สวัสดีค่าเพื่อนๆ ห่างหายจากการตั้งกระทู้ไปนานเลย
วันนี้มีเวลาว่าง พรุ่งนี้วันหยุดนอนดึกได้ เลยแว่บมาตั้งกระทู้ซะหน่อย
เนื่องจากอาทิตย์ที่แล้วไปเที่ยวเขาค้อมาค่า แบบ 2 วัน 1 คืน
สาเหตุที่ได้ไปเที่ยวก็เพราะว่าคุณแฟนของหน่อย ไปสัมมนาที่เขาค้อกับที่ทำงานเค้าค่ะ
แล้วพอดีมีธุระไปงานแต่งเพื่อนต่อที่จังหวัดอื่น หน่อยก็เลยต้องเดินทางตามคุณแฟนไปเจอกันที่เขาค้อ วันที่เค้าสัมมนาจบพอดี
แต่พยายามหารถทัวร์แบบ VIP นั่งไปแทนแต่หาไม่เจอเลยค่ะ รู้สึกว่าหายาก ก็เลยจองตั๋วเครื่องบินแทนค่ะ
โดยเริ่มจากการเดินทางค่ะ เปิดต้นปีใหม่เริ่มต้นด้วยการเดินทางคนเดียวด้วยเครื่องบินค่าาา
จริงๆ หน่อยเคยเดินทางด้วยเครื่องบินคนเดียวแล้วแหล่ะ เลยไม่ได้ตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่ง่วงมากกว่าเพราะไฟล์ทเช้ามากค่าแม่จ๋าาา
หน่อยจองตั๋วกับ NokAir ไปนะคะ คุณแฟนจัดการจองให้เสร็จสรรพ
ค่าตั๋วประมาณ 1,400 บาทนะคะ ส่วนสัมภาระไม่ได้โหลดค่ะ เพราะจัดกระเป๋าทุกอย่างใส่ไปกับรถแฟนเรียบร้อยแล้วค่ะ ประหยัดค่าโหลดกระเป๋าไปได้นิดนึง
เป็นการเดินทางแบบ Fly and Ride นะคะ เนื่องจาก เพชรบูรณ์ไม่ได้มีสนามบิน แต่นกแอร์จะลงเครื่องที่ สนามบินพิษณุโลก และมีบริการหารถไปส่งให้เราที่จุดที่เค้าเตรียมไว้ให้ค่ะ ไปส่งที่เพชรบูรณ์ค่ะ
เกริ่นมายาวมาก เริ่มเดินทางกันดีกว่าค่า
เดินทางด้วยเที่ยวบิน DD8400 ค่ะ เช็คอินไปก่อนล่วงหน้า 2 วัน จะมีบริการของ NokAir โทรมาถามว่าเราจะไปลงเพชรบูรณ์ตรงไหน เราก็แจ้งไปว่าจะขอไปลงใกล้ๆ M Point ค่ะ
ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ แต่ไฟล์ทนี่สิคะ เช้ามากจ้าาาา DMK - PHS : 6.20 น. ค่ะ
คุณแฟนจองให้รอบเช้าเลยค่ะ เค้าบอกว่าจะได้มีเวลาพาหน่อยไปเที่ยวเยอะๆ เต็มวัน ใช่ค่ะ พอไปถึงคือ ง่วงมากจ้ะแม่
เราเดินทางมาถึงดอนเมืองตั้งแต่ตี 5 ค่ะ Gate เปิด 5.50 ค่ะ Check in ผ่านออนไลน์มาแล้ว
เลยเดินตัวปลิวมาได้เลยค่ะ มี Boarding Pass มาแล้ว ซึ่งเราได้ Gate 78 ค่าาาาาา
สุดท้ายเลยจ้ะ ซึ่งดีมากว่ามาก่อนเวลา ไม่งั้นคือต้อง "เอ๋ วิ่งดิ่เอ๋" แน่นอน
จากนั้นก็นั่ง Shutter Bus ไปขึ้นเครื่องค่ะ
เครื่องบินแบบลำเล็กแบบใบพัดนะคะ ตกใจมากว่าคนเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่เค้าไปลงพิษณุโลกกันนะคะ
คุณแฟนจองที่นั่งไว้ให้เรียบร้อยค่ะ รู้ว่าเราชอบนั่งริมหน้าต่าง เลยจอง 34A เลยค่ะ นั่งหน้าๆ เลย
อย่างที่บอกว่า เครื่องบินลำเล็กมาก ที่ที่นั่งแค่ 2 เบาะ เท่านั้น นะคะ แต่คนแน่นเต็มลำเลยค่ะ
ตอนแรกก่อนบินกลัวมากว่าไฟล์ทจะยกเลิกหรือเปล่าถ้าคนน้อย
ส่วนที่ยินตรงกลาง คือพูดเลยว่าถ้ายืนสองคนพร้อมกัน 2 ฝั่ง คือยืนไม่ได้ะคะ ทางเดินมันเล็ก 5555
ที่นั่งก็นั่งสบายอยู่นะคะ แต่จะแอบๆ เบียดกับคนข้างๆ นิดหน่อย เอาหล่ะค่ะ เริ่มออกเดินทางแป๊บเดียวแค่ 50 นาทีก็ถึงสนามบินพิษณุโลกแล้วค่า

เอาบรรยากาศข้างบนมาฝากค่า โชคดีที่ได้นั่งฝั่งซ้ายของเครื่องเลยไม่โดนแดดตอนเช้าค่ะ
เห็นแล้วอยากกินสายไหมเลยยยย
ประมาณ 7.40 น. ถึงพิษณุโลกแล้วค่า พอลงเครื่องมาเดินเข้าไปเค้าจะมี จนท. ถือป้ายรอเราอยู่ค่ะ ว่าไปเพชรบูรณ์
แล้วก็รอสักพักประมาณ 8 โมง ก็มีรถมารับค่ะ เป็น Camry แหล่ะมารับพาไปส่งที่ M Point ค่ะ เป็นร้านกาแฟและที่พักด้วยนะคะ
ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. ค่ะ ระหว่างทางเป็นยังไงหรอคะ ไม่ทราบเลยค่ะ หลับตลอดทางเลยค่ะ เพราะเมื่อคืนนอนไปนิดเดียวเอง
แล้วคุณแฟนก็มารับเวลาไล่เลี่ยกันเลยค่ะ
พอเจอแฟนสภาพก็คือ ตาโหลลลล ตาปรือตลอดเวลาค่ะ เพราะง่วงมากกก ไร้ซึ่งความคึกครื้นใดๆ
คุณแฟนเลยพาไปหากาแฟ หาขนมทานก่อนเลยค่ะ
เริ่มที่ร้าน The Pug Coffee ค่า ร้านนี้พี่เจ้าของเลี้ยงน้องหมาปั๊กค่ะ เลยมีรูปปั้นน้องปั๊ก ไว้ด้วย
เราไปถึงร้านก็เลยสั่งอะไรซ่าส์ๆ ดื่มแหล่ะแก้ง่วง เนื่องจากเราไม่กินกาแฟค่ะ
เมนูนี้คือ แอปเปิ้ลโซดาค่ะ อร่อยดีค่ะ
กาแฟของคุณแฟนค่ะ แฟนบอกว่าอร่อยค่ะ หอมกาแฟ ดีกว่ากาแฟร้านดังๆ อีกค่ะ

ตบท้ายด้วยเค้ก 1 ชิ้นค่ะ เป็นเค้กจาก Iron Chef เลยนะคะ แต่เราจำชื่อเชฟไม่ได้ 5555
ร้านนี้หมดไปประมาณ 400 กว่าบาทค่ะ เพราะเค้กก็ก้อนละ 200 กว่าๆ แล้วค่ะ
แต่เค้กอร่อยจริงๆ นะคะ

ต่อไปค่ะ ยังไม่ได้เข้าห้องฟักนะคะเพราะเราเช็คอินได้บ่ายสองค่ะ
แฟนเลยพาไปพระตำหนักเขาค้อค่ะ
เค้าบอกว่า "นอนเขาค้อ 1 คืน อายุยืน 1 ปี"
บรรยากาศสวยดีค่ะ เงียบ สงบดี แต่ไม่ได้เข้าที่พระตำหนักนะคะ
ต่อไปค่ะ ไปทานมื้อเช้ากันค่ะ เราไปทานที่ร้านนายต๋อยค่ะ
สั่งไปประมาณ 3 อย่างค่ะ กับข้าว 1 โถ หมดไปประมาณ 800 บาทค่ะ ปลากระพงทอดน้ำปลาดีงามค่ะ แล่เนื้อปลามาเลยทานง่าย น้ำยำอร่อย
อิ่มแล้วไปต่อกันค่ะ ง่วงนอน สภาพเหมือนผีนิดหน่อย แต่ต้องไปต่อค่ะพี่สุชาติ!
ไปดูทุ่งกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าค่ะ
เสียค่าจอดรถ 20 บาทแค่นั้นค่ะ ก็ไปถ่ายรูปเล่นๆ Slow Life ฆ่าเวลาค่ะ
จากนั้นก็ได้เวลาเข้าไปห้องพักแล้วค่า หน่อยจองที่ The Gass Box ไว้นะคะ
คืนละ 3,000 บาทค่ะ ราคาแอบแรง แต่ชอบบรรยากาศค่ะ
ห้องพักจะเป็นกระจกทั้งหลังนะคะ มีวิวเป็นพระธาตุผาซ่อนแก้วค่ะ
บรรยากาศจากหน้าห้องนะคะ มีโต๊ะไว้นั่งปาร์ตี้ ทานข้าวด้วยค่ะ
สั่งหมูกระทะมาทานได้นะคะ แต่ต้องสั่งเองค่ะทางที่พักไม่ได้มีบริการนะคะ
แต่คุณลุง คุณป้าที่เป็นเจ้าของน่ารักใจดีมากค่ะ เราถามว่ามีกระติกให้ยืมมั้ย
พอออกไปข้างนอกเข้ามาก็เจอกระติกวางไว้ให้หน้าห้องเลยค่ะ
ที่นี่เค้ามีเตา มีที่คีบ ปิ้งย่าง จาน ช้อนพลาสติกให้ใช้ฟรีนะคะแจ้งพี่เค้าได้เลยค่ะ
บรรยากาศหน้าห้องของเพื่อนบ้านค่ะ ไม่ต้องห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัวนะคะ ห้องมีผ้าม่านให้ค่ะ
และห้องก็เก็บเสียงได้ระดับนึงเลยค่ะ เราไปเจอห้องข้างล่างเรามากันเป็นหมู่คณะ แบบเปิดเพลงเสียงดังตอนกลางคืน
แต่พอปิดประตูปิดม่านก็ไม่ได้ยินเสียงลอดเข้ามารบกวนเลยค่ะ

บรรยากาศในห้องพักค่า
มีกระติกน้ำร้อน แก้ว กาแฟ คอนเฟล็ก ให้ทานได้เลยนะคะ
ในห้องมีตู้เย็นแช่น่ำ น้ำผลไม้ นมไว้ให้ด้วยค่ะ ทานได้หมดเลยค่ะ
ห้องน้ำนะคะ ไม่ใหญ่มาก แต่ไม่แย่เลยค่ะ น้ำไหลดี มีเครื่องทำน้ำอุ่น
พอเช็คอินปุ๊บ อาบน้ำได้ นอนงีบเอาแรงหน่อยค่ะ ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ ตื่นมาสัก 5 โมงเย็น ก็ไปเที่ยวต่อค่ะ
คุณแฟนพาไปร้านใกล้ๆ ทานอะไรรองท้องก่อน
เลยแวะร้านนี้ค่ะ บ้านเข็ก คาเฟ่

วิวดีริมเข้าค่ะ มินท์ช็อคโกแลตเย็น อร่อยค่ะ ชอบทานมินท์อยู่แล้ว
แล้วก็สั่งสเต็กหมูจิ้มแจ่วและข้าวปลาสามรสมาแก้หิวก่อน

มื้อนี้หมดไป 300 - 400 กว่าๆ นี้แหล่ะค่ะ จำราคาไม่ได้
แล้วก็นั่งรถเล่นไปชมวิวพระอาทิตย์ตกค่ะ

พอค่ำ ก็ไปหาอะไรทานต่อค่าา กินค่ะ กินเข้าไปอย่าหยุด 5555
มาเขาค้อก็ต้องมากินหมูกระทะแหล่ะ บรรยากาศเย็นๆ กับหมูกระทะอุ่นๆ หุยยย ฟินนนน
หน่อยมากิน “เลิฟยูหมูกระทะ” ขี้เกียจกินหน้าบ้าน เลยกินที่ร้านเลยค่ะ สะดวกดี
บุพเฟต์หัวละ 159.- ราคาเบาๆ แต่คุณภาพโอเคเลยนะ มีของกินให้ตักเยอะ มีขนมจีบ ซาลาเปา มีไอติมด้วย
แต่ที่ปลื้มใจมากคือ มีมาม่าช้างน้อย ให้ต้มจ้า และที่สำคัญคือ มี shower cap! ให้หยิบฟรีด้วย
เหมาะมากกับคนขี้เกียจสระผมตอนกลางคืนแบบหน่อยมาก หน่อยก็นั่งใส่คนเดียวทั้งร้านเลยค่ะ เด็กๆ เดินผ่านไปผ่านมาก็มอง
แต่ไม่แคร์ค่ะ ความขี้เกียจสระผม มีมากกว่าความอายค่ะ 5555555

หมดไปประมาณ 300 กว่าบาทค่ะ
อิ่มแล้ววว กลับห้องพักไปนอนนนนนนนน ค่าาาาาาาาา
พอตื่นเช้ามา อาหารเช้าของที่นี่จะเป็นพวกโจ๊ก น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ นะคะ พี่เค้าจะมาเสิร์ฟวางไว้หน้าห้องเลยค่ะ
ให้ปาท่องโก๋มาเยอะมากค่ะ ทานไม่หมดเลย
น้ำเต้าหู้อุ่นๆ กินไปชมวิวหน้าบ้านไป : D
เอาหล่ะค่ะ ทานอาหารเช้าแล้ว ไปเก็บของเตรียม Check out กันค่ะ ได้ถึง 12.00 นะคะ
ก่อนจะเดินทางกลับ ก็ไปแวะไหว้พระธาตุผาซ่อนแก้วกันเพื่อความเป็นสิริมงคลค่ะ
สวยงามมากค่ะ สาวๆ ที่ใส่นุ่งสั้นไป เค้ามีบริการผ้านุ่งให้ยืมใช้นะคะ
ปิดท้ายด้วยภาพที่สมกับชื่อ พระธาตุผาซ่อนแก้วค่ะ
จบแล้วค่าทริปเขาค้อ ของหน่อย ไปแบบง่ายๆ สโลว์ไลฟ์ค่ะ ไม่มีแพลน ขับรถไปเรื่อยๆ แวะไปเรื่อยๆ ค่ะ
ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้านะคะ
บายค่า
ทริปแรกของปี 2020 : เที่ยวเขาค้อ 2 วัน 1 คืน + เดินทางด้วยเครื่องบิน
วันนี้มีเวลาว่าง พรุ่งนี้วันหยุดนอนดึกได้ เลยแว่บมาตั้งกระทู้ซะหน่อย
เนื่องจากอาทิตย์ที่แล้วไปเที่ยวเขาค้อมาค่า แบบ 2 วัน 1 คืน
สาเหตุที่ได้ไปเที่ยวก็เพราะว่าคุณแฟนของหน่อย ไปสัมมนาที่เขาค้อกับที่ทำงานเค้าค่ะ
แล้วพอดีมีธุระไปงานแต่งเพื่อนต่อที่จังหวัดอื่น หน่อยก็เลยต้องเดินทางตามคุณแฟนไปเจอกันที่เขาค้อ วันที่เค้าสัมมนาจบพอดี
แต่พยายามหารถทัวร์แบบ VIP นั่งไปแทนแต่หาไม่เจอเลยค่ะ รู้สึกว่าหายาก ก็เลยจองตั๋วเครื่องบินแทนค่ะ
โดยเริ่มจากการเดินทางค่ะ เปิดต้นปีใหม่เริ่มต้นด้วยการเดินทางคนเดียวด้วยเครื่องบินค่าาา
จริงๆ หน่อยเคยเดินทางด้วยเครื่องบินคนเดียวแล้วแหล่ะ เลยไม่ได้ตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่ง่วงมากกว่าเพราะไฟล์ทเช้ามากค่าแม่จ๋าาา
หน่อยจองตั๋วกับ NokAir ไปนะคะ คุณแฟนจัดการจองให้เสร็จสรรพ
ค่าตั๋วประมาณ 1,400 บาทนะคะ ส่วนสัมภาระไม่ได้โหลดค่ะ เพราะจัดกระเป๋าทุกอย่างใส่ไปกับรถแฟนเรียบร้อยแล้วค่ะ ประหยัดค่าโหลดกระเป๋าไปได้นิดนึง
เป็นการเดินทางแบบ Fly and Ride นะคะ เนื่องจาก เพชรบูรณ์ไม่ได้มีสนามบิน แต่นกแอร์จะลงเครื่องที่ สนามบินพิษณุโลก และมีบริการหารถไปส่งให้เราที่จุดที่เค้าเตรียมไว้ให้ค่ะ ไปส่งที่เพชรบูรณ์ค่ะ
เกริ่นมายาวมาก เริ่มเดินทางกันดีกว่าค่า
เดินทางด้วยเที่ยวบิน DD8400 ค่ะ เช็คอินไปก่อนล่วงหน้า 2 วัน จะมีบริการของ NokAir โทรมาถามว่าเราจะไปลงเพชรบูรณ์ตรงไหน เราก็แจ้งไปว่าจะขอไปลงใกล้ๆ M Point ค่ะ
ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ แต่ไฟล์ทนี่สิคะ เช้ามากจ้าาาา DMK - PHS : 6.20 น. ค่ะ
คุณแฟนจองให้รอบเช้าเลยค่ะ เค้าบอกว่าจะได้มีเวลาพาหน่อยไปเที่ยวเยอะๆ เต็มวัน ใช่ค่ะ พอไปถึงคือ ง่วงมากจ้ะแม่
เราเดินทางมาถึงดอนเมืองตั้งแต่ตี 5 ค่ะ Gate เปิด 5.50 ค่ะ Check in ผ่านออนไลน์มาแล้ว
เลยเดินตัวปลิวมาได้เลยค่ะ มี Boarding Pass มาแล้ว ซึ่งเราได้ Gate 78 ค่าาาาาา
สุดท้ายเลยจ้ะ ซึ่งดีมากว่ามาก่อนเวลา ไม่งั้นคือต้อง "เอ๋ วิ่งดิ่เอ๋" แน่นอน
จากนั้นก็นั่ง Shutter Bus ไปขึ้นเครื่องค่ะ
เครื่องบินแบบลำเล็กแบบใบพัดนะคะ ตกใจมากว่าคนเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่เค้าไปลงพิษณุโลกกันนะคะ
คุณแฟนจองที่นั่งไว้ให้เรียบร้อยค่ะ รู้ว่าเราชอบนั่งริมหน้าต่าง เลยจอง 34A เลยค่ะ นั่งหน้าๆ เลย
อย่างที่บอกว่า เครื่องบินลำเล็กมาก ที่ที่นั่งแค่ 2 เบาะ เท่านั้น นะคะ แต่คนแน่นเต็มลำเลยค่ะ
ตอนแรกก่อนบินกลัวมากว่าไฟล์ทจะยกเลิกหรือเปล่าถ้าคนน้อย
ส่วนที่ยินตรงกลาง คือพูดเลยว่าถ้ายืนสองคนพร้อมกัน 2 ฝั่ง คือยืนไม่ได้ะคะ ทางเดินมันเล็ก 5555
ที่นั่งก็นั่งสบายอยู่นะคะ แต่จะแอบๆ เบียดกับคนข้างๆ นิดหน่อย เอาหล่ะค่ะ เริ่มออกเดินทางแป๊บเดียวแค่ 50 นาทีก็ถึงสนามบินพิษณุโลกแล้วค่า
เอาบรรยากาศข้างบนมาฝากค่า โชคดีที่ได้นั่งฝั่งซ้ายของเครื่องเลยไม่โดนแดดตอนเช้าค่ะ
เห็นแล้วอยากกินสายไหมเลยยยย
ประมาณ 7.40 น. ถึงพิษณุโลกแล้วค่า พอลงเครื่องมาเดินเข้าไปเค้าจะมี จนท. ถือป้ายรอเราอยู่ค่ะ ว่าไปเพชรบูรณ์
แล้วก็รอสักพักประมาณ 8 โมง ก็มีรถมารับค่ะ เป็น Camry แหล่ะมารับพาไปส่งที่ M Point ค่ะ เป็นร้านกาแฟและที่พักด้วยนะคะ
ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. ค่ะ ระหว่างทางเป็นยังไงหรอคะ ไม่ทราบเลยค่ะ หลับตลอดทางเลยค่ะ เพราะเมื่อคืนนอนไปนิดเดียวเอง
แล้วคุณแฟนก็มารับเวลาไล่เลี่ยกันเลยค่ะ
พอเจอแฟนสภาพก็คือ ตาโหลลลล ตาปรือตลอดเวลาค่ะ เพราะง่วงมากกก ไร้ซึ่งความคึกครื้นใดๆ
คุณแฟนเลยพาไปหากาแฟ หาขนมทานก่อนเลยค่ะ
เริ่มที่ร้าน The Pug Coffee ค่า ร้านนี้พี่เจ้าของเลี้ยงน้องหมาปั๊กค่ะ เลยมีรูปปั้นน้องปั๊ก ไว้ด้วย
เราไปถึงร้านก็เลยสั่งอะไรซ่าส์ๆ ดื่มแหล่ะแก้ง่วง เนื่องจากเราไม่กินกาแฟค่ะ
เมนูนี้คือ แอปเปิ้ลโซดาค่ะ อร่อยดีค่ะ
กาแฟของคุณแฟนค่ะ แฟนบอกว่าอร่อยค่ะ หอมกาแฟ ดีกว่ากาแฟร้านดังๆ อีกค่ะ
ตบท้ายด้วยเค้ก 1 ชิ้นค่ะ เป็นเค้กจาก Iron Chef เลยนะคะ แต่เราจำชื่อเชฟไม่ได้ 5555
ร้านนี้หมดไปประมาณ 400 กว่าบาทค่ะ เพราะเค้กก็ก้อนละ 200 กว่าๆ แล้วค่ะ
แต่เค้กอร่อยจริงๆ นะคะ
ต่อไปค่ะ ยังไม่ได้เข้าห้องฟักนะคะเพราะเราเช็คอินได้บ่ายสองค่ะ
แฟนเลยพาไปพระตำหนักเขาค้อค่ะ
เค้าบอกว่า "นอนเขาค้อ 1 คืน อายุยืน 1 ปี"
บรรยากาศสวยดีค่ะ เงียบ สงบดี แต่ไม่ได้เข้าที่พระตำหนักนะคะ
ต่อไปค่ะ ไปทานมื้อเช้ากันค่ะ เราไปทานที่ร้านนายต๋อยค่ะ
สั่งไปประมาณ 3 อย่างค่ะ กับข้าว 1 โถ หมดไปประมาณ 800 บาทค่ะ ปลากระพงทอดน้ำปลาดีงามค่ะ แล่เนื้อปลามาเลยทานง่าย น้ำยำอร่อย
อิ่มแล้วไปต่อกันค่ะ ง่วงนอน สภาพเหมือนผีนิดหน่อย แต่ต้องไปต่อค่ะพี่สุชาติ!
ไปดูทุ่งกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าค่ะ
เสียค่าจอดรถ 20 บาทแค่นั้นค่ะ ก็ไปถ่ายรูปเล่นๆ Slow Life ฆ่าเวลาค่ะ
จากนั้นก็ได้เวลาเข้าไปห้องพักแล้วค่า หน่อยจองที่ The Gass Box ไว้นะคะ
คืนละ 3,000 บาทค่ะ ราคาแอบแรง แต่ชอบบรรยากาศค่ะ
ห้องพักจะเป็นกระจกทั้งหลังนะคะ มีวิวเป็นพระธาตุผาซ่อนแก้วค่ะ
บรรยากาศจากหน้าห้องนะคะ มีโต๊ะไว้นั่งปาร์ตี้ ทานข้าวด้วยค่ะ
สั่งหมูกระทะมาทานได้นะคะ แต่ต้องสั่งเองค่ะทางที่พักไม่ได้มีบริการนะคะ
แต่คุณลุง คุณป้าที่เป็นเจ้าของน่ารักใจดีมากค่ะ เราถามว่ามีกระติกให้ยืมมั้ย
พอออกไปข้างนอกเข้ามาก็เจอกระติกวางไว้ให้หน้าห้องเลยค่ะ
ที่นี่เค้ามีเตา มีที่คีบ ปิ้งย่าง จาน ช้อนพลาสติกให้ใช้ฟรีนะคะแจ้งพี่เค้าได้เลยค่ะ
บรรยากาศหน้าห้องของเพื่อนบ้านค่ะ ไม่ต้องห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัวนะคะ ห้องมีผ้าม่านให้ค่ะ
และห้องก็เก็บเสียงได้ระดับนึงเลยค่ะ เราไปเจอห้องข้างล่างเรามากันเป็นหมู่คณะ แบบเปิดเพลงเสียงดังตอนกลางคืน
แต่พอปิดประตูปิดม่านก็ไม่ได้ยินเสียงลอดเข้ามารบกวนเลยค่ะ
บรรยากาศในห้องพักค่า
มีกระติกน้ำร้อน แก้ว กาแฟ คอนเฟล็ก ให้ทานได้เลยนะคะ
ในห้องมีตู้เย็นแช่น่ำ น้ำผลไม้ นมไว้ให้ด้วยค่ะ ทานได้หมดเลยค่ะ
ห้องน้ำนะคะ ไม่ใหญ่มาก แต่ไม่แย่เลยค่ะ น้ำไหลดี มีเครื่องทำน้ำอุ่น
พอเช็คอินปุ๊บ อาบน้ำได้ นอนงีบเอาแรงหน่อยค่ะ ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ ตื่นมาสัก 5 โมงเย็น ก็ไปเที่ยวต่อค่ะ
คุณแฟนพาไปร้านใกล้ๆ ทานอะไรรองท้องก่อน
เลยแวะร้านนี้ค่ะ บ้านเข็ก คาเฟ่
วิวดีริมเข้าค่ะ มินท์ช็อคโกแลตเย็น อร่อยค่ะ ชอบทานมินท์อยู่แล้ว
แล้วก็สั่งสเต็กหมูจิ้มแจ่วและข้าวปลาสามรสมาแก้หิวก่อน
มื้อนี้หมดไป 300 - 400 กว่าๆ นี้แหล่ะค่ะ จำราคาไม่ได้
แล้วก็นั่งรถเล่นไปชมวิวพระอาทิตย์ตกค่ะ
พอค่ำ ก็ไปหาอะไรทานต่อค่าา กินค่ะ กินเข้าไปอย่าหยุด 5555
มาเขาค้อก็ต้องมากินหมูกระทะแหล่ะ บรรยากาศเย็นๆ กับหมูกระทะอุ่นๆ หุยยย ฟินนนน
หน่อยมากิน “เลิฟยูหมูกระทะ” ขี้เกียจกินหน้าบ้าน เลยกินที่ร้านเลยค่ะ สะดวกดี
บุพเฟต์หัวละ 159.- ราคาเบาๆ แต่คุณภาพโอเคเลยนะ มีของกินให้ตักเยอะ มีขนมจีบ ซาลาเปา มีไอติมด้วย
แต่ที่ปลื้มใจมากคือ มีมาม่าช้างน้อย ให้ต้มจ้า และที่สำคัญคือ มี shower cap! ให้หยิบฟรีด้วย
เหมาะมากกับคนขี้เกียจสระผมตอนกลางคืนแบบหน่อยมาก หน่อยก็นั่งใส่คนเดียวทั้งร้านเลยค่ะ เด็กๆ เดินผ่านไปผ่านมาก็มอง
แต่ไม่แคร์ค่ะ ความขี้เกียจสระผม มีมากกว่าความอายค่ะ 5555555
หมดไปประมาณ 300 กว่าบาทค่ะ
อิ่มแล้ววว กลับห้องพักไปนอนนนนนนนน ค่าาาาาาาาา
พอตื่นเช้ามา อาหารเช้าของที่นี่จะเป็นพวกโจ๊ก น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ นะคะ พี่เค้าจะมาเสิร์ฟวางไว้หน้าห้องเลยค่ะ
ให้ปาท่องโก๋มาเยอะมากค่ะ ทานไม่หมดเลย
น้ำเต้าหู้อุ่นๆ กินไปชมวิวหน้าบ้านไป : D
เอาหล่ะค่ะ ทานอาหารเช้าแล้ว ไปเก็บของเตรียม Check out กันค่ะ ได้ถึง 12.00 นะคะ
ก่อนจะเดินทางกลับ ก็ไปแวะไหว้พระธาตุผาซ่อนแก้วกันเพื่อความเป็นสิริมงคลค่ะ
สวยงามมากค่ะ สาวๆ ที่ใส่นุ่งสั้นไป เค้ามีบริการผ้านุ่งให้ยืมใช้นะคะ
ปิดท้ายด้วยภาพที่สมกับชื่อ พระธาตุผาซ่อนแก้วค่ะ
จบแล้วค่าทริปเขาค้อ ของหน่อย ไปแบบง่ายๆ สโลว์ไลฟ์ค่ะ ไม่มีแพลน ขับรถไปเรื่อยๆ แวะไปเรื่อยๆ ค่ะ
ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้านะคะ
บายค่า