ทำไมต้องใช้ผ้ามาห่มพระธาตุเจดีย์
ทำไมเราต้องใช้ผ้ามาห่มพระธาตุเจดีย์? ก็เพื่อแสดงถึงไมตรีจิต แสดงถึงความห่วงอาลัย อบอุ่น สายสัมพันธ์
"ห่วง" หมายความว่า ถ้าเราห่วงสิ่งๆ หนึ่ง เราจะกังวลไหมว่ากลัวตกหล่นหายไป แล้วเราจะมีจิตอุ้มชูดูแลไหม? นี่แหละ อะไรเป็นสิ่งที่มีประโยชน์แล้วหายไปอย่างนี้แล้วเราจะมีจิตยังไง? เราก็จะมีจิตที่ต้องการให้มีการดำรง ให้มีการต่อเนื่อง ให้มีสิ่งนี้สามารถสืบต่อไหม? นี่แหละห่วงอาลัย
"อาลัย" แปลว่า กลัวสิ่งที่มีประโยชน์จะเสียไป เช่น มีประโยชน์ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ กลัวจะเสียหายไป หรือคนยังใช้ประโยชน์ยังไม่เพียงพอเลย อาลัยก็คือ เสียดายเขา
ถ้า "อาวรณ์" นี้จะสู่ตัวอารมณ์ชัดๆ แล้ว แต่อาลัยไม่ใช่ตัวอารมณ์
อาลัยนี้จะเกิดความเสียดาย เพราะสิ่งนั้นมันมีคุณค่า มีประโยชน์มากๆ แต่กลัวว่ามันจะสูญเสีย สูญหาย สาบสูญไป จะให้สิ่งนี้มีคุณค่าสืบเนื่องให้คนถัดไปหรือรุ่นต่อไปได้ใช้ต่อไป
ถ้าเราถวายผ้าห่มฯ อยากจะให้คนต่อไปได้มาใช้ ได้มาทำเหมือนกับเรา แต่จะเอาอะไรมาเป็นเครื่องหมาย ก็ต้องเอาผ้ามาห่มมาเป็นนิมิตหมาย ก็เหมือนกับร่างกายของเรา ต้องเอาเสื้อผ้ามาใส่ นี่แหละ ผ้าเป็นนิมิตหมายที่แสดงออกถึง ๒ คำนี้ คือ ห่วงอาลัย
จะใช้คำว่า "หวง" ไม่ได้ บางคนสร้างพระธาตุเจดีย์ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วหวง ไม่ยอมให้ใครมาแตะ มากราบไหว้ ก็ไม่รู้ว่าทำไปทำไม?
ฉะนั้น ให้คนมาไหว้ ให้จิตน้อมไปถึง "ธรรม, บ่อเก็ก (无极 : wú jí) คือ ตถตา นิพพาน”
อานิสงส์การห่มผ้าพระธาตุเจดีย์ก็จะไปถึง"ธรรม, บ่อเก็ก (无极 : wú jí) คือ ตถตา นิพพาน”ถ้าหากว่าใครมีวิบากอะไร อานิสงส์ของการถวายผ้าห่มพระธาตุนี้ก็สามารถแก้ไขได้หมด เพราะว่าสรรพสิ่งทั้งหลายก็อยู่ใน "ธรรม, บ่อเก็ก (无极 : wú jí) คือ ตถตา นิพพาน” เราก็ลองคิดดู นี่แหละถ้าเราได้ตัวแม่แล้วตัวลูกก็ไม่ยาก
^_^ ..._/\_... ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต
ทำไมต้องใช้ผ้ามาห่มพระธาตุเจดีย์
ทำไมเราต้องใช้ผ้ามาห่มพระธาตุเจดีย์? ก็เพื่อแสดงถึงไมตรีจิต แสดงถึงความห่วงอาลัย อบอุ่น สายสัมพันธ์
"ห่วง" หมายความว่า ถ้าเราห่วงสิ่งๆ หนึ่ง เราจะกังวลไหมว่ากลัวตกหล่นหายไป แล้วเราจะมีจิตอุ้มชูดูแลไหม? นี่แหละ อะไรเป็นสิ่งที่มีประโยชน์แล้วหายไปอย่างนี้แล้วเราจะมีจิตยังไง? เราก็จะมีจิตที่ต้องการให้มีการดำรง ให้มีการต่อเนื่อง ให้มีสิ่งนี้สามารถสืบต่อไหม? นี่แหละห่วงอาลัย
"อาลัย" แปลว่า กลัวสิ่งที่มีประโยชน์จะเสียไป เช่น มีประโยชน์ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ กลัวจะเสียหายไป หรือคนยังใช้ประโยชน์ยังไม่เพียงพอเลย อาลัยก็คือ เสียดายเขา
ถ้า "อาวรณ์" นี้จะสู่ตัวอารมณ์ชัดๆ แล้ว แต่อาลัยไม่ใช่ตัวอารมณ์
อาลัยนี้จะเกิดความเสียดาย เพราะสิ่งนั้นมันมีคุณค่า มีประโยชน์มากๆ แต่กลัวว่ามันจะสูญเสีย สูญหาย สาบสูญไป จะให้สิ่งนี้มีคุณค่าสืบเนื่องให้คนถัดไปหรือรุ่นต่อไปได้ใช้ต่อไป
ถ้าเราถวายผ้าห่มฯ อยากจะให้คนต่อไปได้มาใช้ ได้มาทำเหมือนกับเรา แต่จะเอาอะไรมาเป็นเครื่องหมาย ก็ต้องเอาผ้ามาห่มมาเป็นนิมิตหมาย ก็เหมือนกับร่างกายของเรา ต้องเอาเสื้อผ้ามาใส่ นี่แหละ ผ้าเป็นนิมิตหมายที่แสดงออกถึง ๒ คำนี้ คือ ห่วงอาลัย
จะใช้คำว่า "หวง" ไม่ได้ บางคนสร้างพระธาตุเจดีย์ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วหวง ไม่ยอมให้ใครมาแตะ มากราบไหว้ ก็ไม่รู้ว่าทำไปทำไม?
ฉะนั้น ให้คนมาไหว้ ให้จิตน้อมไปถึง "ธรรม, บ่อเก็ก (无极 : wú jí) คือ ตถตา นิพพาน”
อานิสงส์การห่มผ้าพระธาตุเจดีย์ก็จะไปถึง"ธรรม, บ่อเก็ก (无极 : wú jí) คือ ตถตา นิพพาน”ถ้าหากว่าใครมีวิบากอะไร อานิสงส์ของการถวายผ้าห่มพระธาตุนี้ก็สามารถแก้ไขได้หมด เพราะว่าสรรพสิ่งทั้งหลายก็อยู่ใน "ธรรม, บ่อเก็ก (无极 : wú jí) คือ ตถตา นิพพาน” เราก็ลองคิดดู นี่แหละถ้าเราได้ตัวแม่แล้วตัวลูกก็ไม่ยาก
^_^ ..._/\_... ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต