ผ่านปี 2563 มาได้เพียง 3 สัปดาห์ ดูเหมือนว่าบรรยากาศการเข้าโรงหลังปีใหม่ก็ยังคงทรง ๆ ไม่มีอะไรให้ตื่นตาตื่นใจ เพราะเป็นแค่การเริ่มต้นของปีจึงยังไม่เข้าที่เข้าทาง หากไม่นับเรื่อง "ฮาวทูทิ้งฯ" ที่ลากจากปีกลายนั้น จะเห็นว่าบรรดาหนังใหม่ที่เข้าฉายในช่วงนี้ก็ยังไม่เห็นมีเรื่องใดดึงดูดใจสักเท่าไรนัก

เริ่มด้วยหนังเปิดปีที่ฉายในโรงเครือ SF ที่มีชื่อสั้นที่สุดว่า "งู" จากการกำกับของ "แจ๊สสยาม" คนทำหนังรุ่นใหญ่ที่ห่างหายจากจออย่างยาวนาน รวมถึงหนังฟอร์มยักษ์ที่รอคอยเป็นปีอย่าง มือปืนโลกไม่จำ เอ๊ย..."มือปืน โลก/พระ/จัน 2" ของพี่ต้อม ยุทธเลิศ ก็ไม่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ทางรายรับได้สำเร็จ 

สิ่งที่ได้พบเห็นนั้นก็ทำให้เราและคนทำหนังด้วยกันต้องนั่งคิดทบทวนกันใหม่ โดยเฉพาะการมุ่งสร้างสรรค์งานที่จะต้องเพียบพร้อมด้วยคุณภาพ ทั้งการพัฒนาบท และเทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้ได้หนังสักเรื่องที่ดีกว่าที่จะทำให้ผู้ชมพึงพอใจ

ถึงจะอย่างไรก็ช่าง แต่ระหว่างช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ก็ยังมีหนังอีกหลายเรื่องเข้าคิวฉายให้แฟน ๆ ได้พอแก้กลุ้ม ทั้งจากค่ายใหญ่และค่ายเล็กตามฟอร์ม

ไม่ว่าจะเป็นการผสานความร่วมมือจาก 2 ขั้วแห่งวงการบันเทิงใน "ไทบ้านXBNK48" ซึ่งเป็นหนังที่หลายฝ่ายจับตามองว่าอาจจะโกยรายได้หนัก ๆ แน่นอน ตามด้วยหนังรักสองสไตล์ที่ฉายช่วงวาเลนไทน์อย่าง "Classic Again" กับ "สุขสันต์วันโสด" การตอกย้ำความสยองที่เผ็ดมันส์กว่าเดิมอย่าง "พี่นาค 2" 

หรือจะเป็นความรักต่างวัยตามประสาท้องถิ่นใน "Love เลย 101" ของเฮียหม่ำ(อีกแล้ว...) ที่งวดนี้จับคู่นักร้องหน้าหวานแห่งยุคอย่าง "ธัญญ่า อาร์สยาม" แถมท้ายด้วยผลงานตามเอกลักษณ์ของเฮียเอกที่ครานี้หันมาจับความโรแมนติกแบบใส ๆ ซื่อ ๆ เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงใน "มนต์รักดอกผักบุ้ง"  

อาจรวมไปถึงหนังที่ยังไม่ยืนยันวันกำหนดฉาย แต่ก็เป็นหนังที่แฟน ๆ อยากดูเร็ว ๆ ทั้ง "Mother Gamer" ของสหมงคลฟิล์ม จาก ผกก.เสือ ยรรยง  "อย่าเรียกพี่ว่าพ่อ" ของทรานส์ฟอร์เมชั่นฟิล์มที่ดึงดารานำจากหลายค่ายมาแสดงร่วมกัน และ "7 Boyscouts" ของพี่ต้อมกับค่ายพระนครฟิลม์(อีกแล้ว) เป็นต้น

แม้ว่าค่ายหนังเบอร์ 1 อย่าง GDH กำลังซุ่มถ่ายทำหนังเรื่องต่อไปอยู่ รวมถึงการเกิดใหม่ของเฮียวิสูตรภายใต้ชื่อ "ไท เมเจอร์" ก็กำลังซุ่มถ่ายหนังเรื่องแรกอีกเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะลงคิวฉายในช่วงไตรมาสถัดไป...

แต่ความหวังของหนังไทยจากค่ายต่าง ๆ ที่เข้าฉายในไตรมาสแรกก็น่าจะช่วยให้คอหนังมีความภูมิใจขึ้นได้บ้าง ถ้ามีหนังสักกี่เรื่องที่มีกระแสตอบรับที่ดีและมีรายรับที่คุ้มค่ากว่าที่เป็นอยู่ ฉะนั้นความรังเกียจหรือเพิกเฉยต่อหนังไทยจะต้องลดลงได้สักที

เพราะว่าหนังไทยไม่เพอร์เฟ็คไปทุกเรื่อง แต่..."เรื่องใดจะรุ่งใน 3 เดือนนี้"...อยู่ที่ผู้ชมจะตัดสินใจ สวัสดี.