คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้าเป็นพี่ พี่จะแยกตัวออกมานะ อยู่ไปก็จะเสียสุขภาพจิตกันไปเปล่าๆ เกิดวันไหนฟิวส์ขาดพลาดไป ใช้กำลังก็จะเป็นเรื่องอีก
ที่บอกว่าควบคุมไม่ได้ จริงๆ ที่ควบคุมไม่ได้ก็แค่ในส่วนของการกระทำคนอื่น แต่ตัวเราเราดูแลตัวเรา.เอาตัวเราไปอยู่ในที่ที่เหมาะสมไม่กดดันได้นะ
เรื่องงานกลุ่ม ถ้าเราร่วมกลุ่มเฉพาะตอนทำงานจะได้ไหม อย่างน้อยก็ลดเวลาที่ถูกกระทบไปได้ส่วนหนึ่ง
เรื่องกลัวว่าจะไม่รู้ข่าวสารข้อมูล เรารู้ข่าวสารข้อมูลได้จากเพื่อนกลุ่มนี้ได้ทางเดียวเหรอ ??? ไม่น่าจะใช่ไหม 😉 หรือถ้าเราจะเข้ามาคุยเพราะอยากอัพเดทอะไรบางอย่างเราก็คุยได้นี่ ไม่ได้โกรธกัน ไม่ได้เลิกคบกัน หรือถ้ามีปัญหาเรื่องเรียนอยากปรึกษาเพื่อน ก็น่าจะได้นี่ เราก็ยังเป็นเพื่อนกัน แต่แค่ถอยออกมา ไม่ต้องใช้เวลาด้วยกันมาก
อย่ารู้สึกว่าการอยู่คนเดียวจะต้องหมายถึงว่าเราไม่มีค่า เพื่อนไม่คบนะ แต่มันหมายถึงว่า เรามีค่าเกินกว่าที่จะคบเพื่อนที่ไม่มีค่า ต่างหาก เราต้องเห็นค่าตัวเอง.รักตัวเองให้ได้ ทำไมต้องทนอยู่ให้ใครที่ไม่ได้หวังดีกับเรามาทำร้ายความรู้สึกเราซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วเราต้องทน ? เพื่อ ??
ถ้าเราแยกออกมาได้แสดงว่าเราก็เข้มแข็งพอไม่ต้องง้อแบคอัพไง 😉
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม..ก็ใช่....แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีใครตลอดเวลา เราต้องมีเวลาของตัวเองด้วย เพื่อนถ้าจะมีก็ควรจะดีด้วย ช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน
ที่ว่าเลือกไม่ได้ จริงๆ น้องก็เลือกอยู่นะ เลือกไปแล้ว เลือกที่จะทนอยู่กับสถานการณ์แบบนี้ แต่จริงๆ แล้วอีกทางที่มันต่างไปน้องก็เลือกได้เหมือนกันนะ 😉
ที่บอกว่าควบคุมไม่ได้ จริงๆ ที่ควบคุมไม่ได้ก็แค่ในส่วนของการกระทำคนอื่น แต่ตัวเราเราดูแลตัวเรา.เอาตัวเราไปอยู่ในที่ที่เหมาะสมไม่กดดันได้นะ
เรื่องงานกลุ่ม ถ้าเราร่วมกลุ่มเฉพาะตอนทำงานจะได้ไหม อย่างน้อยก็ลดเวลาที่ถูกกระทบไปได้ส่วนหนึ่ง
เรื่องกลัวว่าจะไม่รู้ข่าวสารข้อมูล เรารู้ข่าวสารข้อมูลได้จากเพื่อนกลุ่มนี้ได้ทางเดียวเหรอ ??? ไม่น่าจะใช่ไหม 😉 หรือถ้าเราจะเข้ามาคุยเพราะอยากอัพเดทอะไรบางอย่างเราก็คุยได้นี่ ไม่ได้โกรธกัน ไม่ได้เลิกคบกัน หรือถ้ามีปัญหาเรื่องเรียนอยากปรึกษาเพื่อน ก็น่าจะได้นี่ เราก็ยังเป็นเพื่อนกัน แต่แค่ถอยออกมา ไม่ต้องใช้เวลาด้วยกันมาก
อย่ารู้สึกว่าการอยู่คนเดียวจะต้องหมายถึงว่าเราไม่มีค่า เพื่อนไม่คบนะ แต่มันหมายถึงว่า เรามีค่าเกินกว่าที่จะคบเพื่อนที่ไม่มีค่า ต่างหาก เราต้องเห็นค่าตัวเอง.รักตัวเองให้ได้ ทำไมต้องทนอยู่ให้ใครที่ไม่ได้หวังดีกับเรามาทำร้ายความรู้สึกเราซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วเราต้องทน ? เพื่อ ??
ถ้าเราแยกออกมาได้แสดงว่าเราก็เข้มแข็งพอไม่ต้องง้อแบคอัพไง 😉
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม..ก็ใช่....แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีใครตลอดเวลา เราต้องมีเวลาของตัวเองด้วย เพื่อนถ้าจะมีก็ควรจะดีด้วย ช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน
ที่ว่าเลือกไม่ได้ จริงๆ น้องก็เลือกอยู่นะ เลือกไปแล้ว เลือกที่จะทนอยู่กับสถานการณ์แบบนี้ แต่จริงๆ แล้วอีกทางที่มันต่างไปน้องก็เลือกได้เหมือนกันนะ 😉
แสดงความคิดเห็น
(ระบาย) ในสังคมมหาลัย ถ้ามีเพื่อนที่ชอบดูถูก ล้อปมด้อย กดค่า ข่มคนอื่น ควรทำยังไงดีครับ
แต่เพื่อนคนนี้มันมาในรูปแบบ "ตบหัวแล้วลูบหลัง" มักจะด่าก่อน พอรู้ว่าผมไม่พอใจก็ทำมาเป็นขอโทษทีหลัง แต่ก็ยังกลับมาด่าใหม่อยู่ดี ตอนแรกๆก็ให้อภัยได้ แต่พอมันทำยังงี้บ่อยๆความอดทนที่มีก็ค่อยๆหายไป ที่สำคัญคือผมเหมือนเป็นเหยื่อเบอร์หนึ่งของมันยังไงไม่รู้ มันจะแสดงออกถึงพฤติกรรมยังงี้เฉพาะกับคนที่อ่อนแอกว่าหรือคนที่มันคิดว่าไม่มีประโยชน์สำหรับมัน ในกลุ่มผมมีทั้งหมด 5 คน ผมจะเป็นคนที่โดนมันแขวะประจำ มันทั้งด่า ทั้งประจาน ด่าแบบไม่เหลือความเป็นมนุษย์ เหมือนผมไม่มีความรู้สึก ยกตัวอย่างเช่น "จะทำอะไรก็ทำไป ยังไงก็ไม่มีใครจำได้อยู่แล้ว" "แมร่งขยะว่ะ โง่
.
ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนที่ค่อนข้าง sensitive กับเรื่องเหล่านี้และยังเป็นคนเถียงคนไม่เก่งและไม่ค่อยสู้คนครับ ผมมักจะเป็นฝ่ายโดนกระทำฝ่ายเดียว และพอมันเห็นว่าผมไม่โต้ตอบ มันก็ยิ่งเหิมเกริมมากขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายความอดทนตลอด 2 ปีของผมก็เริ่มจะระเบิดออกมาแล้ว ที่ผมไม่โต้ตอบเพราะไม่อยากให้การเรียนตลอด 4 ปีในรั้วมหาลัยต้องมีปัญหา และอีกอย่างคือไม่อยากเสียความสัมพันธ์กับเพื่อนคนอื่นๆในกลุ่ม เพราะอย่างที่บอกไปมันทำพฤติกรรมอย่างนี้เฉพาะกับผมคนเดียว เพื่อนคนอื่นๆเค้าก็ไม่อยากมีปัญหา เพราะต่างคนต่างไม่สนิทกันมาก แค่เรียนด้วยกันเฉยๆ ต่างคนไม่อยากมีเรื่องหรือมาอยู่ในจุดเดียวเหมือนผม จึงเพิกเฉยต่อการกระทำของมันที่มีต่อผมตลอดที่ผ่านมา ไม่ช่วย ไม่โต้ตอบ ใช้ความเงียบให้มันด่าผมจนหมดน้ำลาย พอเสร็จแล้วก็ชวนกันเปลี่ยนประเด็น เหมือนสิ่งที่มันทำไม่เคยเกิดขึ้น ดูเป็นความสัมพันธ์ที่แย่ใช่ไหมครับ? ใช่ครับ มันแย่จริงๆ แต่ถามว่าทำไมถึงยังอยู่ต่อไป คำตอบคือ ไม่มีที่ยืนแล้วไงครับ กลุ่มนี้ต่างคนต่างมีทัศนคติ ความชอบ ไม่ตรงกัน คบกันแค่ช่วยกันเรียน คุยเรื่องสนุก พูดง่ายๆคือคบเพราะหวังผลประโยชน์นั่นแหละครับ และเนื่องด้วยคณะที่ผมศึกษาอยู่เป็นคณะเล็กๆ ถ้าจะใช้วิธีย้ายกลุ่มคงยาก เพราะสังคมในคณะต่างคนต่างอยู่ ไม่ยุ่งกับกลุ่มอื่นกัน และหลายคนมักมีกลุ่มไปหมดแล้ว หรือถ้าจะให้ปลีกตัวไปเรียนคนเดียวจะค่อนข้างลำบากในการเรียน เพราะคณะผมเน้นการทำงานเป็นกลุ่ม ผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจำใจกัดฟันทนอยู่กับกลุ่มนี้ตลอดมาจนสุขภาพจิตผมเสียถึงกับต้องไปพบจิตแพทย์มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เพราะยังคงต้องเจอสิ่งแวดล้อมเดิมๆทุกวันที่ไม่สามารถควบคุมอะไรได้
.
ผมอยากออกจากกลุ่มนี้มาก หรือไม่ก็ปลีกตัวมาเรียนคนเดียว แต่ก็ห่วงหน้าห่วงหลัง กลัวว่าการเรียนจะแย่ลง ติดตามชาวบ้านชาวช่องเค้าไม่ทัน หรือจะพยายามปรับความคิด ไม่ต้องสนใจคำพูดเหล่านั้นก็คงเป็นเรื่องยาก เพราะมันบ่อยเกิน เจอทุกวัน เจอซ้ำๆรูปแบบเดิมๆ จนไม่สามารถทำเป็นหูทวนลมได้อีกแล้ว เหตุการณ์มันถูกบันทึกไว้ในสมองไปแล้วว่าพอเจอปุ๊ปอารมณ์ความโกรธแค้นก็จะถูกกระตุ้นทันที จะพยายามหลีกเลี่ยงไม่เจอหน้ามันให้ได้มากที่สุดก็ทำไม่ได้ เพราะเรียนวิชาเดียวกับมันเกือบทุกตัวแถมต้องมาอยู่กลุ่มเดียวกัน จะเปลี่ยนแปลงตัวเองกลายเป็นคนแรงๆแล้วตอบโต้กลับก็กลัวจะเสียเพื่อนคนอื่นๆ หรือจะใช้วิธีคุยด้วยเหตุผล บอกไปตรงๆ ก็ไม่ได้ผลเพราะเคยทำไปแล้ว แต่เค้าก็ยังกลับมาเป็นเหมือนเดิม ตอนนี้ผมหมดหนทางไม่รู้จะแก้ปัญหานี้ยังไงแล้วครับ ถ้าหากคุณเจอสถานการณ์เดียวกันกับผม คุณจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ยังไง จะยอมทนต่อ ยอมออกห่าง หรือหาทางเลือกอื่นๆที่ดีกว่านี้ รบกวนช่วยแนะนำผมหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
.
ปล.)สาเหตุที่มันไม่ชอบผม ส่วนตัวผมคิดว่าผมเป็นคนพูดตรงเกินไป ถ้ามีอะไรพอใจไม่พอใจผมมักจะบอกความรู้สึกในใจออกไปตรงๆ และบางทีคำพูดเหล่านั้นอาจจะไปทำให้มันไม่พอใจอย่างมาก ผมยึดถือคติในการมีอะไรก็บอกกันตรงๆ(แต่ไม่ใช้คำหยาบ ไม่ได้ด่า) แต่สำหรับมันคงคิดต่างออกไปจากผม เลยน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้มันกระทำพฤติกรรมแย่ๆเหล่านี้ออกมา แต่ตอนนี้ผมมักไม่ค่อยพูดตรงๆแล้วนะครับ แต่การกระทำของมันยังคงอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงเลย