How to พาคุณปะป๊า ( อายุเยอะ ) เที่ยวในกรุงเทพแบบงบมนุษย์เงินเดือน

  สวัสดีค่ะ  
ไม่ค่อยได้ตั้งกระทู้เท่าไร หากผิดพลาดตรงไหน ขออภัย ล่วงหน้านะคะ
* รีบออกตัวก่อน 5555+ 

เพี้ยนเขิน

จขกท. เป็นมนุษย์เงินเดือน ในบริษัทเอกชนทั่วไปค่ะ 
ฐานเงินเดือนปกติ หัก คชจ. ต่าง ๆ ก็เหลือใช้เองไม่กี่พัน 
เราเป็นลูกสาวคนเดียวค่ะ 
ป๊ามีเราตอนอายุมากแล้ว เรียกว่า โตเกือบไม่ทันใช้ก็ว่าได้ 
กว่าจะมีกำลัง มีตังค์พอพาไปเที่ยวได้ก็เรียกว่า สูงวัยเหลือเกินนน 

เพี้ยนหืม
" อย่ามัวงอแงกับอะไรที่ผ่านไปอยู่เลย 
ลงมือทำเท่าที่ไหว ทำเท่าที่ทำได้ "
เป็นสิ่งที่เราคิดมาตลอด 
พอเรามีเวลา มีตังค์ก็เริ่มพาปะป๊าเที่ยวค่ะ 

แต่ก่อนเราก็คิดว่า ฮู้ย .. ต้องมีเยอะ ๆ สินะ ถึงพากันไปเที่ยว จ่ายให้ทุกอย่างได้
เอาจริง ๆ มากสุดที่เราจ่าย แค่ประมาณ 1,400 - 1,500 บาท / วัน เท่านั้นเองค่ะ 
ยังไม่เคยพาออกตจว. ห่วงแมว ห่วงบ้าน ห่วงตังค์ ฮาาาาา ... 
ค่าใช้จ่ายแรกที่เราต้องมีคือ 

เพี้ยนออกทริป
1 . ค่าเดินทาง
เฉลี่ยครั้งละประมาณ 200 บาท
ถ้ารวมขาไป - กลับ ก็อยู่ที่ 400 - 500 บาท
เผื่อรถติด เผื่อขึ้นทางด่วน 

( เราไม่มีรถยนต์ส่วนตัวค่ะ 
เคยมีคนเอามาให้ใช้ ใช้ไปสักพัก
อยากทิ้งรถแล้วไปขึ้นมอ'ไซค์วิน หรือ รถไฟฟ้าแทน 5555+
รถติดมากกกกกก )


ก็ใช้เรียก Grab บ้าง Taxi บ้าง
บ้านเราอยู่ในซอย ถ้าไม่มีมอ'ไซค์วิน ก็เดินกัน 2 พ่อลูกไปปากซอย เพื่อโบกรถ
ช่วงเวลาตรงนี้ที่เดินกัน ก็จะคุยกันไปเรื่อย
ดิน ฟ้า อากาศ มีเรื่องไหนก็คุยไป  

สำหรับขนส่งสาธารณะ BTS MRT 
ที่ตอนแรกคิดว่า น่าจะประหยัดกว่า  
รวม ๆ แล้วประหยัดกว่าไม่เท่าไรค่ะ 40-50 บาท
..แล้ว..
เคยพาป๊าขึ้น แต่แกไม่ชอบเพราะ ไม่เห็นวิวข้างทาง
ถึงมันจะถึงเร็วกว่า แต่ ไม่ชอบ เลยไม่ค่อยพาขึ้น 5555+
ก็ต้องตามใจแกหน่อยเนอะ 
เพราะ ที่ผ่านมา ป๊าเลี้ยงเราค่อนข้างตามใจเหมือนกัน

** ล่าสุดกำลังจะพาไปเกษตรแฟร์ ป๊าอยากขึ้น BTS สถานีใหม่
อันนี้ก็ตามใจ เดี๋ยวจะพาขึ้นค่ะ **

ส่วนรถเมล์ เคยพาขึ้นแล้วไม่อยากให้ขึ้นอีก 
เพราะ แก่แล้วต้องใช้ไม่เท้า ค่อนข้างอันตราย
จ่ายเพิ่มซื้อความสะดวกดีกว่า

เพี้ยนกินมาม่า
2. ค่ากิน
เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 400 บาทรวมทั้งพ่อ - ลูก 
ส่วนมากที่ที่เราไป ไม่ได้พาไปห้างค่ะ 
พาไปงานกิจกรรม พิพิธภัณฑ์ อะไรแบบนี้
ก็จะเสียค่ากินไม่เยอะ 
แล้วไม่ใช่คนกินจุกจิก ด้วยกันทั้งคู่ค่ะ 
กินมื้อเดียว บางทีก็ไม่กินเลย เพราะเดินทางออกจากบ้านหลังจากกินข้าวแล้ว
ขนมนิดหน่อย เน้นเดินเที่ยวกันมากกว่า

* ไม่ใช่ว่าเราจ่ายไม่ได้นะคะ เลยให้กินแค่นี้ 55555 +
เราจ่ายไหวค่ะ 
แต่ กินกันประมาณเท่านี้จริง ๆ *

เพี้ยนกริบ

ก็หมดแล้วนะคะ ค่าใช้จ่ายที่ต้องมี 55555+
ส่วนที่เหลือก็ของกระจุกกระจิกที่เราอยากได้เอง

ส่วนสำคัญก็เป็นการดูแลระหว่างพาเที่ยว 
ป๊าเรา เดินไม่สะดวก ต้องใช้ไม้เท้า ตาก็มองไม่ค่อยเห็น
.. เพราะฉะนั้น ..
เราต้องเป็นตาและเป็นเท้าให้ป๊าด้วย
แต่ ก็ไม่ใช่จะประคองตลอด
ปล่อยแกเดินเอง มองเองด้วย
บางทีเราก็เดินทิ้งป๊าค่ะ 55555+ 
#พูดจริง

เพี้ยนไม่อยากจะเล่า

อย่างหนึ่งในจิตวิทยาสำหรับผู้สูงอายุคือ 

ให้รู้สึกถึงการดูแล และให้ผู้สูงอายุช่วยเหลือตัวเอง
หรือในกรณีผู้พิการก็แล้วแต่ 
การที่ได้ช่วยเหลือตัวเอง ได้ทำอะไรเอง 
เป็นสิ่งที่เรียกความมั่นใจ การสร้างกำลังใจในการดำเนินชีวิตที่ดี กลับคืนมา

ส่วนตัวเราไม่ได้จบด้านจิตวิทยา
แต่ชอบศึกษาด้านนี้ การตัดสินใจพาป๊าเที่ยว
หรือ ออกจากบ้านบ่อย ๆ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ได้เรียนรู้เรื่องนี้ค่ะ 


ขออิงเรื่องจิตวิทยาผู้สูงอายุอีกนิดนะคะ

ผู้สูงอายุมักมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคซึมเศร้า
การเห็นคุณค่าในตัวเองลดต่ำลงได้มากกว่าคนปกติ 
รวมทั้งโรคที่เกิดจากสุขภาพใจมากมายที่ตามมา

ทำงานมาตลอดเกือบทั้งชัวิต 
แล้วมาหยุดอยู่บ้านเฉย ๆ
อาจเพราะความเจ็บป่วย หรือสาเหตุใดก็แล้วแต่ 
ทำจิตใจห่อเหี่ยว และเฉาได้ง่ายมาก ๆ ค่ะ 
ตรงนี้ก็เป็นเหตุผลนึงที่เกิดเหตุการณ์
ผู้สูงวัยติดโซเชียล ไงค่ะ 

การที่ให้ได้ออกไปเจอผู้คน สถานที่ 
หรือ 
ในกรณีที่ไม่สามารถพาออกไปได้ 
คุยเยอะ ๆ เจอหน้ากันบ่อย ๆ 
หากิจกรรมทำร่วมกัน ก็สามารถช่วยให้จิตใจได้ชุ่มฉ่ำขึ้นมาได้ค่ะ 

อย่างของเรา ถ้างบหมด เวลาไม่ว่าง ไม่ได้ออกไปเที่ยว
ก็จะใช้ทำอาหาร ทำขนมให้กิน
ซึ่งอาหารก็ง่าย ๆ บ้าน ๆ สุกี้ บัวลอย แพนเค้ก แซนวิช ทำอะไรได้ก็ทำไปค่ะ 
เพี้ยนชนแก้ว
โชคดีที่ป๊าเรา อยู่ง่าย กินง่ายด้วย
ช่วงแรกก็ไม่กล้ากิน บอกกลัวท้องเสียบ้าง กลัวไม่สุกบ้าง 55555+
ทำไปเรื่อย ๆ แกก็กินเอง
( ก่อนมาตั้งกระทู้นี้ ก็ทำสุกี้ให้กินค่ะ ) 

การพูดคุยแก้เหงากับป๊า สำหรับเราคือ 

สังเกต ถาม และฟัง
( ซึ่งอาจจะต้องปรับใช้กันแต่ละบุคคล )

สังเกต .. ว่า กำลังทำอะไรอยู่ เพื่อเป็นคำถามเริ่มคุย และเช็คว่า โอเคไหม ชอบรึเปล่า 
ถาม .. ในสิ่งที่เราอยากรู้เองด้วย หรือ ต้องการอะไร อยากไปไหม อยากกินไหม
ฟัง .. อันนี้บางทีป๊าเราเหมือนเกรงใจ เพราะรู้ว่าเราทำงาน หาเงิน บางทีก็จะอ้อมแอ้ม
เราก็ต้องฟังให้รู้ แล้วแสดงความมั่นใจ ความพร้อมที่มี 55555 + 
ประมาณว่า " ป๊าจะเอาไหม หนูจะซื้อให้ กินไหม ซื้อได้นะ " อะไรแบบนี้ 

หรือถ้างบมันไม่พอ ก็บอกตรง ๆ ค่ะ ไม่หน้าใหญ่ 
พูดคุยเชิงปรึกษาว่า " หนูว่าไปทางนี้ เพราะมันดีกว่า ป๊าว่าไง "  
อีกอย่างคือ 
เราอาจต้องฟังซ้ำเรื่องเดิม ๆ บ่อยหน่อย
หรือต้องถามเสียงดัง เพราะแกอาจไม่ได้ยิน

ซึ่งเราก็ต้องค่อยถามว่า ตาตอนนี้เป็นยังไง จำตรงนี้ได้ไหม 
เพื่อเช็คอาการความเปลี่ยนแปลงของสังขาร 


เพี้ยนแบ๊ว

สำหรับใครยังไม่เคยพาผู้สูงอายุเที่ยว
เริ่มพากันออกไปเดิน ไปเที่ยวใกล้ ๆ บ้านก่อนก็ได้ค่ะ 
เดินตลาด เดินห้าง เตรียมงบ เตรียมค่าใช้จ่ายว่าเราไหวที่เท่าไร
ที่ไหนเหมาะ ไลฟ์สไตล์ของผู้สูงอายุเป็นแบบไหน
บางทีความต้องการของเรา กับของคนอายุเยอะ อาจไม่ตรงกัน
ถามกัน คุยกัน เปรย ๆ ไปก่อน
ถ้ารู้สึกว่า ไม่ไหวแน่ ๆ ก็หากิจกรรมทำร่วมกันในบ้าน

ทำเท่าที่ไหว ทำเท่าที่ได้ ไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร
เปรียบกับตัวเราในเมื่อวันก่อนดีที่สุด 

เพราะแต่ละบุคคล แต่ละบ้านไม่เหมือนกัน
ปรับให้พอดีกับของตัวเองมากที่สุดค่ะ
การพาผู้สูงอายุออกเที่ยวไม่ได้ยาก ลำบากอย่างที่คิด
หากิจกรรมทำร่วมกันบ่อย ๆ นะคะ

เพี้ยนสู้สู้

เราทำVLOG ที่ไปกับป๊าไว้ด้วย เข้าไปดูได้ตามลิงก์ค่ะ 
ไม่ได้ยากเลยจริง ๆ ลองดูนะคะ  ทำเป็นคลิปเก็บไว้ก็น่าสนุกดีด้วย 


กระทู้ของเราคงจะมีประโยชน์ ( หวังในใจ ฮาาาา ) 
และช่วยจุดประกายไอเดียพากันเที่ยว พากันทำกิจกรรมเยอะขึ้นนะคะ 
มีเรื่องอันไหนสนุก มาแชร์ มาเล่ากันได้ ใต้กระทู้ค่ะ 
เผื่อว่าจะเป็นไอเดียที่หลากหลายทาง หลากหลายที่กันมาขึ้น
เผื่อเราจะลอกด้วย 55555+ 
ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะคะ 

เพี้ยนสวัสดี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่