คืออยากหลบออกไปอยู่ที่อื่นสักพัก ช่วงสงกานที่จะถึง ไม่อยากมานั่งรับรู้คำกระแนะกระแหน่ คำเหน็บแหนม ไร้สาระจากน้าสาวค่ะ
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ยายเราเพิ่งเสียวันที่11ที่ผ่านมา แล้วนางเป็นคนที่อยากได้สมบัติทุกอย่างของแม่นาง นี่นางก็ทำทุกอย่างให้ได้ที่ดินที่บ้านไปแล้ว สร้อยทอง2สลึงของแม่นาง นางก็ได้ไปแล้ว ที่นี้ก่อนยายเสีย ยายบอกว่าสร้อยอยู่ในห้องยาย1เส้น แต่ทักคนหาแล้วไม่เจอ แล้วน้าเราก็โทดว่าเรานั่นแหละเอาไป เราก็เฉยๆเพราะเราไม่สนใจในสิ่งที่นางพูด และมันมีเรื่องที่ทำให้เราต้องทะเลาะกับสามีนาง นางปกป้องสามียิ่งชีพค่ะ สามีนางว่าให้เราตื่นสายคือตอนนั้น6โมงเช้า เเล้วเรามีลูกเล็กน่ะ กลางคืนเราต้องตื่นให้นม ตื่นเปลี่ยนเเพมเพิส ตื่นดูลูกสารพัดอย่าง ตื่นสายเกิน6โมงสำหรับแม่ที่เลี้ยงลูกเอง24ชั่วโมงมันคือสายหรอ เราก็สวนคำสาทีน้าเราไปว่า แล้วทำไมหละ ตื่นสายแล้วทำไม น้าสาวเราขึ้นเลยค่ะ ด่าเราสารพัดอย่าง ว่าสมควรหรอ สามีนางอายุมากกว่าเรา สมควรมาพูดงี้หรอ คือเราพูดไร ประโยคเดียวแค่ว่า ตื่นสายแล้วทำไมหรอ แค่นี้อ่ะนะ แล้วนางก็ด่าๆๆ เราก็ปล่อยค่ะ พูดกับคนแบบนี้เปลืองน้ำลายมาก เพราะกับแม่ของนางเอง นางยังพูดทำร้ายจิตใจได้เลย นางเคยพูดกับแม่นางว่า ที่นางได้ดีทุกวันนี้ เพราะสามีนางดึงนางมาอยู่กรุงเทพด้วย ถ้ามัวอยู่แต่กับแม่ทุกวันนี้จะได้ดีขนาดนี้มั้ย นี่คือคำพูดของนาง ที่นางว่าให้แม่ตัวเอง พอเราย้อนนางเรื่องนี้นางบอกว่าไงรู้มั้ยคะ นางบอกว่าสิ่งที่นางพูดไปกับแม่นาง คือนางคิดและกรั่นกรองจากสมองนางแล้วว่าดีมั้ย เรานี่แบบ อ้อ นี่คือกรั่นกรองแล้วหรอ ไร้คำจะพูดค่ะ และสงกานนี้นางกับสามีต้องมาทำบุญ100วัน เราอยากออกไปอยู่ที่อื่นสักพัก ถ้าไปคงต้องหอบลูกไปด้วย จะมาอยู่ในสภาวะให้คนประเภทเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่นเหน็บแหนมนี่มันไม่ไหวจิงๆน่ะคะ ลูกก็ต้องเลี้ยงต้องมาเจอคนประเภทนี้อีก สภาพจิตใจย่ำแย่ค่ะ ที่พึ่งคนสุดท้ายก็เสียไปแล้ว จะลองโทถามศูนย์คนไร้ที่พึ่ง ก็ยังไม่ได้โทค่ะ แต่เห็นเขาบอกมากันว่า เขาไม่มีที่พักชั่วคราวให้ อยากออกไปอยู่ที่อื่นสักพัก
เครียด อยากหลบไปอยู่ที่อื่นสักพัก
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ยายเราเพิ่งเสียวันที่11ที่ผ่านมา แล้วนางเป็นคนที่อยากได้สมบัติทุกอย่างของแม่นาง นี่นางก็ทำทุกอย่างให้ได้ที่ดินที่บ้านไปแล้ว สร้อยทอง2สลึงของแม่นาง นางก็ได้ไปแล้ว ที่นี้ก่อนยายเสีย ยายบอกว่าสร้อยอยู่ในห้องยาย1เส้น แต่ทักคนหาแล้วไม่เจอ แล้วน้าเราก็โทดว่าเรานั่นแหละเอาไป เราก็เฉยๆเพราะเราไม่สนใจในสิ่งที่นางพูด และมันมีเรื่องที่ทำให้เราต้องทะเลาะกับสามีนาง นางปกป้องสามียิ่งชีพค่ะ สามีนางว่าให้เราตื่นสายคือตอนนั้น6โมงเช้า เเล้วเรามีลูกเล็กน่ะ กลางคืนเราต้องตื่นให้นม ตื่นเปลี่ยนเเพมเพิส ตื่นดูลูกสารพัดอย่าง ตื่นสายเกิน6โมงสำหรับแม่ที่เลี้ยงลูกเอง24ชั่วโมงมันคือสายหรอ เราก็สวนคำสาทีน้าเราไปว่า แล้วทำไมหละ ตื่นสายแล้วทำไม น้าสาวเราขึ้นเลยค่ะ ด่าเราสารพัดอย่าง ว่าสมควรหรอ สามีนางอายุมากกว่าเรา สมควรมาพูดงี้หรอ คือเราพูดไร ประโยคเดียวแค่ว่า ตื่นสายแล้วทำไมหรอ แค่นี้อ่ะนะ แล้วนางก็ด่าๆๆ เราก็ปล่อยค่ะ พูดกับคนแบบนี้เปลืองน้ำลายมาก เพราะกับแม่ของนางเอง นางยังพูดทำร้ายจิตใจได้เลย นางเคยพูดกับแม่นางว่า ที่นางได้ดีทุกวันนี้ เพราะสามีนางดึงนางมาอยู่กรุงเทพด้วย ถ้ามัวอยู่แต่กับแม่ทุกวันนี้จะได้ดีขนาดนี้มั้ย นี่คือคำพูดของนาง ที่นางว่าให้แม่ตัวเอง พอเราย้อนนางเรื่องนี้นางบอกว่าไงรู้มั้ยคะ นางบอกว่าสิ่งที่นางพูดไปกับแม่นาง คือนางคิดและกรั่นกรองจากสมองนางแล้วว่าดีมั้ย เรานี่แบบ อ้อ นี่คือกรั่นกรองแล้วหรอ ไร้คำจะพูดค่ะ และสงกานนี้นางกับสามีต้องมาทำบุญ100วัน เราอยากออกไปอยู่ที่อื่นสักพัก ถ้าไปคงต้องหอบลูกไปด้วย จะมาอยู่ในสภาวะให้คนประเภทเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่นเหน็บแหนมนี่มันไม่ไหวจิงๆน่ะคะ ลูกก็ต้องเลี้ยงต้องมาเจอคนประเภทนี้อีก สภาพจิตใจย่ำแย่ค่ะ ที่พึ่งคนสุดท้ายก็เสียไปแล้ว จะลองโทถามศูนย์คนไร้ที่พึ่ง ก็ยังไม่ได้โทค่ะ แต่เห็นเขาบอกมากันว่า เขาไม่มีที่พักชั่วคราวให้ อยากออกไปอยู่ที่อื่นสักพัก