สวัสดีเพื่อนนักเดินทางในพันทิบ  เพิ่งจะผ่านปีใหม่มา  ตอนนี้เลยมีเวลามานั่งคิดว่าทริปที่ประทับใจในปี 2019 ของเรามีที่ไหนบ้าง และที่นี่คือ 1 ความสวยงาม ประทับใจและอยากกลับไปอีก แต่ต้องเปลี่ยนวิธีการเดินทาง  เพราะยังมีอีกหลายที่ๆไม่สามารถไปได้ด้วยข้อจำกัด 

เราเดินทางไปอังกฤษหลายครั้งในระยะ 3-4 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ ก็เที่ยววนๆ อยู่ในลอนดอนค่ะ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งเราไปเที่ยวแล้วโดนล้วงกระเป๋า โทรศัพท์หายที่ห้าง Harrods  เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบอกว่า นักท่องเที่ยวเจอกันทุกวัน แล้วก็ไม่เคยมีใครได้คืน เราจึงได้แต่ทำใจและซื้อโทรศัพท์ใหม่   เจอคนเดินชนจนกระเป๋าสะพายตกพื้น แล้วไม่ขอโทษ  เกือบเจอคนไล่แทงที่ตลาดบาโรคมาแล้ว เรารอดแบบเฉียดฉิว เพราะไปก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องเพียงหนึ่งวัน  เราเลยเข็ดกับการเที่ยวในเมืองไปพักใหญ่

ทริปซัมเมอร์ปี 2019 เดือน กรกฏาคม ที่ผ่านมา เราเลยไปเที่ยวตามชนบทแทนค่ะ  เราอ่านรีวิวของการไปเที่ยวหมู่บ้าน Bibury อันเลื่องชื่อมาหลายครั้ง  ตอนแรกก็กลัวค่ะ  กลัวการเดินทางแบบไม่มีรถ  แต่คือเรายังไม่กล้าขับรถที่ต่างประเทศ แต่ใจคืออยากไปมาก เราเห็นรูปในกระทู้พันทิบแล้วคือแบบมันดูสงบ เรียบง่าย ร่มรื่น อบอุ่น ความงามละมุน  เลยคิดว่ายังไงก็ต้องไปเห็นกับตาให้ได้สักครั้ง  โดยมีเวลาเที่ยว 2 คืน 2 วันที่นั่นค่ะ 

วันที่ 1 เดินทางโดนรถไฟจากสถานี Paddington ไป   Moreton- In - March เราซื้อตั๋วรถไฟจากตู้จำหน่ายที่สถานี  King Cross ค่ะ ก็ซื้อง่ายๆไม่ยุ่งยากอะไร เลือกวัน เวลา ชนิดของตั๋ว  ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง บนรถไฟมีอาหาร มีเครื่องดื่มจำหน่ายด้วยค่ะ ที่นั่งเราซื้อแบบธรรมดา ไม่ได้ระบุที่นั่ง น่าจะประมาณ.ใครมาก่อนก็ได้ที่นั่งเหมาะๆก่อน  เห็นบางคนขึ้นมาก็ยืนค่ะ เพราะไม่มีที่นั่ง  พอรถไฟถึงสถานี Oxford คนลงกันเยอะมากกกกก  จนโล่ง ทีนี้ก็นั่งกันสบายเลยค่ะ เลือกแบบหันหน้าหากัน เลือกแบบหันไปทางเดียวกัน 

  พอถึงสถานีรถไฟ  ทีนี้หล่ะ ความวุ่นวายก็มาเยือน  เพราะเรามีกระเป๋าลากกันคนละ 1 ใบกับพี่สาว ถึงจะใบเล็กแต่ก็ไม่สะดวกถ้าจะลากไปสถานีรถบัส  ที่สถานีรถไฟนี้ จะมีลิสต์รายชื่อคนขับแท็กซี่ พร้อมเบอร์โทรประมาณ 20 กว่า เจ้า........แต่   ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะว่างมารับเรา เพราะเค้าทำงานแบบอิสระ เป็นรถส่วนบุคคลมาขับ คล้ายๆ Uber แต่เราไม่ใช่นักท่องเที่ยวกลุ่มเดียวที่มาเจอชะตากรรมแบบนี้...5555  เพราะมีอีกหลายคนที่พากันโทรเรียกแท็กซี่กันเกือบ 30 นาที กว่าจะติด  เราเลยได้นั่งแท็กซี่ร่วมกับนักท่องเที่ยวชาวจีนอีก 2 คนเพราะต้องการไป Bibury  ได้แชร์ค่าแท็กซี่กันค่ะ จากสถานีรถไฟ ไปหมู่บ้าน Bibury ใช้เวลาประมาณ 40 นาที  คนขับพาขับผ่าน Bourton-On-The-Water ด้วยเพื่อพาเราดูหมู่บ้านนี้ก่อน

ข้อแนะนำ / สิ่งที่ต้องเจอ .
1. ให้จองแท็กซี่มาก่อนที่จะเดินทางมาถึงค่ะ  เพราะมันไม่สนุกเลยที่ต้องมายืนรอแท็กซี่และโทรเรียกแท็กซี่ไล่ไปจนกว่าจะเจอเจ้าที่ว่างและรับเราได้ 
2. ที่นี่ใช้ Uber ไม่ได้ค่ะ   ควรมาถึงช่วงบ่ายค่ะ เพราะถ้าค่ำจะลำบากมาก  หารถยาก
3. ค่าแท็กซี่ขึ้นอยู่กับการต่อรอง  ไม่มีมิเตอร์ แต่ละเจ้าก็ไม่ได้ห่างกันมากนักกับค่าบริการ
4. คนขับบางคน ก็เหมือนมาขับเพื่อหาเงินอย่างเดียว  ไม่ค่อยมี Service Mind หน้าตาก็จะเครียดๆหน่อย ไม่ค่อยยิ้ม
5. ที่ หมู่บ้าน Bibury ไม่ค่อยมีสัญญาณโทรศัพท์ เราพักที่ Swan  Hotel มีสัญญาณแต่อ่อนมาก  จะคุยกับญาติที่ไทย ต้องเดินมาที่ล็อบบี้เพื่อใช้อินเตอร์เน็ต
6. สำหรับคนที่คิดจะมาค้างคืนที่ BIbury  เราจะบอกว่าที่นี่ ไม่มีร้านอาหาร หรือคาเฟ่ มากมายนัก  พอตกเย็นก็เงียบมากกกก  จนวังเวงค่ะ 6 โมงเย็นก็ปิดกันหมดแล้ว
7. ที่นี่เดินเล่นใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงก็เก็บภาพหมดแล้วค่ะ   คือไม่ต้องพักที่นี่ก็ได้ค่ะ ไปพัก ที่ Bourton -On-The-Water เพราะมีที่พักให้เลือกเยอะและคึกคักกว่าเยอะ มีร้านอาหาร Tea Room   Cafe สวยๆ คลาสสิค  เยอะมากค่ะ 
8.  ควรมากับแฟนมากกว่ากับเพื่อน หรือพี่สาว..555555  เพราะสถานที่มันโรแมนติกมากกกก มองไปทางไหนก็เจอกุหลาบ เจอดอกไม้ ลำธาร นั่งจิบชา  โอ๊ยย  ฟินค่ะคุณเอ๊ย   เหมาะสำหรับเดินจูงมือ ชี้นกเป็นนก  ชี้ห่านเป็นหงส์ อะไรก็ว่าไป  

เราพักที่ Bibury 1 คืนเพื่อจะตื่นมาดูบรรยากาศช่วงเช้า โดยไม่วุ่นวายกับนักท่องเที่ยวค่ะ  เราชอบมาก เพราะได้รูปที่ไม่ค่อยติดคนเท่าไหร่  ที่พักเราเป็นแบบสองชั้น ข้างล่างเป็นห้องนั่งเล่น ขั้นบนเป็นห้องนอนและห้องน้ำ   ห้องพักเป็น สไต์ Cottage ค่ะ มีติดกันอยู่หลายหลัง  

รูปที่พักภายในและภายนอกค่ะ เราจ่ายตอนราคาโปร ได้ราคามาที่ 7000  กว่าบาท รวมอาหารเช้าด้วยนะคะ  ปกติมันจะแพงมากเป็นหมื่นค่ะ  เราจองผ่าน Booking.com ค่ะ