ชมพิพิธภัณฑ์ ฟังเสวนา เปิดตัวหนังสือ “ตะวันลับแห่งต้าถัง”

“จักรวรรดิต้าถังมีบทบาทอยู่ในช่วงเวลาเกือบสามร้อยปี  นับตั้งแต่ ค.ศ. 618-907 กลายเป็นจักรวรรดิโบราณที่รุ่งเรืองสูงสุดในประวัติศาสตร์จีน  ถือเป็นยุคที่มีวิทยาการก้าวหน้าหลากหลายด้าน  ตั้งแต่ด้านวรรณกรรม (หลี่ไป๋ , ตู้ฝู่ , ไป๋จวีอี้ , หลี่ซังอิ่น)  สถาปัตยกรรม (เจดีย์ที่สร้างจากก้อนหินและอิฐ)  ศิลปกรรม (เครื่องเคลือบลายครามสามสี)  สิ่งประดิษฐ์ (แม่พิมพ์สลักจากไม้และดินปืน)   การเขียนอักษร (ยุคแห่งยอดนักเขียนอักษรจีน  เหยียนเจินชิง)  โดยมีเมืองฉางอันเป็นเมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดของโลกในเวลานั้น  และยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังต้าหมิงที่อาณาเขตกว้างขวางกว่าพระราชวังในสมัยหมิงและชิงเสียอีก  ทว่าในที่สุดก็ถึงกาลล่มสลายลงด้วยน้ำมือของ “จูเฉวียนจง”  ผู้เริ่มสร้างชื่อจากการเป็นโจรกบฏ  แต่ภายหลังแปรพักตร์กลับมาเข้ากับฝ่ายราชสำนัก  และใช้อิทธิพลคอยบ่อนทำลายราชสำนักอย่างเป็นระบบจนล่มสลายลงอย่างแท้จริงในปี ค.ศ.907
 
“หนังสือเล่มนี้จะกล่าวถึงเรื่องราวในช่วงปลายราชวงศ์ถัง  นับตั้งแต่การสวรรคตของจักรพรรดิถังไต้จงใน ค.ศ. 779  จนถึงการจบสิ้นของราชวงศ์ถังในปี ค.ศ. 907  ที่เป็นปฐมบทของการสถาปนาราชวงศ์ใอ่วเหลียงขึ้นโดยจูเฉวียนจง   ‘จ้าวอี้’ ผู้เขียนได้บรรยายถึงความฟอนเฟะในระบบราชการ  การแก่งแย่งอำนาจกันระหว่างขุนนางราชสำนักกับขันที  ทั้งยังบอกเล่าได้อย่างมีชีวิตชีวาถึงพระปรีชาญาณและความอ่อนแอของฮ่องเต้แต่ละพระองค์  ที่ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นมาครองราชย์โดยโดยอิงอาศัยบารมีของขันทีมากเสียจนแยกไม่ออก”

(คัดลอกมาบางส่วนจากคำนำสำนักพิมพ์)


หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ในยุคปลายของราชวงศ์ถัง   เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์แต่มีการเขียนเล่าเรื่องแบบนวนิยาย  คือเอาเกร็ดทางประวัติศาสตร์ในช่วงปลายราชวงศ์ถังมาเล่าให้ฟัง  โดยตัวเอกของเรื่องคือเส้นเรื่อง (Tine Line) ที่ทำให้ราชวงศ์ถังล่มสลาย   ‘จ้าวอี้’ ผู้เขียนเรียบเรียงเส้นเรื่องได้เนียนและดีมาก  จนคนอ่าน ๆ แล้วอาจจะคิดว่าน่าเป็นเรื่องแต่ง แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของจีน
 
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้บริหารเพราะว่า  ในเล่มมีพูดถึงเรื่องของการปกครองเยอะมาก  โดยเฉพาะเรื่องการกำจัดศัตรูทางการเมือง , เรื่องของอำนาจใหม่และอำนาจเก่า ฯลฯ  อ่านแล้วสามารถนำไปใช้วิเคราะห์การเมืองการปกครองในยุคปัจจุบันได้  และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปกครองคนได้เช่นกัน