Asus Zenbook Flip นั้นถือว่าเป็นตระกูลที่ถือว่ามีความน่าสนใจเพราะว่าเป็นรุ่นที่สามารถใช้งานได้หลากหลายมากๆทั้ง พับหน้าจอ ใช้งานแบบพลิกได้ 360 องศารวมถึงใช้งานปากกาได้และสามารถใช้งานแบบเป็นคล้ายๆ Tablet ได้เลยและในครั้งนี้ Zenbook Flip นั้นได้มีการอัพเกรดขึ้นมาที่น่าสนใจกว่าเดิมพอสมควรเลยแหละ คือการใส่ Screenpad 2.0 เข้ามาทำให้นอกเหนือจากหน้าจอที่พับได้นั้นในครั้งนี้เวลาใช้งาน Laptop ก็สามารถใช้งานได้ทั้ง 2 หน้าจอเลยแน่นอนว่าทำให้การใช้งานต่างๆนั้นสะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิม และในแง่ของการออกแบบก็มีเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน ส่วนทางด้านสเปคนั้นในรุ่นนี้จะใช้งาน intel Gen 10 ทั้งหมดครับพร้อม MX250
Asus Zenbook Flip 14 ตัวนี้มาพร้อมกับ ScreenPad 2.0 ส่วนทางด้านของสเปคที่น่าสนใจเลยมาพร้อมกับ i7 10510U พร้อมกับการ์ดจอแยก Nvidia MX250 และใช้งาน RAM 8GB LPDDR3 2133MHz SDRAM Onboard memory และให้ SSD มาครบเพียงพอต่อการใช้งาน ทางด้านหน้าจอนั้นเป็นหน้าจอ 14 นิ้วพร้อมกับ จอแบบ IPS รวมถึงรองรับการใช้งานระบบสัมผัส และ ใช้งานปากกาได้สบายๆ ส่วนทางด้านลำโพงนั้นมาพร้อม Harman/Kardon เหมือนเดิมที่คุ้นเคยกัน และในด้านกล้องสแกนใบหน้าก็ใส่เข้ามาให้เหมือนเดิมครับ ส่วนทางด้านความคงทนต่างๆรองรับผ่านมาตรฐาน MIL-STD810G เหมือนเดิมในแง่ของความแข็งแรงในภาพรวม ส่วนที่เด่นสุดคงจะเป็นการรองรับ Screenpad 2.0 และ การใช้งานที่อิสระมากๆในการพับหน้าจอทั้งหมดครับ และในแง่ของการเชื่อมต่อรองรับ Wi-Fi 6 และ BT 5.0 รวมถึงพอร์ต USB-C 3.1 – USB-A 3.1 ก็จัดเต็มมาให้ด้วย
ASUS ZENBOOK FLIP 14 มาพร้อมกันด้วย 2 สเปคคือ i5 และ i7 ครับ
- Zenbook Flip 14 i5 : 29,990 บาท
- ZenbookFlip 14 i7 : 35,990 บาท
UNBOX
ในการแกะกล่องตัวนี้ตัวกล่องเป็นการออกแบบที่แบบเดียวกับรุ่น Flip ก่อนหน้าครับแต่จัดวางตัวเครื่องอะไรแตกต่างกันนิดหน่อย และ เมื่อเปิดกล่องออกมาก็มีของอะไรมาให้ค่อนข้างเรียบร้อย และพร้อมใช้งานครับ
- ตัวเครื่อง Zenbook Flip 14
- ซองผ้าใส่ตัวเครื่อง
- ตัวแปลง USB-LAN
- Adaptor ชาร์จไฟรองรับ ชาร์จเร็ว
- คู่มือ การรับประกันต่างๆ
- ปากกา Asus Pen
ตัวซองนั้นเป็นซองผ้าลื่นๆในด้านนอก ป้องกันได้ดีและไม่เลอะง่าย ส่วนด้านในนั้นเป็นแบบบุนุ่มพอสมควรปกป้องได้ดีครับ การล็อตใช้ ตีนตุ๊กแกวงกลมยึดติดครับ เน้นสำหรับการพกพาไปข้างนอกที่พกแต่ตัวเครื่องจะค่อนข้างสะดวกเลย และในรุ่นนี้มีปากกาแถมมาให้กับตัวเครื่องยังคงเป็นปากกาแบบเดียวกันกับรุ่นอื่นๆของค่ายนี้ครับ ใช้โอเคเลยแหละ
DESIGN
งานออกแบบในรุ่นนี้เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าต้องบอกว่าดูดีขึ้น คมขึ้นและดูแมนขึ้นครับในการออกแบบเหลี่ยมมุมของตัวเครื่องอะไรต่างๆได้พัฒนาขึ้นสวยและลงตัวดูกระชับขึ้นและวัสดุอะไรที่ใช้งานนั้นยังคงทำได้ดีมากๆเลยแหละอีกทั้งยังมีการเล่นลวดลายบนตัวเครื่องทำให้ดูหรูเข้าไปด้วย ส่วนขอบหน้าจออะไรต่างๆนั้นยังคงทำได้ดีแม้จะไม่ได้บางสุด ส่วนน้ำหนักความหนาอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้หนักแต่ก็ไม่ได้บางเวอร์ครับคือกลางๆทั่วไปเลยแต่ด้วยการที่พับจอได้หลากหลายทำให้อาจจะต้องดูโครงของเครื่องเพื่อที่รับการใช้งานได้หลากหลายเลยทำให้บางมากได้ยาก
รูปทรงของมันเมื่อใช้งานทั่วไปนั้นก็ถือว่าทำได้ดีครับแต่รุ่นนี้ฝาพับก็ยังมีระบบ Ergo Lift เข้ามาช่วยทำให้สบายแบบรุ่นอื่นๆแต่ด้วยการที่มันต้องเปิดใช้งานได้หลากหลายองศาเลยอาจจะเป็นข้อจำกัดของมันครับ อาจจะไม่ได้ยกสูงมากนัก ส่วนวัสดุอะไรที่ใช้เป็นสีดำด้าน มีลวดลายนิดหน่อยสวยงามและดูดีพอสมควรมีตัดด้วยโครเมี่ยมเข้ามาบางทั้งข้างในและฝาหลัง ส่วนสีดำเงาก็มีแทรกเข้ามาตรงช่องระบายลมข้างหลัง และจะเห็นว่า Screenpad 2.0 ใส่เข้ามาให้แล้วด้วย
ด้านหลังในรุ่นนี้แน่นอนว่ารุ่นพวกนี้จะอัพเกรดไม่ได้เลยครับ ทั้งตัว RAM HDD SSD อะไรพวกนี้ต้องใช้เครื่องมือของเค้าเองเลยในการแกะ แน่นอนว่าด้วยสเปคและการใช้งานของมันอาจจะไม่เหมาะสำหรับการแกะเองเท่าไร และพวก RAM พวกนั้นจะเป็นแบบ Onboard ทั้งหมดเลย ยางรองในด้านหลังนั้นมีมาให้ 4 มุมเครื่อง และช่องระบายด้านหลังนั้นมีแค่ตรงส่วนท้ายเท่านั้น ในเรื่องความร้อนตอนใช้งานจริงๆก็แอบอุ่นได้ไวพอสมควรเหมือนกันนะ
จะเห็นตัววัสดุของบริเวณคีย์บอร์ดข้างในนั้นจะเป็นการเล่นลวดลายปัดๆเป็นเส้นๆดูดีและมีลูกเล่นสวยงามพอสมควร และมีการตัดด้วยเส้นโครมเมี่ยมเข้ามาด้วยเช่นกันครับ ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่องนั้นจะไปอยู่ข้างเครื่องเพื่อการรองรับการใช้งานได้หลากหลายแม้จะพับหน้าจอก็สามารถใช้งานได้นั้นเองครับ ส่วนพวกข้อต่ออะไรมีความแข็งแรงและไม่โยกเยกเลยครับ ใช้วัสดุเคลือบเงาสวยงาม และมีเหลี่ยมมุมชัดเจนขึ้นจากที่รุ่นก่อนๆ ตรงนี้จะมนๆโค้งๆกันครับถือว่าดูทันสมัยขึ้นพอสมควรเลย การรองรับการพับอะไรนั้นยังคงให้ความรู้สึกดีแบบเดิมครับแน่นหนาและมีความแข็งแรง
แอบชอบดีไซน์ตรงนี้มากสุดเลย สำหรับรุ่นนี้ตรงช่องระบายลมออกด้านหลังมีความเหลี่ยมสันสวยงามและเล่นสีดำเงาดูตัดกับตัวเครื่องในภาพรวมได้ดีมากๆและทำมุมสวยดีครับ ระบายออก 2 ช่องหลักของตัวเครื่องยิงออกข้างหลังแต่มันจะไปติดหน้าจอนิดหน่อยเพราะรุ่นนี้ไม่มี Ergo Liftที่ยกสูงอะไรเยอะ เลยอาจจะระบายได้น้อยกว่าแบบนั้นครับ แต่ก็ยังคงทำได้ดีไม่ได้ร้อนครับ ส่วนขอบด้านบนนั้นจะมีความหนานิดหน่อยเพราะต้องใส่ระบบสแกนใบหน้า และกล้องหน้ามาให้ เลยอาจจะทำให้ขอบหน้าจอนั้นมีความหนานิดหน่อย แต่ก็ดีนะเพราะเวลาพับหน้าจอแบบ Tablet มันมีที่ไว้จับอยู่บ้างครับ บางทีขอบบางเกินไปก็ไม่ดีเหมือนกัน
ภาพข้างบนนั้นจะแสดงให้เห็นถึงการใช้งานหลักๆ 4 รูปแบบครับคือการใช้งาน เป็นเหมือน Tablet ที่สามารถพับได้พกพาได้ง่าย วาดรูปเขียนแบบได้ง่ายๆ หรือจะเป็นแบบทั่วไป Laptop โหมด แบบปกติที่ใช้ๆงานกัน หรือจะเป็นคล้ายๆ Tent Mode สำหรับวางเพื่อที่จะนำเสนองานหรือ วางโชว์รูปภาพ พรีเซนต์ต่างๆครับ และ อีกแบบก็จะเป็นการเอาวางฐานหน้าจอ ใช้งานสำหรับดูหนัง หรือจะเป็นตั้งวางแต่มีความมั่นคงที่ดีขึ้นครับ และแน่นอนว่าใช้งานปากกาได้ทำให้มันใช้งานได้หลากหลายกว่าที่คิดไว้เยอะเลยแหละครับ แต่เสียดายว่า Screenpad นั้นใส่มาแต่จะใช้งานได้แค่โหมดแบบปกติ laptop เท่านั้นเพราะโหมดการวางแบบอื่นๆเหมือนจะใช้งานไม่ได้เท่าที่ควรครับ
SPEC
- Intel® Core™ i7 10510U Processor,
- Operating System . Windows 10 Home
- Memory . 8 GB LPDDR3 2133MHz SDRAM Onboard memory
- Display
14.0″ (16:9) LED-backlit FHD (1920×1080) 60Hz Glare Touchscreen with 72% NTSC with wide 178° viewing angles ASUS Splendid IPS Technology WideView Technology
- Graphic Integrated Intel HD Graphics
- Storage Solid state drive:512GB PCIe® Gen3 x2 SSD M.2
- Keyboard Illuminated chiclet keyboard
- WebCam IR camera
- Networking Wi-Fi Integrated Wi-Fi 6 (802.11 ax (2×2))
Bluetooth Bluetooth® 5.0
- Interface
1 x COMBO audio jack
1 x Type-A USB 3.1 (Gen 2)
1 x Type-A USB2.0
1 x Type-C USB 3.1 (Gen 2)
1 x HDMI, HDMI support 1.4
1 x micro SD card
- Audio
Built-in 1 W Stereo Speakers with Digital Array Microphone
Support Alexa
Supports Windows 10 Cortana with Voice
ASUS SonicMaster Premium Technology
Harman Kardon
- Battery
3 -Cell 50 Wh lithium-polymer battery Battery
- Power Adapter
Plug type :ø4 (mm)
Output :
19 V DC, 3.42 A, 65 W
- Dimensions
NB:
320 x 206 x 17.9 mm (WxDxH)
- Weight
NB:
1.4 kg with battery
- Security
fTPM (Firmware-based Trusted Platform Module)
- Certificates
UL, CE Marking Compliance, FCC Compliance, BSMI, CCC, CB, Energy Star, CECP, Erp 2013, RoHS
- Manufacturer Warranty
Online problem resolution (BIOS, Driver update)
OS (Windows® 10 ) install/uninstall consultation
PERFORMANCE
CPU Intel i7 10510U และ ให้การ์ดจอแยกมาด้วยคือตัว MX250 2GB ครับ ให้ RAM 8GB แต่เป็น Onboard นะครับไม่สามารถเพิ่มได้ และความจุเป็น SDD 512GB แรงเร็วใช้ได้เลย รวมถึง Windows 10 ก็มีมาให้เลยครับหลายๆอย่างเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป และเล่นเกมนิดหน่อยได้อยู่ครับ หรือทำงาน Adobe ก็รองรับได้ดีเหมือนกันจากที่รองไม่เจอปัญหาอะไรแม้จะใช้หนักพอสมควร แต่เรื่องความร้อนอาจจะมีสูงแตะ 95+ บ้างอยู่ครับ
ตัวนี้ใช้ CPU I7 รหัส U เป็นตัว i7 10510U แบบประหยัดพลังงาน มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.8 GHz เป็น CPU แบบ 4 Core 8 Thread ยังคงใช้งาน 14nm ครับ และ รุ่นนี้มีกราฟิกการ์ดออนบอร์ด Intel UHD Graphicsนั้นต้องบอกว่าตัวนี้รองรับการทำงาน 2 มิติสบายครับและ 3มิตินิดหน่อยมีติดเครื่องไว้ใช้ทำงานได้ ส่วนการ์ดจอแยกก็มี MX250 ก็รองรับสามมิติได้ดีขึ้นในด้านทำงานเล่นเกมแต่ก็ไม่ได้โหดเท่าพวก GTX อะไรมากพอใช้งานทั่วไปถูไถสบายครับ เหลือๆถ้าไม่ได้สายเกมหรือสายเรนเดอร์หนักๆ
[SR] รีวิว ASUS ZENBOOK FLIP 14 UX463F พร้อม SCREENPAD 2.0 ลงตัวขึ้น จัดเต็มขึ้น !
Asus Zenbook Flip นั้นถือว่าเป็นตระกูลที่ถือว่ามีความน่าสนใจเพราะว่าเป็นรุ่นที่สามารถใช้งานได้หลากหลายมากๆทั้ง พับหน้าจอ ใช้งานแบบพลิกได้ 360 องศารวมถึงใช้งานปากกาได้และสามารถใช้งานแบบเป็นคล้ายๆ Tablet ได้เลยและในครั้งนี้ Zenbook Flip นั้นได้มีการอัพเกรดขึ้นมาที่น่าสนใจกว่าเดิมพอสมควรเลยแหละ คือการใส่ Screenpad 2.0 เข้ามาทำให้นอกเหนือจากหน้าจอที่พับได้นั้นในครั้งนี้เวลาใช้งาน Laptop ก็สามารถใช้งานได้ทั้ง 2 หน้าจอเลยแน่นอนว่าทำให้การใช้งานต่างๆนั้นสะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิม และในแง่ของการออกแบบก็มีเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน ส่วนทางด้านสเปคนั้นในรุ่นนี้จะใช้งาน intel Gen 10 ทั้งหมดครับพร้อม MX250
Asus Zenbook Flip 14 ตัวนี้มาพร้อมกับ ScreenPad 2.0 ส่วนทางด้านของสเปคที่น่าสนใจเลยมาพร้อมกับ i7 10510U พร้อมกับการ์ดจอแยก Nvidia MX250 และใช้งาน RAM 8GB LPDDR3 2133MHz SDRAM Onboard memory และให้ SSD มาครบเพียงพอต่อการใช้งาน ทางด้านหน้าจอนั้นเป็นหน้าจอ 14 นิ้วพร้อมกับ จอแบบ IPS รวมถึงรองรับการใช้งานระบบสัมผัส และ ใช้งานปากกาได้สบายๆ ส่วนทางด้านลำโพงนั้นมาพร้อม Harman/Kardon เหมือนเดิมที่คุ้นเคยกัน และในด้านกล้องสแกนใบหน้าก็ใส่เข้ามาให้เหมือนเดิมครับ ส่วนทางด้านความคงทนต่างๆรองรับผ่านมาตรฐาน MIL-STD810G เหมือนเดิมในแง่ของความแข็งแรงในภาพรวม ส่วนที่เด่นสุดคงจะเป็นการรองรับ Screenpad 2.0 และ การใช้งานที่อิสระมากๆในการพับหน้าจอทั้งหมดครับ และในแง่ของการเชื่อมต่อรองรับ Wi-Fi 6 และ BT 5.0 รวมถึงพอร์ต USB-C 3.1 – USB-A 3.1 ก็จัดเต็มมาให้ด้วย
ASUS ZENBOOK FLIP 14 มาพร้อมกันด้วย 2 สเปคคือ i5 และ i7 ครับ
- Zenbook Flip 14 i5 : 29,990 บาท
- ZenbookFlip 14 i7 : 35,990 บาท
UNBOX
ในการแกะกล่องตัวนี้ตัวกล่องเป็นการออกแบบที่แบบเดียวกับรุ่น Flip ก่อนหน้าครับแต่จัดวางตัวเครื่องอะไรแตกต่างกันนิดหน่อย และ เมื่อเปิดกล่องออกมาก็มีของอะไรมาให้ค่อนข้างเรียบร้อย และพร้อมใช้งานครับ
- ตัวเครื่อง Zenbook Flip 14
- ซองผ้าใส่ตัวเครื่อง
- ตัวแปลง USB-LAN
- Adaptor ชาร์จไฟรองรับ ชาร์จเร็ว
- คู่มือ การรับประกันต่างๆ
- ปากกา Asus Pen
ตัวซองนั้นเป็นซองผ้าลื่นๆในด้านนอก ป้องกันได้ดีและไม่เลอะง่าย ส่วนด้านในนั้นเป็นแบบบุนุ่มพอสมควรปกป้องได้ดีครับ การล็อตใช้ ตีนตุ๊กแกวงกลมยึดติดครับ เน้นสำหรับการพกพาไปข้างนอกที่พกแต่ตัวเครื่องจะค่อนข้างสะดวกเลย และในรุ่นนี้มีปากกาแถมมาให้กับตัวเครื่องยังคงเป็นปากกาแบบเดียวกันกับรุ่นอื่นๆของค่ายนี้ครับ ใช้โอเคเลยแหละ
DESIGN
งานออกแบบในรุ่นนี้เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าต้องบอกว่าดูดีขึ้น คมขึ้นและดูแมนขึ้นครับในการออกแบบเหลี่ยมมุมของตัวเครื่องอะไรต่างๆได้พัฒนาขึ้นสวยและลงตัวดูกระชับขึ้นและวัสดุอะไรที่ใช้งานนั้นยังคงทำได้ดีมากๆเลยแหละอีกทั้งยังมีการเล่นลวดลายบนตัวเครื่องทำให้ดูหรูเข้าไปด้วย ส่วนขอบหน้าจออะไรต่างๆนั้นยังคงทำได้ดีแม้จะไม่ได้บางสุด ส่วนน้ำหนักความหนาอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้หนักแต่ก็ไม่ได้บางเวอร์ครับคือกลางๆทั่วไปเลยแต่ด้วยการที่พับจอได้หลากหลายทำให้อาจจะต้องดูโครงของเครื่องเพื่อที่รับการใช้งานได้หลากหลายเลยทำให้บางมากได้ยาก
รูปทรงของมันเมื่อใช้งานทั่วไปนั้นก็ถือว่าทำได้ดีครับแต่รุ่นนี้ฝาพับก็ยังมีระบบ Ergo Lift เข้ามาช่วยทำให้สบายแบบรุ่นอื่นๆแต่ด้วยการที่มันต้องเปิดใช้งานได้หลากหลายองศาเลยอาจจะเป็นข้อจำกัดของมันครับ อาจจะไม่ได้ยกสูงมากนัก ส่วนวัสดุอะไรที่ใช้เป็นสีดำด้าน มีลวดลายนิดหน่อยสวยงามและดูดีพอสมควรมีตัดด้วยโครเมี่ยมเข้ามาบางทั้งข้างในและฝาหลัง ส่วนสีดำเงาก็มีแทรกเข้ามาตรงช่องระบายลมข้างหลัง และจะเห็นว่า Screenpad 2.0 ใส่เข้ามาให้แล้วด้วย
ด้านหลังในรุ่นนี้แน่นอนว่ารุ่นพวกนี้จะอัพเกรดไม่ได้เลยครับ ทั้งตัว RAM HDD SSD อะไรพวกนี้ต้องใช้เครื่องมือของเค้าเองเลยในการแกะ แน่นอนว่าด้วยสเปคและการใช้งานของมันอาจจะไม่เหมาะสำหรับการแกะเองเท่าไร และพวก RAM พวกนั้นจะเป็นแบบ Onboard ทั้งหมดเลย ยางรองในด้านหลังนั้นมีมาให้ 4 มุมเครื่อง และช่องระบายด้านหลังนั้นมีแค่ตรงส่วนท้ายเท่านั้น ในเรื่องความร้อนตอนใช้งานจริงๆก็แอบอุ่นได้ไวพอสมควรเหมือนกันนะ
จะเห็นตัววัสดุของบริเวณคีย์บอร์ดข้างในนั้นจะเป็นการเล่นลวดลายปัดๆเป็นเส้นๆดูดีและมีลูกเล่นสวยงามพอสมควร และมีการตัดด้วยเส้นโครมเมี่ยมเข้ามาด้วยเช่นกันครับ ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่องนั้นจะไปอยู่ข้างเครื่องเพื่อการรองรับการใช้งานได้หลากหลายแม้จะพับหน้าจอก็สามารถใช้งานได้นั้นเองครับ ส่วนพวกข้อต่ออะไรมีความแข็งแรงและไม่โยกเยกเลยครับ ใช้วัสดุเคลือบเงาสวยงาม และมีเหลี่ยมมุมชัดเจนขึ้นจากที่รุ่นก่อนๆ ตรงนี้จะมนๆโค้งๆกันครับถือว่าดูทันสมัยขึ้นพอสมควรเลย การรองรับการพับอะไรนั้นยังคงให้ความรู้สึกดีแบบเดิมครับแน่นหนาและมีความแข็งแรง
แอบชอบดีไซน์ตรงนี้มากสุดเลย สำหรับรุ่นนี้ตรงช่องระบายลมออกด้านหลังมีความเหลี่ยมสันสวยงามและเล่นสีดำเงาดูตัดกับตัวเครื่องในภาพรวมได้ดีมากๆและทำมุมสวยดีครับ ระบายออก 2 ช่องหลักของตัวเครื่องยิงออกข้างหลังแต่มันจะไปติดหน้าจอนิดหน่อยเพราะรุ่นนี้ไม่มี Ergo Liftที่ยกสูงอะไรเยอะ เลยอาจจะระบายได้น้อยกว่าแบบนั้นครับ แต่ก็ยังคงทำได้ดีไม่ได้ร้อนครับ ส่วนขอบด้านบนนั้นจะมีความหนานิดหน่อยเพราะต้องใส่ระบบสแกนใบหน้า และกล้องหน้ามาให้ เลยอาจจะทำให้ขอบหน้าจอนั้นมีความหนานิดหน่อย แต่ก็ดีนะเพราะเวลาพับหน้าจอแบบ Tablet มันมีที่ไว้จับอยู่บ้างครับ บางทีขอบบางเกินไปก็ไม่ดีเหมือนกัน
ภาพข้างบนนั้นจะแสดงให้เห็นถึงการใช้งานหลักๆ 4 รูปแบบครับคือการใช้งาน เป็นเหมือน Tablet ที่สามารถพับได้พกพาได้ง่าย วาดรูปเขียนแบบได้ง่ายๆ หรือจะเป็นแบบทั่วไป Laptop โหมด แบบปกติที่ใช้ๆงานกัน หรือจะเป็นคล้ายๆ Tent Mode สำหรับวางเพื่อที่จะนำเสนองานหรือ วางโชว์รูปภาพ พรีเซนต์ต่างๆครับ และ อีกแบบก็จะเป็นการเอาวางฐานหน้าจอ ใช้งานสำหรับดูหนัง หรือจะเป็นตั้งวางแต่มีความมั่นคงที่ดีขึ้นครับ และแน่นอนว่าใช้งานปากกาได้ทำให้มันใช้งานได้หลากหลายกว่าที่คิดไว้เยอะเลยแหละครับ แต่เสียดายว่า Screenpad นั้นใส่มาแต่จะใช้งานได้แค่โหมดแบบปกติ laptop เท่านั้นเพราะโหมดการวางแบบอื่นๆเหมือนจะใช้งานไม่ได้เท่าที่ควรครับ
SPEC
- Intel® Core™ i7 10510U Processor,
- Operating System . Windows 10 Home
- Memory . 8 GB LPDDR3 2133MHz SDRAM Onboard memory
- Display
14.0″ (16:9) LED-backlit FHD (1920×1080) 60Hz Glare Touchscreen with 72% NTSC with wide 178° viewing angles ASUS Splendid IPS Technology WideView Technology
- Graphic Integrated Intel HD Graphics
- Storage Solid state drive:512GB PCIe® Gen3 x2 SSD M.2
- Keyboard Illuminated chiclet keyboard
- WebCam IR camera
- Networking Wi-Fi Integrated Wi-Fi 6 (802.11 ax (2×2))
Bluetooth Bluetooth® 5.0
- Interface
1 x COMBO audio jack
1 x Type-A USB 3.1 (Gen 2)
1 x Type-A USB2.0
1 x Type-C USB 3.1 (Gen 2)
1 x HDMI, HDMI support 1.4
1 x micro SD card
- Audio
Built-in 1 W Stereo Speakers with Digital Array Microphone
Support Alexa
Supports Windows 10 Cortana with Voice
ASUS SonicMaster Premium Technology
Harman Kardon
- Battery
3 -Cell 50 Wh lithium-polymer battery Battery
- Power Adapter
Plug type :ø4 (mm)
Output :
19 V DC, 3.42 A, 65 W
- Dimensions
NB:
320 x 206 x 17.9 mm (WxDxH)
- Weight
NB:
1.4 kg with battery
- Security
fTPM (Firmware-based Trusted Platform Module)
- Certificates
UL, CE Marking Compliance, FCC Compliance, BSMI, CCC, CB, Energy Star, CECP, Erp 2013, RoHS
- Manufacturer Warranty
Online problem resolution (BIOS, Driver update)
OS (Windows® 10 ) install/uninstall consultation
PERFORMANCE
CPU Intel i7 10510U และ ให้การ์ดจอแยกมาด้วยคือตัว MX250 2GB ครับ ให้ RAM 8GB แต่เป็น Onboard นะครับไม่สามารถเพิ่มได้ และความจุเป็น SDD 512GB แรงเร็วใช้ได้เลย รวมถึง Windows 10 ก็มีมาให้เลยครับหลายๆอย่างเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป และเล่นเกมนิดหน่อยได้อยู่ครับ หรือทำงาน Adobe ก็รองรับได้ดีเหมือนกันจากที่รองไม่เจอปัญหาอะไรแม้จะใช้หนักพอสมควร แต่เรื่องความร้อนอาจจะมีสูงแตะ 95+ บ้างอยู่ครับ
ตัวนี้ใช้ CPU I7 รหัส U เป็นตัว i7 10510U แบบประหยัดพลังงาน มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.8 GHz เป็น CPU แบบ 4 Core 8 Thread ยังคงใช้งาน 14nm ครับ และ รุ่นนี้มีกราฟิกการ์ดออนบอร์ด Intel UHD Graphicsนั้นต้องบอกว่าตัวนี้รองรับการทำงาน 2 มิติสบายครับและ 3มิตินิดหน่อยมีติดเครื่องไว้ใช้ทำงานได้ ส่วนการ์ดจอแยกก็มี MX250 ก็รองรับสามมิติได้ดีขึ้นในด้านทำงานเล่นเกมแต่ก็ไม่ได้โหดเท่าพวก GTX อะไรมากพอใช้งานทั่วไปถูไถสบายครับ เหลือๆถ้าไม่ได้สายเกมหรือสายเรนเดอร์หนักๆ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้