[รีวิว/วิจารณ์] ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ [มีสปอย]

### มีสปอยเนื้อเรื่องบางส่วนนะครับ ###

หลังจากรู้ว่า bnk จะทำเรื่องนี้ผมก็ได้ไปเตรียมตัวหาหนังไทบ้านภาคก่อนมาดูเพื่อทำความรู้จักกับจักรวาลของไทบ้าน
และพบว่าหนังสนุกกว่าที่คาดไว้เยอะมาก หนังมีเสน่ห์และความเป็นธรรมชาตินำเสนอวิถีชีวิตคนอีสานแบบง่ายๆนักแสดงก็เล่นกันดี
ดูจบผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงทำรายได้ดีในภาคอีสาน
พอมาร่วมงานกับ bnk ผมก็จะดูด้วยความคาดหวังเสน่ห์แบบของไทบ้าน
จะไม่คาดหวังพล็อตที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนหักมุมเสียดสีล้ำลึกใดๆทั้งสิ้น ทำใจสบายๆแล้วเข้าไปดูหนังเพื่อผ่อนคลาย

เช้านี้ก็เลยรีบไปดูหนังรอบแรกของโรงแถวบ้าน
หนังเปิดเรื่องด้วยการเข้าประเด็นที่เร็วมาก ความรู้สึกชิลๆในตอนแรกต้องปรับสปีดให้ตามประเด็นของหนังอย่างรวดเร็ว
คุณก้องห้วยไร่เล่นเป็นกระเทยดีมากไม่รู้สึกว่าเยอะหรือน้อยไปแถมเข้ากับนักแสดงไทบ้านได้ดี
นักแสดงไทบ้านก็เล่นกันดีมีมุกประปรายแต่ก็ทำให้ขำได้ตลอด ยิ่งตอนจาลอดงานเข้านี่ยิ่งฮา บักมืดครูแก้วหรือฝรั่งก็ตลก
ฝั่งน้องๆเมมเราก็เล่นกันได้ดีนะ ผมชอบพาร์ทซีนเดี่ยวของทุกคนเลย 

หนังดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆให้น้องๆไปใช้ชีวิตอีสานเจอปัญหาเรื่องการกินอยู่เล็กน้อยสลับกับมุกจากฝั่งไทบ้าน
เรื่องอาหารการกินการเข้าห้องน้ำหรือต้องไปดำนาอาจจะดูเพลนๆไปหน่อยเป็นรูปแบบที่เราเห็นบ่อยตามละครไฮโซเข้ากรุง
แต่พอคิดว่ามันเป็นแผนงานของพี่ก้องในเรื่องมันก็ดูมีเหตุผลอยู่ เป็นวิธีละลายพฤติกรรมของคุณก้องแบบเพลนๆนี่แหล่ะ
มันก็เข้ากับสไตลส์หนังที่เน้นความเรียบง่ายดี ผมรู้สึกชอบช่วงนี้ของหนังมากเพราะมันได้ความรู้สึกสบายๆแบบไทบ้านดี

ตัดต่อก็ลื่นไหลดูเข้าใจง่ายมุกก็เข้าถึงง่ายแม้จะไม่ใช่คนอีสาน ไม่มีมุกไหนที่ผมไม่ขำเลย
ช่วงแอบโฆษณาสินค้ากันตรงๆผมก็ไม่รู้สึกขัดเพราะเขาจะตบมุกว่าเป็นการโฆษณาอีกที
ทำให้แม้รู้ทั้งรู้ว่าโฆษณาแต่ก็ยังเผลอขำตามทุกครั้ง

หนังดำเนินเรื่องได้ถูกใจผมนั่งยิ้มตั้งแต่ต้นเรื่อง จนกระทั่งถึงซีนที่จาลอดกับบักมืดเข้ากรุง
ทั้งที่หนังปูประเด็นความผิดพลาดของบักมืดจนโดนจาลอดด่าใส่ขนาดนั้นแถมยังมีซีนขยี้อารมณ์ของบักมืดอีก
พอทั้งสองได้เข้ากรุงแถมถือแตงโมสลักชื่อโมบายไปด้วยผมนึกว่าจะได้เห็นตัวละครแก้ปมที่ปูมาซะอีกแต่กลับกลายเป็นว่าไม่มีอะไร
จากนั้นผมดันเผลอละสายตาจากหนังแป๊บเดียวรู้สึกตัวอีกทีก็จับประเด็นหนังแทบไม่ทันแล้ว
ผมงงว่าโปรเจคถูกยกเลิกเพราะอะไร แค่เพราะมีคลิปมันส่งผลอะไรกับโปรเจคขนาดนั้น
แล้วซีนจ็อบซังแต่งงานใส่มาเพื่ออะไรเพื่อให้เห็นว่าเวลามันสคิปไปไกลแล้วเหรอ
แล้วอยู่ๆหนังก็ให้โปรเจคเพลงกลับมาอีกแล้วจากนั้นก็ล้มโปรเจคอีกรอบเพื่ออะไร
ผมงงกับพาร์ทหลังจากน้องๆกลับจากอีสานเป็นต้นมามากเลย
แล้วหนังก็จบลงแบบนั้น

ความเห็นส่วนตัวผมชอบพาร์ทของหนังช่วงก่อนที่จะเข้าไคลแมกซ์มาก
มันดูเรียบง่ายดูสบายๆอมยิ้มสนุกสนานไปกับวิถีชีวิตและมุกของนักแสดงทุกคน
แต่พาร์ทดราม่าช่วงหลังผมไม่อินกับมันเลย

สรุป สิ่งที่ชอบ
- เนื้อเรื่องช่วงที่น้องๆไปอีสาน
- มุกในเรื่องเข้าถึงง่ายและฮาแทบทุกมุกจริงๆ
- ภาพสวยงามดำเนินเรื่องเข้าใจง่าย หมายถึงช่วงไปอีสานนะ
- การแสดงของนักแสดงไทบ้านและคุณก้อง
- ซีนเดี่ยวๆของเมมเบอร์ เล่นดีและสวยน่ารักกันทุกคน

สิ่งที่ไม่ชอบ
- บทพูดคำคมที่เหมือนใส่เข้ามาแบบไม่เป็นธรรมชาติ
อย่างเช่น ข้างนอกคืออะไร,ถ้าไปดวงจันทร์จะเอาอะไรไป,อย่าให้เสียงของคนอื่นมากลบเสียงในใจ
ประโยคมันคมนะแต่ผมว่าใส่มาแบบอยู่ๆก็พูดขึ้นมาเลยมันดูไม่ธรรมชาติ
- พาร์ทดราม่าช่วงหลังจากโปรเจคล้มเลิก เหตุผลชวนงงและบิวท์ไม่ขึ้นสำหรับผมแม้จะเห็นเมมนั่งร้องไห้ก็ตาม
- ซีนแย่งกันพูดหรือพูดพร้อมกันของเมม
- นำเสนอเรื่องเพลงน้อยไป
- บทจ๊อบซัง

ปล.สิ่งที่คาดหวังแต่ไม่ได้
ทั้งที่พรีเซนต์วิถีชีวิตคนอีสานได้อย่างถึงแก่นแท้ แต่พรีเซนต์มุมไอดอลต่อคนดูได้แค่เรื่องผิวๆที่ใครๆก็รู้อยู่แล้ว
แอบอยากเห็นน้องๆในมุมเบื้องหลังที่เรียลและเป็นธรรมชาติกว่านี้ แบบที่ไทบ้านพรีเซนต์ความเป็นอีสานออกมาได้
แต่มานึกดีๆเรื่องแบบนั้นเราก็เห็นใน girl don't cry มาแล้วนี่หว่า ถ้านำเสนอไปอีกอาจจะซ้ำทางกัน
อีกเรื่องคือเรื่องเพลงในหนัง เสียดายอยากให้ใส่เพลงเข้าไปในหนังมากกว่านี้

วิจารณ์ไปค่อนข้างเยอะแต่ถึงยังงั้นผมก็สนุกกับหนังครึ่งแรกมากนะ เป็นหนังที่ดูเพลินจริงๆ

ถ้าอยากดูหนังสนุกๆสบายๆภาพสวยนั่งยิ้มไปกับมุกตลก หนังเรื่องนี้ตอบโจทย์คุณได้ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่