TREKKING JAPAN "YARIGATAKE " ฝ่าพายุทะลุฟ้า



  YARIGATAKE คืออะไร? เป็นคำถามที่ไม่เคยคิดมาก็จนกระทั่งสะดุดตาจิ้มไปโดนใน GOOGLE MAP ด้วยความคิดที่ว่าญี่ปุ่นมีอะไรน่าเที่ยว ที่มันไม่โหล ที่ไม่ใช่ไปถึงแล้วถ่ายรูปเสร็จแล้วกลับเพื่อจะบอกว่าฉันมาที่นี่นะ อยากจะซึมซับบรรยากาศอะ มีมั๊ย มีมั๊ย... ก็เลยจิ้มไปโดนอยากที่บอกล่ะฮะท่านผู้ชม ตามมาด้วยการหาข้อมูลนิดหน่อยว่าอยู่ที่ไหน นอนยังไงตรงไหน เดินกี่กิโลเป็นการหาข้อมูลแบบคราวๆ เพราะต้องการผจญภัยหรือตายเอาดาบหน้า บ่นตั้งนานแล้วมันอยู่ตรงไหนล่ะ


"YARIGATAKE "

  YARIGATAKE แปลว่า "หอก" ด้วยลักษณะที่มียอดแหลมเหมือนหอก เป็นยอดเขาลูกหนึ่งที่ตั้งอยู่บนพรมแดนของโอมาจิและมัตสึโมโตะในจังหวัดนากาโนะและทาคายามะในจังหวัดกิฟุ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 3,180 เมตร เนื่องจากเป็นพรมแดนของหลายจังหวัดท่านสามารถเดินขึ้นทางไหนก็มีหลายเส้นทางให้เลือกสรร วันนี้จะพาเดินเส้นทาง "YARISAWA ROUTE" เส้นทางอื่น GOOGLE หาเองนะจา

การเดินทาง 21 - 26 กันยายน พ.ศ.2562

20-21 CNX - BKK - NRT - MUTSUMOTO 

22 MUTSUMOTO - KAMIKOCHI  -YARISAWA LODGE

23 YARISAWA LODGE - YARIGATAKE LODGE

24 YARIGATAKE LODGE - YARIGATAKE PEAK - KAMIKOCHI - MUTSUMOTO 

25 MUTSUMOTO - TOKYO 

26 TOKYO - BKK - CNX

ปล.วันแรกที่บินจาก BKK ไฟลท์ดึก ถึงญี่ปุ่นเช้าเที่ยวได้เลย



"SUGOI JAPAN"


  เขาเดินมาพร้อมกับความมุ่งหวังด้วยพลังของวัยหนุ่มฉกรรจ์ เดินทางยานเข้าสู่ดินแดนอาทิตย์อุทัยเพื่อที่จะหาทางไปห้องน้ำให้ได้ "ข้าศึกมาถึงปากอ่าวพร้อมจะตีป้อมแตกแล้ว" พูดถึงความอัศจรรย์ของประเทศญี่ปุ่นแล้ว First impression หรือ ความประทับใจแรก ของใครหลายคน คงจะเป็นความมีระเบียบของประชาชน หรือ ความเรียบร้อยของบ้านเมือง สำหรับผมแล้วคือ "ห้องน้ำ" ปุ่มกดร้อยเรียงเป็นฟังก์ชั่นทุกสิ่งให้เลือก มีระบบน้ำร้อนน้ำเย็น ระดับความแรงของน้ำ รับประกันความฟินนี้ขนาดยังเดินไม่ถึง ตม. นะเนี่ย "สุโก้ย เจแปน"


  เราจะต้องเดินทางไป SHINJUKU BUS STATION หรือ บขส. นั้นเอง เพื่อที่จะเดินทางไปยังเมือง MUTSUMOTO จังหวัด NAGANO เริ่มจากนั่งรถไฟ SKYLINER (1 H 3 MIN)- YAMANOTE LINE สีเขียวอ่อน เห็นสีเขียวอ่อนเดินตามไปเลย จะไปลงที่ NIPPORI STATION (21 MIN) - SHINJUKU STATION - เดินไป บขส. อีก 2 MIN รวมเวลาเกือบ 2 H

*การซื้อตั๋วซื้อที่ตู้ก็ได้ แต่ท่าให้ง่ายและสะดวกซื้อกับพนักงานที่เคาน์เตอร์จะดีที่สุด บอกพนักงานว่าจะไปไหนก็จะได้คำแนะนำซึ่งสะดวกและรวดเร็วดี



  ระหว่างรอผมก็ได้เดินสำรวจบริเวณดังกล่าว บ้านเมืองเขานี่สะอาด สะอ้าน ดีจังเลยระบบการคมนาคมขนส่งสะดวกรวดเร็วเข้าถึงง่าย คิดในใจ "ถ้าสองล้านล้านวันนั้นเราผ่านมาได้ปีนี้ 2020 คงได้นั่งรถไฟความเร็วสูงแล้วเนอะ" ตัดภาพมาที่ "ทำถนนลูกรังให้หมดก่อน..."
  


   เมื่อรถบัสออกมาเดินทางได้ประมาณ 1 H กว่าๆ รถก็จอดให้ท่านผู้โดยสารไปพักดื่มน้ำปัสสาวะ สถานที่พักนั้นลักษณะคล้ายคลึงกับ "แม่กิมเลิ้ง" แตกต่างกันตรงที่สะอาด และ มีของฝากที่ไม่ใช่ ขนมหม้อแกง ตามประชาชาวไทยมาต่างแดนก็อยากจะรู้ว่าเค้าขายอะไรกันบ้าง แต่รู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตจากบรรดาพีเพิ้ลที่รอบนรถก็เลยกลับขึ้นรถอย่างรวดเร็ว




  และแล้วเวลาก็ผ่านล่วงเลยไป 3 H กว่า ในที่สุดก็ถึงเมือง MUTSUMOTO 


  
"ทิ้งไว้กลางทาง"


"เดินข้ามแยกมาก็จะถึงสถานนี MUTSUMOTO"

    จากนั้นเราก็ไปหาที่พักที่ได้จองไว้ ซึ่งอยู่ใกล้กับปากทางไป Kamikochi ต้องนั่งรถไฟต่อเข้าไปอีกที่สถานี Shinshimashima Station  


"เพราะเป็นสถานีสุดท้ายคนจะน้อยนิดนุง"

  พอมาถึงที่พักหลังจากแจกแจงสิ่งของสัมภาระแล้ว มานั่งวางแผนว่าจะเดินอย่างไร พักตรงไหน คือไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยจริง555 โดยอาศัยวัยรุ่นที่เป็นพนักงานของที่พัก ก็ได้ความว่าไม่เคยเดินขึ้นกันเลยซักคน เห้อ~~ แต่ก็ขอบคุณสำหรับแผนที่นะพ่อหนุ่ม


"บรรยากาศที่พัก"

"มีบริการน้ำ กาแฟ น้ำแอปเปิ้ล ดื่มฟรี"



"ห้องนอน เจแปนสไตร์"


"Living Room"


ที่พักของเราคืนนี้ถ้าสนใจลองมาใช้บริการได้สบายๆ











NAGANO
"MATSUMOTO"


   เมือง MATSUMOTO อยู่ในจังหวัด NAGANO เป็นเมืองที่มีจุดน่าสนใจคือ ปราสาทมัตสึโมโต้ ซึ่งเป็นสมบัติประจำชาติทนหิมะและกระแสลมนานกว่า 400 ปีมาแล้ว เท็นชุ (หอปราสาท) สีดำที่มั่นคงแข็งแกร่งสำหรับยามสงคราม พร้อมถ่ายทอดสถาปัตยกรรมก่อสร้างชั้นเยี่ยมอันหลายหลากมากมายมาจนถึงปัจจุบัน สามารถเข้าชมได้นะครับ เปิดตั้งแต่ 8.30 - 17.00 ช่วงปิดคือปลายเดือนธันวาคม อันนี้แนะนำสวยงามจริงๆ
  การเดินทางมาที่ปราสาทมัตสึโมโต้ สามารถเดินจากสถานีมัตสีโมโต้เพียง 15 นาทีเท่านั้น หรือ ติดต่อที่ information เพื่อที่จะรับแผนที่และคำแนะนำ ตั้งอยู่บริเวณสถานีนั้นล่ะครับหาดู











เริ่มเดินกันดีกว่า


"KAMIKOCHI"



 


    KAMIKOCHI ไม่ต้องพูดอะไรมาก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง เป็นที่พักต่างอากาศของประชาชนชาวญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทย (แต่ผมไม่รู้จักมาก่อนครับ) มีสถานที่แลนด์มาร์คชื่อดังคือ "สะพานกัปปะ" เป็นสะพานที่เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ของภูเขา นั้นละครับท่านผู้ชมที่เราจะปีนขึ้นไป






   หลังจากเก็บข้าวของยัดใส่กระเป๋าก็พร้อมเดิน เอ๊ะ!!!ลืมบอกอาหารสามารถซื้อแถวๆ นั้นได้นะ มี 7-11 ใกล้ที่พัก เมื่อรับประทานอาหารเช้ากาแฟฟรี น้ำแอปเปิ้ลฟรี ก็เดินไปที่สถานีขนส่งประมาณ 2-3 นาที อากาศตอนเช้าขมุกขมัว [ขะหฺมุกขะหฺมัว] ว. มืด ๆ มัว ๆ โพล้เพล้ จวนคํ่า จวนมืด โดยปริยายใช้หมายถึงสีมัว ๆ ไม่ผ่องใส มาก เพราะมีพายุ!!! เวรกรรมจริงๆ จะไปเดินเขาแต่ดันมีพายุจะรอดรึป่าวเนี่ย แต่ต้องไปแล้วเสียตังค์แล้ว แต่ก็พออุ่นใจอยู่เล็กน้อยครับ เพราะเป็นแค่หางพายุพรุ่งนี้ก็หมดและ (มองโลกในแง่ดีเข้าไว้)
   

"สถานี Shi-Shimashima " 

   รอบแรกของรถที่จะไป Kamikochi จะมีตั้งแต่ 5.30 ที่ Mutsumoto Bus Terminal ถ้าใครพักในเมืองก็นั่งตรงนั้นก็ได้ สำหรับเรา ขึ้นรถตอน 7.15 แต่จริงๆ ถ้าจะไปแค่ Kamikochi ไปกี่โมงก็ได้รถรอบสุดท้าย 17.25 แต่เราต้องไปเช้าๆ เพราะต้องรีบขึ้นเขา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 H 30 คนขับรถตรงเวลามากนะครับระวังอย่าสายไทยสบายไม่ได้นะ





"บรรยากาศทางเข้า"





"จุดกรอกน้ำแร่ธรรมชาติจากภูเขา สดชื่น"






"สวัสดีเจ้ามนุษย์"





"เดินมาสักพักก็ถึงสะพานกัปปะ ยอดเขานั้นล่ะที่เราต้องเดินไป"




 
"น้ำแร่ธรรมชาติจากภูเขา"

*ต่อยังไงข้อความเต็ม https://pantip.com/topic/39587334# ตอนที่ 2 
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่