แอบรักเพื่อนของพ่อมาก
ตอนแรกก็ไม่มากนะ แค่แอบชอบ
ก่อนหน้านี้หลอกตัวเองมาตลอดว่าไม่คิดอะไร เพราะความรู้สึกนี้มันไม่ควรเกิดขึ้น
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอ ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเขาเป็นเพื่อนของพ่อ เดินผ่านแล้วบังเอิญสายตาเราก็จ้องมองไปที่เขา แล้วเขาก็หันมาสบตาเราพอดี ด้วยสัญชาตญาณของคนอ่ะ คือต้องหลบตา นี่เราก็พยายามหลบตาจะหันไปทางอื่น แต่แบบเหมือนสตั้นไปอ่ะ ร่างกายเหมือนถูกสะกด ขยับไม่ได้ แล้วเราสองคนก็สบตากัน จนเรียกสติตัวเองกลับมา ว่าเราจะมองแบบนี้ไม่ได้นะ เลยพยายามเดินออกจากตรงนั้น เราก็พูดกับตัวเองว่า ทำไมรู้สึกคุ้นมาก คุ้นแบบบอกไม่ถูก แล้วนึกในใจว่า ตายล่ะไปจ้องเขาอย่างงั้น เขาจะคิดว่าเราไปหาเรื่องเขารึเปล่า จนมารู้คือ เขาเป็นเพื่อนพ่อ แล้วหลังจากนั้น ก็เริ่มรู้หลายอย่างเกี่ยวกับเขา เขาเป็นคนดีคนนึงเลยล่ะ แล้วเมียเขาก็เพิ่งตายไปได้ปีกว่าในตอนนั้นนะ ก็รู้สึกชอบแบบปลื้มทั่วไป
หลังจากนั้นก็เจอเขาแล้วมันมักจะเกิดเรื่องราวเผลอสบตาแบบสตั้นกับเขาทุกครั้งที่เจอ แล้วช่วงหนึ่งที่ห่างกัน ไม่ได้เจอเขา เราก็รู้สึกคิดถึงอ่ะ นึกถึงเขา เราก็แบบเออปลื้มเขาแหละ แต่นานวันเข้า เราก็ยังนึกถึงเขา เราเริ่มที่จะเลิกคุยกับหลายคนที่เข้ามาหาเรา แล้วเราก็มานั่งคิด มารู้ตัวคือชอบเขาแล้วอ่ะ เราก็บอกกับตัวเองว่ามันเป็นไปไม่ได้ มันไม่ควรเกิดขึ้น เหมือนเราหรอกตัวเอง ว่ามันคงจะเป็นความชอบแบบแค่หลง เหมือนที่เราเคยชอบคนอื่นๆ เพราะเขากับเราอายุห่างกันเกือบ 30 ปี
เราก็กลับไปคุยกับคนอื่น ลองคบลองดูใจกับคนอื่น แต่ละคนที่เข้ามาก็คบ ก็คุยกัน แต่ได้ไม่นาน ได้สัก2-3วันก็เลิกคบ เลิกคุย มารู้ตัวอีกทีคือเราชอบเขาแล้ว เราก็หลอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก ว่าไม่ใช่ ไม่ได้คิดไร ถ้าคิดก็คงได้ไม่นานหรอก แล้วเราก็เลิกคิดเลิกชอบเอง เพราะไม่ได้คุยหรือติดต่ออะไรกับเขาเลย เดี๋ยวก็ลืมเอง ก็มีคนคุย มีคนคบอีก สุดท้ายก็เหมือนเดิม ยิ่งเราทำแบบนี้ มันยิ่งรู้สึก มารู้ตัวอีกครั้งก็ตกอยู่ในสถานะแอบรักแล้ว เลยเลิกคุยเลิกคบกับทุกคน เพราะเรารู้ตัวเองแล้วว่าขืนทำแบบนี้ต่อไป มันเหมือนขัดกับตัวเอง จนได้เจอเขาอีกครั้ง ก็ได้คุยได้ทักกันบ้าง ชวนไปทำบุญ ชวนไปกินข้าวกัน แต่ก็แค่2-3ครั้ง แต่ทุดครั้งมันเป็นความรู้สึกที่ดี
ตั้งแต่นั้นเขาก็เหมือนเป็นแรงบันดาลใจให้เรากล้าคิดกล้าทำในหลายๆสิ่งหลายอย่างที่เป็นเรื่องที่ดีๆมากขึ้น เขาเข้ามาเปลี่ยนมุมมอง มาพิ่มความคิดในด้านดีๆของเรา ทำให้เรารู้สึกว่าถึงอยู่ในสถานะที่แอบรัก จะสมหวังรึเปล่าไม่รู้ แต่ที่รู้คือก็ดีใจที่ได้รักผู้ชายดีๆคนหนึ่ง มีบ้างที่แอบคิดว่าเขาอาจจะรู้สึกเหมือนเราบ้าง เพราะทุกครั้งที่เจอ บางครั้งเราหันไปคือเขากำลังมองเราอยู่ แต่ไม่ใช่เขาที่หลบตา แต่กลับเป็นเราที่หลบตาเขาทั้งๆที่เขาเป็นคนมองเราก่อน บางประโยคคำพูดที่เขาถามเรา เรียกเรา บอกเรา ที่ทำให้เรารู้สึกดี รู้สึกพิเศษ แต่เขาก็เป็นคนที่ใส่ใจกับคนรอบข้างอยู่แล้ว เลยทำให้เราไม่ได้หวังมาก ว่าเขาจะคิดกับเราเหมือนที่เราคิดกับเขา
*******เขียนยาวไปหน่อย มันก็ไม่เชิงเป็นคำถามหรอก55555 แต่มันคือประสบการณ์ความรู้สึกที่ดี ที่ทุกวันนี้เราก็ยังแอบรักเขาอยู่ ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านมาเป็นปีแล้ว ทุกครั้งที่เจอเขา ได้พูดคุย ได้เห็นรอยยิ้ม ได้สบตา ได้แอบมองเขา มันคือความสุขของเรา และเราก็ไม่ได้มองใคร ไม่ได้ชอบหรือคุยกับใครอีกเลย ตั้งแต่เรารู้ใจตัวเอง
แอบรักเพื่อนของพ่อ
ตอนแรกก็ไม่มากนะ แค่แอบชอบ
ก่อนหน้านี้หลอกตัวเองมาตลอดว่าไม่คิดอะไร เพราะความรู้สึกนี้มันไม่ควรเกิดขึ้น
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอ ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเขาเป็นเพื่อนของพ่อ เดินผ่านแล้วบังเอิญสายตาเราก็จ้องมองไปที่เขา แล้วเขาก็หันมาสบตาเราพอดี ด้วยสัญชาตญาณของคนอ่ะ คือต้องหลบตา นี่เราก็พยายามหลบตาจะหันไปทางอื่น แต่แบบเหมือนสตั้นไปอ่ะ ร่างกายเหมือนถูกสะกด ขยับไม่ได้ แล้วเราสองคนก็สบตากัน จนเรียกสติตัวเองกลับมา ว่าเราจะมองแบบนี้ไม่ได้นะ เลยพยายามเดินออกจากตรงนั้น เราก็พูดกับตัวเองว่า ทำไมรู้สึกคุ้นมาก คุ้นแบบบอกไม่ถูก แล้วนึกในใจว่า ตายล่ะไปจ้องเขาอย่างงั้น เขาจะคิดว่าเราไปหาเรื่องเขารึเปล่า จนมารู้คือ เขาเป็นเพื่อนพ่อ แล้วหลังจากนั้น ก็เริ่มรู้หลายอย่างเกี่ยวกับเขา เขาเป็นคนดีคนนึงเลยล่ะ แล้วเมียเขาก็เพิ่งตายไปได้ปีกว่าในตอนนั้นนะ ก็รู้สึกชอบแบบปลื้มทั่วไป
หลังจากนั้นก็เจอเขาแล้วมันมักจะเกิดเรื่องราวเผลอสบตาแบบสตั้นกับเขาทุกครั้งที่เจอ แล้วช่วงหนึ่งที่ห่างกัน ไม่ได้เจอเขา เราก็รู้สึกคิดถึงอ่ะ นึกถึงเขา เราก็แบบเออปลื้มเขาแหละ แต่นานวันเข้า เราก็ยังนึกถึงเขา เราเริ่มที่จะเลิกคุยกับหลายคนที่เข้ามาหาเรา แล้วเราก็มานั่งคิด มารู้ตัวคือชอบเขาแล้วอ่ะ เราก็บอกกับตัวเองว่ามันเป็นไปไม่ได้ มันไม่ควรเกิดขึ้น เหมือนเราหรอกตัวเอง ว่ามันคงจะเป็นความชอบแบบแค่หลง เหมือนที่เราเคยชอบคนอื่นๆ เพราะเขากับเราอายุห่างกันเกือบ 30 ปี
เราก็กลับไปคุยกับคนอื่น ลองคบลองดูใจกับคนอื่น แต่ละคนที่เข้ามาก็คบ ก็คุยกัน แต่ได้ไม่นาน ได้สัก2-3วันก็เลิกคบ เลิกคุย มารู้ตัวอีกทีคือเราชอบเขาแล้ว เราก็หลอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก ว่าไม่ใช่ ไม่ได้คิดไร ถ้าคิดก็คงได้ไม่นานหรอก แล้วเราก็เลิกคิดเลิกชอบเอง เพราะไม่ได้คุยหรือติดต่ออะไรกับเขาเลย เดี๋ยวก็ลืมเอง ก็มีคนคุย มีคนคบอีก สุดท้ายก็เหมือนเดิม ยิ่งเราทำแบบนี้ มันยิ่งรู้สึก มารู้ตัวอีกครั้งก็ตกอยู่ในสถานะแอบรักแล้ว เลยเลิกคุยเลิกคบกับทุกคน เพราะเรารู้ตัวเองแล้วว่าขืนทำแบบนี้ต่อไป มันเหมือนขัดกับตัวเอง จนได้เจอเขาอีกครั้ง ก็ได้คุยได้ทักกันบ้าง ชวนไปทำบุญ ชวนไปกินข้าวกัน แต่ก็แค่2-3ครั้ง แต่ทุดครั้งมันเป็นความรู้สึกที่ดี
ตั้งแต่นั้นเขาก็เหมือนเป็นแรงบันดาลใจให้เรากล้าคิดกล้าทำในหลายๆสิ่งหลายอย่างที่เป็นเรื่องที่ดีๆมากขึ้น เขาเข้ามาเปลี่ยนมุมมอง มาพิ่มความคิดในด้านดีๆของเรา ทำให้เรารู้สึกว่าถึงอยู่ในสถานะที่แอบรัก จะสมหวังรึเปล่าไม่รู้ แต่ที่รู้คือก็ดีใจที่ได้รักผู้ชายดีๆคนหนึ่ง มีบ้างที่แอบคิดว่าเขาอาจจะรู้สึกเหมือนเราบ้าง เพราะทุกครั้งที่เจอ บางครั้งเราหันไปคือเขากำลังมองเราอยู่ แต่ไม่ใช่เขาที่หลบตา แต่กลับเป็นเราที่หลบตาเขาทั้งๆที่เขาเป็นคนมองเราก่อน บางประโยคคำพูดที่เขาถามเรา เรียกเรา บอกเรา ที่ทำให้เรารู้สึกดี รู้สึกพิเศษ แต่เขาก็เป็นคนที่ใส่ใจกับคนรอบข้างอยู่แล้ว เลยทำให้เราไม่ได้หวังมาก ว่าเขาจะคิดกับเราเหมือนที่เราคิดกับเขา
*******เขียนยาวไปหน่อย มันก็ไม่เชิงเป็นคำถามหรอก55555 แต่มันคือประสบการณ์ความรู้สึกที่ดี ที่ทุกวันนี้เราก็ยังแอบรักเขาอยู่ ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านมาเป็นปีแล้ว ทุกครั้งที่เจอเขา ได้พูดคุย ได้เห็นรอยยิ้ม ได้สบตา ได้แอบมองเขา มันคือความสุขของเรา และเราก็ไม่ได้มองใคร ไม่ได้ชอบหรือคุยกับใครอีกเลย ตั้งแต่เรารู้ใจตัวเอง