ดิฉันซื้อบ้านโครงการหนึ่ง บริษัทดังใหญ่มาก ขออนุญาติยังไม่เอยชื่อนะคะ เป็นโครงการมีชื่อเสียงและใหญ่มาก ซื้อเพราะชื่อเสียงเลย เพราะอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาการแก้ไขของโครงการอยู่ เรื่องมีอยู่ว่า ฉันได้ไปซื้อบ้าน ราคา 10 ล้าน แต่โดยคำพูดของ Sale ว่าราคานี้ต้องโอนภายในเดือนนี้ เพราะเป็นแปลงมุมทั้งโครงการไซส์นี้มีแปลงมุมอยู่หลังเดียว + บวกกับเรา เอาชินแสมาดูบ้าน ชินแสโอเครกับฮวงจุ้ย จึงตัดสินใจโอนก่อน เซ็นรับบ้าน แต่แหละแล้ว ความเชื่อใจก็มักกลับมาทำร้ายเราเสมอ เพราะเราโอนก่อน การบริการทุกอย่าง จึงไม่เหมือนยังไม่โอน ทำไมถึงพูดคำนี้รู้ไหมเพราะว่าคนที่เค้ายังไม่โอนน่ะเค้าเก็บบ้านให้คนที่ยังไม่โอนก่อนเพื่อที่จะได้ให้คนนั้นโอนในขณะที่บ้านเราอ่ะทิ้งไว้แล้วก็ค่อยค่อยเก็บเรายอมรับเราโง่เองเพราะความเชื่อใจเราคิดว่าถ้าเราทำดีกับเขาเขาก็น่าจะให้สิ่งดีดีกับเราต่อแต่มันคงไม่มีอยู่จริงในสายงานอาชีพนี้ต้องโหดต้องเข้มงวดเท่านั้นถึงจะดูน่ากลัวถ้าดีดีอ่ะเค้าดูเราเป็นเหยื่อ ถามว่าโครงการแก้ให้ไหม แก้ให้คะ แต่ก็ต้อง fight กันจนเหนื่อย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับผู้บริโภค การที่ดิฉันมาตั้งกระทู้วันนี้แค่หวังว่าเหตุการณ์ที่ดิฉันเจอจะเป็นประโยชน์กับคนอื่น เพราะไม่อยากให้คนอื่นเจอความทุกข์อย่างที่เราเจอ เก็บเงินมาทั้งชีวิต ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาตะเวณดูมาหลายโครงการ แต่เราก็มาเจอกับตัวเองก่อนหน้านั้นดูในกระทู้พันทิปเยอะมากเห็น คนจะปัญหาไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเองเพราะตอนเราดูเราดูแต่บ้านตัวอย่างทุกอย่างมันสวยงามไปหมด จนไม่เห็นดีเทลที่แท้จริง
เริ่มเลยนะคะ คือด้วยความที่เรามีความเชื่อเรื่องชินแส ชินแสเดินไปจิ้มแปลงมุม เราจึงตัดสินใจจอง วันที่จองประมาณช่วงกลางเดือนกันยา ตอนนั้นคือบ้านมีโครงสร้างแต่ยังสร้างไม่เสร็จ เพราะหลังที่เราไปจองเป็นเฟสที่เขายังไม่เปิดขาย แต่โครงการก็อยากขายเป็นปกติ จึงนำกำลังช่างมารุมบ้านเราเป็น 10 ชีวิต เพื่อที่จะ ให้บ้านเราเสร็จในสภาพสวยงามภายใน 30 กย.62 เพื่อจะบีบบังคับให้เราโอน วันที่โอนคือเราก็บอกนะ รอหน่อยก็ได้ เราไม่รีบ เซลล์ก็บอกว่าไม่ได้คะ ถ้าเลยไตรมาสนี้แล้วจะไม่ได้ราคานี้ เอาจริงๆในใจตอนนั้น คือเป็นความเชื่อเรื่องชินแสล้วนๆอย่างที่บอกว่าหลังมุมทั้งโครงการมีหลังเดียว ( เราโง่เอง ) ซึ่งเราก็ตัดสินใจโอน โครงการกับแบงค์เหมือน ร่วมมือกัน พนักงานแบงค์มาหาเราที่บ้านตอนวันที่ 29 กย.62 ตอน 4 ทุ่มกว่าๆ เกือบห้าทุ่ม เพื่อจะให้เราโอนในวันที่ 30 กย. 62 ที่เราตัดสินใจโอนโดยที่เรายังไม่ได้ตรวจบ้าน มันดูเป็นเหตุผลที่โง่มากๆใช่คะ ทุกวันนี้ยังเจ็บใจตัวเองอยู่เลย แต่เพราะความเชื่อใจล้วนๆคะทุกคน เรารู้สึกถูกชะตากับ Sale คิดว่าเขาคงไม่หลอกเรา และ มีเพื่อนพี่ชายเราทำงานอยู่ในนั้นด้วย คนรู้จักกันคงไม่น่าทำกัน ความสัมพันธ์คงไม่พังลงเพียงเพราะแค่ขายบ้านหลังนี้ ที่พิมมาทั้งหมดแค่อยากจะเตือนเพื่อนๆ ว่าห้ามเชื่อใจใครเด็ดขาด ไม่งั้นจะเจอเหตุการณ์แบบที่เราเจอ มาเริ่มกันต่อนะคะ หลังจากที่เราเซ็นรับบ้านเราก็เข้าไปตรวจบ้านตาม process ของโครงการ ซึ่งเข้าไปตรวจครั้งแรกก็ออกรายการตามปกติมีการเข้าไปตรวจสองถึงสามครั้งโดยก่อนที่โอนโครงการได้รับปากว่าจะเก็บทั้งหมดให้เสร็จภายในหนึ่งเดือนแต่แล้วพอครบ 1 เดือน มันก็มีบางจุดที่ไม่สวยงามเราก็เข้าใจโครงการว่าเดี๋ยวเราก็ต้องบิวเพราะเขาบอกว่าถ้าบิ้วมันก็ไม่เห็นนะ เราก็โอเคไม่มีปัญหาก็ไม่ได้เค้าเก็บงานในส่วนนั้นเพราะเราจะต่อเติมบ้านอยู่แล้วแล้วเรานัดช่างไว้ช่างว่างมาเพื่อรอเราเราเกรงใจช่างที่เราดำเนินการไว้คือช่างบิวกับช่างต่อเติมหลังคา จึงตัดสินใจเซ็นรับบ้านเพราะเห็นว่ามีประกันหลังการขายหนึ่งปี หลังจากเซ็นรับบ้านมาปุ๊บบ้านเราลงเขาเสาเข็มเพื่อที่จะต่อเติมหลังคากับหลังบ้านตามกระบวนการของโครงการเว้นระยะถูกต้องบ้านเริ่มมีปัญหาเราไม่แน่ใจว่ามันเกิดจากการสั่นสะเทือนของเสาเข็มหรือเปล่าแต่โครงการก็โบ้ยมาว่าเป็นความผิดของเรา ถ้าซื้อบ้านแล้วลงเสาเข็มไม่ได้ก็ไม่ต้องซื้อหรอกเนอะคิดตามหลักความเป็นจริง สิ่งที่เจอมาทุกอย่างเริ่มจากกระจกสกายไลท์แตกผนังร้าวร้าวคือร้าวทะลุสิ่งที่ร้าวคือเกิดจากการแก้แบบ จากซอยก่อนคือซอยก่อนเป็นกระจกบานใหญ่แล้วเหลือเป็นกระจกบานเล็กค่อยค่อยร้าวทีละจุดซึ่งเราก็ค่อยค่อยเจอที่เราจุด จนครบทั่วบ้านหลังคาน้ำรั่ว อ่างล้างหน้าร่วง สีพ่นทรายรอบรอบหลุดออกหมด น้ำสาดตอนฝนเข้า ช่างมาทำรีโมทประตูหน้าบ้านหาสายไฟไม่เจอเอาจริงๆบ้านเราเกือบเจอปัญหาแทบทุกอย่าง ตลอดระยะเวลาที่โอนบ้านมาเข้าเดือนที่สี่โครงการแกบ้านมาตลอดแต่กว่าจะแก้ได้มันเหนื่อยมากเลยทุกคนเนี่ยแหละคือจุดที่อยากจะบอกเพราะเค้าโยนไปให้หลังการขาย ถ้าก่อนโอนใช่ไหมคะโครงการจะแก้ให้เราทุกอย่างเราไม่พอใจอะไรก็แล้วแต่โครงการจะแก้ให้เราทุกอย่าง นี่คือจุดที่อยากบอกทุกคนว่าให้โครงการแก้ให้ทุกคนพึงพอใจก่อนก่อนที่จะเซ็นรับบ้านอย่าเซ็นรับบ้านก่อนเหมือนเรา มาเล่าต่อนะคะเราจะเล่าอาจจะวกไปวนมาเนอะเพราะมันจับใจความไม่ถูกเพราะมันเป็นระยะเวลาที่แบบต่อเนื่องและยาวนานจนเข้าเดือนที่สี่สิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดเจนเลยคือระหว่างโครงการกับหลังการขายเกี่ยงกันเพื่อเคราะวงเงินที่จะมาแก้บ้านเรา ซึ่งสิ่งเราเนี่ยมันไม่ใช่หน้าที่ที่ผู้บริโภคอย่างเราต้องมานั่งรับรู้เราเป็นผู้มาซื้อแต่เรากลับต้องมานั่งยอมรับในสิ่งที่เราไม่ได้ทำขอยกตัวอย่างนะคะทุกครั้งที่เราแจ้งปัญหาของบ้านไปเมื่อก่อนเราจะเรียกไปที่โครงการเพราะว่าตอนที่เราตรวจบ้านโครงการเป็นคนคุมถูกต้องไหมคะก็จะแจ้งเซลล์ที่เคยซื้อขายกัน แต่พอหลังหลังพอเราโทรไปปุ๊บเค้าก็จะให้เราไปติดต่อที่หลังการขายเองเนี่ยแหละค่ะผลของการที่โอนบ้านก่อน เราก็โอเคไม่มีปัญหาเพราะเราอยากให้บ้านเราแก้ให้มันเสร็จเสร็จจุดประสงค์ที่เราซื้อบ้านเราก็อยากใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในบ้านไม่ได้อยากจะมาสร้างศัตรูกับใคร แล้วทุกครั้งที่มาสิ่งที่จะบอกคือมันเหนื่อยมากเลยค่ะมันเหนื่อยกับการที่เราต้องมานั่งไฟท์กับโครงการเพราะเค้าจะไม่ยอมเปลี่ยนให้เรา เค้าจะใช้วิธีการแก้แบบลวกๆ ฟังดูแล้วอธิบายยากนะคะบางจุดที่เค้าแก้มาแล้วไม่ผ่านเราก็ให้ช่างของเราแก้เองเพราะอย่างที่บอกไปว่าบ้านเราต่อเติมแปดในสิ่งที่มันเหนือการควบคุมของเราเช่นหลังคาน้ำรั่วสกายไลท์รั่วอย่างเนี่ยเราต้องพึ่งโครงการตลอดเวลาสี่เดือนที่ผ่านมาค่ะถามว่าโครงการรับผิดชอบไหมจะบอกว่ารับผิดชอบแต่รับผิดชอบแบบไม่เต็มใจทุกอย่างที่รับผิดชอบเหมือนกับการถูกบังคับเพราะเราไม่มีเรื่องไปหนึ่งรอบแล้วโดยแจ้งเข้าไปที่ส่วนกลางเค้าจึงจัดคนเข้ามาดูแลแก้ไขซึ่งก็แก้จนมาเรื่อยเรื่อยจนเหลือรายการสุดท้ายคือรายการสกายไลท์เราต้องขอเริ่มแบบนี้ก่อนนะคะเราซื้อบ้านหลังนี้เพราะสกายไลท์มันเป็นจุดความสวยงามของบ้านหลังนี้ แต่ปรากฏว่าสกายไลท์เริ่มต้นจากการที่กระจกแตกแล้วช่างก็มาเปลี่ยนกระจก แต่ทำแบบไม่เรียบร้อยเลยคือสภาพไม่โอเคมากคืออยากจะลงภาพมากนะคะแต่อย่างที่บอกว่าเราไม่อยากจะเปิดเผยว่าเป็นโครงการอะไรนะคะจุดประสงค์ที่มาบอกวันนี้คือเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่จะซื้อบ้านละกำลังหลงผิดคิดที่จะโอนก่อนตรวจบ้านเราอยากให้เคสของเราเป็นอุทาหรณ์ให้กับคุณ ต่อค่ะปรากฏว่าพอช่างมาเปลี่ยนสกายไลท์ปุ๊กปัญหาที่ตามมาคือสกายไลท์น้ำรั่วซึ่งเป็นจุดโชว์ของบ้านนะคะรั่วแบบฝนสาดอะค่ะ โครงการก็ให้ช่างสกายไลท์เข้ามาแก้โดยการยิง Siri โคนคือยิ่งแบบเน่ามากขี้เหร่มากคือมีรอยคาบ Siri โครเต็มบนกระจกไปหมด ตอนแกมาครั้งแรกหยุดรั่วเราก็ไม่ได้อะไรเราก็เลยถามเขาว่า จะมาเก็บความสวยงามให้เมื่อไหร่เค้าบอกว่าเดี๋ยวจะมาเก็บพร้อมให้กับสีรอบบ้านที่จะใช้ประกันหนึ่งปีเพราะบ้านมีประกันหนึ่งปีเราก็โอเคไม่มีปัญหาเพราะเห็นว่าจะได้เก็บทีเดียวเพราะบ้านเรากำลังทำอยู่กำลังบิ๊วอยู่ด้วยมันก็กำลังเลอะแต่สิ่งที่เราเจอคือสกายไลท์เปรี้ยวลงไปข้างหนึ่งถ้าคุณมองจากกระจกข้างในปุ๊บอ่ะคุณจะเห็นความขี้เหร่ของมันเลยจนถึงตอนเนี่ยโครงการเข้ามาแกถึงที่สี่แล้วจนวันนี้เรานัดเขาเข้ามาคุยว่าสกายไลท์มันยังเบี้ยวอยู่เลยคุณจะทำยังไงเค้าก็เลยบอกว่าเดี๋ยวขอไปคุยกันก่อนขอไปปรึกษากันก่อนซึ่งบ้านยังไม่เคยเข้าอยู่และเป็นปัญหาอย่างนี้มาตั้งแต่ก่อนที่จะเซ็นรับบ้านเพราะความเรียบร้อยของสกายไลท์อ่ะมันไม่เรียบร้อยมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วแต่มันเป็นความเรียบร้อยทางด้านสวยงามตอนที่เซ็นรับบ้านคือ กระจกยังไม่แตกปัญหาต่างๆคือมมันเป็นปัญหาเรื่องความสวยงามเราก็เลยอาไม่เป็นไรเดี๋ยวค่อยเก็บทีเดียวก็ได้แต่พอระหว่างที่กระจกมันแตกปุ๊บน้ำรั่วปุ๊บมันมีการเข้ามาแก้ตลอดจนมันเละมากๆสภาพคือขี้เหร่มากๆถ้าเทียบกับบ้านหลังอื่นเรามีรูปและเก็บหลักฐานไว้ทุกอย่างค่ะแต่เราไม่อยากลงเพราะถ้าลงปุ๊บคุณจะรู้ทันทีว่าเป็นโครงการอะไรอย่างที่บอกว่าตอนเนี่ยมันอยู่ในขั้นตอนการแก้ไขเราลอความรับผิดชอบจากโครงการอยู่ค่ะ การไล่เรียงเหตุการณ์อาจจะดูข้ามไปข้ามมาเพราะว่าตลอดเวลาสี่เดือนที่ผ่านมาบ้านดิฉันโครงการเข้ามาซ่อมตลอด จนถึงวันนี้ตอนนี้นี่ฉันก็กำลังรอคำตอบจากโครงการว่าเค้าจะทำยังไงกับสกายไลท์ต่อไป เพิ่มเติมนิดหนึ่งค่ะแต่สกายไลท์อ่ะกระจกแตกก่อนที่เราจะลงเสาเข็มนะคะเรารับบ้านมาไม่กี่วันกระจกก็แตกเลยเราจึงคิดว่าบ้านมันต้องแข็งแรงมากพอที่มันจะทำให้เราลงเสาเข็มได้ทุกคนซื้อบ้านมันต้องลงได้ถ้าซื้อบ้านแล้วลงไม่ได้จ๊ะซื้อทำไมจริงมั้ยคะ สิ่งที่เราจะบอกจากประสบการณ์ที่เราซื้อบ้านหลังนี้ตลอดระยะเวลาสี่เดือนที่ผ่านมานะคะเราไซด์กับเจ้าหน้าที่โครงการในการซ่อมแซมเยอะมากทุกครั้งที่เราเรียกเค้ามาเค้าจะพยามยัดเยียดให้เรารับในสิ่งที่โครงการทำโดยอ้างว่าเป็น Error ที่เขามีให้สำหรับการทำ ตอนแรกฉันยอมรับว่านี่ฉันโง่มากไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องบ้านเลยค่ะก็เชื่อในสิ่งที่เขาพูดบางอย่างเขาพูดมาก็ยอมรับแล้วก็ยอมยอมไปแต่ความยอมอะค่ะลึกลึกมันไม่ได้รู้สึกสบายใจค่ะ ซื้อบ้านหลังละ 10,000,000 แต่ต้องทนเห็นบ้านที่ไม่เรียบร้อยอยู่ทุกวันเห็นจุดข้อบกพร่องอยู่ทุกวัน จนตัวบ้านเองอะค่ะมันเกิดปัญหาขึ้นมาเองมันอาจจะเป็นจังหวัดที่โชคดีของเราที่มันเกิดรอยร้าวทำให้โครงการต้องเข้ามาเก็บบ้านเราและทาสีใหม่ต่างๆนานาเหมือนมาเก็บงานให้เราใหม่อ่ะค่ะถ้าไม่เกิดเคสแบบนี้มันก็คงไม่เกิดการซ่อมแซมทีนี้มาพูดถึง Error ที่เค้าบอกนะคะถ้ามีภาพมันคงจะเห็นง่ายขึ้นเนอะเวลาที่เขาอ้างว่าเป็น Error ค่ะนี่ฉันด้วยความข้องใจก็เลยเดินเข้าบ้านหลังอื่นวัดมันทุกหลังเลยค่ะปรากฏว่าหลังอื่นมันไม่เป็นนะคะเพราะฉะนั้นสิ่งที่จะเตือนอย่าเชื่อในสิ่งที่เขาพูดถ้าเราไม่ชอบอะไรก็แล้วแต่เราให้เค้าแก้เลยค่ะแก้ก่อนที่จะโอนเลยค่ะเพื่อนดิฉันจองพร้อมกับดิฉันแต่เค้าเพิ่งโอนไปเมื่อเดือนธันวาเค้าไม่โอนก่อนเพราะเค้าให้โครงการแก้จนจบจนสิ้นสุดท้ายแล้วค่ะทุกคนเงื่อนและโปรโมชั่นต่างๆได้เท่ากันหมดเป็นกุศโลบายที่เซลล์ทำมาหลอกให้เราโอนทั้งนั้น ว่าจะปรับราคาขึ้นเพื่อนดิฉันจะได้ราคาเท่านี้ฉันแถมหลังอื่นๆได้ถูกกว่าด้วย น่าเจ็บใจมั้ยคะโอนก่อนใกล้บ้านไม่ดีแถมยังต้องมานั่งทะเลาะกับโครงการเรื่องซ่อมบ้านยังไม่ได้อยู่แต่โครงการเกี่ยงกันซ่อมกลับหลังการขายเกี่ยงกันว่าใครจะเป็นคนออกตังค์ในการซ่อมตลกนะคะวันนี้ขอเพียงเท่านี้เนาะแล้วเดี๋ยวจะมาอัพเดทโครงการยังไงต่อถ้าเค้าไม่มีการรับผิดชอบยังไงนี่ฉันจะมาลงภาพประกอบทุกอย่าง ส่วนเรื่องสกายไลท์ตอนนี้ฉันรอการแก้ไขจากเขาอยู่ตอนนี้คือคือเดือนที่สี่ของการแก้ไขแล้ว เค้าเกี่ยงกันแก้ไขอยู่เพราะมันแก้ค่อนข้างยากมันต้องรื้อสกายไลท์ทั้งหมดเพราะความเบี้ยวมันเบี้ยวมาจากสกายไลท์ ฉันก็กำลังรอคำตอบจากเขาอยู่ว่าเค้าจะทำยังไง...ถ้าไม่แก้ไขอีพีหน้าชัดเจนแน่นอนค่ะรูปภาพทุกอย่างเพราะทนมาสี่เดือนแล้วค่ะเราพยามให้โอกาสเขามาตลอดบอกตรงตรงทุกวันนี้เวลาขับรถเข้าคงการไม่อยากเจอหน้าโครงการเลยค่ะเสียความรู้สึกโคตรเสียความรู้สึกเลยค่ะ
เตือนคนซื้อบ้าน
เริ่มเลยนะคะ คือด้วยความที่เรามีความเชื่อเรื่องชินแส ชินแสเดินไปจิ้มแปลงมุม เราจึงตัดสินใจจอง วันที่จองประมาณช่วงกลางเดือนกันยา ตอนนั้นคือบ้านมีโครงสร้างแต่ยังสร้างไม่เสร็จ เพราะหลังที่เราไปจองเป็นเฟสที่เขายังไม่เปิดขาย แต่โครงการก็อยากขายเป็นปกติ จึงนำกำลังช่างมารุมบ้านเราเป็น 10 ชีวิต เพื่อที่จะ ให้บ้านเราเสร็จในสภาพสวยงามภายใน 30 กย.62 เพื่อจะบีบบังคับให้เราโอน วันที่โอนคือเราก็บอกนะ รอหน่อยก็ได้ เราไม่รีบ เซลล์ก็บอกว่าไม่ได้คะ ถ้าเลยไตรมาสนี้แล้วจะไม่ได้ราคานี้ เอาจริงๆในใจตอนนั้น คือเป็นความเชื่อเรื่องชินแสล้วนๆอย่างที่บอกว่าหลังมุมทั้งโครงการมีหลังเดียว ( เราโง่เอง ) ซึ่งเราก็ตัดสินใจโอน โครงการกับแบงค์เหมือน ร่วมมือกัน พนักงานแบงค์มาหาเราที่บ้านตอนวันที่ 29 กย.62 ตอน 4 ทุ่มกว่าๆ เกือบห้าทุ่ม เพื่อจะให้เราโอนในวันที่ 30 กย. 62 ที่เราตัดสินใจโอนโดยที่เรายังไม่ได้ตรวจบ้าน มันดูเป็นเหตุผลที่โง่มากๆใช่คะ ทุกวันนี้ยังเจ็บใจตัวเองอยู่เลย แต่เพราะความเชื่อใจล้วนๆคะทุกคน เรารู้สึกถูกชะตากับ Sale คิดว่าเขาคงไม่หลอกเรา และ มีเพื่อนพี่ชายเราทำงานอยู่ในนั้นด้วย คนรู้จักกันคงไม่น่าทำกัน ความสัมพันธ์คงไม่พังลงเพียงเพราะแค่ขายบ้านหลังนี้ ที่พิมมาทั้งหมดแค่อยากจะเตือนเพื่อนๆ ว่าห้ามเชื่อใจใครเด็ดขาด ไม่งั้นจะเจอเหตุการณ์แบบที่เราเจอ มาเริ่มกันต่อนะคะ หลังจากที่เราเซ็นรับบ้านเราก็เข้าไปตรวจบ้านตาม process ของโครงการ ซึ่งเข้าไปตรวจครั้งแรกก็ออกรายการตามปกติมีการเข้าไปตรวจสองถึงสามครั้งโดยก่อนที่โอนโครงการได้รับปากว่าจะเก็บทั้งหมดให้เสร็จภายในหนึ่งเดือนแต่แล้วพอครบ 1 เดือน มันก็มีบางจุดที่ไม่สวยงามเราก็เข้าใจโครงการว่าเดี๋ยวเราก็ต้องบิวเพราะเขาบอกว่าถ้าบิ้วมันก็ไม่เห็นนะ เราก็โอเคไม่มีปัญหาก็ไม่ได้เค้าเก็บงานในส่วนนั้นเพราะเราจะต่อเติมบ้านอยู่แล้วแล้วเรานัดช่างไว้ช่างว่างมาเพื่อรอเราเราเกรงใจช่างที่เราดำเนินการไว้คือช่างบิวกับช่างต่อเติมหลังคา จึงตัดสินใจเซ็นรับบ้านเพราะเห็นว่ามีประกันหลังการขายหนึ่งปี หลังจากเซ็นรับบ้านมาปุ๊บบ้านเราลงเขาเสาเข็มเพื่อที่จะต่อเติมหลังคากับหลังบ้านตามกระบวนการของโครงการเว้นระยะถูกต้องบ้านเริ่มมีปัญหาเราไม่แน่ใจว่ามันเกิดจากการสั่นสะเทือนของเสาเข็มหรือเปล่าแต่โครงการก็โบ้ยมาว่าเป็นความผิดของเรา ถ้าซื้อบ้านแล้วลงเสาเข็มไม่ได้ก็ไม่ต้องซื้อหรอกเนอะคิดตามหลักความเป็นจริง สิ่งที่เจอมาทุกอย่างเริ่มจากกระจกสกายไลท์แตกผนังร้าวร้าวคือร้าวทะลุสิ่งที่ร้าวคือเกิดจากการแก้แบบ จากซอยก่อนคือซอยก่อนเป็นกระจกบานใหญ่แล้วเหลือเป็นกระจกบานเล็กค่อยค่อยร้าวทีละจุดซึ่งเราก็ค่อยค่อยเจอที่เราจุด จนครบทั่วบ้านหลังคาน้ำรั่ว อ่างล้างหน้าร่วง สีพ่นทรายรอบรอบหลุดออกหมด น้ำสาดตอนฝนเข้า ช่างมาทำรีโมทประตูหน้าบ้านหาสายไฟไม่เจอเอาจริงๆบ้านเราเกือบเจอปัญหาแทบทุกอย่าง ตลอดระยะเวลาที่โอนบ้านมาเข้าเดือนที่สี่โครงการแกบ้านมาตลอดแต่กว่าจะแก้ได้มันเหนื่อยมากเลยทุกคนเนี่ยแหละคือจุดที่อยากจะบอกเพราะเค้าโยนไปให้หลังการขาย ถ้าก่อนโอนใช่ไหมคะโครงการจะแก้ให้เราทุกอย่างเราไม่พอใจอะไรก็แล้วแต่โครงการจะแก้ให้เราทุกอย่าง นี่คือจุดที่อยากบอกทุกคนว่าให้โครงการแก้ให้ทุกคนพึงพอใจก่อนก่อนที่จะเซ็นรับบ้านอย่าเซ็นรับบ้านก่อนเหมือนเรา มาเล่าต่อนะคะเราจะเล่าอาจจะวกไปวนมาเนอะเพราะมันจับใจความไม่ถูกเพราะมันเป็นระยะเวลาที่แบบต่อเนื่องและยาวนานจนเข้าเดือนที่สี่สิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดเจนเลยคือระหว่างโครงการกับหลังการขายเกี่ยงกันเพื่อเคราะวงเงินที่จะมาแก้บ้านเรา ซึ่งสิ่งเราเนี่ยมันไม่ใช่หน้าที่ที่ผู้บริโภคอย่างเราต้องมานั่งรับรู้เราเป็นผู้มาซื้อแต่เรากลับต้องมานั่งยอมรับในสิ่งที่เราไม่ได้ทำขอยกตัวอย่างนะคะทุกครั้งที่เราแจ้งปัญหาของบ้านไปเมื่อก่อนเราจะเรียกไปที่โครงการเพราะว่าตอนที่เราตรวจบ้านโครงการเป็นคนคุมถูกต้องไหมคะก็จะแจ้งเซลล์ที่เคยซื้อขายกัน แต่พอหลังหลังพอเราโทรไปปุ๊บเค้าก็จะให้เราไปติดต่อที่หลังการขายเองเนี่ยแหละค่ะผลของการที่โอนบ้านก่อน เราก็โอเคไม่มีปัญหาเพราะเราอยากให้บ้านเราแก้ให้มันเสร็จเสร็จจุดประสงค์ที่เราซื้อบ้านเราก็อยากใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในบ้านไม่ได้อยากจะมาสร้างศัตรูกับใคร แล้วทุกครั้งที่มาสิ่งที่จะบอกคือมันเหนื่อยมากเลยค่ะมันเหนื่อยกับการที่เราต้องมานั่งไฟท์กับโครงการเพราะเค้าจะไม่ยอมเปลี่ยนให้เรา เค้าจะใช้วิธีการแก้แบบลวกๆ ฟังดูแล้วอธิบายยากนะคะบางจุดที่เค้าแก้มาแล้วไม่ผ่านเราก็ให้ช่างของเราแก้เองเพราะอย่างที่บอกไปว่าบ้านเราต่อเติมแปดในสิ่งที่มันเหนือการควบคุมของเราเช่นหลังคาน้ำรั่วสกายไลท์รั่วอย่างเนี่ยเราต้องพึ่งโครงการตลอดเวลาสี่เดือนที่ผ่านมาค่ะถามว่าโครงการรับผิดชอบไหมจะบอกว่ารับผิดชอบแต่รับผิดชอบแบบไม่เต็มใจทุกอย่างที่รับผิดชอบเหมือนกับการถูกบังคับเพราะเราไม่มีเรื่องไปหนึ่งรอบแล้วโดยแจ้งเข้าไปที่ส่วนกลางเค้าจึงจัดคนเข้ามาดูแลแก้ไขซึ่งก็แก้จนมาเรื่อยเรื่อยจนเหลือรายการสุดท้ายคือรายการสกายไลท์เราต้องขอเริ่มแบบนี้ก่อนนะคะเราซื้อบ้านหลังนี้เพราะสกายไลท์มันเป็นจุดความสวยงามของบ้านหลังนี้ แต่ปรากฏว่าสกายไลท์เริ่มต้นจากการที่กระจกแตกแล้วช่างก็มาเปลี่ยนกระจก แต่ทำแบบไม่เรียบร้อยเลยคือสภาพไม่โอเคมากคืออยากจะลงภาพมากนะคะแต่อย่างที่บอกว่าเราไม่อยากจะเปิดเผยว่าเป็นโครงการอะไรนะคะจุดประสงค์ที่มาบอกวันนี้คือเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่จะซื้อบ้านละกำลังหลงผิดคิดที่จะโอนก่อนตรวจบ้านเราอยากให้เคสของเราเป็นอุทาหรณ์ให้กับคุณ ต่อค่ะปรากฏว่าพอช่างมาเปลี่ยนสกายไลท์ปุ๊กปัญหาที่ตามมาคือสกายไลท์น้ำรั่วซึ่งเป็นจุดโชว์ของบ้านนะคะรั่วแบบฝนสาดอะค่ะ โครงการก็ให้ช่างสกายไลท์เข้ามาแก้โดยการยิง Siri โคนคือยิ่งแบบเน่ามากขี้เหร่มากคือมีรอยคาบ Siri โครเต็มบนกระจกไปหมด ตอนแกมาครั้งแรกหยุดรั่วเราก็ไม่ได้อะไรเราก็เลยถามเขาว่า จะมาเก็บความสวยงามให้เมื่อไหร่เค้าบอกว่าเดี๋ยวจะมาเก็บพร้อมให้กับสีรอบบ้านที่จะใช้ประกันหนึ่งปีเพราะบ้านมีประกันหนึ่งปีเราก็โอเคไม่มีปัญหาเพราะเห็นว่าจะได้เก็บทีเดียวเพราะบ้านเรากำลังทำอยู่กำลังบิ๊วอยู่ด้วยมันก็กำลังเลอะแต่สิ่งที่เราเจอคือสกายไลท์เปรี้ยวลงไปข้างหนึ่งถ้าคุณมองจากกระจกข้างในปุ๊บอ่ะคุณจะเห็นความขี้เหร่ของมันเลยจนถึงตอนเนี่ยโครงการเข้ามาแกถึงที่สี่แล้วจนวันนี้เรานัดเขาเข้ามาคุยว่าสกายไลท์มันยังเบี้ยวอยู่เลยคุณจะทำยังไงเค้าก็เลยบอกว่าเดี๋ยวขอไปคุยกันก่อนขอไปปรึกษากันก่อนซึ่งบ้านยังไม่เคยเข้าอยู่และเป็นปัญหาอย่างนี้มาตั้งแต่ก่อนที่จะเซ็นรับบ้านเพราะความเรียบร้อยของสกายไลท์อ่ะมันไม่เรียบร้อยมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วแต่มันเป็นความเรียบร้อยทางด้านสวยงามตอนที่เซ็นรับบ้านคือ กระจกยังไม่แตกปัญหาต่างๆคือมมันเป็นปัญหาเรื่องความสวยงามเราก็เลยอาไม่เป็นไรเดี๋ยวค่อยเก็บทีเดียวก็ได้แต่พอระหว่างที่กระจกมันแตกปุ๊บน้ำรั่วปุ๊บมันมีการเข้ามาแก้ตลอดจนมันเละมากๆสภาพคือขี้เหร่มากๆถ้าเทียบกับบ้านหลังอื่นเรามีรูปและเก็บหลักฐานไว้ทุกอย่างค่ะแต่เราไม่อยากลงเพราะถ้าลงปุ๊บคุณจะรู้ทันทีว่าเป็นโครงการอะไรอย่างที่บอกว่าตอนเนี่ยมันอยู่ในขั้นตอนการแก้ไขเราลอความรับผิดชอบจากโครงการอยู่ค่ะ การไล่เรียงเหตุการณ์อาจจะดูข้ามไปข้ามมาเพราะว่าตลอดเวลาสี่เดือนที่ผ่านมาบ้านดิฉันโครงการเข้ามาซ่อมตลอด จนถึงวันนี้ตอนนี้นี่ฉันก็กำลังรอคำตอบจากโครงการว่าเค้าจะทำยังไงกับสกายไลท์ต่อไป เพิ่มเติมนิดหนึ่งค่ะแต่สกายไลท์อ่ะกระจกแตกก่อนที่เราจะลงเสาเข็มนะคะเรารับบ้านมาไม่กี่วันกระจกก็แตกเลยเราจึงคิดว่าบ้านมันต้องแข็งแรงมากพอที่มันจะทำให้เราลงเสาเข็มได้ทุกคนซื้อบ้านมันต้องลงได้ถ้าซื้อบ้านแล้วลงไม่ได้จ๊ะซื้อทำไมจริงมั้ยคะ สิ่งที่เราจะบอกจากประสบการณ์ที่เราซื้อบ้านหลังนี้ตลอดระยะเวลาสี่เดือนที่ผ่านมานะคะเราไซด์กับเจ้าหน้าที่โครงการในการซ่อมแซมเยอะมากทุกครั้งที่เราเรียกเค้ามาเค้าจะพยามยัดเยียดให้เรารับในสิ่งที่โครงการทำโดยอ้างว่าเป็น Error ที่เขามีให้สำหรับการทำ ตอนแรกฉันยอมรับว่านี่ฉันโง่มากไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องบ้านเลยค่ะก็เชื่อในสิ่งที่เขาพูดบางอย่างเขาพูดมาก็ยอมรับแล้วก็ยอมยอมไปแต่ความยอมอะค่ะลึกลึกมันไม่ได้รู้สึกสบายใจค่ะ ซื้อบ้านหลังละ 10,000,000 แต่ต้องทนเห็นบ้านที่ไม่เรียบร้อยอยู่ทุกวันเห็นจุดข้อบกพร่องอยู่ทุกวัน จนตัวบ้านเองอะค่ะมันเกิดปัญหาขึ้นมาเองมันอาจจะเป็นจังหวัดที่โชคดีของเราที่มันเกิดรอยร้าวทำให้โครงการต้องเข้ามาเก็บบ้านเราและทาสีใหม่ต่างๆนานาเหมือนมาเก็บงานให้เราใหม่อ่ะค่ะถ้าไม่เกิดเคสแบบนี้มันก็คงไม่เกิดการซ่อมแซมทีนี้มาพูดถึง Error ที่เค้าบอกนะคะถ้ามีภาพมันคงจะเห็นง่ายขึ้นเนอะเวลาที่เขาอ้างว่าเป็น Error ค่ะนี่ฉันด้วยความข้องใจก็เลยเดินเข้าบ้านหลังอื่นวัดมันทุกหลังเลยค่ะปรากฏว่าหลังอื่นมันไม่เป็นนะคะเพราะฉะนั้นสิ่งที่จะเตือนอย่าเชื่อในสิ่งที่เขาพูดถ้าเราไม่ชอบอะไรก็แล้วแต่เราให้เค้าแก้เลยค่ะแก้ก่อนที่จะโอนเลยค่ะเพื่อนดิฉันจองพร้อมกับดิฉันแต่เค้าเพิ่งโอนไปเมื่อเดือนธันวาเค้าไม่โอนก่อนเพราะเค้าให้โครงการแก้จนจบจนสิ้นสุดท้ายแล้วค่ะทุกคนเงื่อนและโปรโมชั่นต่างๆได้เท่ากันหมดเป็นกุศโลบายที่เซลล์ทำมาหลอกให้เราโอนทั้งนั้น ว่าจะปรับราคาขึ้นเพื่อนดิฉันจะได้ราคาเท่านี้ฉันแถมหลังอื่นๆได้ถูกกว่าด้วย น่าเจ็บใจมั้ยคะโอนก่อนใกล้บ้านไม่ดีแถมยังต้องมานั่งทะเลาะกับโครงการเรื่องซ่อมบ้านยังไม่ได้อยู่แต่โครงการเกี่ยงกันซ่อมกลับหลังการขายเกี่ยงกันว่าใครจะเป็นคนออกตังค์ในการซ่อมตลกนะคะวันนี้ขอเพียงเท่านี้เนาะแล้วเดี๋ยวจะมาอัพเดทโครงการยังไงต่อถ้าเค้าไม่มีการรับผิดชอบยังไงนี่ฉันจะมาลงภาพประกอบทุกอย่าง ส่วนเรื่องสกายไลท์ตอนนี้ฉันรอการแก้ไขจากเขาอยู่ตอนนี้คือคือเดือนที่สี่ของการแก้ไขแล้ว เค้าเกี่ยงกันแก้ไขอยู่เพราะมันแก้ค่อนข้างยากมันต้องรื้อสกายไลท์ทั้งหมดเพราะความเบี้ยวมันเบี้ยวมาจากสกายไลท์ ฉันก็กำลังรอคำตอบจากเขาอยู่ว่าเค้าจะทำยังไง...ถ้าไม่แก้ไขอีพีหน้าชัดเจนแน่นอนค่ะรูปภาพทุกอย่างเพราะทนมาสี่เดือนแล้วค่ะเราพยามให้โอกาสเขามาตลอดบอกตรงตรงทุกวันนี้เวลาขับรถเข้าคงการไม่อยากเจอหน้าโครงการเลยค่ะเสียความรู้สึกโคตรเสียความรู้สึกเลยค่ะ