วันนี้ขออนุญาตมารีวิวเมืองน่ารักๆ ไม่ไกลจากโซลครับ เมือง (แขวง) นี่มีชื่อว่า "ยางซู" อยู่ในเขตยางพย็อง (อย่าจำสลับนะครับ เดี๋ยวเผลอไปถามคนเกาหลีว่า พย็องยางไปทางไหน นั่นมันเกาหลีเหนือ) เมืองนี้เหมาะสำหรับการละลายหนึ่งวันไปกับจุดถ่ายรูปสวยๆ วิวแม่น้ำ พร้อมกับอาหารดีซักหนึ่งมื้อครับ ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟฟ้าประมาณหนึ่ง ชม. จากสถานีโซล ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่จะมาแนะนำคือ บริเวณเกาะเล็กๆ ที่เป็นจุดเชื่อมระหว่างแม่น้ำฮันสายเหนือกับใต้ ตามแผนที่ด้านล่างครับ
จุดที่ปักหมุดคือสถานที่ของเมืองยางซูครับ
แผนที่ท่องเที่ยวเมืองยางซู บริเวณนี้จะถูกเรียกว่า "ทูมุลมอรี" หรือหมายถึงแหลมที่มีสองน้ำบรรจบกันครับ
โดยจุดท่องเที่ยวที่อยากแนะนำมีด้วยกันทั้งหมดสามจุดครับ คือ
1. สวนเซมีวอน - Semiwon 세미원
2. แหลมทูมุลมอรี - Dumulmeori 두물머리
3. สะพานพุกฮันกังเรลโร้ด - Bukhangang Railroad Bridge 북한강철교 (สถานที่ถ่ายทำ Hotel del Luna)
วิธีการเดินทาง
1. นั่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินหรือสีเหลือง ไปลงสถานี Cheongnyangni
2. ต่อรถไฟฟ้าสาย Gyeongui Jungang (สีฟ้าอ่อน คนละเส้นกับที่ไปเกาะนามิ) ไปลงสถานีอุนกิลซาน (Ungilsan) หากต้องการเที่ยวจากด้านซ้ายไปขวา เริ่มต้นจากสะพานก่อน หรือลงสถานียางซู (Yangsu) หากต้องการเริ่มต้นจากแหลมแม่น้ำก่อนครับ
*ของผมเริ่มจากลงสถานียางซูก่อน เพราะอยากปิดท้ายด้วยสะพานตอนใกล้ๆ พระอาทิตย์ตกครับ หากดูจากแผนที่จะเริ่มจากด้านขวา เที่ยวเป็นตัว U มาจบทางซ้าย
จากสถานียางซูผมเริ่มต้นด้วยการเดินลงมาเรื่อยๆ ตามเส้นสีฟ้าในแผนที่ *guide map) จนมาถึงจุดแรกที่สวนเซมีวอน
จุดขายของสวนนี้คือเป็นสวนที่ติดริมแม่น้ำ มีกิจกรรมในเชิงวัฒนธรรมและมีสระบัวจำนวนมากครับ แนะนำให้ลอง google ดูวิวในช่วงหน้าที่มีบัวเยอะๆ สวยดีครับ จุดนี้ขอไม่รีวิวมาก เนื่องจากผมพลาด ไปตอนหน้าหนาว บัวไม่มีเลยครับ 555 มีแต่วิวแม่น้ำ แต่มันเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังทูมุลมอรีครับ
ค่าเข้าเซมีวอน 6,000 วอน ราคาผู้ใหญ่ครับ
*เพิ่มเติมสำหรับคนที่ชอบปั่นจักรยาน ตรงสถานียางซูจะมีร้านให้เช่าสองร้านครับ มีเลนจักรยานโดยเฉพาะเลยและมีคอร์สแนะนำให้ด้วย คือสีน้าเงินและสีแดงใน guide map ถ้าเที่ยวด้วยจักรยานน่าจะครอบคลุมพื้นที่ได้เยอะกว่าเดินครับ แต่ถ้าชอบเดิน แต่ละจุดในแผนที่ไม่ได้ห่างกันมาก พอเดินเที่ยวได้แบบสบายๆ ครับ
ตัวสวนเซมีวอนจะกินพื้นที่ไปถึงปลายแหลมเล็กด้านขวา มีสะพานเชื่อมไปยังแหลมซ้ายได้ เดินข้ามไปจะเจอจุดถ่ายรูปของทูมุลมอรีเลยครับ มีแง่งให้ถ่ายรูปประมานสามแง่งครับ
รูปสุดท้ายของทูมุลมอรี คือจุดที่นักท่องเที่ยวจะมายืนต่อคิวถ่ายรูปกันครับ คนที่ต่อด้านหลังต้องเป็นคนถ่ายให้คนข้างหน้านะครับ
แถมเล็กน้อยสำหรับจุดท่องเที่ยวทูมุลมอรีครับ มันจะมีของกินขึ้นชื่ออยู่ คือ "ยางซูฮ็อตด็อก" ประมาณว่าใครมาถ่ายรายการถ่ายหนังต้องซื้อฮ็อตด็อกอันนี้มากินโชว์ครับ
ขออภัยที่รูปมีครึ่งอันนะครับ คือตอนนั้นหิวมาก เป็นอะไรที่ดีอยู่ ไส้กรอกข้างในรสชาติออกไปแนวห่อหมกหน่อยๆ ข้างนอกเป็นแป้งขนมปังและเกล็ดขนมปัง ทีเด็ดคือมันโรยน้ำตาลที่เข้ากับซอสพริกและมัสตาร์ดได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยครับ ราคาอันล่ะ 3,000 วอน
หลังจากที่เดินเที่ยวรวมๆ ประมานสี่กิโล ก็ถึงเวลาอาหารแล้วครับ อาหารขึ้นชื่อที่สุดของเมืองนี้คงหนีไม่พ้น "ปลาไหลแม่น้ำ" แน่นอนครับ เพราะมีพื้นที่ติดแม่น้ำขนาดใหญ่ และร้านที่ได้คะแนนรีวิวค่อนข้างดี ชื่อร้านว่า ฮันกัง มินมุลฉางออ (Hangang Minmul Changeo: 한강민물창어)
เอาเป็นว่าลองดูจากรูปแล้วกันนะครับ มันดีมาก สดระดับเพิ่งขึ้นจากน้ำ (ในตู้) เครื่องเคียงเป็นผักที่มีลักษณะเป็นไม้เลื้อยเส้นและมีกลิ่นเฉพาะตัว กินกับปลาไหลเข้ากันดีครับ (ถามมาแล้ว แต่จำชื่อไม่ได้จริงๆ ครับ) ในรูปสั่งมาสองตัว ราคาตัวละ 29,000 วอน ตัวนึงย่างเกลือ อีกตัวนึงย่างกับซอสครับ ส่วนตัวชอบทั้งคู่เลยครับ ดีคนล่ะแบบ อาจุมม่าย่างให้โปรมาก เนื้อนุ่มหนังกรอบพอดีๆ เลยครับ
ที่ตั้งของร้านจะอยู่ตรงคอสะพานข้ามแม่น้ำบริเวณ Yangsu Traditional Market 양수시장 ตรงริมแม่น้ำเลยครับ ตัวร้านมีขนาดใหญ่พอสมควร สังเกตุได้ง่ายครับ
หลังจากที่อิ่มแล้วก็เดินต่ออีกประมาณ 600 เมตร ไปยังสะพาน Hangang Railroad เพื่อถ่ายรูปตอนพระอาทิตตกและตามหาจางมันวอลครับ (ถ้าไม่รู้จัก แนะนำให้ไปลองดู Hotel del Luna นะครับ 555)
รูปซาจางนิมจากเว็บ Dramabeans
วิวสะพานกับแม่น้ำตอนพระอาทิตย์ตก ก็จะประมานนี้ครับ
หลังจากที่เดินข้ามแม่น้ำมาแล้ว จะเจอสถานี Ungilsan สามารถนั่งรถไฟฟ้ากลับเข้าโซลมาสถานี Cheongnyangni ได้เลยครับ
ต่อไปเป็นของแถมสำหรับมื้อเย็นก่อนปิดวันในโซลครับ ร้านนี้ได้รับการแนะนำจากคนเกาหลี เค้าบอกว่าเป็นคนโซลต้องรู้จักร้านนี้ครับ "มันซอนโฮผึ" (만선호포) เป็นร้านจิบโซจู เม้าท์มอย ควบคู่ไปพร้อมกับแกล้มนะครับ บอกก่อนว่าร้านแน่นมาก โต๊ะเบียดๆ กันหน่อย แต่ก็ได้ฟีลเกาหลีจริงๆ ครับ ล่าสุดที่ไปมามันแบ่งเป็นสองร้าน ครัวเดียวกัน อยู่ตรงข้ามกันชื่อร้าน วอนโจมันซอนโฮผึ (원조만선호프) กับ อึลจีโรมันซอนโฮผึ (을지로만선호프)
วิธีการเดินทาง
1. นั่งรถใต้ดินสีเขียวหรือส้ม มาลงสถานี euljiro 3 ga
2. ออกทางออก 3 เดินตรงมาเล็กน้อยแล้วเลี้ยวขวาแรกที่เจอ จากนั้นเดินตรงไปเรื่อยๆ จะเจอครับ สังเกตุไม่ยาก ร้านไหนคนเยอะ ก็อันนั้นเลยครับ
ผมสั่งไปสามอย่าง ที่เป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ครับ (เล็งจากโต๊ะอื่น ประกอบกับที่มีคนแนะนำมา)
อย่างแรกเป็นปลาตากแห้งย่างครับ ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดแห่งอาหารแกล้มโซจู คือปลาแห้งมาก ใช้เวลาบดในปากไปเรื่อยๆ เหนียวกำลังดี รสชาติดีครับ ราคา 12,000 วอน
จานที่สองนี่เล็งแล้วมีเกือบทุกโต๊ะครับ บวกกับคิดว่าควรสั่งไก่มาเซฟตัวเองด้วย เผื่อจานอื่นไม่รอด อันนี้เป็นไก่ทอดราดซอสกระเทียมครับ ตัวไก่เป็นไก่ทอดกรอบทั่วไป แต่ความพิเศษของมันอยู่ที่ซอดกระเทียมสับที่ราดมาแบบอย่างเยอะ กินเสร็จนี่คุยกับคนอื่นยากเลยทีเดียว ตัวซอสพอจับได้แน่ๆ คือน้ำส้มสายชูกับน้ำตาลครับ แนะนำว่าต้องลองครับ ในรูปเป็นจานเล็กมีห้าชิ้น กินคู่กับไชเท้าหมักน้ำส้มสายชู (ชีคิ่นมู) ราคา 9,000 วอนครับ
เมนูสุดท้ายนี้คือสิ่งที่คนเกาหลีแนะนำมาครับ ชื่อว่า โค็ลเป็งงี มูชิม (골뱅이 무침) มันคือทากทะเลคลุกกับผัก ปลาหมึกและซอสเกาหลีครับ ออกแนวคล้ายๆ ยำ ดีงามเลยครับ โดยเฉพาะกับคนชอบกินหอย จานนี้ราคา 25,000 วอน จานใหญ่อยู่ครับ เอาง่ายๆ ว่าที่สั่งมาทั้งหมดน่าจะกินได้ซักสี่คน แต่กินกันสองคนตัวจะแตกครับ
เอาเป็นว่าขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ ใครที่คิดไม่ออกว่าหนึ่งวันในโซลทำอะไรดี ขอแนะนำให้ลองทริปนี้ดูครับ ขอบคุณครับ
[CR] หนึ่งวันกับชานเมืองโซล เมืองยางซู พร้อมปลาไหลย่าง
จุดที่ปักหมุดคือสถานที่ของเมืองยางซูครับ
แผนที่ท่องเที่ยวเมืองยางซู บริเวณนี้จะถูกเรียกว่า "ทูมุลมอรี" หรือหมายถึงแหลมที่มีสองน้ำบรรจบกันครับ
โดยจุดท่องเที่ยวที่อยากแนะนำมีด้วยกันทั้งหมดสามจุดครับ คือ
1. สวนเซมีวอน - Semiwon 세미원
2. แหลมทูมุลมอรี - Dumulmeori 두물머리
3. สะพานพุกฮันกังเรลโร้ด - Bukhangang Railroad Bridge 북한강철교 (สถานที่ถ่ายทำ Hotel del Luna)
1. นั่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินหรือสีเหลือง ไปลงสถานี Cheongnyangni
2. ต่อรถไฟฟ้าสาย Gyeongui Jungang (สีฟ้าอ่อน คนละเส้นกับที่ไปเกาะนามิ) ไปลงสถานีอุนกิลซาน (Ungilsan) หากต้องการเที่ยวจากด้านซ้ายไปขวา เริ่มต้นจากสะพานก่อน หรือลงสถานียางซู (Yangsu) หากต้องการเริ่มต้นจากแหลมแม่น้ำก่อนครับ
*ของผมเริ่มจากลงสถานียางซูก่อน เพราะอยากปิดท้ายด้วยสะพานตอนใกล้ๆ พระอาทิตย์ตกครับ หากดูจากแผนที่จะเริ่มจากด้านขวา เที่ยวเป็นตัว U มาจบทางซ้าย
จากสถานียางซูผมเริ่มต้นด้วยการเดินลงมาเรื่อยๆ ตามเส้นสีฟ้าในแผนที่ *guide map) จนมาถึงจุดแรกที่สวนเซมีวอน
จุดขายของสวนนี้คือเป็นสวนที่ติดริมแม่น้ำ มีกิจกรรมในเชิงวัฒนธรรมและมีสระบัวจำนวนมากครับ แนะนำให้ลอง google ดูวิวในช่วงหน้าที่มีบัวเยอะๆ สวยดีครับ จุดนี้ขอไม่รีวิวมาก เนื่องจากผมพลาด ไปตอนหน้าหนาว บัวไม่มีเลยครับ 555 มีแต่วิวแม่น้ำ แต่มันเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังทูมุลมอรีครับ
ค่าเข้าเซมีวอน 6,000 วอน ราคาผู้ใหญ่ครับ
*เพิ่มเติมสำหรับคนที่ชอบปั่นจักรยาน ตรงสถานียางซูจะมีร้านให้เช่าสองร้านครับ มีเลนจักรยานโดยเฉพาะเลยและมีคอร์สแนะนำให้ด้วย คือสีน้าเงินและสีแดงใน guide map ถ้าเที่ยวด้วยจักรยานน่าจะครอบคลุมพื้นที่ได้เยอะกว่าเดินครับ แต่ถ้าชอบเดิน แต่ละจุดในแผนที่ไม่ได้ห่างกันมาก พอเดินเที่ยวได้แบบสบายๆ ครับ
ตัวสวนเซมีวอนจะกินพื้นที่ไปถึงปลายแหลมเล็กด้านขวา มีสะพานเชื่อมไปยังแหลมซ้ายได้ เดินข้ามไปจะเจอจุดถ่ายรูปของทูมุลมอรีเลยครับ มีแง่งให้ถ่ายรูปประมานสามแง่งครับ
รูปสุดท้ายของทูมุลมอรี คือจุดที่นักท่องเที่ยวจะมายืนต่อคิวถ่ายรูปกันครับ คนที่ต่อด้านหลังต้องเป็นคนถ่ายให้คนข้างหน้านะครับ
แถมเล็กน้อยสำหรับจุดท่องเที่ยวทูมุลมอรีครับ มันจะมีของกินขึ้นชื่ออยู่ คือ "ยางซูฮ็อตด็อก" ประมาณว่าใครมาถ่ายรายการถ่ายหนังต้องซื้อฮ็อตด็อกอันนี้มากินโชว์ครับ
ขออภัยที่รูปมีครึ่งอันนะครับ คือตอนนั้นหิวมาก เป็นอะไรที่ดีอยู่ ไส้กรอกข้างในรสชาติออกไปแนวห่อหมกหน่อยๆ ข้างนอกเป็นแป้งขนมปังและเกล็ดขนมปัง ทีเด็ดคือมันโรยน้ำตาลที่เข้ากับซอสพริกและมัสตาร์ดได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยครับ ราคาอันล่ะ 3,000 วอน
หลังจากที่เดินเที่ยวรวมๆ ประมานสี่กิโล ก็ถึงเวลาอาหารแล้วครับ อาหารขึ้นชื่อที่สุดของเมืองนี้คงหนีไม่พ้น "ปลาไหลแม่น้ำ" แน่นอนครับ เพราะมีพื้นที่ติดแม่น้ำขนาดใหญ่ และร้านที่ได้คะแนนรีวิวค่อนข้างดี ชื่อร้านว่า ฮันกัง มินมุลฉางออ (Hangang Minmul Changeo: 한강민물창어)
เอาเป็นว่าลองดูจากรูปแล้วกันนะครับ มันดีมาก สดระดับเพิ่งขึ้นจากน้ำ (ในตู้) เครื่องเคียงเป็นผักที่มีลักษณะเป็นไม้เลื้อยเส้นและมีกลิ่นเฉพาะตัว กินกับปลาไหลเข้ากันดีครับ (ถามมาแล้ว แต่จำชื่อไม่ได้จริงๆ ครับ) ในรูปสั่งมาสองตัว ราคาตัวละ 29,000 วอน ตัวนึงย่างเกลือ อีกตัวนึงย่างกับซอสครับ ส่วนตัวชอบทั้งคู่เลยครับ ดีคนล่ะแบบ อาจุมม่าย่างให้โปรมาก เนื้อนุ่มหนังกรอบพอดีๆ เลยครับ
ที่ตั้งของร้านจะอยู่ตรงคอสะพานข้ามแม่น้ำบริเวณ Yangsu Traditional Market 양수시장 ตรงริมแม่น้ำเลยครับ ตัวร้านมีขนาดใหญ่พอสมควร สังเกตุได้ง่ายครับ
หลังจากที่อิ่มแล้วก็เดินต่ออีกประมาณ 600 เมตร ไปยังสะพาน Hangang Railroad เพื่อถ่ายรูปตอนพระอาทิตตกและตามหาจางมันวอลครับ (ถ้าไม่รู้จัก แนะนำให้ไปลองดู Hotel del Luna นะครับ 555)
รูปซาจางนิมจากเว็บ Dramabeans
วิวสะพานกับแม่น้ำตอนพระอาทิตย์ตก ก็จะประมานนี้ครับ
หลังจากที่เดินข้ามแม่น้ำมาแล้ว จะเจอสถานี Ungilsan สามารถนั่งรถไฟฟ้ากลับเข้าโซลมาสถานี Cheongnyangni ได้เลยครับ
ต่อไปเป็นของแถมสำหรับมื้อเย็นก่อนปิดวันในโซลครับ ร้านนี้ได้รับการแนะนำจากคนเกาหลี เค้าบอกว่าเป็นคนโซลต้องรู้จักร้านนี้ครับ "มันซอนโฮผึ" (만선호포) เป็นร้านจิบโซจู เม้าท์มอย ควบคู่ไปพร้อมกับแกล้มนะครับ บอกก่อนว่าร้านแน่นมาก โต๊ะเบียดๆ กันหน่อย แต่ก็ได้ฟีลเกาหลีจริงๆ ครับ ล่าสุดที่ไปมามันแบ่งเป็นสองร้าน ครัวเดียวกัน อยู่ตรงข้ามกันชื่อร้าน วอนโจมันซอนโฮผึ (원조만선호프) กับ อึลจีโรมันซอนโฮผึ (을지로만선호프)
วิธีการเดินทาง
1. นั่งรถใต้ดินสีเขียวหรือส้ม มาลงสถานี euljiro 3 ga
2. ออกทางออก 3 เดินตรงมาเล็กน้อยแล้วเลี้ยวขวาแรกที่เจอ จากนั้นเดินตรงไปเรื่อยๆ จะเจอครับ สังเกตุไม่ยาก ร้านไหนคนเยอะ ก็อันนั้นเลยครับ
ผมสั่งไปสามอย่าง ที่เป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ครับ (เล็งจากโต๊ะอื่น ประกอบกับที่มีคนแนะนำมา)
อย่างแรกเป็นปลาตากแห้งย่างครับ ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดแห่งอาหารแกล้มโซจู คือปลาแห้งมาก ใช้เวลาบดในปากไปเรื่อยๆ เหนียวกำลังดี รสชาติดีครับ ราคา 12,000 วอน
จานที่สองนี่เล็งแล้วมีเกือบทุกโต๊ะครับ บวกกับคิดว่าควรสั่งไก่มาเซฟตัวเองด้วย เผื่อจานอื่นไม่รอด อันนี้เป็นไก่ทอดราดซอสกระเทียมครับ ตัวไก่เป็นไก่ทอดกรอบทั่วไป แต่ความพิเศษของมันอยู่ที่ซอดกระเทียมสับที่ราดมาแบบอย่างเยอะ กินเสร็จนี่คุยกับคนอื่นยากเลยทีเดียว ตัวซอสพอจับได้แน่ๆ คือน้ำส้มสายชูกับน้ำตาลครับ แนะนำว่าต้องลองครับ ในรูปเป็นจานเล็กมีห้าชิ้น กินคู่กับไชเท้าหมักน้ำส้มสายชู (ชีคิ่นมู) ราคา 9,000 วอนครับ
เมนูสุดท้ายนี้คือสิ่งที่คนเกาหลีแนะนำมาครับ ชื่อว่า โค็ลเป็งงี มูชิม (골뱅이 무침) มันคือทากทะเลคลุกกับผัก ปลาหมึกและซอสเกาหลีครับ ออกแนวคล้ายๆ ยำ ดีงามเลยครับ โดยเฉพาะกับคนชอบกินหอย จานนี้ราคา 25,000 วอน จานใหญ่อยู่ครับ เอาง่ายๆ ว่าที่สั่งมาทั้งหมดน่าจะกินได้ซักสี่คน แต่กินกันสองคนตัวจะแตกครับ
เอาเป็นว่าขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ ใครที่คิดไม่ออกว่าหนึ่งวันในโซลทำอะไรดี ขอแนะนำให้ลองทริปนี้ดูครับ ขอบคุณครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้