สวัสดีค่ะ มีเรื่องกลุ้มใจมานาน ไม่รู้จะปรึกษาใครดี รบกวนขอคำแนะนำจากทุกคนด้วยค่ะ
เราเองมีแฟนเป็นตัวเป็นตน คบกันมาได้ปีกว่า และไม่เคยเปิดเผยบนโลกโซเชียลเลยจนครบ 1 ปี
ตลอดเวลา 1 ปีนั้น ในความเป็นจริง ทุกคนที่อยู่ใกล้ชิดรับรู้ทั้ง 2 ฝ่าย
ย้อนไปเมื่อกลางปีที่แล้ว...
เราทั้ง 2 ตัดสินใจลาออกจากงานที่ กทม. ย้ายมาอยู่ จ.บ้านเกิดแฟน ช่วงแรกเราทั้ง 2 เช่าหออยู่ด้วยกันในตัวเมือง ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร ทะเลาะกันนิดๆหน่อยๆ ไม่ข้ามคืนก็ดีกันตลอด
แต่ช่วงหลังมา ปลายปีที่แล้ว เราทั้ง 2 ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับครอบครัวของแฟน แล้วอยู่มาวันนึง เกิดเหตุการณ์ที่เราทะเลาะกันหนักมาก จนที่บ้านเค้ารับไม่ได้ ครอบครัวเค้าเลยให้เราขนของออกจากบ้านไปเช่าหออยู่เองคนเดียว และให้ตัดขาดทุกสิ่งอย่างกับลูกชายเค้าเลย ณ วันนั้น เราก็ยอมรับในสิ่งที่มันเกิดขึ้นและผิดพลาดไปแล้ว
หลังจากนั้นก็ขาดการติดต่อกันไปประมาณอาทิตย์นึง และเราเองก็ได้ทักไปหาแฟนว่า รบกวนให้ไปส่งที่ทำงานหน่อย เค้าบอกว่ายังไม่ว่าง พ่อแม่ไม่ให้ออกไปไหนนานๆ (พ่อแม่เค้ากลัวว่าเราจะแอบมาเจอกัน) ปกติแล้วแฟนจะไปรับ-ส่งที่ทำงานทุกวัน เราเองไม่มีรถ เพราะตอนแรกอยู่ด้วยกันมาตลอด
พอถึงวันที่เราต้องใช้ชีวิตด้วยตัวเองในพื้นที่ไม่มีญาติพี่น้องช่วยเหลือ มันลำบากและทรมาน
แต่ในขณะเดียวกัน เวลาที่เราลำบาก มีอีกคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือตลอด (ซึ่งพี่ ผช.คนนี้ตามจีบเรามาเป็นเวลาโดยประมาณ 4 ปี) หลังจากที่เกิดเรื่อง เค้าเป็นคนเดียวที่ช่วยเหลือเรายามขาดแคลน คอยโทรหาและเป็นที่ปรึกษาในเวลาที่เราไม่สบายใจคอยเป็นห่วงทุกๆย่างก้าวในชีวิต
จริงๆแล้ว ผช.คนนี้ไม่เคยรู้เลยว่าเรามีแฟนอยู่แล้ว เหตุผลคือเราไม่เคยเปิดเผยบนสื่อออนไลน์ เค้าเพิ่งจะมารู้ตอนที่เราโพสต์วันครบรอบ 1 ปี เค้าบอกกับเราว่า ให้เดินกลับก็ไม่ได้ เดินต่อไปก็ไม่ถึง ทำอย่างไรได้ในเมื่อรักไปแล้ว
จากนั้น...ในแต่ละวันเวลาที่เราจะไปทำงาน เพื่อนที่ทำงานจะมารับ-ส่งทุกวัน ซึ่ง พี่ ผญ.คนนี้จะเป็นธุระให้ตลอด ไม่ว่าจะมารับไปกินข้าว หรือไปเซเว่น (เพราะเราไม่สามารถพึ่งพาไรแฟนได้อีกต่อไป แฟนกลัวว่าจะไปเจอญาติๆหรือมีใครเห็นว่าเราแอบมาเจอกัน) แกดีจนเราเองเกรงใจมากๆ ทุกวันนี้ยังไม่ลืมพระคุณพี่แกเลย
ด้วยความที่เราอึดอัดมากๆ รู้สึกเฟลกับตัวเองว่าไม่รู้จะมาอยู่ต่างถิ่นแบบนี้ทำไม ไม่รู้จะอยู่ที่นี่เพื่อใครอีกต่อไป ในเมื่อคนที่เราตั้งใจมาอยู่ด้วยกันตั้งแต่แรก ไม่ได้อยู่จุดๆเดียวกับเราอีกแล้ว เหมือนเป็นเส้นขนาน
ในเวลาที่เราต้องการเค้าที่สุด เค้าไม่เคยอยู่เคียงข้างเราเลย
ในเวลาที่เราเดือดร้อน เค้าไม่เคยช่วยเหลือ กลับกลายเป็นอีกคนที่ไม่เคยทิ้งเราไปไหน อยู่ข้างๆตลอดทุกช่วงเวลา
เราเลยตัดสินใจเลือกที่จะไม่อยู่ที่นี่ต่อแล้ว
และเมื่อตอนสิ้นปี...พี่ ผช.คนนั้นก็ได้มาช่วยขนของกลับและแกให้เราช่วยงานที่บ้านแกไปพลางๆก่อนกว่าจะได้งานใหม่ อยู่กินที่นั้น ครอบครัวพี่เค้าดีมาก ช่วยเหลือเราทุกอย่าง พยายามมองหางานใหม่ให้เรา และเราเองก็ยังช่วยเหลือธุรกิจที่บ้านพี่เค้าอยู่ตอนนี้ ถึงจะได้ค่าแรงเล็กๆน้อยๆ แต่ก็สุขใจ
เรากับพี่เค้าไม่เคยมีอะไรเกินเลย เพราะเราเองก็ยังมีแฟนอยู่ทั้งคน ทำไม่ลง
เมื่อไม่นานมานี้ เราได้ทราบข่าวจากปากแฟนว่า
เค้าได้งานใหม่อยู่ใน จ.ใกล้ๆบ้านเกิด เค้าเลยคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่เรา 2 คนจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ได้ใช้ชีวิตแบบคู่รักเหมือนวันวานที่ผ่านมา ช่วยกันทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวโดยที่ไม่มีอุปสรรคเรื่องครอบครัวแฟนเข้ามาขัดขวาง
หลังจากที่แฟนได้ย้ายไปทำงานที่ใหม่สักพัก เราเลยเดินทางไปเยี่ยมแฟนที่นั้นอาทิตย์นึง แต่เราไม่ชอบความเป็นอยู่ที่นั้นเลย ของกินแพง น้ำเปล่าก็แพง ที่นั้นจัดอยู่ในโซนที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
แฟนเราอยากให้เราหางานทำที่นั้น แต่เราเลือกที่จะไม่ทำที่นั้น เพราะคิดดูแล้วคงอยู่ได้ไม่นาน แฟนเราเองก็เลือกที่จะทำงานที่นั้นแค่ไม่กี่เดือน เพราะมันเหมาะกับเที่ยวมากกว่าใช้ชีวิตอยู่
และเราในตอนนี้ก็มีความสุขดี ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันกับแฟน แม้ตัวจะไกล แต่ใจไม่เคยห่าง เพราะแฟนจะคอลมาคุยตลอดเวลาที่ว่างและค้างสายทุกคืนก่อนนอน
แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่...พ่อแม่ของพี่ ผช.คนนั้น จะไปสู่ขอเราให้เรียบร้อย ถ้าเรายอมตกลงปลงใจจะใช้ชีวิตกับพี่เค้า
เราเองก็ยังรักแฟน แต่เรามีความสุขกับการใช้ชีวิตอยู่กับพี่เค้ามากกว่า เพราะเค้าสามารถรับผิดชอบชีวิตเราได้
ถึงแม้เราจะแค่รู้สึกดี ไม่ได้รักพี่เค้าก็ตาม ใจจริงเราก็อยากคบกับพี่เค้านะ แต่ติดอยู่ที่ว่าพี่เค้าเป็นคนมีประวัติ
อยากขอคำแนะนำจากทุกคนว่า
ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกใคร?
เมื่อถึงทางแยก เราควรเลือกเดินเส้นทางไหนให้ชีวิตได้ไปต่อ...ซ้าย หรือ ขวา?
ตลอดเวลา 1 ปีนั้น ในความเป็นจริง ทุกคนที่อยู่ใกล้ชิดรับรู้ทั้ง 2 ฝ่าย
ย้อนไปเมื่อกลางปีที่แล้ว...
เราทั้ง 2 ตัดสินใจลาออกจากงานที่ กทม. ย้ายมาอยู่ จ.บ้านเกิดแฟน ช่วงแรกเราทั้ง 2 เช่าหออยู่ด้วยกันในตัวเมือง ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร ทะเลาะกันนิดๆหน่อยๆ ไม่ข้ามคืนก็ดีกันตลอด
แต่ช่วงหลังมา ปลายปีที่แล้ว เราทั้ง 2 ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับครอบครัวของแฟน แล้วอยู่มาวันนึง เกิดเหตุการณ์ที่เราทะเลาะกันหนักมาก จนที่บ้านเค้ารับไม่ได้ ครอบครัวเค้าเลยให้เราขนของออกจากบ้านไปเช่าหออยู่เองคนเดียว และให้ตัดขาดทุกสิ่งอย่างกับลูกชายเค้าเลย ณ วันนั้น เราก็ยอมรับในสิ่งที่มันเกิดขึ้นและผิดพลาดไปแล้ว
หลังจากนั้นก็ขาดการติดต่อกันไปประมาณอาทิตย์นึง และเราเองก็ได้ทักไปหาแฟนว่า รบกวนให้ไปส่งที่ทำงานหน่อย เค้าบอกว่ายังไม่ว่าง พ่อแม่ไม่ให้ออกไปไหนนานๆ (พ่อแม่เค้ากลัวว่าเราจะแอบมาเจอกัน) ปกติแล้วแฟนจะไปรับ-ส่งที่ทำงานทุกวัน เราเองไม่มีรถ เพราะตอนแรกอยู่ด้วยกันมาตลอด
พอถึงวันที่เราต้องใช้ชีวิตด้วยตัวเองในพื้นที่ไม่มีญาติพี่น้องช่วยเหลือ มันลำบากและทรมาน
แต่ในขณะเดียวกัน เวลาที่เราลำบาก มีอีกคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือตลอด (ซึ่งพี่ ผช.คนนี้ตามจีบเรามาเป็นเวลาโดยประมาณ 4 ปี) หลังจากที่เกิดเรื่อง เค้าเป็นคนเดียวที่ช่วยเหลือเรายามขาดแคลน คอยโทรหาและเป็นที่ปรึกษาในเวลาที่เราไม่สบายใจคอยเป็นห่วงทุกๆย่างก้าวในชีวิต
จริงๆแล้ว ผช.คนนี้ไม่เคยรู้เลยว่าเรามีแฟนอยู่แล้ว เหตุผลคือเราไม่เคยเปิดเผยบนสื่อออนไลน์ เค้าเพิ่งจะมารู้ตอนที่เราโพสต์วันครบรอบ 1 ปี เค้าบอกกับเราว่า ให้เดินกลับก็ไม่ได้ เดินต่อไปก็ไม่ถึง ทำอย่างไรได้ในเมื่อรักไปแล้ว
จากนั้น...ในแต่ละวันเวลาที่เราจะไปทำงาน เพื่อนที่ทำงานจะมารับ-ส่งทุกวัน ซึ่ง พี่ ผญ.คนนี้จะเป็นธุระให้ตลอด ไม่ว่าจะมารับไปกินข้าว หรือไปเซเว่น (เพราะเราไม่สามารถพึ่งพาไรแฟนได้อีกต่อไป แฟนกลัวว่าจะไปเจอญาติๆหรือมีใครเห็นว่าเราแอบมาเจอกัน) แกดีจนเราเองเกรงใจมากๆ ทุกวันนี้ยังไม่ลืมพระคุณพี่แกเลย
ด้วยความที่เราอึดอัดมากๆ รู้สึกเฟลกับตัวเองว่าไม่รู้จะมาอยู่ต่างถิ่นแบบนี้ทำไม ไม่รู้จะอยู่ที่นี่เพื่อใครอีกต่อไป ในเมื่อคนที่เราตั้งใจมาอยู่ด้วยกันตั้งแต่แรก ไม่ได้อยู่จุดๆเดียวกับเราอีกแล้ว เหมือนเป็นเส้นขนาน
ในเวลาที่เราต้องการเค้าที่สุด เค้าไม่เคยอยู่เคียงข้างเราเลย
ในเวลาที่เราเดือดร้อน เค้าไม่เคยช่วยเหลือ กลับกลายเป็นอีกคนที่ไม่เคยทิ้งเราไปไหน อยู่ข้างๆตลอดทุกช่วงเวลา
เราเลยตัดสินใจเลือกที่จะไม่อยู่ที่นี่ต่อแล้ว
และเมื่อตอนสิ้นปี...พี่ ผช.คนนั้นก็ได้มาช่วยขนของกลับและแกให้เราช่วยงานที่บ้านแกไปพลางๆก่อนกว่าจะได้งานใหม่ อยู่กินที่นั้น ครอบครัวพี่เค้าดีมาก ช่วยเหลือเราทุกอย่าง พยายามมองหางานใหม่ให้เรา และเราเองก็ยังช่วยเหลือธุรกิจที่บ้านพี่เค้าอยู่ตอนนี้ ถึงจะได้ค่าแรงเล็กๆน้อยๆ แต่ก็สุขใจ
เรากับพี่เค้าไม่เคยมีอะไรเกินเลย เพราะเราเองก็ยังมีแฟนอยู่ทั้งคน ทำไม่ลง
เมื่อไม่นานมานี้ เราได้ทราบข่าวจากปากแฟนว่า
เค้าได้งานใหม่อยู่ใน จ.ใกล้ๆบ้านเกิด เค้าเลยคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่เรา 2 คนจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ได้ใช้ชีวิตแบบคู่รักเหมือนวันวานที่ผ่านมา ช่วยกันทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวโดยที่ไม่มีอุปสรรคเรื่องครอบครัวแฟนเข้ามาขัดขวาง
หลังจากที่แฟนได้ย้ายไปทำงานที่ใหม่สักพัก เราเลยเดินทางไปเยี่ยมแฟนที่นั้นอาทิตย์นึง แต่เราไม่ชอบความเป็นอยู่ที่นั้นเลย ของกินแพง น้ำเปล่าก็แพง ที่นั้นจัดอยู่ในโซนที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
แฟนเราอยากให้เราหางานทำที่นั้น แต่เราเลือกที่จะไม่ทำที่นั้น เพราะคิดดูแล้วคงอยู่ได้ไม่นาน แฟนเราเองก็เลือกที่จะทำงานที่นั้นแค่ไม่กี่เดือน เพราะมันเหมาะกับเที่ยวมากกว่าใช้ชีวิตอยู่
และเราในตอนนี้ก็มีความสุขดี ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันกับแฟน แม้ตัวจะไกล แต่ใจไม่เคยห่าง เพราะแฟนจะคอลมาคุยตลอดเวลาที่ว่างและค้างสายทุกคืนก่อนนอน
แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่...พ่อแม่ของพี่ ผช.คนนั้น จะไปสู่ขอเราให้เรียบร้อย ถ้าเรายอมตกลงปลงใจจะใช้ชีวิตกับพี่เค้า
เราเองก็ยังรักแฟน แต่เรามีความสุขกับการใช้ชีวิตอยู่กับพี่เค้ามากกว่า เพราะเค้าสามารถรับผิดชอบชีวิตเราได้
ถึงแม้เราจะแค่รู้สึกดี ไม่ได้รักพี่เค้าก็ตาม ใจจริงเราก็อยากคบกับพี่เค้านะ แต่ติดอยู่ที่ว่าพี่เค้าเป็นคนมีประวัติ
อยากขอคำแนะนำจากทุกคนว่า
ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกใคร?