ก่อนอื่นเลยต้องแนะนำ Southern Africa หรือแอฟริกาตอนใต้กันก่อน เวลานับหลวมๆ ตาม geographic region
จะมีทั้งหมด 10 ประเทศ ได้แก่
1. Angola
2. Botswana
3. Eswatini (Swaziland)
4. Lesotho
5. Malawi
6. Mozambique
7. Namibia
8. South Africa
9. Zambia
10. Zimbabwe
บางตำราเอา Angola ไปไว้แอฟริกากลาง (Central Africa) แล้ว Malawi, Mozambique, Zambia กับ Zimbabwe ไปอยู่ในแอฟริกาตะวันออก (East Africa) นะคะ
ในโพสนี้เราจะเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ที่ไปขับรถเที่ยว 5 ประเทศ แล้วไป Safari ทัวร์อีก 2 ประเทศ ที่ๆยังไม่ได้ไปคือแองโกลา มาราวี และซิมบับเว
ก่อนอื่นเลย
ไปยังไง (how to get there?)
เริ่มจากบินลงที่ แอฟริกาใต้ค่ะ แล้วอยากเริ่มขับจากที่ไหนก็บินต่อไปได้สบายๆ อย่างตอนไปนามิเบียเราบินเข้าโจฮันเนสเบิร์ก เพื่อไปต่อเครื่องไป วินด์ฮุก (Windheok) มีเที่ยวบินตรงจากแฟรงค์เฟิร์ต เยอรมันนะ ถ้าใครสะดวกต่อเครื่องยุโรปมากกว่า
อย่างตอนไป Botswana เราต่อเครื่องที่ UAE ตอนนั้นบินกับ Etihad ส่วนทริปอื่นเราเริ่มขับจาก South Africa เลย
เที่ยวยังไง (how to get around?)
เราชอบขับรถเที่ยวเป็น road trip มากกว่าที่จะไปทัวร์ค่ะ มีรถตัวเองสะดวก สบายกว่า อยากไปไหนก็ตามใจฉัน ไม่ต้องรอใคร แวะไหนก็ได้
รถคันโปรดของเราสองคนเป็น Ford Ranger 4 ประตูค่ะ ถ้าใครงบน้อย หรือมากันสองคน เช่า 2 ประตูก็ได้ รถจะเล็กกว่าหน่อย ที่เราเช่ารถคันนี้เพราะไม่อยากเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปไว้หลังรถ กลัวฝุ่นจับ และก็ขี้เกียจที่จะยกขึ้นยกลงด้วย ตัวรถคันนี้ออกแบบมาดีมาก มีเต็นท์นอนบนหลังคารถ (rooftop tent) นอนได้สองคน เขามีหมอนผ้าห่มให้เรียบร้อย ข้างหลังรถมีตู้เย็น เครื่องครัว เตาแก๊สโต๊ะเก้าอี้ครบชุด มีถังน้ำ พร้อมสำหรับ ตั้ง camp เราแค่ต้องซื้ออาหารไปทำแค่นั้นเอง ง่ายๆ
ใครไม่อยากนอนบนรถ ก็เช่ารถขับแล้วนอน รร ก็ได้ ที่พักมีตั้งแต่บ้านพักอุทยานไปถึง รร ห้าดาว
นามีเบีย Namibia
บอกก่อนเลยว่าเป็นประเทศที่เราชอบที่สุดในโลก นามิเบียอยู่ในทวิปแอฟริกาตั้งอยู่เหนือแอฟริกาใต้ มีชายฝั่งทะเลแอตแลนติก ถ้าคุณเป็นคนรักธรรมชาติชอบผจญภัย ไม่กลัวลำบากเราแนะนำแคมปิ้งที่นี่ค่ะ ทริปนี่เราอยู่โรงแรมกันแค่ 2 คืน คืนที่ 1 แถว Windheok คืนที่ 2 ที่ Swakopmund (ประมาณครึ่งทางของทริปละ) เป็นเมืองริมทะเล (ทริปนี้มีแค่ 2 เมือง)
นามิเบียเป็นประเทศที่ปลอดภัยมากนะคะ คนนิสัยดี ใจดี friendly ไม่น่ากลัว ทำให้เราเที่ยวกันอย่างสบายใจ รู้สึกปลอดภัยกว่าเที่ยวยุโรปอีก ตาม campsite ก็สะอาด ห้องน้ำดี camp เค้าจะมี # (หมายเลข) บอก ก็จะอยู่ที่ใครที่มัน หลายๆที่อยู่ใต้ต้นไม้ มี water tap ทุก camp และถังขยะ ตอนมาสะอาดยังไงตอนกลับ คุณก็ต้องทำให้สะอาดเหมือนเดิมนะคะ “Take only photos, leave only foot prints”
Highlight ที่เที่ยวหลักๆมี 3 ที่
1. Ethosha National Park: ขับรถ game drive เองดูสัตว์ไปเรื่อยๆ
2. Sandwich Harbour: ใกล้ๆ Walvis Bay เป็นจุดที่เนินทะเลทราย (sand dune) บรรจบกับ Atlantic Ocean
3. Namib-Naukluft National Park: ที่เที่ยวมี 2 ที่คือ Sossusvlei + Deadvlei
อีกอย่างที่ทำให้เรารักทริปนี้มากก็คือท้องฟ้า พระอาทิตย์ขึ้นก็ตื่นกันทั้ง campsite พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกสวยมาก แต่ที่สวยยิ่งกว่านั้นคือตอนกลางคืน มืดมาก ทำให้เห็นดาวเต็มฟ้าแบบเต็มจริงๆนะ เหมือนโยน glitter ไว้บนผ้าสีดำ สว่างไสวสวยงามจับใจ เราโชคดีที่ตอนไปฟ้าเปิดเกือบทุกวัน ตอนกลางคืนไม่มีเมฆเลยได้ถ่ายรูปดาวและ milky way มาเยอะเลย ความฟินระดับ 10 เลยแหละ นอน rootop tent ใต้ทางช้างเผือก ตื่นมาพร้อมเสียงของธรรมชาติ ก่อนนอนก็ได้ยินเสียงสัตว์ เป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมจริงๆ
แอฟริกาใต้ South Africa
เป็นจุดเริ่มต้นของ road trip 4ประเทศข้างล้าง แต่ที่จริงจากนี่สามารถขับไปได้หมดเลย เราขับเป็นวงกลม เริ่มจากขับลงจาก JNB ไป Lesotho + เขา Drakensberg เราขับเลาะเทือกเขา Drakensberg จาก Underberg ไป Golden Gate วิวงามมาก Magical สุดๆอะ บางช่วงหุบเขามันแบบ mystical เหมือนจะมีมังกรโผล่ออกมา คุ้มกับความเหนื่อย ขับ 7 ชม หลังจากนั้นก็ไปต่อที่ Ithala Game Reserve
จากนั้นเราก็ขับไปที่ St. Lucia เราแวะล่องเรือ safari cruise 2 ชม ใน estuary (ปากน้ำ) เพื่อดู hippo, จรเข้ ไนล์ และตามหาฉลาม Zambezi หลังจากนั้น เราก็ขับใน iSimangaliso Wetland Park ถึง Cape Vidal เราตั้ง camp กันที่นี้หนึ่งคืน camp อยู่ติดทะเลเลย ได้ฟิลลิ่ง Jurassic Park จุดหมายต่อไปในก่อนข้ามไป Mozambique คือ Kosi Bay ซึ้งเป็นปากน้ำ อยู่ห่างจากชายแดน Mozambique 15 นาที
หลังจากข้ามไปที่ Mozambique และ Swaziland เราข้ามกลับมาเที่ยว safari ที่ Kruger national park ซึ่งเป็นที่เที่ยวสุดท้ายก่อนไปคืนรถ เราเริ่มจากตอนใต้ขับขึ้นไปในกลางอุทยานที่ขึ้นชื่อว่าเป็น cat country เพราะมี big cats เยอะ เราได้เห็น leopard นอนอยู่บนต้นไม้ แล้วก็ฝูงสิงโต เราเลือกที่จะไป sunset game drive tour เพื่อที่จะได้เห็นสัตว์ออกหากินตอนเย็น ทางอุทยานไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขับรถส่วนตัวหลังพระอาทิตย์ตกดิน camp gate จะปิดตอน sunset พอดี หลังจากคืนแรก เราตื่นมาก็ออกไปดูสิงโต หลังจากนั้นก็เริ่มขับลงไปที่อีก camp ใกล้ๆ Malalane gate จุดนี้มีแรดเยอะ เช้าวันสุดท้าย เราก็ออกไปตามหาแรดกัน ได้เจอด้วยนะ เป็นครอบครัวเลย มันตัวเล็กกว่าที่คิดไว้มาก ตอนจะออกจากอุทยานก็ได้เจอนตัวใหญ่ ตัวเดียว เดินข้ามถนนอยู่ เท่มาก!!!

เลโซโท Lesotho
ขับจาก JNB มา 5 ชม (ไม่รวมเวลาแวะ) ก็ถึงชายแดน คนไทยต้องใช้ Visa นะคะ ทํา online ได้เลย 2-3 วันก็ได้แล้ว พอเข้าประเทศไปจะรู้สึกได้ถึงความ peaceful และย้อนยุค วิวสวยเหมือนในนิยาย แล้วก็มีเด็กเยอะมากๆ ดูทุกคนมีความสุข จะมีเด็กโบกมือให้ตลอดทาง รู้สึกปลอดภัย สบายใจดี คนพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยค่ะ ถ้าใครเคยดู Black Panther ให้นึกถึงนอกเมือง Wakanda ค่ะ Lesotho ขึ้นชื่อว่าเป็น Kingdom in the sky และเป็น inspiration ให้หนังหลายๆเรื่อง ทั้งด้าน location และ costume สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเทศเล็กๆนี้ก็มีหลายอย่าง
1. เป็น ⅓ Kingdom ที่ยังเหลืออยู่ในทวีป Africa
2. มีนํ้าเยอะมาก เลยส่งออกนํ้า
3. ประเทศ land-lock ล้อมรอบโดย South Africa
4. จุดตํ่าสุดของ Lesotho คือจุดตํ่าสุดที่สูงที่สุดในโลก
Lesotho อากาศหนาวเย็นหน่อยๆ เรามาหน้าหนาว กลางวัน 15c กลางคืน -2c เราเลยเลือกที่จะพักที่ Maliba Lodge ซึ่งเป็นโรงแรม 5 ดาว แห่งเดียวในประเทศ อาหารที่ รร อร่อย ใครไปห้ามลืมสั่ง Lesotho Trout นะคะ เป้าหมายของการมาประทศเล็กๆในหุบเขาแห่งนี้คือการขับรถลง Sani Pass
ขับจาก lodge มา 5 ชมก็ถึงชายแดนบนภูเขา มี pub ที่สูงที่สุดใน Africa ที่นี่เป็นจุดพักสุดท้ายก่อนขับ Sani Pass ออกจาก Lesotho ตอนที่ไปจะขับ Sani Pass ได้ต้องเป็นรถ 4wd นะคะ ทางลงเขาทั้งหมดเป็นหินประมาณ 1 km แรกที่ลงมาจะชันมากๆ แบบขับลง 45 องศา ลงมานิดนึงก็เลี้ยวเลย มันเป็น switchback turns ถ้าไม่มั่นใจใน skill ขับรถก็ข้าม Sani Pass ไปนะคะ เพราะมันคือการขับลงเหว lane เดียวสวนกันได้ ระยะทางทั้งหมด 45 km มันเป็นหนึ่งใน dangerous roads in the world ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ถนนที่ทำใหม่ ทำให้ขับง่ายขึ้นไหมนะคะ
(2สาวเพื่อนซี้) Best of Southern Africa - ไป road trip แอฟริกาตอนใต้กันดีกว่า
ก่อนอื่นเลยต้องแนะนำ Southern Africa หรือแอฟริกาตอนใต้กันก่อน เวลานับหลวมๆ ตาม geographic region
จะมีทั้งหมด 10 ประเทศ ได้แก่
1. Angola
2. Botswana
3. Eswatini (Swaziland)
4. Lesotho
5. Malawi
6. Mozambique
7. Namibia
8. South Africa
9. Zambia
10. Zimbabwe
บางตำราเอา Angola ไปไว้แอฟริกากลาง (Central Africa) แล้ว Malawi, Mozambique, Zambia กับ Zimbabwe ไปอยู่ในแอฟริกาตะวันออก (East Africa) นะคะ
ในโพสนี้เราจะเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ที่ไปขับรถเที่ยว 5 ประเทศ แล้วไป Safari ทัวร์อีก 2 ประเทศ ที่ๆยังไม่ได้ไปคือแองโกลา มาราวี และซิมบับเว
ก่อนอื่นเลย
ไปยังไง (how to get there?)
เริ่มจากบินลงที่ แอฟริกาใต้ค่ะ แล้วอยากเริ่มขับจากที่ไหนก็บินต่อไปได้สบายๆ อย่างตอนไปนามิเบียเราบินเข้าโจฮันเนสเบิร์ก เพื่อไปต่อเครื่องไป วินด์ฮุก (Windheok) มีเที่ยวบินตรงจากแฟรงค์เฟิร์ต เยอรมันนะ ถ้าใครสะดวกต่อเครื่องยุโรปมากกว่า
อย่างตอนไป Botswana เราต่อเครื่องที่ UAE ตอนนั้นบินกับ Etihad ส่วนทริปอื่นเราเริ่มขับจาก South Africa เลย
เที่ยวยังไง (how to get around?)
เราชอบขับรถเที่ยวเป็น road trip มากกว่าที่จะไปทัวร์ค่ะ มีรถตัวเองสะดวก สบายกว่า อยากไปไหนก็ตามใจฉัน ไม่ต้องรอใคร แวะไหนก็ได้
รถคันโปรดของเราสองคนเป็น Ford Ranger 4 ประตูค่ะ ถ้าใครงบน้อย หรือมากันสองคน เช่า 2 ประตูก็ได้ รถจะเล็กกว่าหน่อย ที่เราเช่ารถคันนี้เพราะไม่อยากเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปไว้หลังรถ กลัวฝุ่นจับ และก็ขี้เกียจที่จะยกขึ้นยกลงด้วย ตัวรถคันนี้ออกแบบมาดีมาก มีเต็นท์นอนบนหลังคารถ (rooftop tent) นอนได้สองคน เขามีหมอนผ้าห่มให้เรียบร้อย ข้างหลังรถมีตู้เย็น เครื่องครัว เตาแก๊สโต๊ะเก้าอี้ครบชุด มีถังน้ำ พร้อมสำหรับ ตั้ง camp เราแค่ต้องซื้ออาหารไปทำแค่นั้นเอง ง่ายๆ
ใครไม่อยากนอนบนรถ ก็เช่ารถขับแล้วนอน รร ก็ได้ ที่พักมีตั้งแต่บ้านพักอุทยานไปถึง รร ห้าดาว
นามีเบีย Namibia
บอกก่อนเลยว่าเป็นประเทศที่เราชอบที่สุดในโลก นามิเบียอยู่ในทวิปแอฟริกาตั้งอยู่เหนือแอฟริกาใต้ มีชายฝั่งทะเลแอตแลนติก ถ้าคุณเป็นคนรักธรรมชาติชอบผจญภัย ไม่กลัวลำบากเราแนะนำแคมปิ้งที่นี่ค่ะ ทริปนี่เราอยู่โรงแรมกันแค่ 2 คืน คืนที่ 1 แถว Windheok คืนที่ 2 ที่ Swakopmund (ประมาณครึ่งทางของทริปละ) เป็นเมืองริมทะเล (ทริปนี้มีแค่ 2 เมือง)
นามิเบียเป็นประเทศที่ปลอดภัยมากนะคะ คนนิสัยดี ใจดี friendly ไม่น่ากลัว ทำให้เราเที่ยวกันอย่างสบายใจ รู้สึกปลอดภัยกว่าเที่ยวยุโรปอีก ตาม campsite ก็สะอาด ห้องน้ำดี camp เค้าจะมี # (หมายเลข) บอก ก็จะอยู่ที่ใครที่มัน หลายๆที่อยู่ใต้ต้นไม้ มี water tap ทุก camp และถังขยะ ตอนมาสะอาดยังไงตอนกลับ คุณก็ต้องทำให้สะอาดเหมือนเดิมนะคะ “Take only photos, leave only foot prints”
Highlight ที่เที่ยวหลักๆมี 3 ที่
1. Ethosha National Park: ขับรถ game drive เองดูสัตว์ไปเรื่อยๆ
2. Sandwich Harbour: ใกล้ๆ Walvis Bay เป็นจุดที่เนินทะเลทราย (sand dune) บรรจบกับ Atlantic Ocean
3. Namib-Naukluft National Park: ที่เที่ยวมี 2 ที่คือ Sossusvlei + Deadvlei
อีกอย่างที่ทำให้เรารักทริปนี้มากก็คือท้องฟ้า พระอาทิตย์ขึ้นก็ตื่นกันทั้ง campsite พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกสวยมาก แต่ที่สวยยิ่งกว่านั้นคือตอนกลางคืน มืดมาก ทำให้เห็นดาวเต็มฟ้าแบบเต็มจริงๆนะ เหมือนโยน glitter ไว้บนผ้าสีดำ สว่างไสวสวยงามจับใจ เราโชคดีที่ตอนไปฟ้าเปิดเกือบทุกวัน ตอนกลางคืนไม่มีเมฆเลยได้ถ่ายรูปดาวและ milky way มาเยอะเลย ความฟินระดับ 10 เลยแหละ นอน rootop tent ใต้ทางช้างเผือก ตื่นมาพร้อมเสียงของธรรมชาติ ก่อนนอนก็ได้ยินเสียงสัตว์ เป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมจริงๆ
แอฟริกาใต้ South Africa
เป็นจุดเริ่มต้นของ road trip 4ประเทศข้างล้าง แต่ที่จริงจากนี่สามารถขับไปได้หมดเลย เราขับเป็นวงกลม เริ่มจากขับลงจาก JNB ไป Lesotho + เขา Drakensberg เราขับเลาะเทือกเขา Drakensberg จาก Underberg ไป Golden Gate วิวงามมาก Magical สุดๆอะ บางช่วงหุบเขามันแบบ mystical เหมือนจะมีมังกรโผล่ออกมา คุ้มกับความเหนื่อย ขับ 7 ชม หลังจากนั้นก็ไปต่อที่ Ithala Game Reserve
จากนั้นเราก็ขับไปที่ St. Lucia เราแวะล่องเรือ safari cruise 2 ชม ใน estuary (ปากน้ำ) เพื่อดู hippo, จรเข้ ไนล์ และตามหาฉลาม Zambezi หลังจากนั้น เราก็ขับใน iSimangaliso Wetland Park ถึง Cape Vidal เราตั้ง camp กันที่นี้หนึ่งคืน camp อยู่ติดทะเลเลย ได้ฟิลลิ่ง Jurassic Park จุดหมายต่อไปในก่อนข้ามไป Mozambique คือ Kosi Bay ซึ้งเป็นปากน้ำ อยู่ห่างจากชายแดน Mozambique 15 นาที
หลังจากข้ามไปที่ Mozambique และ Swaziland เราข้ามกลับมาเที่ยว safari ที่ Kruger national park ซึ่งเป็นที่เที่ยวสุดท้ายก่อนไปคืนรถ เราเริ่มจากตอนใต้ขับขึ้นไปในกลางอุทยานที่ขึ้นชื่อว่าเป็น cat country เพราะมี big cats เยอะ เราได้เห็น leopard นอนอยู่บนต้นไม้ แล้วก็ฝูงสิงโต เราเลือกที่จะไป sunset game drive tour เพื่อที่จะได้เห็นสัตว์ออกหากินตอนเย็น ทางอุทยานไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขับรถส่วนตัวหลังพระอาทิตย์ตกดิน camp gate จะปิดตอน sunset พอดี หลังจากคืนแรก เราตื่นมาก็ออกไปดูสิงโต หลังจากนั้นก็เริ่มขับลงไปที่อีก camp ใกล้ๆ Malalane gate จุดนี้มีแรดเยอะ เช้าวันสุดท้าย เราก็ออกไปตามหาแรดกัน ได้เจอด้วยนะ เป็นครอบครัวเลย มันตัวเล็กกว่าที่คิดไว้มาก ตอนจะออกจากอุทยานก็ได้เจอนตัวใหญ่ ตัวเดียว เดินข้ามถนนอยู่ เท่มาก!!!
เลโซโท Lesotho
ขับจาก JNB มา 5 ชม (ไม่รวมเวลาแวะ) ก็ถึงชายแดน คนไทยต้องใช้ Visa นะคะ ทํา online ได้เลย 2-3 วันก็ได้แล้ว พอเข้าประเทศไปจะรู้สึกได้ถึงความ peaceful และย้อนยุค วิวสวยเหมือนในนิยาย แล้วก็มีเด็กเยอะมากๆ ดูทุกคนมีความสุข จะมีเด็กโบกมือให้ตลอดทาง รู้สึกปลอดภัย สบายใจดี คนพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยค่ะ ถ้าใครเคยดู Black Panther ให้นึกถึงนอกเมือง Wakanda ค่ะ Lesotho ขึ้นชื่อว่าเป็น Kingdom in the sky และเป็น inspiration ให้หนังหลายๆเรื่อง ทั้งด้าน location และ costume สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเทศเล็กๆนี้ก็มีหลายอย่าง
1. เป็น ⅓ Kingdom ที่ยังเหลืออยู่ในทวีป Africa
2. มีนํ้าเยอะมาก เลยส่งออกนํ้า
3. ประเทศ land-lock ล้อมรอบโดย South Africa
4. จุดตํ่าสุดของ Lesotho คือจุดตํ่าสุดที่สูงที่สุดในโลก
Lesotho อากาศหนาวเย็นหน่อยๆ เรามาหน้าหนาว กลางวัน 15c กลางคืน -2c เราเลยเลือกที่จะพักที่ Maliba Lodge ซึ่งเป็นโรงแรม 5 ดาว แห่งเดียวในประเทศ อาหารที่ รร อร่อย ใครไปห้ามลืมสั่ง Lesotho Trout นะคะ เป้าหมายของการมาประทศเล็กๆในหุบเขาแห่งนี้คือการขับรถลง Sani Pass
ขับจาก lodge มา 5 ชมก็ถึงชายแดนบนภูเขา มี pub ที่สูงที่สุดใน Africa ที่นี่เป็นจุดพักสุดท้ายก่อนขับ Sani Pass ออกจาก Lesotho ตอนที่ไปจะขับ Sani Pass ได้ต้องเป็นรถ 4wd นะคะ ทางลงเขาทั้งหมดเป็นหินประมาณ 1 km แรกที่ลงมาจะชันมากๆ แบบขับลง 45 องศา ลงมานิดนึงก็เลี้ยวเลย มันเป็น switchback turns ถ้าไม่มั่นใจใน skill ขับรถก็ข้าม Sani Pass ไปนะคะ เพราะมันคือการขับลงเหว lane เดียวสวนกันได้ ระยะทางทั้งหมด 45 km มันเป็นหนึ่งใน dangerous roads in the world ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ถนนที่ทำใหม่ ทำให้ขับง่ายขึ้นไหมนะคะ