ข่าวจากคมชัดลึก
https://www.komchadluek.net/news/regional/413153
"ดร.สุภาภรณ์" เผยนักวิจัยเตรียมสำรวจค้างคาวมงกุฎอีก 23 ชนิดในไทยว่ามีเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือไม่
ยืนยันว่ายังไม่พบเชื้อในค้างคาวไทย
ดร.สุภาภรณ์ วัชรพฤษาดี นักวิจัยศูนย์วิทยาศาตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าหลังจากที่ได้
ทำการวิจัยไวรัสโคโรนาในค้างคาวมาก่อนหน้านี้ ล่าสุดเตรียมลงพื้นที่ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สำรวจค้างคาวมงกุฎ
ในไทย จำนวน 23 ชนิด ว่ามีเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือไม่
โดยก่อนหน้านี้ทีมวิจัยจุฬาฯร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลงพื้นที่สำรวจ
ค้างคาวในประเทศไทย เพื่อหาเชื้อไวรัสในค้างคาว เพื่อจัดทำฐานข้อมูล ถอดรหัสพันธุกรรมของโรคอุบัติใหม่ เบื้องต้น พบเชื้อโคโรนาใน
ค้างคาวไทย 300-400 ชนิด แต่ยังไม่ติดต่อสู่คน
ส่วนทั่วโลก มีไวรัสโคโรนา ที่ติดต่อสู่คนใน 7 ชนิด แบ่งเป็น
- 4 ชนิดแรกที่มีอาการโรคหวัด
- อีก 2 ชนิดเป็นไวรัสกลุ่มเบต้าคือ โรคเมอร์และโรคซาร์ส ที่มีความรุนแรง
- 1 ชนิดล่าสุดคือ โคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่มีผลต่อปอดอักเสบ
ขณะที่ สถานการณ์ความรุนแรงของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ถือว่ามีความรุนแรงน้อยกว่าโรคเมอร์และซาร์สอย่างมาก เพราะเป็น
คนละชนิด และไวรัสโคโรนา สามารถตายได้ในภูมิภาคร้อนจัดและแห้ง
ส่วนการจะวัดว่าสถานการณ์ของโรครุนแรงหรือไม่ สามารถวัดได้ 3 ระดับ คือ อัตราการเสียชีวิต ความรุนแรงของโรค และการแพร่ระบาด
โดยศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ โรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ รพ.จุฬาฯ มีชุดตรวจไวรัสโคโรนา มากกว่า 16 ชุด และอยู่ระหว่างการเร่ง
พัฒนาชุดตรวจไวรัสโคโรนา จากการเทียบรหัสพันธุกรรมของเชื้อเพิ่มขึ้นอีก
"ซึ่งพรุ่งนี้ (28 ม.ค. 2563) ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านห้องปฏิบัติการเพื่อพัฒนาการตรวจโรค
ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ให้รู้เร็วที่สุด เพื่อให้เกิดการควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพ" ดร.สุภาภรณ์ กล่าว
"ดร.สุภาภรณ์" เผยนักวิจัยเตรียมสำรวจค้างคาวมงกุฎอีก 23 ชนิดในไทยว่ามีเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือไม่
https://www.komchadluek.net/news/regional/413153
"ดร.สุภาภรณ์" เผยนักวิจัยเตรียมสำรวจค้างคาวมงกุฎอีก 23 ชนิดในไทยว่ามีเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือไม่
ยืนยันว่ายังไม่พบเชื้อในค้างคาวไทย
ดร.สุภาภรณ์ วัชรพฤษาดี นักวิจัยศูนย์วิทยาศาตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าหลังจากที่ได้
ทำการวิจัยไวรัสโคโรนาในค้างคาวมาก่อนหน้านี้ ล่าสุดเตรียมลงพื้นที่ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สำรวจค้างคาวมงกุฎ
ในไทย จำนวน 23 ชนิด ว่ามีเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือไม่
โดยก่อนหน้านี้ทีมวิจัยจุฬาฯร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลงพื้นที่สำรวจ
ค้างคาวในประเทศไทย เพื่อหาเชื้อไวรัสในค้างคาว เพื่อจัดทำฐานข้อมูล ถอดรหัสพันธุกรรมของโรคอุบัติใหม่ เบื้องต้น พบเชื้อโคโรนาใน
ค้างคาวไทย 300-400 ชนิด แต่ยังไม่ติดต่อสู่คน
ส่วนทั่วโลก มีไวรัสโคโรนา ที่ติดต่อสู่คนใน 7 ชนิด แบ่งเป็น
- 4 ชนิดแรกที่มีอาการโรคหวัด
- อีก 2 ชนิดเป็นไวรัสกลุ่มเบต้าคือ โรคเมอร์และโรคซาร์ส ที่มีความรุนแรง
- 1 ชนิดล่าสุดคือ โคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่มีผลต่อปอดอักเสบ
ขณะที่ สถานการณ์ความรุนแรงของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ถือว่ามีความรุนแรงน้อยกว่าโรคเมอร์และซาร์สอย่างมาก เพราะเป็น
คนละชนิด และไวรัสโคโรนา สามารถตายได้ในภูมิภาคร้อนจัดและแห้ง
ส่วนการจะวัดว่าสถานการณ์ของโรครุนแรงหรือไม่ สามารถวัดได้ 3 ระดับ คือ อัตราการเสียชีวิต ความรุนแรงของโรค และการแพร่ระบาด
โดยศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ โรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ รพ.จุฬาฯ มีชุดตรวจไวรัสโคโรนา มากกว่า 16 ชุด และอยู่ระหว่างการเร่ง
พัฒนาชุดตรวจไวรัสโคโรนา จากการเทียบรหัสพันธุกรรมของเชื้อเพิ่มขึ้นอีก
"ซึ่งพรุ่งนี้ (28 ม.ค. 2563) ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านห้องปฏิบัติการเพื่อพัฒนาการตรวจโรค
ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ให้รู้เร็วที่สุด เพื่อให้เกิดการควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพ" ดร.สุภาภรณ์ กล่าว