บันทึก การบินไทย เที่ยวบิน 311 ที่ชนภูเขา ที่ เนปาล กาฎมาณฑุ

"เทือกเขาลวงตาหิมาลัย กับการบินไทยเที่ยวบินที่สาบสูญ"
-----
ใช่ว่าสนามบินทุกแห่งบนโลกจะสะดวกสบายในการลงจอดเท่าๆกันทั้งหมด บางสนามบินมีความท้าทายในการลงจอดอย่างมาก ด้วยปัจจัยต่างๆนานา หนึ่งในนั้นคือสนามบินนานาชาติตรีภูวัน (Tribhuvan International Airport) ในประเทศเนปาล หรือที่รู้จักกันดีในนาม "กาฐมาณฑุ" ที่รายล้อมไปด้วยเทือกเขาสูงชัน และการวางตัวของรันเวย์แนวเหนือ-ใต้ระหว่างเทือกเขาทำให้เครื่องบินที่จะลงจอดจำเป็นต้องไต่ระดับลงด้วยความชันอย่างมาก
นอกจากนี้ผมเคยอ่านทฤษฏีจากโพสต์ของกัปตันหน่อย ม.ล.ศรัณย์สุข สุขสวัสดิ์ ที่กล่าวถึงสนามบินแห่งนี้ว่า สนามบินตรีภูวันเป็นสนามบินที่เวลาฝนตก เหล่าไส้เดือนจะหนีขึ้นมาจากใต้ดิน เดินยั้วเยี้ยอยู่บนผิวดิน ฝูงนกก็จะบินมาจิกกินไส้เดือนพวกนี้เป็นอาหาร เป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินบินชนนกอยู่หลายครา (Bird strike)
ที่ตั้งท่ามกลางหุบเขา ส่งผลให้ภูมิอากาศได้รับอิทธิพลโดยตรง อากาศมีความแปนปรวน มีฝนตกหนัก มีหมอกบดบังทัศนวิสัยอยู่ตลอดเวลา

แต่ด้วยความสวยงามของทัศนียภาพ เมืองที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาของเทือกเขาที่สูงที่สุดในโลก "หิมาลัย" ทำให้เหล่านักท่องเที่ยวทยอยบินมาที่กาฐมาณฑุเพื่อพักผ่อนอยู่ตลอด  และหนึ่งในนั้นก็คือเที่ยวบินที่ 311 ของสายการบิน Thai Airways International
-----

เที่ยวบินที่ 311 ของสายการ

บิน Thai Airways International (การบินไทย) มีกำหนดการเดินทางในช่วงสายของวันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม 1992 เพื่อนำผู้โดยสาร 99 คน และลูกเรือ 14 คนเดินทางจากสนามบินนานาชาติดอนเมืองไปยังสนามบินนานาชาติตรีภูวัน, เมืองกาฐมาณฑุ, ประเทศเนปาล โดยใช้เครื่องบินรุ่น Airbus A310-304 ทะเบียน HS-TID ที่อายุราวๆ 5 ปีเศษ นำโดยกัปตันปรีดา สุทธิมัย อายุ 41 ปีและผู้ช่วยนักบินที่ 1 พูนทัศน์ บุณยะเวศ อายุ 52 ปี
เที่ยวบินดังกล่าว Take off จากสนามบินดอนเมือง ณ เวลาท้องถิ่น 10.30 น. ไต่ระดับความสูง 33,000 ฟุตมุ่งหน้าไปยังเนปาล ทุกอย่างราบรื่นและปกติดีจนกระทั่งเที่ยวบิน 311 กำลังทำการไต่ระดับลงและเตรียมนำเครื่องลงที่รันเวย์ 02 (ทางทิศใต้) ทว่าอยู่ดีๆหอควบคุมได้ทำการติดต่อมายังเที่ยวบินนี้พร้อมแจ้งว่าทัศนวิสัยจากทางทิศใต้แย่มาก ไม่สามารถทำการลงจอดที่ันเวย์ดังกล่าวได้ ขอให้ทำการลงจอดจากทางทิศเหนือที่รันเวย์ 20 แทนได้ไหม
แต่ด้วยลักษณะที่ตั้งของสนามบินนี้ การลงจอดจากทางทิศใต้ยังสามารถลงจอดแบบปกติได้ ก็คือวิ่งมาตรงๆลงลดระดับก่อนถึงรันเวย์ 02 ได้ เพียงแต่ต้องลดด้วยความชันที่มากกว่าปกติเท่านั้น แต่ว่าหากต้องการจะนำเครื่องลงจากทางทิศเหนือมาทางรันเวย์ 20 แล้วล่ะก็ จะไม่สามารถทำเช่นนี้ได้เพราะมีเทือกเขาสูงมากพาดกั้นไว้ นักบินจำเป็นต้องทำการ Circling Approach หรือการลงจอดแบบม้วนเป็นวงลงมาพร้อมกับลดระดับ ซึ่งอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้กัปตันตัดสินใจขอปฏิเสธการลงจอดที่รันเวย์ 20 และขอเบนไปจอดพักที่ Culcutta Airport, ประเทศอินเดีย ที่อยู่ไกลออกไปถึง 400 ไมล์แทน
หอควบคุมยังไม่ทันทำการคอนเฟิร์มการเบนทิศไปอินเดียเลย อยู่ดีๆก็แจ้งใหม่ว่า เฮ้ยๆ 02 ลงจอดได้ปกติแล้วนะ นักบินเองก็งง แต่ก็ดีใจที่ได้ลงจุดหมายปลายทางเลยอยู่แล้ว เลยโอเคลงจอดที่นี่แหละ ไม่โยกไปจอดพักไหนแล้ว แต่ขอทราบข้อมูลที่จำเป็นมากกว่านี้หน่อย พวกทัศนวิสัยและสภาพอากาศ หอควบคุมไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่บอกว่า "Available for landing"
กัปตันก็เลยตัดสินใจทำการลงจอด เปิดระบบเตรียมการลงจอดให้เรียบร้อย แต่ ! Flaps ข้างหนึ่งไม่ยอมกาง หากว่าเป็นสนามบินทั่วไปคงไม่ใช่ปัญหาขนาดนั้น แต่ที่นี่คือกาฐมาณฑุที่จำเป็นต้องใช้ Flaps 2 ข้างมาเพื่อลดความเร็วอย่างมีนัยยะในระยะที่จำกัด หากข้างหนึ่งไม่กางต้องรีบแก้ไขทันที ผ่านไปเพียง 21 วินาทีเท่านั้นก็ทำการเปิด Flaps ได้ทั้ง 2 ข้างสำเร็จแต่แค่ 21 วินาทีเนี่ยแหละ มันทำให้เครื่องบินอยู่สูงเกินกว่าที่จะทำการลงจอดได้

กัปตันทำการติดต่อหอควบคุมขอเลี้ยวไปทางซ้าย เพื่อวนกลับเส้นทางและความสูงเดิมก่อน เพราะตอนนี้ลงจอดไม่ทันแล้ว อยากจะวนกลับไปตั้งหลัก แต่ติดต่อไปก็ไม่มีการตอบรับจากหอควบคุม กัปตันก็ติดต่อใหม่อีก 3-4 ครั้ง ก็ไม่มีการตอบรับอยู่ดี จึงตัดสินใจหักไปทางขวาเพื่อวนเป็นครึ่งวงกลม ระหว่างนั้นเองวิทยุก็ติดต่อกลับมาได้ กัปตันที่กำลังทำการบังคับเครื่องบินด้วยมือก็เป็นคนคุยกับวิทยุเอง ขอคอนเฟิร์มทัศนวิสัยและสภาพอากาศ คราวนี้หอควบคุมยืนยันกลับมาว่าทัศนวิสัยดีเยี่ยม แต่ที่นักบินทั้ง 2 กำลังเผชิญอยู่คือหมอกทึบเลย จนถึงระยะหนึ่งที่กัปตันคิดว่าหัวเครื่องบินหมุนไปทางใต้แล้ว

 จึงสั่งผู้ช่วยนักบินให้กรอกข้อมูลเส้นทางตามที่สนทนากับหอควบคุมลงไปในระบบการบินอัตโนมัติเพื่อเข้าเส้นทางอีกครั้ง แต่ไม่สำเร็จ
ทีนี้ผู้ช่วยนักบินก็สังเกตเห็นบนหน้าจอ และเตือนกัปตันแล้วว่า "เห้ย ตอนนี้เรากำลังอยู่ทางทิศเหนือของสนามบินนะ" กัปตันก็เถียงและบอกว่า "เมื่อกี้พึ่งวนออกมา หน้าจอของนายพังรึเปล่า" หลังจากนั้นไม่ถึง 1 นาที เที่ยวบินที่ 311 ก็ทำการพุ่งชนเทือกเขาที่มีความสูงถึง 11,500 ฟุต
-----
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 113 ชีวิตเสียชีวิตทันที และวันเวลาที่เกิดเหตุนั้นสนามบินยังไม่มีเรดาห์คอยดูว่าเครื่องบินอยู่ตำแหน่งไหน การจะหาซากเครื่องบินจำเป็นต้องใช้ข้อมูลจากหอควบคุมที่ทำการสนทนากับเที่ยวบินที่ 311 เท่านั้น เพื่อหาตำแหน่งสุดท้ายของมัน
ในบันทึกสนทนาได้ยินว่าเครื่องบินกำลังวนกลับไปทิศใต้ เพื่อเข้าเส้นทางเดิม การค้นหาจึงสนใจแค่ทางทิศใต้ของสนามบินเท่านั้น จนระยะเวลาผ่านไป 2 วันก็ยังไม่เจอ อยู่ดีๆก็มีแจ้งมาจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ทางทิศเหนือของสนามบินว่าเจอเศษเหมือนซากเครื่องบินอยู่ทางเหนือของสนามบิน ทีนี้ก็เลยมีการเริ่มส่งเฮลิคอปเตอร์ค้นหา ก็เจอจริงๆ

ภายหลังการตรวจสอบเศษซากเครื่องบินจนพบเจอ CVR (Cockpit Voice Recorder) และ FDR (Flight Data Recorder) หรือกล่องดำทั้งสอง ก็เลยนำมาปะติดปะต่อเรื่องราว ทั้งบันทึกเสียงสนทนา ทั้งบันทึกตำแหน่งและความสูงของเครื่องบิน จนได้ว่าเครื่องบินนั้นแท้จริงแล้วไม่ได้วนไปเป็นครึ่งวงกลม แต่วนไปเกือบเป็นวงกลม ! ก็คือหมุนไปเกือบครบรอบ หัวเครื่องบินก็ยังมุ่งหน้าไปทิศเหนืออยู่ดี
ด้วยทัศนวิสัยที่ถูกบดบังด้วยเมฆหมอก 

หน้าจอเองก็ไม่ได้บอกทิศทางอะไรมีแต่เรดาห์สนามบินคร่าวๆ จึงเกิดความเข้าใจผิด
สัญญาณที่เชื่อมต่อการสนทนาระหว่างเครื่องบินและหอควบคุมก็ขาดๆหายๆ อาจจะเป็นเพราะอยู่ท่ามกลางหุบเขา พอเชื่อมต่อได้ พนักงานที่ทำการควบคุมขณะนั้นอยู่ระหว่างฝึกงาน มีอายุงานเพียง 9 เดือน ทำให้มีการตัดสินใจในการเสนอแนะแก่เครื่องบินไม่เด็ดขาด อีกทั้งภาษาและสำเนียงของชาวเนปาลก็ฟังยาก
ที่กัปตันต้องทำอะไรเองหลายๆอย่างพร้อมๆกัน ทั้งขับเครื่องบิน คุยวิทยุกับหอควบคุม แก้ไขปัญหาต่างๆนานาด้วยตัวเอง เป็นเพราะมีบันทึกของผู้ช่วยนักบินว่าเป็นคนที่ตัดสินใจไม่เด็ดขาด สื่อสารไม่เคลียร์และไม่ทันท่วงที กัปตันจึงทำเองเสียเลย ด้วยประการฉะนี้ นักบินจึงไม่สามารถมีสมาธิกับอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างเต็มที่ รวมไปถึงการหัดเลี้ยวเครื่องบิน ทำให้หมุนเลยไปครึ่งรอบ หารู้ไหมว่ามันคือความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง
หลายสาเหตุ หลายความผิดพลาดที่มาพ่วงต่อกันเป็นทอดๆ ทำให้เกิดหายนะที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ขอแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกท่านครับ
-----

ผลที่ตามมา
• นักสืบสวนชาวอังกฤษ, Gordon Corps เสียชีวิตจากการขาดอ็อกซิเจนขณะทำการเดินขึ้นไปสำรวจซากเครื่องบิน
• ภายหลังมีการติดตั้งเรดาห์ที่สนามบินตรีภูวันทำให้มองเห็นตำแหน่งของเครื่องบินในขอบเขตได้อย่างชัดเจน 
• การบินไทยบังคุบนักบินทุกท่านเข้าอบรมถึงการจัดแบ่งหน้าที่ แบ่งภาระในห้องนักบินอย่างเคร่งครัด
• การบินไทยยกเลิกเที่ยวบินที่ 311 และ 312 ไปใช้เที่ยวบินที่ 319 และ 320 แทน
• ภายหลังมีการยกเลิกเครื่องบินรุ่น Airbus A310 ไปใช้ Boeing B777 แทนในปี 2001

-----
แหล่งที่มา:
cfi: https://www.cfinotebook.net/notebook/aircraft-operations/approaches/circling-maneuver
airportdata: http://www.airport-data.com/airport/photo/042072.html
https://www.youtube.com/watch?v=_JqgQLtI6pE
kathmandu town: https://www.theguardian.com/travel/2018/sep/10/local-guide-kathmandu-nepal-dubar-qsuare-thamel-top-10-tips
and Mayday ss17

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
สวัสดีค่ะเป็นคนหนึ่งที่ต้องเดินทางไปทำงานที่กาฐมาณฑุบ่อยมากเกือบ 30 ครั้งในรอบสิบปีที่ผ่านมา...

ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 18 มค. 63 ที่ผ่านมา จาก Kathmandu จะกลับ BKK เที่ยวบิน TG จาก BKk  flight cancelled เพราะทัศนวิสัยไม่ดีค่ะ ไม่ใช่เฉพาะ TG นะคะ น่าจะทุกสายการบินในวันนั้น  TG เลือกไปลง Dhaka ที่ Bangladesh แล้วบินกลับ BKK แล้วบินกลับมา Kathmandu ในวันรุ่งขึ้นค่ะ (19 มค. 63)

ตอนนี้นักบินต้อง safety สุดค่ะ เพราะลงยากจริงๆ ต่อให้อากาศดี แต่ถ้านักบินไม่เซียนจริงก็จะแกว่งๆ เหมือนกัน  ... เพราะลงยาก รันเวย์สั้น ตื่นเต้นตลอดค่ะ

จริงๆ ไม่น่าเข้ามาอ่านเลย...555 แต่ก็นั่นแหร่ะค่ะ ไม่อ่านไม่ได้...ไม่เดินทางก็ไม่ได้เช่นกัน

แนบภาพประกอบของวันที่ 19 มค. 63 อากาศเปิดแล้ว Mt Everest สวยจริงๆ ค่ะ

**ขอไว้อาลัยให้กับทุกท่านในเที่ยวบิน TG 311 นะคะ**

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่