การมีหนี้ทำให้ฉันเข้มแข็ง

สวัสดีค่ะ ชื่อ กานต์ อายุ 30 ปี ปัจจุบันเป็นพนักงานราชการหน่วยงานรัฐ 
จันทร์-ศุกร์ ทำงานประจำ 
เสาร์-อาทิตย์ ขายของ (มีขายออนไลน์บ้าง)
ปัจจุบันวันเสาร์ขายของอยู่ถนนคนเดิน เก็บของเสร็จอะไรเสร็จกว่าจะขับรถถึงบ้านก็ประมาณ 23.00 กว่าๆแล้ว
แล้วต้องตื่นประมาณ ตี 3 เพื่อเตรียมของขายของตลาดเช้าอีก ขายเสร็จเกือบ 9 โมง บ่าย 3 ของวันอาทิตย์ก็เตรียมขายของถนนคนเดินช่วงเย็นต่อ 
กว่าจะขายของเสร็จแล้วเก็บของเสร็จเดินทางถึงบ้านก็ 23.00 กว่า กว่าจะได้นอนก็เกือบ 24.00 กว่าๆ แล้วต้องตื่นเช้าเพื่อทำงานของเช้าวันจันทร์ต่อไป
ชีวิตมันจะวนอยู่แบบนี้หลายปี ปัจจุบันไม่ได้ขายตลาดเช้าแล้วรู้สึกว่าร่างกายเรารับไม่ไหวแล้ว ต้องนอนดึก ตื่นเช้า ไหนจะเหนื่อยล้าจากงานที่ทำประจำอีก เลยเลือกขายแค่ถนนคนเดินอย่างเดียว

เงินเดือนปัจจุบัน 19,xxx
ยอดชำระหนี้แต่ละเดือน 12,xxx
ยอดชำระหนี้บัตรเครคิตแต่ละเดือน 4,xxx

ปี 2558 ยื่นกู้เพื่อซื้อบ้านทาวน์เฮ้าส์ ราคา 9xx,xxx บาท
ปี 2562 ยื่นกู้เพื่อซื้อที่นา 16 ไร่ ราคา 1,xxx,xxx บาท 
(หนึ้สินของกานต์เองที่กู้มา)

รายรับที่ได้มา
ได้ค่าเช่าบ้านทุกเดือนๆ ละ 5,xxx บาท
ขายของทุกวันนี้คือแย่มากถึงมากที่สุด ไม่มีเงินเก็บจากการขายของเลย
คนรู้จักที่เห็นเรา เค้ามองว่าเราขยัน ขยันมาก จะเอาเงินไปเก็บไว้ไหนกันหมด
ซึ่งเค้าไม่เคยรู้รายจ่ายของเราเลย

ส่วนพ่อกับแม่กานต์ขยันมาก ประหยัดมาก เค้าจะปลูกผักขายตามตลาดในหมู่บ้าน
ได้วันละไม่กี่บาท แต่เงินที่ขายได้เค้าเก็บหมด ของอุปโภค บริโภคภายในบ้านเค้าไม่เคยซื้อ
จะมีกานต์กับพี่สาวคอยซื้อให้ตลอด ดังนั้นแม่มีเงินเก็บแบบเต็มๆ
ส่วนพ่อ เกษียณอายุราชการมาแล้ว หนึ้สินที่กุ้ตอนทำงานอยู่ก็ยังใช้ไม่หมดค่ะ
ปัจจุบันก็ทำนา ปลูกผักช่วยแม่ คอยส่งแม่ไปขายของตลาดนัด
หนี้สินที่กู้มา พ่อจะกู้มาเพื่อซื้อบ้าน และที่นา
พ่อแม่มีลูก 4 คน พ่อซื้อบ้านไว้ให้ มี 4 หลัง ครบทุกคน 
ที่นาถ้ารวมๆ แล้วก็ประมาณ 100 กว่าไร่
พ่อไม่เคยกู้มาเพื่อใช้จ่ายแบบฟุ่มเฟือย เหมือนข้าราชการคนอื่นๆ
การมีที่นาเยอะ มีบ้านหลายหลัง ไม่ได้แปลว่าเรารวย แต่คนอื่นมองว่ารวยในสายตาของไทบ้าน
ไทบ้านประเภทหนึ่งจะพูดว่าพ่อกะแม่ตลอดทำไปทำไม ที่นาก็มีเยอะแล้ว บ้านก็หลายหลัง
ทำให้เหนื่อยทำไม รู้ไหมว่ากว่าจะได้มาแต่ละอย่าง แม่ต้องขายผักได้กี่มัด ต้องเก็บเงินนานแค่ไหน
พ่อต้องกู้ธนาคารมาซื้อ สุดท้ายคนที่พูดแบบนี้ก็มาขอเช่าที่นาของพ่อกับแม่ทำมาหากิน
จนกานต์คิดในใจว่าถ้าแม่กูไม่เก็บจนได้ซื้อที่นา พวกจะมีที่ทำกินกันมะ
ก่อนที่กานต์จะกู้ซื้อที่นาพ่อเคยบอกว่ารถยนต์อย่าเพิ่งซื้อเนอะลูก ภาระหนี้สินทางบ้านยังเยอะ
รถยนต์มีขายทุกวัน ออกรุ่นใหม่ๆ มาทุกปี จะเลือกซื้อวันไหนก็ได้
แต่ที่ดินมีมาไม่บ่อยนะ ทุกวันนี้ขับรถมาทำงาน ก็ยังเป็นรถมอเตอร์ไซต์
แต่ดีอย่างที่พ่อกับแม่ เวลามีหนี้สิน เค้าจะบอกลูกให้รู้ ไม่ปิดบัง
แล้วก็จะบอกอยู่ตลอดเวลาเรื่องการใช้จ่ายเงินให้ประหยัด
เมื่อก่อนตอนกานต์ยังไม่ได้กู้หนี้ยืมสิน กานต์จะให้แม่ทุกเดือนๆ ละ 3,000 บาท
ทุกวันนี้ไม่ได้ให้แล้วค่ะ ติดภาระหนี้สิน ซึ่งเค้าก็เข้าใจ
กานต์ถูกเลี้ยงมาโดยพ่อแม่ไม่ได้ซัปพอตอะไรเลย นอกจากเรื่องเรียน
พอหาเงินใช้เองได้ ก็ไม่เคยมีแบมือขอเงินพ่อและแม่เลย จบปตรี ด้วยเงินของตัวเอง

มีความฝันว่าในชีวิตต้องได้เที่ยวต่างประเทศสักครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำได้
ได้เที่ยวต่างประเทศจากเงินของตัวเอง ก็หลายหมื่นนะ อาศัยจองข้ามปีให้ได้ราคาถูก 
หลังจากที่เที่ยวต่างประเทศครั้งแรกแล้วติดใจ 
เลยตั้งเป้าให้กับตัวเองเลยว่าต้องได้เที่ยวต่างประเทศทุกปี เพื่อซื้อความสุขให้ตัวเอง
ก็อย่างที่กล่าวมาข้างต้น จะไปไหนทำอะไรพ่อแม่ไม่เคยซัปพอต เที่ยวแต่ละปี มาจากเงินของตัวเองทั้งนั้น
เมื่อธันวาคม ปี 2562 ที่ผ่านมาได้พาน้อง 2 คนไปเที่ยวญี่ปุ่นมาค่ะ เงินตัวเองเช่นเคย 
น้องสาวมีช่วยบ้าง ที่เหลือกานต์จะเป็นคนจัดแจงเองทั้งหมด

จนบางทีเราคิด และมองย้อนดูตัวเองว่าบางทีก็หาเงินจนลืมดูแลตัวเองด้วยซ้ำ
กานต์ไม่ใช่คนเข้มแข็งอะไร แต่เป็นเพราะหนี้สิน กานต์ถึงต้องอดทน และเข้มแข็งให้ได้
เห็นพ่อแม่เป็นแบบอย่าง ซึ่งปัจจุบันเค้าก็แก่มากแล้ว ไม่อยากให้เค้าทำงานหนัก
เชื่อไหมว่าพอได้พาน้องเที่ยวแล้ว กานต์อยากพาพ่อกับแม่ไปเที่ยวบ้าง
อยากให้เค้าเห็น ให้ได้รู้ และให้อยากสัมผัส การไปเที่ยวต่างประเทศสักคร้ง
พูดแบบนี้ให้พ่อได้ยิน พ่อตอบกลับว่าอย่าเพิ่งเลย รอใช้หนี้หมดก่อน
กานต์นี่มองบนเลย ชาติไหนจะใช้หมดละ 
ราคาข้าวตอนนี้ตกต่ำมาก ถ้าจะขายใช้หนี้มันก็ได้ไม่เยอะ แต่ไม่ใช่ไม่ขายนะ
เพราะตอนนี้ข้าวราคามันยังตกต่ำอยู่ รอให้ข้าวขึ้นราคาถึงมีเงิน
ใช้หนี้ธนาคาร ทยอยใช้กันไป เรื่องเที่ยวซื้อความสุขให้ตัวเองก้ต้องมี
เราเองต้องจัดสรรเงิน จัดสรรเวลาให้มีระบบ ไม่กระทบต่อการใช้หนี้ธนาคาร
แค่นี้ก็น่าจะโอเคแล้วแหละมั้ง

...ยังมีเรื่องราวของชีวิตอีกเยอะ คงเขียนนิยาย ได้เลยแหละมั้ง
กระทู้นี้แค่อยากออกมาระบายความรู้สึกของตัวเอง
อยากแชร์ เพื่ออยากรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
กระทู้นี้จะถูกจะผิดเรื่องการใช้ภาษา การเรียบเรียงคำพูด อะไรก็แล้วแต่
ต้องขออภัยนะคะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่