1917 (Sam Mendes / 2019)
SCORE : 9/10
เรื่องราวเกิดขึ้นระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ทหารอังกฤษ ประกอบด้วย สคอฟิลด์ และ เบลก ได้รับมอบหมายให้ไปร่วมปฏิบัติการที่ดูเหมือนว่าอาจไม่มีทางสำเร็จ พวกเขาต้องข้ามเขตแดนของข้าศึก เพื่อส่งสารให้หยุดการโจมตีของทหารนับร้อย
.
นี่คือหนังอีกเรื่องที่เราคอยมากๆ ตั้งแต่ได้ดู ตย. จนกระทั่งมารู้ข่าวว่าหนังเรื่องนี้ได้คำวิจารณ์ดีเยี่ยม แถมยังได้รางวัล best picture จากงาน Golden Globes 2020 สิ่งเหล่านี้ยิ่งชวนให้เกิดความทวีที่อยากจะรับชมหนังเรื่องนี้มากขึ้นไปเรื่อยๆ และพอดูจบก็ค้นพบว่า เออ สมกับที่ตั้งตารอคอยจริงๆ แหละ
.
โครงเรื่องของหนังไม่ได้ซับซ้อนอะไรสักนิดเดียว ตัวหนังถูกเล่าเรื่องเป็นเส้นตรงอย่างชัดเจน ผ่านมุมมองและสถานการณ์ของสองตัวละครหลัก ตัวหนังจะค่อยๆ พาเราไปเข้าสู่สถานการณ์และรับข้อมูลต่างๆ ไปเรื่อยๆ โดยเหมือนเราอยู่กับสองตัวละครนี้ตลอดเวลา (หนังเลือกใช้การถ่ายทำแบบ longtake และมีการตัดต่อแบบ parallel cutting) มันเลยทำให้หนังดูเพลินและย่อยง่ายมากๆ (แม้แต่คนไม่ชอบหนังสงครามก็ดูได้ เพราะข้อมูลภายในหนังไม่ได้เยอะมากเท่าไหร่)
.
สิ่งที่โดดเด่นของหนังคือมันเป็นหนังที่ถูกถ่ายทำแบบ long take ซึ่งนอกจากจะทำให้เราได้รับประสบการณ์ในการรับชมขั้นสูงสุดสำหรับการดูหนังในโรงภาพยนตร์ ตัวหนังยังแสดงออกให้เห็นถึงความทะเยอะทะยานและวิสัยทัศน์อันยอดเยี่ยมของผู้กำกับ การถ่ายหนัง long take อาจจะมีเกิดขึ้นเยอะแยะมาแล้วในโลกภาพยนตร์ แต่ในแวดวงของหนังสงคราม มันไม่ได้มีให้เห็นบ่อยๆ หากจะเปรียบเทียบง่ายๆ ครั้งหนึ่งเราเคยตื่นตาตื่นใจกับหนังสงครามอย่าง Dunkirk ที่พาคนดูทะยานเข้าสู่สถานการณ์ของสงครามทั้ง 3 สถานที่ บนบก ทะเล และท้องฟ้า แต่ในขณะเดียวกัน มันไม่ได้ทำให้ผู้ชมร่วมอยู่ในเหตุการณ์มากเท่ากับ 1917 ที่เรารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของมัน และยิ่งพอมันถูกถ่ายทำแบบนี้ มันเลยแสดงให้เห็นว่าผู้กำกับเหนือชั้นขนาดไหน ที่กำกับทุกสิ่งทุกอย่างในสเกลระดับมหากาพย์ได้
.
นอกจากมันจะถ่ายแบบ long take มันยังเต็มไปด้วยช็อตสวยๆ มากมาย การวางเฟรมของ DP อย่าง Roger Deakins ซึ่งเคยทำให้เราหลงรักเค้ามาแล้วใน Blade Runner 2049 (แถมเค้ายังคว้างออสการ์ได้ในสาขาถ่ายภาพอีก) มันยิ่งทำให้หนังเรื่องนี้ดูยิ่งใหญ่และยอดเยี่ยมไปหมด ในพาร์ทของงาน production มันเต็มไปด้วยความ perfect ที่ไม่สามารถติได้ และไม่รู้ว่าจะมีผู้กำกับกี่คนที่อยากจะพาตัวเองมาจับงานอลังการขนาดนี้ (ถ้าอนาคตหนัง marvel สักเรื่องทำแบบนี้ คงจะเดือดเอาเรื่องอยู่)
.
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือ score ของหนังที่ชวนให้เคลิบเคลิ้ม หลงรัก และติดหูมากๆ ถึงแม้ว่ามันดูจะใช้เยอะไปหน่อย แต่ก็ทำให้หนังดูไม่น่าเบื่อและดูง่ายมากๆ (เพลงก็เป็นส่วนสำคัญในการทำให้คนดูรู้สึกร่วมไปกับหนังเช่นเดียวกัน)
.
โดยรวมนี่คือหนังที่ผู้ชมทั่วไปจะต้องชอบ เพราะมันมอบความบันเทิงขั้นสุดสำหรับการรับชมในโรงภาพยนตร์ หนังเรื่องนี้ช่วยตอกย้ำอย่างชัดเจน ว่าประสบการณ์ดูหนังในโรงภาพยนตร์ทำให้การดูหนังมันควรค่าที่จะดูในโรงจริงๆ (ถ้าดูเรื่องนี้ที่บ้าน ก็คงไม่รู้สึกแบบบที่ดูในโรงหรอก) เพราะงั้นต้องจัดในโรงจริงๆ นะ ถ้าใครสามารถไปดูใน Imax ได้ก็ควรค่าที่จะไปจริงๆ .
[CR] Movie Review : 1917 (9/10)
SCORE : 9/10
เรื่องราวเกิดขึ้นระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ทหารอังกฤษ ประกอบด้วย สคอฟิลด์ และ เบลก ได้รับมอบหมายให้ไปร่วมปฏิบัติการที่ดูเหมือนว่าอาจไม่มีทางสำเร็จ พวกเขาต้องข้ามเขตแดนของข้าศึก เพื่อส่งสารให้หยุดการโจมตีของทหารนับร้อย
.
นี่คือหนังอีกเรื่องที่เราคอยมากๆ ตั้งแต่ได้ดู ตย. จนกระทั่งมารู้ข่าวว่าหนังเรื่องนี้ได้คำวิจารณ์ดีเยี่ยม แถมยังได้รางวัล best picture จากงาน Golden Globes 2020 สิ่งเหล่านี้ยิ่งชวนให้เกิดความทวีที่อยากจะรับชมหนังเรื่องนี้มากขึ้นไปเรื่อยๆ และพอดูจบก็ค้นพบว่า เออ สมกับที่ตั้งตารอคอยจริงๆ แหละ
.
โครงเรื่องของหนังไม่ได้ซับซ้อนอะไรสักนิดเดียว ตัวหนังถูกเล่าเรื่องเป็นเส้นตรงอย่างชัดเจน ผ่านมุมมองและสถานการณ์ของสองตัวละครหลัก ตัวหนังจะค่อยๆ พาเราไปเข้าสู่สถานการณ์และรับข้อมูลต่างๆ ไปเรื่อยๆ โดยเหมือนเราอยู่กับสองตัวละครนี้ตลอดเวลา (หนังเลือกใช้การถ่ายทำแบบ longtake และมีการตัดต่อแบบ parallel cutting) มันเลยทำให้หนังดูเพลินและย่อยง่ายมากๆ (แม้แต่คนไม่ชอบหนังสงครามก็ดูได้ เพราะข้อมูลภายในหนังไม่ได้เยอะมากเท่าไหร่)
.
สิ่งที่โดดเด่นของหนังคือมันเป็นหนังที่ถูกถ่ายทำแบบ long take ซึ่งนอกจากจะทำให้เราได้รับประสบการณ์ในการรับชมขั้นสูงสุดสำหรับการดูหนังในโรงภาพยนตร์ ตัวหนังยังแสดงออกให้เห็นถึงความทะเยอะทะยานและวิสัยทัศน์อันยอดเยี่ยมของผู้กำกับ การถ่ายหนัง long take อาจจะมีเกิดขึ้นเยอะแยะมาแล้วในโลกภาพยนตร์ แต่ในแวดวงของหนังสงคราม มันไม่ได้มีให้เห็นบ่อยๆ หากจะเปรียบเทียบง่ายๆ ครั้งหนึ่งเราเคยตื่นตาตื่นใจกับหนังสงครามอย่าง Dunkirk ที่พาคนดูทะยานเข้าสู่สถานการณ์ของสงครามทั้ง 3 สถานที่ บนบก ทะเล และท้องฟ้า แต่ในขณะเดียวกัน มันไม่ได้ทำให้ผู้ชมร่วมอยู่ในเหตุการณ์มากเท่ากับ 1917 ที่เรารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของมัน และยิ่งพอมันถูกถ่ายทำแบบนี้ มันเลยแสดงให้เห็นว่าผู้กำกับเหนือชั้นขนาดไหน ที่กำกับทุกสิ่งทุกอย่างในสเกลระดับมหากาพย์ได้
.
นอกจากมันจะถ่ายแบบ long take มันยังเต็มไปด้วยช็อตสวยๆ มากมาย การวางเฟรมของ DP อย่าง Roger Deakins ซึ่งเคยทำให้เราหลงรักเค้ามาแล้วใน Blade Runner 2049 (แถมเค้ายังคว้างออสการ์ได้ในสาขาถ่ายภาพอีก) มันยิ่งทำให้หนังเรื่องนี้ดูยิ่งใหญ่และยอดเยี่ยมไปหมด ในพาร์ทของงาน production มันเต็มไปด้วยความ perfect ที่ไม่สามารถติได้ และไม่รู้ว่าจะมีผู้กำกับกี่คนที่อยากจะพาตัวเองมาจับงานอลังการขนาดนี้ (ถ้าอนาคตหนัง marvel สักเรื่องทำแบบนี้ คงจะเดือดเอาเรื่องอยู่)
.
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือ score ของหนังที่ชวนให้เคลิบเคลิ้ม หลงรัก และติดหูมากๆ ถึงแม้ว่ามันดูจะใช้เยอะไปหน่อย แต่ก็ทำให้หนังดูไม่น่าเบื่อและดูง่ายมากๆ (เพลงก็เป็นส่วนสำคัญในการทำให้คนดูรู้สึกร่วมไปกับหนังเช่นเดียวกัน)
.
โดยรวมนี่คือหนังที่ผู้ชมทั่วไปจะต้องชอบ เพราะมันมอบความบันเทิงขั้นสุดสำหรับการรับชมในโรงภาพยนตร์ หนังเรื่องนี้ช่วยตอกย้ำอย่างชัดเจน ว่าประสบการณ์ดูหนังในโรงภาพยนตร์ทำให้การดูหนังมันควรค่าที่จะดูในโรงจริงๆ (ถ้าดูเรื่องนี้ที่บ้าน ก็คงไม่รู้สึกแบบบที่ดูในโรงหรอก) เพราะงั้นต้องจัดในโรงจริงๆ นะ ถ้าใครสามารถไปดูใน Imax ได้ก็ควรค่าที่จะไปจริงๆ .
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้