สวัสดีค่ะ ^^ วันนี้ โยบอมมี จะมาแชร์วิธีการฝึกภาษาอังกฤษง่ายๆ ไม่เน้นหนัก เน้นสบายๆ แบบที่เราชอบทำบ่อยๆ
วิธีเหล่านี้เราทำแล้วรู้สึกว่ามันได้ผลเลยอยากมาแชร์กัน
หลักการในการเรียนรู้ภาษาของเราคือ เน้นทั้ง
input และ
output ไปด้วยกัน นั่นคือ การรับข้อมูลเข้ามาและนำออกไปใช้จริงๆ
ไม่ใช่แค่อ่าน แค่ฟังอย่างเดียว แต่เราจะนำมันออกมาใช้พูด ใช้เขียนจริงๆด้วย
มาเริ่มกันเล๊ยยย
.
.
.
1. เข้าnetflix หรือ ดูหนังนั่นแหละค่ะ (ได้เรื่อง vocab, listening, reading เพราะอ่านซับไปด้วย, speaking)
เวลาเราว่างๆเราชอบเข้าไปใน netflix บ่อยๆ ถ้าเราอยากฝึกเราจะเลือกการ์ตูนหรือซีรี่ที่มันเป็นตอนสั้นๆ มากกว่าหนังยาว
เนื่องจาก เราไม่สามารถจดจ่อกับการฝึกได้นานๆเป็นชั่วโมง เราเลยเลือกการ์ตูนที่เป็นซีรี่อย่าง My Little Pony/ Disenchantment (เรื่องนี้สนุกดี)
เพราะตอนหนึ่งจะยาวประมาณ 20 นาทีเท่านั้น

ภาพจาก IMDb
เมื่อเลือกหนังได้แล้วเตรียมกระดาษปากกาเลยค่ะ เลือกหนังมาตอนหนึ่ง แบ่งเป็น 3 พาร์ทในการดูเริ่มจาก เปิดซับไทย->เปิดซับอิ๊ง->ปิดซับ
ระหว่างดูเราจะจดศัพท์ที่ไม่รู้ (เฉพาะศัพท์ที่เราสนใจก็ได้นะ) แล้วเดาความหมาย พอดูเสร็จค่อยหาความหมาย หรือ ถ้าใครอยากรู้ความหมายก็กด pause แล้วหาคำศัพท์เลยก็ได้
ที่เราใช้วิธีนี้เพราะศัพท์ที่เราเพิ่งได้รู้ในตอนๆหนึ่งมีโอกาสจะถูกกล่าวถึงอีกเมื่อเราปิดซับไป (งงมั้ยอ่ะ)
เมื่อถึงตอนนั้นเราก็รู้วิธีออกเสียงแล้วความหมายของศัพท์ไปแล้ว
ถ้าอยาก advance ไปอีกขั้นก็แอคติ้งตามตัวละครได้เลยค่ะ บางทีเราก็พูดตาม มันทำให้เราเข้าใจฟีลของประโยคที่ตัวละครใช้ ว่าเค้าจะใช้ phrase นี้เมื่ออยู่ในเหตุการณ์ไหน อารมณ์ไหน
อ้อ เรื่องที่เลือกก็สำคัญเหมือนกันนะคะ เพราะหนังแต่ละเรื่องจะมีธีมต่างกัน ศัพท์ที่เราจะได้ก็ขึ้นอยู่กับธีมเรื่องนี่แหละ เราดู Disenchantment ก็จะได้ศัพท์แบบโบราณๆยุคกลาง ถ้าอยากได้ศัพท์ทั่วไปก็เลือกหนังแนวครอบครัว/รอมคอมดีกว่า
2. เขียนเรื่องสั้น short story หรือไดอารี่สั้นๆ ก่อนนอน (ได้ writing, vocab)
เอาเรื่องอะไรก็ได้ในหัวมาเขียน จะระบายความรู้สึกคิดถึง เหงา เศร้า หรือโกรธ หรือจะแต่งเรื่องอะไรก็ได้
ขอให้เขียนออกมาเป็นภาษาอังกฤษ หรือถ้าใครเพิ่งหัดอิ๊งจริงๆก็สามารถเขียนคร่าวๆเป็นภาษาไทยไว้ก่อนก็ได้นะ แล้วค่อยเขียนเป็นอิ๊งอีกรอบ
ขอเน้นว่าให้เขียน "สั้นๆ" ไว้ก่อน เพราะเราจะได้จดจ่อกับแต่ละประโยคได้เต็มที่
ที่เราเขียนจะเป็นประมาณ 5-7 ประโยค จะเล่นกับรูปแบบประโยคก็ได้ อาจจะไม่ใช่แค่ประโยคบอกเล่า มีประโยคคำถาม อุทาน
ระหว่างเขียนอาจจะมีคำที่เราอยากสื่อออกมาแต่ไม่รู้ เรา google เอาได้เลย ขอให้แน่ใจว่าคำที่เราหานั้นเข้ากับบริบทเรื่องสั้นของเราจริงๆ
ถ้าไม่แน่ใจว่าเขียนออกมาได้ถูกต้องหรือเปล่า ให้ลองถามคนเก่งๆดูก้ได้นะ
วิธีนี้ทำให้เราชินกับการสื่อออกมาเป็นภาษาอังกฤษด้วยการเขียน เราได้นำศัพท์และประโยคที่เรารู้มาใช้จริงๆ ยิ่งเราใช้เราจะจำได้ดี ทุกวันนี้เราก็เขียนไดอารี่เป็นอิ๊งบ้างบางครั้งเวลาขี้เกียจเขียนเป็นไทย รู้สึกว่าอิ๊งเขียนง่ายกว่า55
3. แปลไทยเป็นอิ๊ง แปลอิ๊งเป็นไทย (ได้ reading, vocab, writing, speaking)
เราจะหาบทความหรือข่าวสั้นที่เราสนใจเป็นหลัก สมมติถ้าเราเลือกข่าวอิ๊งเราจะอ่านรอบหนึ่ง หาศัพท์ที่ไม่รู้ แล้วลองพูดแปลให้ตัวเองฟัง
ด้วยการอ่านแล้วพูดออกมาเลยจะทำให้เราพยายามทำความเข้าใจกับเนื้อหาตรงหน้าให้เร็วที่สุด
จะดียิ่งกว่าถ้าเรานำบทความหรือข่าวมาแปลและแชร์ให้คนอื่นมาอ่านด้วย เราได้ฝึก คนอ่านได้ความรู้ ยิ่งปืนนัดเดียวได้นกสองตัวไปเล๊ยย
ส่วนใหญ่เราจะชอบอ่านบทความของ Deep English เป็นเว็บฝึกภาษาอังกฤษที่เราเห็นว่าอ่านง่ายและค่อนข้างครบในเรื่องการฝึก ได้เรื่อง reading, vocab และ listening ด้วยนะ สามารถเลือก pace ของ audio ได้ด้วย เราว่าเจ๋งดี ^^
ใครสนใจไปที่ลิ้งค์นี้ได้เลย
https://deepenglish.com/blog/
ส่วนข่าว ช่วงนี้เราจะชอบอ่านข่าวสั้นๆของ Bangkok post เพราะมีข่าวในประเทศ เราอ่านแล้วมันรู้สึกว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวดี
แต่ละอันจะมีบอกความยากง่ายไว้ด้วย ลองไปดูกันได้นะ
https://www.bangkokpost.com/learning/
4. เล่นละคร ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิด จริงๆมันก็เหมือนซ้อมบทคนเดียวมากกว่า
อันนี้เราคิดว่าเหมาะกับสายมโนมากๆ เพราะต้องใช้จินตนาการสูง55
ให้เรานึกฉากหนังมาสักฉากหนึ่ง จากหนังฝรั่งที่เราชอบ
มโนว่าเราเป็นตัวละครที่ชอบอาจจะเป็นนางเอกหรือพระเอก หน้าตาดี รวยมาก
ถามว่าต้องใช้บทมั้ย ไม่ต้องค่ะ! ให้เราใส่บทสนทนาตามที่เราชอบเลย
แล้วคิดตามว่าตัวละครที่เรากำลังคุยอยู่จะตอบกลับมาว่าอะไร เหมือนแต่งนิยายกันสดๆตรงนั้นเลย55
หรือถ้าใครมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ก็ชวนต่อบทด้วยเลย ใส่แอคติ้งให้เต็มที่555
เลือกวิธีที่เพื่อนๆชอบได้นะ ไม่จำเป็นต้องทำหมดทุกวิธีหรอก แต่ถ้าทำได้ทั้งหมดในทุกๆวัน บอกเลยว่า โปรแน่นอน555 วิธีสุดท้ายก็จะดูแปลกๆหน่อย รึป่าว
หัวใจหลักของการฝึกภาษา คือ ความสนุกและความสนใจ ขอให้เน้นสิ่งนี้เป็นหลักนะคะ ถ้าเราทำให้มันเป็นเรื่องง่ายๆ ชิวๆ และอินไปกับมัน มันก็เหมือนกับเรากำลังเล่นกับภาษาอยู่ และเมื่อเราไม่ได้พยายามมากจนเกินไปกับการฝึก เราจะมี energy กับการจดจำสิ่งใหม่ที่เราต้องการได้ดีกว่า
นี่เป็นกระทู้แรกที่ยาวมากกก แหะๆ ขอบคุณค่ะ ^^
ฮาวทู ฝึกภาษาอังกฤษคนเดียวแบบชิวๆ by โยบอมมี
วิธีเหล่านี้เราทำแล้วรู้สึกว่ามันได้ผลเลยอยากมาแชร์กัน
หลักการในการเรียนรู้ภาษาของเราคือ เน้นทั้ง input และ output ไปด้วยกัน นั่นคือ การรับข้อมูลเข้ามาและนำออกไปใช้จริงๆ
ไม่ใช่แค่อ่าน แค่ฟังอย่างเดียว แต่เราจะนำมันออกมาใช้พูด ใช้เขียนจริงๆด้วย
มาเริ่มกันเล๊ยยย
.
.
.
1. เข้าnetflix หรือ ดูหนังนั่นแหละค่ะ (ได้เรื่อง vocab, listening, reading เพราะอ่านซับไปด้วย, speaking)
เวลาเราว่างๆเราชอบเข้าไปใน netflix บ่อยๆ ถ้าเราอยากฝึกเราจะเลือกการ์ตูนหรือซีรี่ที่มันเป็นตอนสั้นๆ มากกว่าหนังยาว
เนื่องจาก เราไม่สามารถจดจ่อกับการฝึกได้นานๆเป็นชั่วโมง เราเลยเลือกการ์ตูนที่เป็นซีรี่อย่าง My Little Pony/ Disenchantment (เรื่องนี้สนุกดี)
เพราะตอนหนึ่งจะยาวประมาณ 20 นาทีเท่านั้น
ภาพจาก IMDb
เมื่อเลือกหนังได้แล้วเตรียมกระดาษปากกาเลยค่ะ เลือกหนังมาตอนหนึ่ง แบ่งเป็น 3 พาร์ทในการดูเริ่มจาก เปิดซับไทย->เปิดซับอิ๊ง->ปิดซับ
ระหว่างดูเราจะจดศัพท์ที่ไม่รู้ (เฉพาะศัพท์ที่เราสนใจก็ได้นะ) แล้วเดาความหมาย พอดูเสร็จค่อยหาความหมาย หรือ ถ้าใครอยากรู้ความหมายก็กด pause แล้วหาคำศัพท์เลยก็ได้
ที่เราใช้วิธีนี้เพราะศัพท์ที่เราเพิ่งได้รู้ในตอนๆหนึ่งมีโอกาสจะถูกกล่าวถึงอีกเมื่อเราปิดซับไป (งงมั้ยอ่ะ)
เมื่อถึงตอนนั้นเราก็รู้วิธีออกเสียงแล้วความหมายของศัพท์ไปแล้ว
ถ้าอยาก advance ไปอีกขั้นก็แอคติ้งตามตัวละครได้เลยค่ะ บางทีเราก็พูดตาม มันทำให้เราเข้าใจฟีลของประโยคที่ตัวละครใช้ ว่าเค้าจะใช้ phrase นี้เมื่ออยู่ในเหตุการณ์ไหน อารมณ์ไหน
อ้อ เรื่องที่เลือกก็สำคัญเหมือนกันนะคะ เพราะหนังแต่ละเรื่องจะมีธีมต่างกัน ศัพท์ที่เราจะได้ก็ขึ้นอยู่กับธีมเรื่องนี่แหละ เราดู Disenchantment ก็จะได้ศัพท์แบบโบราณๆยุคกลาง ถ้าอยากได้ศัพท์ทั่วไปก็เลือกหนังแนวครอบครัว/รอมคอมดีกว่า
2. เขียนเรื่องสั้น short story หรือไดอารี่สั้นๆ ก่อนนอน (ได้ writing, vocab)
เอาเรื่องอะไรก็ได้ในหัวมาเขียน จะระบายความรู้สึกคิดถึง เหงา เศร้า หรือโกรธ หรือจะแต่งเรื่องอะไรก็ได้
ขอให้เขียนออกมาเป็นภาษาอังกฤษ หรือถ้าใครเพิ่งหัดอิ๊งจริงๆก็สามารถเขียนคร่าวๆเป็นภาษาไทยไว้ก่อนก็ได้นะ แล้วค่อยเขียนเป็นอิ๊งอีกรอบ
ขอเน้นว่าให้เขียน "สั้นๆ" ไว้ก่อน เพราะเราจะได้จดจ่อกับแต่ละประโยคได้เต็มที่
ที่เราเขียนจะเป็นประมาณ 5-7 ประโยค จะเล่นกับรูปแบบประโยคก็ได้ อาจจะไม่ใช่แค่ประโยคบอกเล่า มีประโยคคำถาม อุทาน
ระหว่างเขียนอาจจะมีคำที่เราอยากสื่อออกมาแต่ไม่รู้ เรา google เอาได้เลย ขอให้แน่ใจว่าคำที่เราหานั้นเข้ากับบริบทเรื่องสั้นของเราจริงๆ
ถ้าไม่แน่ใจว่าเขียนออกมาได้ถูกต้องหรือเปล่า ให้ลองถามคนเก่งๆดูก้ได้นะ
วิธีนี้ทำให้เราชินกับการสื่อออกมาเป็นภาษาอังกฤษด้วยการเขียน เราได้นำศัพท์และประโยคที่เรารู้มาใช้จริงๆ ยิ่งเราใช้เราจะจำได้ดี ทุกวันนี้เราก็เขียนไดอารี่เป็นอิ๊งบ้างบางครั้งเวลาขี้เกียจเขียนเป็นไทย รู้สึกว่าอิ๊งเขียนง่ายกว่า55
3. แปลไทยเป็นอิ๊ง แปลอิ๊งเป็นไทย (ได้ reading, vocab, writing, speaking)
เราจะหาบทความหรือข่าวสั้นที่เราสนใจเป็นหลัก สมมติถ้าเราเลือกข่าวอิ๊งเราจะอ่านรอบหนึ่ง หาศัพท์ที่ไม่รู้ แล้วลองพูดแปลให้ตัวเองฟัง
ด้วยการอ่านแล้วพูดออกมาเลยจะทำให้เราพยายามทำความเข้าใจกับเนื้อหาตรงหน้าให้เร็วที่สุด
จะดียิ่งกว่าถ้าเรานำบทความหรือข่าวมาแปลและแชร์ให้คนอื่นมาอ่านด้วย เราได้ฝึก คนอ่านได้ความรู้ ยิ่งปืนนัดเดียวได้นกสองตัวไปเล๊ยย
ส่วนใหญ่เราจะชอบอ่านบทความของ Deep English เป็นเว็บฝึกภาษาอังกฤษที่เราเห็นว่าอ่านง่ายและค่อนข้างครบในเรื่องการฝึก ได้เรื่อง reading, vocab และ listening ด้วยนะ สามารถเลือก pace ของ audio ได้ด้วย เราว่าเจ๋งดี ^^
ใครสนใจไปที่ลิ้งค์นี้ได้เลย https://deepenglish.com/blog/
ส่วนข่าว ช่วงนี้เราจะชอบอ่านข่าวสั้นๆของ Bangkok post เพราะมีข่าวในประเทศ เราอ่านแล้วมันรู้สึกว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวดี
แต่ละอันจะมีบอกความยากง่ายไว้ด้วย ลองไปดูกันได้นะ https://www.bangkokpost.com/learning/
4. เล่นละคร ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิด จริงๆมันก็เหมือนซ้อมบทคนเดียวมากกว่า
อันนี้เราคิดว่าเหมาะกับสายมโนมากๆ เพราะต้องใช้จินตนาการสูง55
ให้เรานึกฉากหนังมาสักฉากหนึ่ง จากหนังฝรั่งที่เราชอบ
มโนว่าเราเป็นตัวละครที่ชอบอาจจะเป็นนางเอกหรือพระเอก หน้าตาดี รวยมาก
ถามว่าต้องใช้บทมั้ย ไม่ต้องค่ะ! ให้เราใส่บทสนทนาตามที่เราชอบเลย
แล้วคิดตามว่าตัวละครที่เรากำลังคุยอยู่จะตอบกลับมาว่าอะไร เหมือนแต่งนิยายกันสดๆตรงนั้นเลย55
หรือถ้าใครมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ก็ชวนต่อบทด้วยเลย ใส่แอคติ้งให้เต็มที่555
เลือกวิธีที่เพื่อนๆชอบได้นะ ไม่จำเป็นต้องทำหมดทุกวิธีหรอก แต่ถ้าทำได้ทั้งหมดในทุกๆวัน บอกเลยว่า โปรแน่นอน555 วิธีสุดท้ายก็จะดูแปลกๆหน่อย รึป่าว
หัวใจหลักของการฝึกภาษา คือ ความสนุกและความสนใจ ขอให้เน้นสิ่งนี้เป็นหลักนะคะ ถ้าเราทำให้มันเป็นเรื่องง่ายๆ ชิวๆ และอินไปกับมัน มันก็เหมือนกับเรากำลังเล่นกับภาษาอยู่ และเมื่อเราไม่ได้พยายามมากจนเกินไปกับการฝึก เราจะมี energy กับการจดจำสิ่งใหม่ที่เราต้องการได้ดีกว่า
นี่เป็นกระทู้แรกที่ยาวมากกก แหะๆ ขอบคุณค่ะ ^^