เรื่องราวชีวิตการเป็นพระเอกเพื่อล้างอายให้แม่ของดาราน้ำดี "โกวิท วัฒนกุล"

โกวิท วัฒนกุล เกิดเมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2497 ชื่อเล่น  "แอ๊ด"  หรือชื่อที่ผู้คนมักเรียกว่า  "เมา"  เป็นบุตรคนโตจากจำนวนพี่น้องทั้งหมด 4 คน มารดาประกอบอาชีพค้าขาย ฐานะครอบครัวของคุณโกวิทในวัยเด็กไม่ได้ร่ำรวยนัก ประกอบกับการเป็นลูกคนโตทำให้มารดาบอกให้คุณโกวิทออกจากโรงเรียนเพื่อมาช่วยทำงานส่งเสียเลี้ยงดูน้อง ๆ แต่เพราะความต้องการที่จะร่ำเรียนหนังสือ คุณโกวิทจึงตัดสินใจทำงานส่งเสียตนเองเรียนควบคู่ไปกับการส่งเสียครอบครัว

เริ่มแรกคุณโกวิทได้เริ่มอาชีพการเป็นนักมวยอยู่เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง โดยมีโอกาสขึ้นสังเวียนเพียง 19 ครั้งเท่านั้น ทว่าเขาก็สามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้ามมาได้ทั้ง 19 นัด หลังจากเป็นนักมวยเพียงไม่นานนัก คุณโกวิทได้ตัดสินใจเดินทางมายังกรุงเทพมหานครเพื่อทำงานกับเรือตังเก เพราะค่าตอบแทนรายได้ที่ดี แต่เนื่องจากเรือได้ออกเดินทางไปแล้ว ทำให้เขาต้องทำงานเป็นคนขับสามล้อพลาง ๆ เป็นเวลา 1 เดือน ก่อนที่หลังจากนั้นคุณโกวิทจึงได้เข้าทำงานในเรือตังเกพร้อมกับส่งเงินเลี้ยงดูครอบครัว

หลังจากทำงานกับเรือตังเกท้ายที่สุดคุณโกวิทก็ได้มาทำงานเป็นคนห้ามล้อที่สถานีรถไฟ ชีวิตของคุณโกวิทดูเหมือนว่าไม่มีทางที่จะไปข้องเกี่ยวกับวงการมายาได้เลย กระทั่งเมื่อเพื่อนของคุณโกวิทชักชวนให้เขาไปเป็นเพื่อนแคสนายแบบ ขณะที่กำลังรอเพื่อนอยู่นั้น ได้มีผู้ใหญ่สนใจในตัวของคุณโกวิทพร้อมกับชักชวนเขาไปถ่ายงานโฆษณา ณ ตอนนั้นคุณโกวิทแทบไม่เชื่อในสายตาตนเอง เพราะความที่เขานั้นเป็นคนหน้าออกไปทางเชื้อสายจีน ซึ่งไม่ใช่พิมพ์นิยมของคนในยุคนั้นที่นิยมคนหน้าตาไทย บึกบึนสมชายชาตรี

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามแต่ด้วยฟ้าลิขิตทำให้คุณโกวิทได้มีผลงานโฆษณาร่วมกับคุณรัชนู บุญชูดวง และคุณอัศวิน รัตนประชา สุดยอดนักแสดงทางจอแก้ว ณ ขณะนั้น ภาพตัวเองในหน้านิตยสารบีอาร์ทำให้คุณโกวิทรู้สึกปลื้มใจและรู้ถึงความหล่อเหลาคมสันที่ตนเองมี จนถึงกับเหมาหนังสือยกแผงพร้อมส่งหนังสือเหล่านั้นไปให้ครอบครัวและผู้คนรอบข้างได้ชมเชย เมื่อมารดาเห็นภาพของลูกชายบนหน้าหนังสือร่วมกับดารานักแสดงชื่อดัง ท่านจึงนำภาพของลูกชายไปคุยกับเพื่อน ๆ แม่ค้าว่าโกวิทลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตนนั้นกำลังจะได้เป็นพระเอกหนัง ท่านพูดคุยถึงลูกชายด้วยความภาคภูมิยินดี

เมื่อเดินทางมาเยี่ยมเยียนครอบครัว คุณโกวิทถูกเพื่อน ๆ แม่ค้าของมารดาถามถึงเรื่องที่ว่าเขานั้นจะได้แสดงเป็นพระเอกเรื่องอะไรกัน คำตอบที่คุณโกวิทให้เป็นไปอย่างตรงไปตรงมาว่าเขานั้นไม่ได้เป็นพระเอกหนัง เพียงแต่นั่นเป็นเพียงแค่งานถ่ายแบบโฆษณาเท่านั้น คำตอบนั้นทำให้บรรดาเพื่อน ๆ ของมารดาพากันว่ากล่าวว่ามารดาของคุณโกวิทนั้นเป็นคนคุยโวโอ้อวด คำติฉินจากคนรอบข้างทำให้คุณโกวิทรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างจุกขึ้นมาที่ลำคอ เขารู้ดีว่ามารดานั้นพูดกล่าวออกไปเพราะความไร้เดียงสาประสาคนเป็นแม่ที่เห็นลูกชายกำลังได้ดิบได้ดีมีชื่อเสียง คำสบประมาทนั้นทำให้คุณโกวิทตั้งปณิธานว่าจะต้องเป็นพระเอกเพื่อล้างอายให้มารดาของตนให้จงได้ เขาคิดเช่นนั้น

คำปณิธานของคุณโกวิทนั้นมิได้มีขึ้นมาเพียงชั่ววูบ หลังจากวันนั้นเป็นระยะเวลากว่า 3 ปีที่คุณโกวิทพยายามส่งผลงานโดยใช้ภาพบนปกนิตยสารบีอาร์ไปตามบริษัทและค่ายภาพยนตร์ชั้นนำต่าง ๆ ทว่ากลับไม่มีใครติดต่อกลับมาหาเขาเลย กระทั่งวันหนึ่งที่เพื่อนคนคุณโกวิทได้ชักชวนให้เขาไปเป็นเพื่อนในการไปสมัครเป็นพนักงานพิมพ์ดีดของบริษัทพีค โปรดักชัน บริษัทที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวให้กับทางคุณไพโรจน์ สังวริบุตร แต่ก็ต้องผิดคาดเพราะทางบริษัทเปิดรับแค่พนักงานฝ่ายหญิง ก่อนกลับได้มีคนของทางบริษัทชักชวนคุณโกวิทถึงเรื่องงานแสดง ทำให้คุณโกวิทตัดสินใจรับฟังข้อเสนอโดยไม่ลังเล เขาได้เล่าถึงเรื่องที่ตนพยายามส่งภาพไปตามที่ต่าง ๆ กว่า 3 ปี แต่กลับไม่มีใครติดต่อกลับมาเลย ทางพีคจึงได้ตัดสินใจให้คุณโกวิทเขามาเป็นนักแสดงในสังกัดพร้อมกับส่งเขาไปเรียนการแสดงที่โรงเรียนอัศวินศิลปะการแสดง

การไปสมัครลงเรียนการแสดงที่อัศวินศิลปะการแสดงในครั้งนั้น จะไม่พูดถึงหญิงสาวคนนี้ไม่ได้เลย ณ ตอนที่คุณโกวิทไปสมัครที่โรงเรียนการแสดง ค่าสมัครที่มากถึง 2 พันบาททำให้คุณโกวิทไม่สามารถที่จะสมัครลงเรียนได้ เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูงเกินกำลัง เมื่อเห็นเช่นนั้น  "คุณณัฐนี สิทธิสมาน"  อดีตศิษย์อัศวินศิลปะการแสดงรุ่นแรกไถ่ถามถึงความตั้งใจว่าเขานั้นต้องการที่จะลงเรียนการแสดงจริง ๆ หรือไม่ คุณโกวิทจึงได้ตอบกลับไปว่า  "ใช่"  อาจเพราะความมุ่นมั่งตั้งใจที่แสดงออกอย่างชัดเจนทั้งในสีหน้า น้ำเสียง บุคลิก และแววตา หน้าตาอันหล่อเหลาคมสัน แม้หน้าตาผิวพรรณของบุรุษคนนี้จะออกไปทางเชื้อสายจีนมากไปสักหน่อย กระนั้นด้วยรูปร่างสูงโปร่งผนวกกับความหล่อเหลา มาดเท่ของเขา บางทีนี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณณัฐนีตัดสินใจให้เงินจำนวน 2 พันบาทในการใช้สมัครลงเรียนการแสดง โดยให้คุณโกวิทนำมาคืนเมื่อมีโอกาส

หลังสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนอัศวินศิลปะการแสดง มีวันหนึ่งที่คนของบริษัทพีคที่ทำงานหนังสือพิมพ์ได้นำพาคุณโกวิทร่วมเดินทางในการขอสัมภาษณ์  "คุณอดุลย์ กรีน"  และ  "คุณชินตา"  โดยมีจุดประสงค์ที่จะเปิดตัวเขา ขณะสัมภาษณ์คุณชินตา ผู้ป็นภรรยาคุณอดุลย์ ได้เห็นถึงหน่วยก้านของคุณโกวิทจึงได้ไถ่ถามชักชวนถึงคุณโกวิทจนได้ทราบว่าคุณโกวิทนั้นได้เคยเรียนการแสดงมาก่อนและตอนนี้กำลังว่าง คุณชินตาชักชวนให้คุณโกวิทมารับงานแสดงเป็นครั้งแรกซึ่งตอนนี้ยังหาผู้มารับบทนี้ไม่ได้ โดยเป็นบทชายชาวจีนที่มีความสามารถด้านการต่อยมวยและฟันดาบ ในละครโทรทัศน์เรื่อง  "สามสิงห์"  ขณะที่คุณชินตากำลังถามถึงความประสงค์ คุณโกวิทรีบตอบรับข้อเสนออย่างทันควันโดยที่คุณชินตายังพูดไม่จบประโยคเสียด้วยซ้ำ

คุณโกวิทได้เข้าไปแคสเพื่อแสดงละครโทรทัศน์ฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ คุณสักกะจึงเสนอบทรองให้คุณโกวิทแสดง โดยมีข้อแม้ว่าเขาจะต้องเข้าไปรับการเตรียมพร้อมที่บ้านแห่งหนึ่งโดยห้ามออกไปไหนเป็นระยะเวลา 2 เดือน หลังคุณโกวิทตอบตกลง วันต่อมาคุณโกวิทเก็บข้าวของไปอาศัยอยู่ ณ สถานที่ฝึกเตรียมพร้อมโดยไม่ลังเล การฝึกเตรียมตัวเป็นไปอย่างหนักหน่วง กระทั่ง 7 วันก่อนถึงวันแถลงข่าว คุณสักกะได้ตัดสินใจเลือกให้คุณโกวิทเป็นไอ้เสมา สร้างความดีใจแก่คุณโกวิทเป็นอย่างยิ่งที่สุดจนเจ้าตัวไม่แม้แต่สามารถอดกลั้นน้ำตาไว้ได้ 

พ.ศ. 2522 เมื่อขุนศึกออกอากาศฉายก็ได้ก่อเกิดกระแสโด่งดังเป็นอย่างมาก จนคุณโกวิทได้ให้สัมภาษณ์ว่าขณะที่เดินเข้าบ้าน ตัวเขานั้เดินได้ยินเสียงเพลงประกอบละครขุนศึกไปทั่วทั้งซอย ชาวบ้านต่างพากันรับชมละครขุนศึกอย่างท่วมท้น กลายเป็นผลงานสร้างชื่อและภาพจำให้ดาราหนุ่มหน้าจีนอย่างโกวิท วัฒนกุล แจ้งเกิดเป็นที่รู้จักนับตั้งแต่วันนั้น จากความโด่งดังทำให้ผลงานการแสดงในวงการบันเทิงเริ่มหลั่งไหลเข้ามา ช่วงที่คุณโกวิทเพิ่งโด่งดังจากขุนศึกนั้น มีผู้ติดต่อให้เขาไปแสดงผลงานมากมาย

คุณโกวิทรับงานแสดงทั้งด้านละครและด้านภาพยนตร์ โดยมักเป็นบทรอง บทสมทบ และบทร้าย บทบาทที่โดดเด่นของคุณโกวิทในช่วงนี้นับว่ามีมากมายพอควรทีเดียว

พ.ศ. 2528 คุณโกวิทได้มีโอกาสแสดงละครโทรทัศน์เรื่อง  "แม่เอิบ"  ในบทบาทนำ ร่วมแสดงกับ  "คุณจิรวดี อิศรางกูร ณ อยุธยา"  การแสดงอันยอดเยี่ยมในครั้งนี้ส่งให้เขาคว้ารางวัลเมขลาสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมไปครอบครอง

จากนั้น พ.ศ. 2529 ปีต่อมาคุณโกวิทได้มีโอกาสแสดงละครเรื่อง  "โผน กิ่งเพชร"  ละครโทรทัศน์ซึ่งสร้างมาจากเรื่องจริงของนักมวยไทยคนแรกผู้คว้าตำแหน่งแชมป์โลก บทบาทการแสดงนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโทรทัศน์ทองคำในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

ต่อมา พ.ศ. 2530  ปีนี้คุณโกวิทมีผลงานละครชื่อดังแห่งปี เรื่อง  "ทองเนื้อเก้า"  ร่วมกับอภิรดี ภวภูตานนท์ กับบทบาทของ  "สันต์"  สามีคนแรกของลำยอง ซึ่งมีบทบาทและมีอิทธิพลกับตัวลำยองและเนื้อเรื่องมากที่สุด โดยเป็นอีกหนึ่งตัวละครหลักที่จะปรากฏตัวให้เห็นตลอดแทบทั้งเรื่อง และในปีนี้คุณโกวิทยังได้แสดงมิวสิควิดีโอเพลง  "ลืมเสียเถิด"  ของ  "คุณพัชรา แวงวรรณ"  ร่วมกับนางเอกหน้าใหม่ในขณะนั้นอย่าง  "คุณนิสา วงศ์วัฒน์"