[CR] Bangkok is so dope

สวัสดีค่ะทุกคน 😘
ไม่รู้จะทักทายกันแบบไหนดี ถึงจะไม่จำเจซ้ำซาก 😂 เอาเป็นว่ากลับมาพบกันอีกครั้งนะคะ พยายามจะใช้พื้นที่ตรงนี้ให้คุ้มค่า เพื่อใครที่เผลอกดผ่านเข้ามาอ่านแล้ว เผื่อติดใจติดตามกันไปเรื่อยๆนะคะ เอาน่า ประโยชน์มันก็มีบ้างแหละ อ่านแล้วไม่เครียดก็แล้วกัน แถมรูปเยอะซะด้วยนะ!

ตามภาพเลยค่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนไป กทม. ค่ะ 5555 เมืองฟ้าอมรที่เค้าว่ากัน เป็นการอยู่ในกรุงเทพ 1 วันที่ไม่มีธุระอะไร ไม่รีบไปไหน ไม่มีประชุม ไม่มีใครรอ หิวก็กิน เดินๆๆๆๆ และใช้รถสาธารณะในวันที่ค่า PM 2.5 ขึ้นเป็นสีแดงทั้งแถบ 

ใช่ค่ะ เราอยู่ที่พัทยา มีวันหยุดอยากจะมาชิคที่เมืองหลวงบ้าง บอกไว้ก่อนนะคะ ไม่ได้มีจุดหมายอะไร แค่อยากเอาตัวออกมาจากที่เดิมๆ หลุดจากสิ่งเดิมๆ กรอบเดิมๆ (เริ่มดราม่า ไม่เอาไม่เอา) การเดินทางของเราครั้งนี้เลยสวนทางกับคนส่วนใหญ่จากเมืองกรุงที่มาพัทยากันในวันหยุด วันนี้เราตื่นเช้าแล้วเริ่มใช้รถสาธารณะตั้งแต่ออกจากบ้านด้วยรถ 2 แถวมาที่ท่ารถรุ่งเรืองพัทยา-สนามบินสุวรรณภูมิ อยู่ตรงแยกเทพประสิทธิ์ ห่างจากบ้านจึ๋งเดียวเองสะดวกมากค่ะ แล้วก็นั่งรถบัสตรงมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิปลอดภัย ตรงเวลา ใครที่จะต้องเดินทางไป-กลับพัทยา เราแนะนำวิธีนี้เริ่ดสุดจ้า ค่าตั๋ว 130 บาทถูกไปอี๊ก

นั่งรถบัสมาประมาณ 2 ชั่วโมงเราก็จะมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วก็วิ่งจู้ดลงไปที่ชั้น G ของสนามบินเพื่อออกมาขึ้นรถบัสอีกคันเพื่อเข้าเมืองกัน!

รถบัสที่นั่งมาก็สุดจะ Classic มีความเก่าแต่เก๋ คุณลุงคนขับชิวมาก ขับไปยกขวดนมเปรี้ยวดื่มไป เออเริ่ด

ตั๋วรถแบบนี้ไม่ได้เห็นนานมาก


เพื่อนร่วมทางคือหลากหลายชาติพันธ์

ใช้เวลาเดินทางกับคุณลุงอีกราว 1 ชั่วโมงก็ถึงจุดหมาย ที่ป้ายวัดบวรฯ ลงรถปุ๊บเป็นเวลาเที่ยงครึ่งคือช่วง prime time ที่พนักงาน Office ทั้งหลายเดินออกมาจับจ่ายพักเที่ยงกันพอดี ซึ่งร้านรวงต่างๆก็พร้อมใจกันตั้งเรียงรายทั้งของหวาน ของคาว ของกินเล่นกรุบกริบไปจนถึงของกินจริงจังแบบอิ่มไปยันเย็น ก็แน่แหละเมืองไทยมันเมือง Street food นี่นา ขอแค่หิว และนึกได้ว่าอยากกินอะไรดี ทุกอย่างมีพร้อมเสิร์ฟแบบ 24/7 ทุก catergories ทุกเชื้อชาติ ทุกฤดูกาล หาง่าย จ่ายคล่อง อุดมสมบูรณ์ อันนี้ทั่วโลกต่างยอมรับ 

นี่เลยจ้า ลงรถมาก็เจอเลย foog truck แบบไทยๆ หรือเรียกง่ายๆว่ารถเข็นนั่นเอง นี่คุณป้าขายขนมฝักบัว ไม่ได้กินมานานมากกก มีฝรั่งสงสัยว่านี่คืออะไร พอจะเดาได้ว่าเป็นแป้งทอด แต่งงว่าตรงกลางที่พองๆอ่ะใส่ไส้อะไรลงไป คุณป้าตอบว่าเป็น Banana เราก็นึกว่าป้าใส่ไส้กล้วยเป็นลูกๆลงไปตรงกลางจริงๆ ที่ไหนได้ Banana ที่คุณป้าพูดถึงมันคือแป้งรสกล้วย โอ้ยตาย ฝรั่งกินไปคงงงหนักไปกว่าเดิม


ตอนที่นั่งรถคุณลุงนมเปรี้ยวมาหิวมาก และวางแผนว่าจะมากินร้านก๋วยเตี๋ยวปลาเจ้าดังแถวนี้ ปรากฎว่าร้านแน่นยิ่งกว่า แบบที่ว่าอย่าถามหาที่นั่ง ที่ยืนรอยังไม่มีเลยจ้า เลยใช้แผนสำรองด้วยการเดินไปเรื่อยๆ เจอร้านไหนว่างก็เข้า ซึ่งร้านนั้นก็คือร้านร้านข้าวมันไก่จ้า ด้วยความที่อยากซดน้ำก็เลยสั่งก๋วยเตี๋ยวไก่ละกัน พนักงานที่ร้านบอกว่าก๋วยเตี๋ยวมันจะจืดๆนะ 555 เอาจริงๆก็ไม่คิดว่าจะจืดขนาดเน้ ~___~" แบบลวกเส้น ใส่ในน้ำซุปข้าวมันไก่ และหั่นไก่จืดๆใส่ ฮือออ ทุกอย่างจืดจริงๆจ้าาาาา 

เสียใจกับอาหารมื้อแรก แต่เราไม่ถอดใจ วันนี้ต้องเป็นวันที่ดีเชื่อแบบนั้น 
บริเวณนี้สถานที่สวยๆเต็มไปหมด ทุกอย่างดู Classic เหมาะแก่การมาเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ

และที่สำคัญ มีร้านขายจามชามเซรามิกค่ะคุณ ชั้นวิ่งเข้าใส่เหมือนคนบ้า ไม่เคยซักครั้งที่จะอดใจกับอะไรแบบนี้ ถ้วย ชาม ชุดชา แก้ว สมบัติบ้าเต็มจนไม่มีที่เก็บ แต่ก็แพ้ทุกทีอยู่ดี เปิดทริปด้วยร้านจานชาม นั่นหมายความว่าทั้งทริปก็ต้องแบกถุงจานชามไปยาวๆจ้า

บริเวณนี้ยังมีร้านปาท๋องโก๋ย่าง ชื่อ PATONGGO CAFE ด้วย ร้านนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแล้ว

เมนูที่สั่งเป็นปาท่องโก๋ย่าง สังขยา กับชามะนาว เอาแค่เบาๆก่อนเพราะเรายังมีอีกหลายโปรแกรมทั้งวัน

หลังจากกินกรุบกริบแล้ว เราเดินทางต่อจ่ะ ตั้งใจจะไปแถวบางรัก แน่นอนใช้รถเมล์จ้า สนุกมาก ชอบมาก มันคือความเก่าแต่เก๋ ร้อนแต่เริ่ด และคนขับรถ พนักงานเก็บเงิน และผู้โดยสารในรถก็น่ารักมาก มันให้ความรู้สึกแบบชุมชน แบบบ้านๆที่ไม่ต้องปรุงแต่ง แม้แต่ชาวต่างชาติที่นั่งอยู่ในรถคันเดียวกันก็ดูกลมกลืน ไม่แปลกแยก ทุกคนดูอารมณ์ดี แบบต่างคนต่างมอบความรู้สึกดีๆให้กัน แบบนั้น โนจ่ะชั้นไม่ได้มโนโลกสวยไปเอง เธ้อออชั้นพบกับเหตุการณ์ที่ผู้โดยสารเอาแกงถุงให้พนักงานเก็บเงิน บอกซื้อมาฝาก พนักงานเก็บเงินดีใจ วิ่งไปอวดคนขับว่าเย็นนี้มีกับข้าวแล้ว มันคือรอยยิ้ม มันคือน้ำใจที่แบบจ่ายเงิน 30 บาทค่าแกงถุงแต่ได้ความอิ่มเอมใจ ไม่พอที่นั่งข้างหลังเป็นหนุ่มฝรั่งหัวทองมาคนเดียว มาเจ๊อะกับสาวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่ชั้นหนีบมาด้วยจากป้ายรถเมล์เมื่อกี๊นี้ นางสื่อสารได้แค่ภาษาจีนเท่านั้น ชั้นเลยตกเป็นไกด์จำเป็นให้นางชั่วคราว แต่พอขึ้นรถมาเจอหนุ่มตาน้ำข้าวที่สื่อสารได้แค่ภาษาอังกฤษเท่านั้นเช่นกัน พวกนางพยายามสื่อสารกันสุดฤทธิ์ด้วยภาษาของตัวเอง ที่ต่างคนต่างไม่เข้าใจกัน มีแต่ชั้นที่เข้าใจที่ทั้งคู่พูดทั้งหมดอย่างถ่องแท้ 555 แต่สุดท้ายทั้งสองก็แลกเบอร์โทรกันจ้า และนัดเจอกันวันพรุ่งนี้ เป็นไงล่ะ Feel good ป่ะล่ะ

ภาพนี้หนุ่มหัวทองก็แอบเก็บภาพไว้ด้วยเช่นกัน


ตอนแรกตั้งใจว่าจะตรงไปที่บางรักเลย แต่รถเมล์จอดตรงวัดแขกพอดี เลยตัดสินใจแวะวัดแขกขอพรด้วยละกัน ห๊า! อะไรนะ วัดแขกขึ้นชื่อเรื่องขอเนื้อคู่เร้อ แหม! พอดีเลย ขอให้พบเจอคนดีๆด้วยเถ้อ สาธุ 


ในวัดแขกสวยงามแปลกตาดี แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปข้างใน เลยถ่ายแค่ข้างนอกกรุบพอ ไปต่อกันจ้า
จากวัดแขกนั่งรถเมล์ต่ออีกนิดก็ถึงจุดหมายปลายทางบางรัก เข้าตรอกเล็กๆเก่าๆเพื่อมาคาเฟ่สุดเก๋ SARNIES 

ร้านนี้เป็นตึกเก่าๆ เก่ามาก ที่จริงในซอยนี้ก็เก่าทั้งหมดแหละ แต่เอาความเก่ามาเป็นความเก๋ เป็นแบบดิบๆเลย ผนังนี่อย่าได้ไปโดนเลยนะ ผงปูนร่อนออกมาเลย
เมนูที่ร้านมีทั้งอาหารคาว หวาน และเครื่องดื่ม กาแฟที่นี่คงเด็ดเช่นกัน แต่ไม่ดื่มกาแฟเลยสั่งแค่ชาเอิร์ลเกรย์ กับชามะนาวมาดื่มแค่นั้น ต้องเก็บท้องไว้ร้านต่อไปด้วยแหละ




เก่ามาก และเดิมๆเลยจริงสำหรับร้านนี้

บริเวณชั้น 2 ของร้านก็เก๋มากเช่นกัน

ในซอยนี้คาเฟ่เก๋ เก่าๆเยอะมาก เหมาะแก่การมาถ่ายรูปอย่างยิ่ง 





ออกจากซอยสุดเก๋ แต่ความชิคยังไม่จบแค่นั้นค่ะคุณ เดินต่อไปอีกนิดนึงถึงท่าเรือสี่พระยา ที่นี่มีอีกจุดที่เป็นตายร้ายดียังไงก็ต้องมา ร้านนี้ค่ะ FENG ZHU เกี๊ยวซ่า




นี่จ้าเกี๊ยวของเรา มีแบบเพิ่ม Topping ได้ตามใจ

อันนีอร่อยมาก เป็นชาฟัก รสชาติหวานนิดนึง และหอมมาก ควรลอง

ที่นั่งกินเกี๊ยวก็จะเก๋แบบนี้เลยค่า ทุกอย่างวันนี้คือกินแค่กรุบ เพราะว่าวันนี้ยังอีกยาวไกล ยังมีอีกหลายร้านที่ต้องไปเยือน 
ไปต่อกันเร็วๆเลยค่ะ ออกจากร้านเกี๊ยวเรานั่งเรือข้ามฝากต่อเลย จุดหมายเราอยู่ที่ล้งค่ะ 

มาถึงล้งตอนเย็นๆ บรรยากาศดีเชียว แต่วันนี้มีซ้อมการแสดงอะไรซักอย่าง และจัดพื้นที่เตรียมงาน ซึ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นงานที่พี่โป๊บ กับเจมส์จิ และอื่นๆมางานเปิดตัวสินค้า เสียดายมาเร็วไปวันนึง ไม่งั้นนะได้เจอดาราไปแล้ว






ที่ล้งมีที่ให้ถ่ายรูปเยอะไปหมด แต่ด้วยความที่ทั้งวันแล้วจริงๆ สภาพก็เลยร่วงโรย แทบร้องขอชีวิต เลยใช้เวลาที่ล้งไม่นาน ขากลับนั่งเรือกลับเช่นเคยแต่บรรยากาศดีมากกก ท้องฟ้าเป็นสีส้มสวยงามจริง 



เหนื่อยมาทั้งวันเลยวันนี้ ไม่มีอะไรดีไปกว่าสิ่งนี้อีกแล้ว ที่ร้านสุดท้ายท้ายสุดของวัน เจริญกรุง คาเฟ่ บาร์ ณ เวลานี้ขอเบียร์เย็นๆชื่นใจซักแก้วจะไม่ลืมพระคุณเลยค่า ร้านนี้ก็ชอบมากเช่นกัน เป็นบาร์นั่งชิว ฟังเพลงแจส ดีมากเวอร์




จบ 1 วันกับการเดินทางใน  กทม. โดยที่ไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ต้องทำตามความต้องการของใคร ไม่มีใครรอ และไม่รอใคร แบบนี้ก็ดีนะ ปล่อยการเดินทางไปตามเวลา แถมเป็นเวลาที่พิเศษด้วย ได้เห็นความสวยงามในมุมที่แตกต่าง ได้พบเจอผู้คน ได้รับความรู้สึกดีแบบที่หาไม่ได้ในชีวิตช่วงก่อนหน้านี้ จะบอกว่าตอนนั่งเรือ แล้วลมพัดมาปะทะหน้า ตอนนั้นในใจมันโล่งจัง เหมือนปลดปล่อยทุกอย่างเลย นี่คิดเลยว่าถ้าเจอใครที่อกหัก หรือกำลังเศร้าจะแนะนำให้เค้ามานั่งเรือ 555

อยากให้ทุกคนลองออกเดินทาง
ออกไปพบเจอสิ่งธรรมดาระหว่างทาง 

รัก
ชื่อสินค้า:   Cafe & Restaurant
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่