สำหรับซีรีส์ One Year จะมีแอ็คติ้งโค้ชอยู่ 2 คน หนึ่งในนั้นคือคุณนัตตี้ ซึ่งเจ้าตัวเป็นหนึ่งในทีมเขียนบทละคร รักฉุดใจนายฉุกเฉิน ด้วย !!
และนี่คือเบื้องหลังการ Acting Coach จากเพจ Act-Things (โดยครูบิว ฮอร์โมน)
"ต้องยกนิ้วให้ผู้กำกับอย่างพี่แคลร์ และทีมเขียนบทซีรีส์ one year ทุกคนว่าสร้างสรรค์ตัวละครอย่างละเอียดละออ จนทำให้ตัวละครทุกตัวมีมิติ ทั้งขาว ทั้งดำ แต่ทุกการกระทำกลับเข้าใจได้อย่างไม่มีข้อกังหา
ตี้เอง ในฐานะที่เหมือนได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตร่วมกับนักแสดง ทั้งในช่วงเวลาที่เป็นนักแสดงและ ช่วงเวลาที่เป็นตัวละคร ด้วยหน้าที่ acting coach เลยได้เห็นบรรยากาศ และอยากแชร์ให้ทุกคนเห็นวิธีการทำงาน ที่ทำให้ผลงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจ
สารภาพว่าครั้งแรกที่รู้ว่าซีรีส์เรื่องนี้ จะมีนักแสดงกว่า 10 ชีวิต ซึ่งคือ พี่ดู๋ พี่แหม่ม เก้า จิรายุ ซึ่งเป็นรุ่นใหญ่ของวงการ ลากยาวไปถึง เฌอปราง ที่ขนเอาน้องๆ BNK48 ซึ่งบางคนแทบไม่เคยมีประสบการณ์ทางการแสดง แต่ต้องมาอยู่รวมกัน ตอนนั้นก็นั่งกอดคอคุยกับ พี่แคลร์ เอ๊ะ! มันจะออกมาเป็นยังไง เราจะทำงานกันได้มั้ย? นักแสดงจะเข้ากันได้รึเปล่า? โชคดีว่าก่อนถ่ายทำจริงเราได้ ครูเชลล์ มาช่วยปูพื้นฐานทางการแสดงให้น้องๆ BNK48 พาเหล่านักแสดงกว่า 10 ชีวิตนี้มา เวิร์คชอป ทำลายทะลุกำแพงร่วมกัน ทำให้วันที่ออกกองไปถ่ายทำจริง สิ่งที่เคยคิดไม่ได้เป็นแบบที่คิด!!!
หลังจาก Workshop แล้วเคมีนักแสดงดีมากกกก ! ทุกคนเข้ากันได้ดี มีเสียงหัวเราะเกิดขึ้นในกองถ่ายเสมอ พี่ดู๋ พี่แหม่ม มีวินัยนักแสดง ที่เวลาใครเห็นต้องมองหน้ากันแล้วเห็นตรงกันว่า “เพราะแบบนี้ พี่ๆทั้ง2 ถึงอยู่ค้ำวงการมานานขนาดนี้ และเหมือนจะอยู่ได้ตลอดไป” ส่วนรุ่นเด็กๆ ก็ทำงานกันแบบมืออาชีพมากๆ ทำให้พี่แคลร์ และตี้ทำงานกันง่าย ขออะไรปรับตรงไหนก็พร้อมทำงานอย่างเต็มที่ เชื่อว่าทุกคนในกองไปทำงานกันอย่างมีความสุขในทุกๆวัน เพราะบรรยากาศที่อบอุ่นและมีรอยยิ้มเสมอ
6 โมงเช้าของทุกวัน เราจะเห็นพี่ดู๋มาถึงตรงเวลาเป๊ะๆ บางทีมาถึงก่อนทีมไฟซะอีก ส่วนพี่แหม่มก็จะมาพร้อมกองทัพของกินแบบ บอกเลยว่า กองนี้ของไม่เคยขาด ส่วนนักแสดงรุ่นเด็ก จะมากองถ่ายพร้อมถือบท ใครไม่เข้าใจซีนไหน กังวลซีนไหนก็จะเข้ามาคุยมาปรึกษา เตรียมตัวก่อนถ่ายจริง ขยันกันมากค่ะ
บรรยากาศหนึ่งที่ทุกคนในกองน่าจะคุ้นเคยคือ ซีนใหญ่ของบ้าน ที่ขนนักแสดงทุกชีวิตมาอยู่รวมกันบนโต๊ะอาหาร! ขอบอกว่ามหากาฬมาก เพราะถึงแม้ตัวละครจะไม่ได้มีบทพูด แต่ทางเราต้องเก็บ ทุก”reaction”ค่ะ เพราะเราเชื่อว่า actions speak louder than words
ซึ่งพอ actions speak louder than words แล้ว มันเลยทำให้ต้องหมุนกล้องรับหน้ากันรัวๆ ถ่ายประโยคเดิมอยู่ 10 รอบกว่าจะเก็บครบทุกคน แถมถ้ามีใคร react ผิด ไม่ถูก inner ตัวละครแค่นิดเดียว ความตาไวของทีมกำกับก็จะสั่งคัท ถ่ายใหม่ แม้ว่าในความจริงแล้ว บางโมเม้นท์อาจจะไม่ได้ตัดมาใช้อยู่ในซีรีส์เลยก็ตาม แต่ เชื่อเถอะค่ะว่า นักแสดงที่น่ารักของเราไม่บ่นเลยซักคนจริงๆๆๆๆจ้าาาา
อีกบรรยากาศหนึ่งที่คงไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะนักแสดง และทีมงานทุกคนในกองต้องคุ้นเคยกันดี! คือความละเอียดของผู้กำกับของเรา ที่นักแสดงเรียกกันว่า “ร้อยบีท 10 เลเยอร์ 100 ความซับซ้อน” ซึ่งถ้าจะให้อธิบายความหมายให้ทุกคนเข้าใจง่ายๆ จะขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพ คืออย่างเช่น ซีนนี้ “ตัวละครต้องแสดงออกว่าดีใจแต่ข้างในเศร้า เพราะรักคนนึงมาก แต่ก็น้อยใจ แต่ก็ต้องอดทน เพราะไม่อยากให้เค้าไม่สบายใจ แล้วก็กลัวคนในบ้านจะรู้ หรือพวก ตัวละครแสดงว่าไม่เป็นไร แต่ข้างในไม่ไหวแล้ว สุดท้ายต้องระเบิด ระบายอารมณ์ แต่ก็ตัดสินใจมาแล้ว”
ซึ่งบอกเลยว่า จากตัวอย่างข้างต้นถึงกับทำเอาทั้งนักแสดง ทั้งแอคติ้งโค้ชเหงื่อตก แต่พวกเราก็ผ่านกันมาได้ค่ะ เพราะสุดท้าย เราทำงานกันโดย ยึดที่ความต้องการของตัวละคร ที่แบกเงื่อนไขต่างๆเข้าไปทีละชิ้น ทีละอัน ด้วยเหตุผลที่แข็งแรงจากความเชื่อของตัวละครนั้นๆ จนเกิดเป็นการแสดงที่มีมิติ และตัวละครแต่ละตัวดูมีชีวิต และน่าเข้าใจไปซะหมด จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมคนดูถึงรักตัวละครแต่ละตัวได้ไม่ยาก
เมื่อเห็นทีมงานและนักแสดงทุกคนทำงานอย่างตั้งใจ และใส่ใจทุกรายละเอียดขนาดนี้ คงตอบคำถามบางคนได้ว่าทำไม one year 365 วันบ้านฉัน บ้านเธอ ซีรีส์ที่ถ้ามองผิวเผิน อาจจะดูเป็นซีรีส์ที่ไม่ได้มีเรื่องราวหวือหวา กระชากอารมณ์นัก แต่ถ้าใครได้ลองดูซักครั้งนึงแล้ว กลับตกหลุมรักซีรีส์เรื่องนี้อย่างไม่ทันตั้งตัว
ฝากด้วยนะคะ
ทุกวันพฤหัสบดี 20.00 น. ทาง #LINETV ค่ะ"
เม้าส์เรื่องเบื้องหลังการถ่ายทำ ซีรีส์ One Year 365 วัน บ้านฉันบ้านเธอ จากใจหนึ่งใน Acting Coach
สำหรับซีรีส์ One Year จะมีแอ็คติ้งโค้ชอยู่ 2 คน หนึ่งในนั้นคือคุณนัตตี้ ซึ่งเจ้าตัวเป็นหนึ่งในทีมเขียนบทละคร รักฉุดใจนายฉุกเฉิน ด้วย !!
และนี่คือเบื้องหลังการ Acting Coach จากเพจ Act-Things (โดยครูบิว ฮอร์โมน)
"ต้องยกนิ้วให้ผู้กำกับอย่างพี่แคลร์ และทีมเขียนบทซีรีส์ one year ทุกคนว่าสร้างสรรค์ตัวละครอย่างละเอียดละออ จนทำให้ตัวละครทุกตัวมีมิติ ทั้งขาว ทั้งดำ แต่ทุกการกระทำกลับเข้าใจได้อย่างไม่มีข้อกังหา
ตี้เอง ในฐานะที่เหมือนได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตร่วมกับนักแสดง ทั้งในช่วงเวลาที่เป็นนักแสดงและ ช่วงเวลาที่เป็นตัวละคร ด้วยหน้าที่ acting coach เลยได้เห็นบรรยากาศ และอยากแชร์ให้ทุกคนเห็นวิธีการทำงาน ที่ทำให้ผลงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจ
สารภาพว่าครั้งแรกที่รู้ว่าซีรีส์เรื่องนี้ จะมีนักแสดงกว่า 10 ชีวิต ซึ่งคือ พี่ดู๋ พี่แหม่ม เก้า จิรายุ ซึ่งเป็นรุ่นใหญ่ของวงการ ลากยาวไปถึง เฌอปราง ที่ขนเอาน้องๆ BNK48 ซึ่งบางคนแทบไม่เคยมีประสบการณ์ทางการแสดง แต่ต้องมาอยู่รวมกัน ตอนนั้นก็นั่งกอดคอคุยกับ พี่แคลร์ เอ๊ะ! มันจะออกมาเป็นยังไง เราจะทำงานกันได้มั้ย? นักแสดงจะเข้ากันได้รึเปล่า? โชคดีว่าก่อนถ่ายทำจริงเราได้ ครูเชลล์ มาช่วยปูพื้นฐานทางการแสดงให้น้องๆ BNK48 พาเหล่านักแสดงกว่า 10 ชีวิตนี้มา เวิร์คชอป ทำลายทะลุกำแพงร่วมกัน ทำให้วันที่ออกกองไปถ่ายทำจริง สิ่งที่เคยคิดไม่ได้เป็นแบบที่คิด!!!
หลังจาก Workshop แล้วเคมีนักแสดงดีมากกกก ! ทุกคนเข้ากันได้ดี มีเสียงหัวเราะเกิดขึ้นในกองถ่ายเสมอ พี่ดู๋ พี่แหม่ม มีวินัยนักแสดง ที่เวลาใครเห็นต้องมองหน้ากันแล้วเห็นตรงกันว่า “เพราะแบบนี้ พี่ๆทั้ง2 ถึงอยู่ค้ำวงการมานานขนาดนี้ และเหมือนจะอยู่ได้ตลอดไป” ส่วนรุ่นเด็กๆ ก็ทำงานกันแบบมืออาชีพมากๆ ทำให้พี่แคลร์ และตี้ทำงานกันง่าย ขออะไรปรับตรงไหนก็พร้อมทำงานอย่างเต็มที่ เชื่อว่าทุกคนในกองไปทำงานกันอย่างมีความสุขในทุกๆวัน เพราะบรรยากาศที่อบอุ่นและมีรอยยิ้มเสมอ
6 โมงเช้าของทุกวัน เราจะเห็นพี่ดู๋มาถึงตรงเวลาเป๊ะๆ บางทีมาถึงก่อนทีมไฟซะอีก ส่วนพี่แหม่มก็จะมาพร้อมกองทัพของกินแบบ บอกเลยว่า กองนี้ของไม่เคยขาด ส่วนนักแสดงรุ่นเด็ก จะมากองถ่ายพร้อมถือบท ใครไม่เข้าใจซีนไหน กังวลซีนไหนก็จะเข้ามาคุยมาปรึกษา เตรียมตัวก่อนถ่ายจริง ขยันกันมากค่ะ
บรรยากาศหนึ่งที่ทุกคนในกองน่าจะคุ้นเคยคือ ซีนใหญ่ของบ้าน ที่ขนนักแสดงทุกชีวิตมาอยู่รวมกันบนโต๊ะอาหาร! ขอบอกว่ามหากาฬมาก เพราะถึงแม้ตัวละครจะไม่ได้มีบทพูด แต่ทางเราต้องเก็บ ทุก”reaction”ค่ะ เพราะเราเชื่อว่า actions speak louder than words
ซึ่งพอ actions speak louder than words แล้ว มันเลยทำให้ต้องหมุนกล้องรับหน้ากันรัวๆ ถ่ายประโยคเดิมอยู่ 10 รอบกว่าจะเก็บครบทุกคน แถมถ้ามีใคร react ผิด ไม่ถูก inner ตัวละครแค่นิดเดียว ความตาไวของทีมกำกับก็จะสั่งคัท ถ่ายใหม่ แม้ว่าในความจริงแล้ว บางโมเม้นท์อาจจะไม่ได้ตัดมาใช้อยู่ในซีรีส์เลยก็ตาม แต่ เชื่อเถอะค่ะว่า นักแสดงที่น่ารักของเราไม่บ่นเลยซักคนจริงๆๆๆๆจ้าาาา
อีกบรรยากาศหนึ่งที่คงไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะนักแสดง และทีมงานทุกคนในกองต้องคุ้นเคยกันดี! คือความละเอียดของผู้กำกับของเรา ที่นักแสดงเรียกกันว่า “ร้อยบีท 10 เลเยอร์ 100 ความซับซ้อน” ซึ่งถ้าจะให้อธิบายความหมายให้ทุกคนเข้าใจง่ายๆ จะขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพ คืออย่างเช่น ซีนนี้ “ตัวละครต้องแสดงออกว่าดีใจแต่ข้างในเศร้า เพราะรักคนนึงมาก แต่ก็น้อยใจ แต่ก็ต้องอดทน เพราะไม่อยากให้เค้าไม่สบายใจ แล้วก็กลัวคนในบ้านจะรู้ หรือพวก ตัวละครแสดงว่าไม่เป็นไร แต่ข้างในไม่ไหวแล้ว สุดท้ายต้องระเบิด ระบายอารมณ์ แต่ก็ตัดสินใจมาแล้ว”
ซึ่งบอกเลยว่า จากตัวอย่างข้างต้นถึงกับทำเอาทั้งนักแสดง ทั้งแอคติ้งโค้ชเหงื่อตก แต่พวกเราก็ผ่านกันมาได้ค่ะ เพราะสุดท้าย เราทำงานกันโดย ยึดที่ความต้องการของตัวละคร ที่แบกเงื่อนไขต่างๆเข้าไปทีละชิ้น ทีละอัน ด้วยเหตุผลที่แข็งแรงจากความเชื่อของตัวละครนั้นๆ จนเกิดเป็นการแสดงที่มีมิติ และตัวละครแต่ละตัวดูมีชีวิต และน่าเข้าใจไปซะหมด จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมคนดูถึงรักตัวละครแต่ละตัวได้ไม่ยาก
เมื่อเห็นทีมงานและนักแสดงทุกคนทำงานอย่างตั้งใจ และใส่ใจทุกรายละเอียดขนาดนี้ คงตอบคำถามบางคนได้ว่าทำไม one year 365 วันบ้านฉัน บ้านเธอ ซีรีส์ที่ถ้ามองผิวเผิน อาจจะดูเป็นซีรีส์ที่ไม่ได้มีเรื่องราวหวือหวา กระชากอารมณ์นัก แต่ถ้าใครได้ลองดูซักครั้งนึงแล้ว กลับตกหลุมรักซีรีส์เรื่องนี้อย่างไม่ทันตั้งตัว
ฝากด้วยนะคะ
ทุกวันพฤหัสบดี 20.00 น. ทาง #LINETV ค่ะ"