แบ็กขวาวันแดงเดือด : สงครามของสายรุกกับสายรับ & โหมไฟแดงเดือด 10 แข้งหงส์-ผี ฟอร์มสุดจี๊ดฤดูกาลนี้

แบ็กขวาวันแดงเดือด : สงครามของสายรุกกับสายรับ

ศึก "แดงเดือด" ที่สนาม แอนฟิลด์ ในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคมนี้นั้น จะมีหลายตำแหน่งที่จะเป็นปัจจัยชี้วัดว่า ลิเวอร์พูล จะยืดสถิติไร้พ่ายในลีกเป็น 39 นัด หรือ แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้ผลการแข่งขันที่ดีกลับบ้าน ซึ่งหนึ่งในปัจจัยที่ว่านั้นก็คือตำแหน่งแบ็กขวา



ฝั่งของเจ้าถิ่นส่ง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ลงประกวด ซึ่งอย่างที่รู้กันดีว่าตอนนี้ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์  ไม่ได้แค่ได้รับคำชมในเกาะอังกฤษเท่านั้น แต่ในระดับทวีปยุโรปเขาก็ยังได้รับการยกย่องอย่างมากจนหลายคนมองว่าเขาเป็นแบ็กขวาลำดับต้นๆ ของวงการฟุตบอลยุโรปในตอนนี้ไปแล้ว หลังจากเจ้าตัวทำแอสซิสต์ได้เป็นกอบเป็นกำ

ขณะที่ทีมเยือนนั้น คนที่จะลงเล่นในตำแหน่งนี้คงหนีไม่พ้น อารอน วาน-บิสซาก้า ที่เล่นเกมรับได้โดดเด่นจนเป็นหนึ่งในคนที่โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ประจำซีซั่นนี้ก็ว่าได้ ความเหนียวแน่นของเขาถึงขนาดเคยทำให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกตัวเก่งของ แมนฯ ซิตี้ เจอปัญหามาแล้ว และวันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงผลงานของทั้งคู่กันว่าดีแค่ไหน ก่อนที่พวกเขาจะเป็นตัวตัดสินผลการแข่งขันของเกมแดงเดือดครั้งนี้

- เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ 



ก่อนถึงฤดูกาล 2016-17 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยังเล่นอยู่ในระดับอะคาเดมี่ของ ลิเวอร์พูล อยู่เลย และถึงแม้เขาจะได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในซีซั่น 2016-17 แต่ตอนนั้นก็ยังไม่มีใครให้ความสนใจเขามากนัก เพราะคิดว่าเขายังเป็นเพียงนักเตะเยาวชนที่ต้องใช้เวลาปรับตัวอีกเยอะ

อย่างไรก็ตาม ดาวเตะชาวอังกฤษมาระเบิดฟอร์มโหดได้ในซีซั่น 2018-19 ด้วยการทำไป 16 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 40 นัดในทุกรายการ และในซีซั่นนี้เขาก็ยังจ่ายบอลได้ดีชนิดที่เพลย์เมกเกอร์หลายคนยังอาย ด้วยการทำไปแล้ว 10 แอสซิสต์ จากการลงเล่นในทุกรายการ 30 นัด

ทั้งนี้ สถิติที่ตอกย้ำให้เห็นมากขึ้นไปอีกว่า อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ปั้นเกมได้ดีกว่าพวกแนวรุกหลายคน ก็คือเขาเป็นนักเตะที่สร้างโอกาสทำประตูให้เพื่อนร่วมทีมในจังหวะโอเพ่นเพลย์สูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ของลีกในซีซั่นนี้ ที่จำนวน 60 ครั้ง (นับเฉพาะก่อนถึงวันที่ 18 มกราคม) แพ้แค่ เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำไป 76 ครั้ง กับ เอมิเลียโน่ บวนเดีย กองกลาง นอริช ซิตี้ ซึ่งทำไป 64 หน เท่านั้น

5 อันดับนักเตะที่สร้างโอกาสทำประตูจากจังหวะโอเพ่นเพลย์มากที่สุดของ พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2019-20

1. เควิน เดอ บรอยน์ (แมนฯ ซิตี้)   76 ครั้ง
2. เอมิเลียโน่ บวนเดีย (นอริช)   64 ครั้ง
3. เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล) 60 ครั้ง
4. แจ็ค กรีลิช (แอสตัน วิลล่า)   53 ครั้ง
5. เจมส์ แมดดิสัน (เลสเตอร์)   50 ครั้ง

นอกจากนี้ ถ้านับย้อนไปตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2018 แล้วล่ะก็ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ คือคนที่ทำการครอสบอลในจังหวะโอเพ่นเพลย์เยอะที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ด้วยการทำไป 274 หน มากกว่า ลูก้าส์ ดีญ แบ็กซ้าย เอฟเวอร์ตัน 19 ครั้ง แถมยังเยอะกว่า แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายเพื่อนร่วมทีม "หงส์แดง" ด้วย

5 อันดับนักเตะที่ทำการครอสบอลในจังหวะโอเพ่นเพลย์มากที่สุด นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2018

1. เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล) 274 ครั้ง
2. ลูก้า ดีญ์ (เอฟเวอร์ตัน)   255 ครั้ง
3. แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ลิเวอร์พูล)   222 ครั้ง
4. ไรอัน เฟรเซอร์ (บอร์นมัธ)   220 ครั้ง
5. เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า (เชลซี)   184 ครั้ง

ขณะเดียวกัน ถ้านับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2018 อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็ยังเป็นคนที่ทำแอสซิสต์ได้มากที่สุดในลีกด้วย เพราะทำไป 20 ครั้งด้วยกัน โดยอันดับ 2 ในชาร์ตนี้คือ เฟรเซอร์ กับ โรเบิร์ตสัน ที่ทำไปคนละ 17 หน



5 อันดับนักเตะที่ทำแอสซิสต์ใน พรีเมียร์ลีก มากที่สุด ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2018

1. เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล) 20 ครั้ง
2. ไรอัน เฟรเซอร์ (บอร์นมัธ)   17 ครั้ง
2. แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ลิเวอร์พูล)   17 ครั้ง
4. เควิน เดอ บรอยน์ (แมนฯ ซิตี้)   16 ครั้ง
5. เอแด็น อาซาร์ (เชลซี)   15 ครั้ง

- อารอน วาน-บิสซาก้า



ในขณะที่ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เป็นสายบุกและเติมเกมรุกอย่างสนุกสนาน อารอน วาน-บิสซาก้า แบ็กขวา แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เป็นแม่เหล็กขั้วตรงข้ามกับแบ็กขวาของ ลิเวอร์พูล อย่างสิ้นเชิง เพราะเจ้าของฉายา "ไอ้แมงมุม" เล่นเกมรับได้เหนียวแน่นสุดๆ ที่พูดอย่างนี้มันไม่ใช่ว่า อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เล่นเกมรับได้แย่ ผลงานในด้านเกมรับของดาวเตะ ลิเวอร์พูล ดูดีในระดับหนึ่ง เพียงแต่ วาน-บิสซาก้า ทำได้เหนือกว่าอย่างชัดเจนก็เท่านั้น

หนึ่งในตัวอย่างที่บ่งบอกถึงเรื่องนั้นได้เป็นอย่างดีก็คือการที่ วาน-บิสซาก้า คือคนที่สกัดโดนบอลมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของลีกในฤดูกาลนี้ ที่จำนวน 77 ครั้ง เป็นรองเพียง ริคาร์โด้ เปเรยร่า กับ วิลฟรีด เอ็นดิดี้ 2 ดาวเตะ เลสเตอร์ ที่ทำไป 89 ครั้ง กับ 86 หน ตามลำดับ



5 อันดับนักเตะที่สกัดโดนบอลมากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2019-20

1. ริคาร์โด้ เปเรยร่า (เลสเตอร์)   89 ครั้ง
2. วิลฟรีด เอ็นดิดี้ (เลสเตอร์)   86 ครั้ง
3. อารอน วาน-บิสซาก้า (แมนฯ ยูไนเต็ด)  77 ครั้ง
4. เดแคลน ไรซ์ (เวสต์แฮม)   67 ครั้ง
5. ชูเอา มูตินโญ่ (วูล์ฟส์)   65 ครั้ง

นอกจากนี้ ถ้านับตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2018 จนถึงก่อนโปรแกรมประจำสุดสัปดาห์นี้แล้วล่ะก็ วาน-บิสซาก้า ยังเป็นคนที่สกัดโดนบอลมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของ พรีเมียร์ลีก ด้วย เพราะฤดูกาลก่อนเขาก็เล่นเกมรับกับ คริสตัล พาเลซ ได้อย่างแข็งแกร่ง และนั่นก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยอมจ่ายเงิน 50 ล้านปอนด์ เพื่อดึงเขามาร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา



5 อันดับนักเตะที่สกัดโดนบอลมากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2018

1. วิลฟรีด เอ็นดิดี้ (เลสเตอร์)   228 ครั้ง
2. ริคาร์โด้ เปเรยร่า (เลสเตอร์)   207 ครั้ง
3. อารอน วาน-บิสซาก้า (แมนฯ ยูไนเต็ด)  206 ครั้ง
4. ชูเอา มูตินโญ่ (วูล์ฟส์)   178 ครั้ง
5. เดแคลน ไรซ์ (เวสต์แฮม)   165 ครั้ง

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ามองรวมถึงการตัดบอล หรือก็คือการอ่านเกมได้ดีจนแย่งบอลได้โดยที่ไม่ต้องพุ่งเสียบแล้วล่ะก็ วาน-บิสซาก้า ก็ถือเป็นอันดับ 3 ในชาร์ตนี้ ถ้านับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2018 เป็นต้นมาเหมือนกัน แพ้เพียง เอ็นดิดี้ กับ เอเตียง กาปู แค่ 2 คน

 5 อันดับนักเตะที่ตัดบอลมากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2018

1. วิลฟรีด เอ็นดิดี้ (เลสเตอร์)   138 ครั้ง
2. เอเตียง กาปู (วัตฟอร์ด)   124 ครั้ง
3. อารอน วาน-บิสซาก้า (แมนฯ ยูไนเต็ด)  123 ครั้ง
4. ยาน เบดนาเร็ค (เซาธ์แฮมป์ตัน)   116 ครั้ง
5. ลูก้า มิลิโวเยวิช (คริสตัล พาเลซ)   107 ครั้ง

ในตอนนี้ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ คือแบ็กขวาเบอร์ 1 ของอังกฤษอย่างไม่ต้องสงสัย และมันก็ไม่แปลกอะไรที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษจะชอบใช้งานเขามากกว่า วาน-บิสซาก้า แต่มันก็น่าสนใจไม่น้อยว่าระหว่างสายรับกับสายรุกแล้วนั้น ใครที่จะช่วยทีมได้มากกว่ากันในเกมแดงเดือดหนนี้



cr : www.siamsport.co.th

โหมไฟแดงเดือด 10 แข้งหงส์-ผี ฟอร์มสุดจี๊ดฤดูกาลนี้

ก่อนที่ศึกแดงเดือด ระหว่างคู่แค้นตลอดกาล “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงไร้พ่าย กับ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 5 จะระเบิด
แข้งในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม ที่สนามแอนฟิลด์ มาตรวจแถวดูผลงานของนักเตะทั้ง 2 ทีม กันก่อนว่าในศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ฟอร์มแจ่มขนาดไหน และใครคือแข้งสุดเจ๋งของแท้ในขณะนี้…

อันดับ 10 อารอน วาน-บิสซากา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด-คะแนนความสามารถเฉลี่ย 7.12) แบ็กขวาชาวอังกฤษ วัย 22 ปี ลงเล่น 19 นัด แอสซิสต์ 1 ครั้ง สะสม 4 ใบเหลือง

อันดับ 9 สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด-คะแนนความสามารถเฉลี่ย 7.15) กองกลางทีมชาติสกอตแลนด์ วัย 23 ปี ลงเล่น 17 นัด ทำ 3 ประตู แอสซิสต์ 1 ครั้ง สะสม 2 ใบเหลือง

อันดับ 8 แอนดี โรเบิร์ตสัน (ลิเวอร์พูล-คะแนนความสามารถเฉลี่ย 7.19) แบ็กซ้ายทีมชาติสกอตแลนด์ วัย 25 ปี ลงเล่น 21 นัด ทำ 1 ประตู แอสซิสต์ 6 ครั้ง
 
อันดับ 7 อองตวน มาร์เชียล (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด-คะแนนความสามารถเฉลี่ย 7.25) กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส วัย 24 ปี ลงเล่น 16 นัด ทำ 8 ประตู แอสซิสต์ 3 ครั้ง สะสม 1 ใบเหลือง

อันดับ 6 โรแบร์โต เฟอร์มิโน (ลิเวอร์พูล-คะแนนความสามารถเฉลี่ย 7.32) กองหน้าทีมชาติบราซิล วัย 28 ปี ลงเล่น 21 นัด ทำ 7 ประตู แอสซิสต์ 4 ครั้ง

อันดับ 5 มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด-คะแนนความสามารถเฉลี่ย 7.34) กองหน้าทีมชาติอังกฤษ วัย 22 ปี ลงเล่น 22 นัด ทำ 14 ประตู แอสซิสต์ 4 ครั้ง สะสม 2 ใบเหลือง

อันดับ 4 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล-คะแนนความสามารถเฉลี่ย 7.36) ปีกทีมชาติอียิปต์ วัย 27 ปี ลงเล่น 17 นัด ทำ 10 ประตู แอสซิสต์ 5 ครั้ง

อันดับ 3 เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ (ลิเวอร์พูล-คะแนนความสามารถเฉลี่ย 7.38) กองหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ วัย 28 ปี ลงเล่น 21 นัด ทำ 3 ประตู สะสม 1 ใบเหลือง

อันดับ 2 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล-คะแนนความสามารถเฉลี่ย 7.42) แบ็กขวาทีมชาติอังกฤษ วัย 21 ปี ลงเล่น 21 นัด ทำ 2 ประตู แอสซิสต์ 8 ครั้ง สะสม 4 ใบเหลือง

อันดับ 1 ซาดิโอ มาเน (ลิเวอร์พูล-คะแนนความสามารถเฉลี่ย 7.61) ปีกทีมชาติเซเนกัล วัย 27 ปี ลงเล่น 20 นัด ทำ 11 ประตู แอสซิสต์ 8 ครั้ง สะสม 1 ใบเหลือง



cr : www.thairath.co.th
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่