพรรคอนาคตใหม่ 100 เปอร์เซ็นต์
 
โดยเราจะอภิปรายเน้นไปที่เรื่องคุณสมบัติ ที่ถูกศาลประเทศออสเตรเลียพิพากษา สืบเนื่องจากที่นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการชุดหนึ่ง ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ได้ข้อมูลมาจากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเรายังไม่ได้กำหนดวางตัวว่า ส.ส.คนใดจะอภิปราย ร.อ.ธรรมนัส
 
เมื่อถามว่า พรรคอนาคตใหม่จะอภิปรายรัฐมนตรีท่านใดบ้าง นายชำนาญ ตอบว่า เราจะอภิปรายรัฐมนตรีทั้ง 6 ท่าน ยกตัวอย่าง ร.อ.ธรรมนัส เรื่องคุณสมบัติที่เคยมีประวัติถูกศาลพิพากษา และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่กำกับดูแลการปกครองส่วนท้องถิ่น ที่บริหารงานผิดพลาดเยอะ รวบอำนาจจากท้องถิ่นมาเติมอำนาจให้กระทรวงมหาดไทย
 
รวมไปถึงเรื่องการนำเข้าขยะ และทุจริตคอร์รัปชั่น ตามที่เขียนไว้ในญัตติที่ยื่นให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่ทั้งนี้ประเด็นหรือข้อมูลที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ สามารถเปิดเผยได้ในนาทีสุดท้ายช่วงอภิปรายในสภาฯ ได้เลย ไม่ต้องเปิดเผยต่อประธานสภาฯ ให้พิจารณาก่อน
 
พรรคอนาคตใหม่ จะคัดส.ส. ที่อภิปรายดุดัน ชัดเจน และมีข้อมูล เช่น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่สำคัญครั้งนี้จะมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เข้ามาดูแลการอภิปรายโดยตรง ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มวางแผนทำการบ้านกันแล้ว
 
ทั้งนี้ เราวางตัวส.ส.ที่จะขึ้นอภิปรายไว้ประมาณ 10 กว่าคน ยืนยันว่าแต่ละพรรคฝ่ายค้านมีข้อมูลและไม้เด็ดที่เก็บไว้เป็นความลับสุดยอด ที่รอเปิดใช้ในการอภิปรายทีเดียวแน่นอน” รองหัวหน้าพรรคฯ กล่าว
 

 
‘วีระ’ จ่อแจ้งความป่าไม้ราชบุรี ส่อเกียร์ว่าง ปล่อยผู้มีอิทธิพลตัดต้นไม้ในที่ดินแม่ธนาธร
https://www.matichon.co.th/politics/news_1936549
 
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น โพสต์แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “วีระ สมความคิด” ระบุว่า 

หลักฐานที่เชื่อว่ามีการเลือกปฏิบัติและช่วยเหลือผู้กระทำความผิด

ศูนย์ป่าไม้ราชบุรีต้องตอบ หากที่อ้างว่าเป็นการตัดไม้ในที่ดินที่เป็น นส.2 และ นส.3 ซึ่งที่ดินดังกล่าวไม่ใช่ที่ป่าตามกฎหมายป่าไม้ จึงไม่เป็นความผิดตามกฎหมายป่าไม้ ในเมื่อที่ดินดังกล่าวป่าไม้ราชบุรีบอกเองว่า มีเอกสารการครอบครองเป็น นส.2 และ นส.3 ไม่ผิดกฎหมาย หมายความว่า คุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ คุณแม่ของนายธนาธร ก็ครอบครองที่ดินดังกล่าวได้ไม่ผิดกฎหมาย

เมื่อครั้งที่ปารีณาออกมากล่าวหาคุณสมพรว่า บุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติ ครอบครองที่ ภบท.5 ขณะนั้นศูนย์ป่าไม้ราชบุรีไม่เห็นออกมาบอกหรือออกมายืนยันกับสังคมว่าที่ดินดังกล่าวคุณสมพรครอบครองได้ไม่ผิดกฎหมาย เนื่องจากมี นส.2 และ นส.3 แต่ป่าไม้กลับเงียบ ปล่อยให้คนทั่วไปเข้าใจผิดคิดว่า คุณสมพรครอบครองที่ป่า ทำให้คุณสมพรต้องถูกเข้าใจผิดว่า กระทำความผิด จึงถูกกดดันจากสังคมให้ต้องคืนที่ดินดังกล่าวนี้ให้กับรัฐ เนื่องจากเกรงว่า ตนเองจะมีความผิด

ดังนั้น จึงมีคำถามกับป่าไม้ว่า คุณสมพรครอบครองที่มี นส.2 และ นส.3 ซึ่งป่าไม้ยืนยันในขณะนี้ว่า ไม่ผิดกฎหมาย ป่าไม้ทำไมไม่พูดไม่บอกกับสังคมในขณะนั้นว่า คุณสมพรไม่ผิด ทำไมไม่บอกกับคุณสมพรก่อนที่เขาจะคืนที่ดินดังกล่าวให้กับรัฐ เหมือนกับในขณะนี้ที่มีผู้มีอิทธิพลบุกรุกเข้าไปตัดต้นไม้ในที่ดินซึ่งคุณสมพรคืนให้แก่รัฐ ซึ่งในขณะนี้จะมี นส.2 หรือจะมี นส.3 หรือไม่ก็ตาม แต่ขณะนี้ที่ดินทั้ง 500 กว่าไร่ที่คุณสมพรคืนให้แก่รัฐ ได้ตกเป็นสมบัติของรัฐ (แผ่นดิน) แล้ว แต่ในขณะนี้ป่าไม้ราชบุรีกลับยืนยันว่า ตัดต้นไม้ได้ไม่ผิดกฎหมาย ทั้งหมดนี้มันทำให้เชื่อว่า ป่าไม้ราชบุรีมีการเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน ที่สำคัญยังทำให้เชื่อว่า ป่าไม้ราชบุรีกำลังช่วยเหลือผู้กระทำความผิด เพื่อไม่ให้ได้รับโทษตามกฎหมายอีกด้วย

ขอทบทวนความจำและข้อกฎหมายให้ป่าไม้ราชบุรี ฟังดีๆ ที่ดินทั้งหมด 500 กว่าไร่ มันจะมีหลักฐานเป็น นส.2 หรือ นส.3 อะไรก็ตาม ในเมื่อคุณสมพร เธอมอบคืนให้กับรัฐแล้ว ดังนั้น ในขณะนี้ที่ดินทั้งหมดจึงตกเป็นที่ดินของรัฐ เป็นสมบัติของแผ่นดิน ไม่ใช่ที่ดินของเอกชนหรือของประชาชนคนใดคนหนึ่ง ที่จะอ้างเอาการครอบครองตาม นส.2 และ นส.3 มาอ้างว่า ไม่ผิดกฎหมายได้ เมื่อมีผู้มีอิทธิพลเข้าไปตัดไม้ จึงยังเป็นความผิดตามกฎหมายอยู่นั่นเอง ป่าไม้ราชบุรีต้องจับกุมดำเนินคดีทันที ไม่ต้องยึกยัก ไม่ต้องแถ

หากยังท้าทายกฎหมาย วันพฤหัสบดีที่ 6 ก.พ. 2563 ผมจะไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ เอาผิดมันทั้งผู้มีอิทธิพลและป่าไม้ราชบุรี อยากติดคุกด้วยก็เอา

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=2952053601581018&id=100003292227570
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่