หลังจากที่ฟังหลายหลายช่องจาก YouTube พ่อจะรวบรวมประเด็นได้ดังนี้
1. แกน่าจะประเมินว่ากลุ่มนี้ที่จะเข้ารอบน่าจะเป็นซาอุดิอาระเบียกับญี่ปุ่น
2. การอุ่นเครื่องกับญี่ปุ่นไม่น่าจะได้ประโยชน์อะไร เพราะรู้อยู่แล้ว. ดังนั้นจึงเลือกซะจะดีกว่าเพราะยังไม่เคยเจอกัน
3. การได้อุ่นเครื่องกับทีมอื่นได้ก็ประโยชน์ แต่อาจจะน้อยกว่าซาอุเพราะประเมินว่า
3.1 ญี่ปุ่นน่าจะเข้ารอบสี่ทีมสุดท้าย
3.2 อีกสามทีมที่เหลือจะได้ไปโอลิมปิคอัตโนมัติ
3.3 ดังนั้นการชนะในรอบแปดทีมมีความจำเป็นอย่างยิ่ง
3.4 ขออุ่นเครื่องทันทีที่เดินทางมาถึง เพราะกลัวทีมอื่นตัดหน้าไปแล้วเขาไม่มีเวลา
4. นิชิโนะให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเป้าหมายคือไปโอลิมปิก เพราะ ประเมินว่าผ่านเข้ารอบชนะอีกครั้งเดียวเป้าหมายก็สำเร็จ
ดังนั้นการอุ่นเครื่องกับซาอุดิอาระเบียจึงสมเหตุสมผลทุกประการ
แต่พอสถานการณ์จริงญี่ปุ่นดันตกรอบ แต่แผนที่วางไว้ก็ยังไม่คลาดเคลื่อนมากนัก
เพราะถ้าผ่านซาอุดิอาระเบียไปได้ไปเจออีกสายหนึ่งก็ ไม่แข็งเท่าซาอุ
ผมฟันธงเลยว่าเราจะได้ไปโอลิมปิคปีนี้
ดูจาก บุคลิกแล้วโค้ชนิชิโนะน่าจะคาดการณ์ไว้แล้วว่าจะต้องเจอกับซาอุ
1. แกน่าจะประเมินว่ากลุ่มนี้ที่จะเข้ารอบน่าจะเป็นซาอุดิอาระเบียกับญี่ปุ่น
2. การอุ่นเครื่องกับญี่ปุ่นไม่น่าจะได้ประโยชน์อะไร เพราะรู้อยู่แล้ว. ดังนั้นจึงเลือกซะจะดีกว่าเพราะยังไม่เคยเจอกัน
3. การได้อุ่นเครื่องกับทีมอื่นได้ก็ประโยชน์ แต่อาจจะน้อยกว่าซาอุเพราะประเมินว่า
3.1 ญี่ปุ่นน่าจะเข้ารอบสี่ทีมสุดท้าย
3.2 อีกสามทีมที่เหลือจะได้ไปโอลิมปิคอัตโนมัติ
3.3 ดังนั้นการชนะในรอบแปดทีมมีความจำเป็นอย่างยิ่ง
3.4 ขออุ่นเครื่องทันทีที่เดินทางมาถึง เพราะกลัวทีมอื่นตัดหน้าไปแล้วเขาไม่มีเวลา
4. นิชิโนะให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเป้าหมายคือไปโอลิมปิก เพราะ ประเมินว่าผ่านเข้ารอบชนะอีกครั้งเดียวเป้าหมายก็สำเร็จ
ดังนั้นการอุ่นเครื่องกับซาอุดิอาระเบียจึงสมเหตุสมผลทุกประการ
แต่พอสถานการณ์จริงญี่ปุ่นดันตกรอบ แต่แผนที่วางไว้ก็ยังไม่คลาดเคลื่อนมากนัก
เพราะถ้าผ่านซาอุดิอาระเบียไปได้ไปเจออีกสายหนึ่งก็ ไม่แข็งเท่าซาอุ
ผมฟันธงเลยว่าเราจะได้ไปโอลิมปิคปีนี้