เมื่อประมาณปี 2012 ก็ 7-8 ปีที่แล้ว (ตอนนั้นเรียนม.ปลายอายุ 17 ส่วนปัจจุบันทำงานแล้วอายุ 24 ค่ะ) จขกท.มีเพื่อนสนิทอยู่คนนึง (ผู้ชาย)
เขาชอบเรามาก ชอบมาเป็นปี ๆ (น่าจะเกือบ 2 ปี) พอเรารู้ เรากลับไปให้ความหวังเขาแต่สุดท้ายก็ปฏิเสธ เพราะตอนนั้นจขกท.มีแฟนอยู่แล้วค่ะ
เขาออกจากร.ร.ไปเรียนต่อที่อื่น หลังจากช่วงนั้นไม่นาน
ถ้านับจากวันนั้น 2012-2019 เราได้คุยกันบ้าง นาน ๆ ที (ปีนึงจะได้คุยกันยาว ๆ สักครั้งนึง แล้วเราก็จะหายกันไปอีก เป็นแบบนี้ตลอด 7-8 ปีที่ผ่านมาเลยค่ะ)
แต่ช่วงนี้เริ่มปีมามันมีเหตุที่ทำให้เราได้กลับมาคุยกันอีกครั้งนึงแบบยาว ๆ ซึ่งมันเป็นอะไรที่ดีมาก เราก็เลยบอกเขาไปว่า เรารู้สึกดีนะ แต่เขาตอบกลับมาประมาณว่า
'เราก็รู้สึกดีนะที่ได้มาคุยกันจริง ๆ จัง ๆ แบบนี้ เราสนุกมาก มันรู้สึกดีจริง ๆ เรายิ้มทุกวัน แต่เราไม่พร้อมมีใคร ณ ตอนนี้ ลำพังตัวเราเองคนเดียวตอนนี้โอเคกว่า แต่ว่าในฐานะเพื่อนสนิท เราก็ดีใจนะที่เธอคิดแบบนั้น
ไอ้คำว่าแอบหวังไหมเรื่องแฟนอะไรเนี่ย แอบคิดบ้างนิดหน่อย แต่ก็คงจะไม่แล้ว เพราะที่ผ่านมาเธอก็มีคนเข้าหามาตลอดนะ คงมีอะไรหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นอีกใช่มั้ย เราเลยคิดว่าตอนนี้เธอไม่ควรมาจบที่เรานะ ข้างหน้าอาจจะมีอะไรที่ดีกว่า
เรื่องเก่า ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2012 มันเป็นบทเรียนเหมือนกัน ตอนนั้นก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าไม่โดนปฏิเสธ ตอนนี้เราสองคนจะเป็นยังไงนะ ตอนนั้นเราผิดเองที่เข้าไปทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเธอคบกับใครอยู่ นั่นก็เพราะความรู้สึกน่ะ ที่มันคิดเกินเลย ก็เคยโทษตัวเอง แต่ตอนนี้ไม่ได้คิดแล้ว ถือเป็นเรื่องราวและบทเรียนที่ดี เราขี้ลืมหลาย ๆ เรื่องนะ แต่สำหรับเรื่องนี้ เราจำมันได้ดี มันก็ไม่ได้แย่อะไร วัยรุ่นตอนนั้นมันก็ดีเหมือนกัน..
ไป ๆ มา ๆ ก็คุยเรื่องอดีตกันเฉยเลย อดีตพัวพันจริง ๆ
ความรู้สึกดี ๆ ตอนนี้เนี่ย เรามีคิดอยู่เหมือนกัน ถึงจะเล็กน้อยนะ แต่ที่บอกว่าเรายังไม่พร้อม เอาเถอะ วันข้างหน้าหรืออะไรก็ตามที่เป็นเรื่องอนาคต ให้เวลามันตัดสินแล้วกัน ส่วนตอนนี้ที่เป็นอยู่ เราว่ามันดีนะ'
จขกท.เป็นเพื่อนสนิทผู้หญิงคนเดียวสำหรับเขา ณ ตอนนั้น แล้วหลังจากนั้นก็คิดว่า เขาก็ไม่ได้เจอใครอีกค่ะ ตอนคุย ๆ กัน เขาก็บอกมาว่าเขาเลิกคิดเรื่องพวกนี้ไปแล้ว เพิ่งจะมีแอบคิดบ้างนิดหน่อยตอนกลับมาคุยกันนี่เอง แต่เขายังไม่พร้อม
จขกท.พอจะมีหวังอยู่บ้างไหมคะ ความพยายามต่อดีไหม อยากจะเดินหน้าเข้าหาเขาค่ะ TT นึกไปถึงอดีตก็รู้สึกผิดมากจริง ๆ เหมือนทำให้เขาฝังใจไปเลย
แบบนี้ยังจะพอมีหวังอยู่บ้างมั้ยคะ? ควรจะพยายามต่อไปมั้ยคะ แล้วควรทำยังไงดี? เข้ามาตอบได้นะคะ TT
เขาชอบเรามาก ชอบมาเป็นปี ๆ (น่าจะเกือบ 2 ปี) พอเรารู้ เรากลับไปให้ความหวังเขาแต่สุดท้ายก็ปฏิเสธ เพราะตอนนั้นจขกท.มีแฟนอยู่แล้วค่ะ
เขาออกจากร.ร.ไปเรียนต่อที่อื่น หลังจากช่วงนั้นไม่นาน
ถ้านับจากวันนั้น 2012-2019 เราได้คุยกันบ้าง นาน ๆ ที (ปีนึงจะได้คุยกันยาว ๆ สักครั้งนึง แล้วเราก็จะหายกันไปอีก เป็นแบบนี้ตลอด 7-8 ปีที่ผ่านมาเลยค่ะ)
แต่ช่วงนี้เริ่มปีมามันมีเหตุที่ทำให้เราได้กลับมาคุยกันอีกครั้งนึงแบบยาว ๆ ซึ่งมันเป็นอะไรที่ดีมาก เราก็เลยบอกเขาไปว่า เรารู้สึกดีนะ แต่เขาตอบกลับมาประมาณว่า
'เราก็รู้สึกดีนะที่ได้มาคุยกันจริง ๆ จัง ๆ แบบนี้ เราสนุกมาก มันรู้สึกดีจริง ๆ เรายิ้มทุกวัน แต่เราไม่พร้อมมีใคร ณ ตอนนี้ ลำพังตัวเราเองคนเดียวตอนนี้โอเคกว่า แต่ว่าในฐานะเพื่อนสนิท เราก็ดีใจนะที่เธอคิดแบบนั้น
ไอ้คำว่าแอบหวังไหมเรื่องแฟนอะไรเนี่ย แอบคิดบ้างนิดหน่อย แต่ก็คงจะไม่แล้ว เพราะที่ผ่านมาเธอก็มีคนเข้าหามาตลอดนะ คงมีอะไรหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นอีกใช่มั้ย เราเลยคิดว่าตอนนี้เธอไม่ควรมาจบที่เรานะ ข้างหน้าอาจจะมีอะไรที่ดีกว่า
เรื่องเก่า ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2012 มันเป็นบทเรียนเหมือนกัน ตอนนั้นก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าไม่โดนปฏิเสธ ตอนนี้เราสองคนจะเป็นยังไงนะ ตอนนั้นเราผิดเองที่เข้าไปทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเธอคบกับใครอยู่ นั่นก็เพราะความรู้สึกน่ะ ที่มันคิดเกินเลย ก็เคยโทษตัวเอง แต่ตอนนี้ไม่ได้คิดแล้ว ถือเป็นเรื่องราวและบทเรียนที่ดี เราขี้ลืมหลาย ๆ เรื่องนะ แต่สำหรับเรื่องนี้ เราจำมันได้ดี มันก็ไม่ได้แย่อะไร วัยรุ่นตอนนั้นมันก็ดีเหมือนกัน..
ไป ๆ มา ๆ ก็คุยเรื่องอดีตกันเฉยเลย อดีตพัวพันจริง ๆ
ความรู้สึกดี ๆ ตอนนี้เนี่ย เรามีคิดอยู่เหมือนกัน ถึงจะเล็กน้อยนะ แต่ที่บอกว่าเรายังไม่พร้อม เอาเถอะ วันข้างหน้าหรืออะไรก็ตามที่เป็นเรื่องอนาคต ให้เวลามันตัดสินแล้วกัน ส่วนตอนนี้ที่เป็นอยู่ เราว่ามันดีนะ'
จขกท.เป็นเพื่อนสนิทผู้หญิงคนเดียวสำหรับเขา ณ ตอนนั้น แล้วหลังจากนั้นก็คิดว่า เขาก็ไม่ได้เจอใครอีกค่ะ ตอนคุย ๆ กัน เขาก็บอกมาว่าเขาเลิกคิดเรื่องพวกนี้ไปแล้ว เพิ่งจะมีแอบคิดบ้างนิดหน่อยตอนกลับมาคุยกันนี่เอง แต่เขายังไม่พร้อม
จขกท.พอจะมีหวังอยู่บ้างไหมคะ ความพยายามต่อดีไหม อยากจะเดินหน้าเข้าหาเขาค่ะ TT นึกไปถึงอดีตก็รู้สึกผิดมากจริง ๆ เหมือนทำให้เขาฝังใจไปเลย