การโอนรถยนต์ แจ้งปลายทาง (แม่โอนให้ลูกหรือยกให้ลูก)
(เพิ่งเคยเขียนกระทู้ในพันทิปครั้งแรกค่ะ ผิดถูกประการใด ต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะคะ 😂)
ทำการโอนที่ขนส่งจังหวัดชัยภูมินะคะ
กรณีของ ผู้เขียนกระทู้เป็นคนเตรียมเอกสารให้แฟนค่ะ ผู้รับโอน(คือแฟน) ผู้โอน (แม่ของแฟน) แม่แฟนไม่ได้ไปด้วยนะคะมอบอำนาจให้ลูก(แฟน) ไปทำการโอนค่ะ
เอกสารที่ต้องเตรียม
1. แบบคำขอโอนและรับโอนกรมขนส่ง (โหลดจากเว็ปกรมขนส่งหรือไปขอที่ขนส่งใกล้บ้านได้เลยค่ะ)
2. หนังสือมอบอำนาจกรมขนส่ง กรณีมอบอำนาจ (โหลดจากเว็ปกรมขนส่งหรือไปขอที่ขนส่งใกล้บ้าน)
3. หนังสือคำขออื่นๆ (กรณีแจ้งย้ายปลายทางจากอีกจังหวัดเพื่อเข้าใช้ในจังหวัดชัยภูมิ (เปลี่ยนทะเบียนด้วยค่ะ)
4. สำเนาบัตรประชาชนผู้โอน 1 ชุด
5. สำเนาบัตรประชาชนผู้รับโอน 1 ชุด
6. สำเนาทะเบียนบ้านผู้โอน 1 ชุด
7. สำเนาทะเบียนบ้านผู้รับโอน 1 ชุด
8. สำเนาใบสูติบัตรผู้รับโอน (เพื่อยืนยันความเป็นแม่ลูกกันค่ะ)
9. เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) เช่นใบเปลี่ยนชื่อหรือสกุลค่ะ (เคสนี้เอกสารจะเยอะหน่อยค่ะเพราะเปลี่ยนชื่อทั้งผู้โอนและผู้รับโอน และแม่ลูกคนละนามสกุลอีกต่างหาก 😂)
ปล.สำเนาเอกสารสำคัญทุกใบต้องเซ็นต์รับรองสำเนาทุกแผ่นด้วยนะคะ และพยานที่เซ็นต์เป็นพยานในใบมอบอำนาจไม่ต้องแนบเอกสารของพยานค่ะ
10. อากรแสตมป์30บาท (ใช้ติดในหนังสือมอบอำนาจ ถ้าติดไปเลยก็ดีค่ะ แต่เคสนี้ไม่ได้ซื้อไปด้วย ที่ขนส่งติดให้ คิดราคา60บาทเลย 😭 ราคาสองเท่าเลย)
11. รถยนต์คันที่จะโอน และสมุดคู่มือรถ
ขั้นตอนการโอน
1. อันดับแรกเตรียมเอกสารและกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนนะคะ พอไปถึงขนส่งก็เอารถไปตรวจสภาพพร้อมยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ ที่เป็นผู้ตรวจสภาพรถเลยค่ะ อย่าลืมแจ้งว่าแม่โอนให้ลูกด้วยนะคะ (เคสนี้ยอมรับว่าไม่ได้อ่านป้ายขั้นตอนการเข้าตรวจสภาพค่ะ ตัวหนังสือมันเล็กค่ะ นึกว่าเป็นป้ายวิสัยทัศน์ขององค์กรทั่วไป เห็นเจ้าหน้าที่คนนึงกำลังตรวจสภาพรถคันก่อนหน้าอยู่ ไม่กล้าถามว่าต้องยื่นเอกสารตรงไหน เลยจอดรถแล้วให้แฟนไปต่อคิวตรงช่องจ่ายเงินค่าตรวจสภาพ เพื่อรอถามว่ายื่นเอกสารตรงไหน แต่ยังไม่ถึงคิวถาม เจ้าหน้าที่คนที่ตรวจสภาพรถคันก่อนหน้าเสร็จพอดีเลยมาขอเอกสาร จึงเรียกแฟนที่กำลังจะไปสอบถามอีกที่นึงใกล้ๆกันรีบวิ่งเอาเอกสารมาให้ จนท.เค้าก็ถามเชิงจิกเล็กน้อยว่าไม่เห็นป้ายขั้นตอนการเข้าตรวจสภาพเหรอ หรือว่าตัวหนังสือในป้ายมันตัวเล็ก เชิงบ่นเล็กน้อย...แต่ก็เข้าใจค่ะ เค้าทำงานจุดนั้นก็คงมีหงุดหงิดกันบ้าง เพราะอาจทำให้เค้าเสียเวลาเพิ่มไป20วินาที)
2. เปิดฝากระโปรงหน้ารถ จนท.ก็จะเช็คประเมินด้วยสายตาค่ะ แล้วก็ขูดเลขใต้เบาะข้างคนขับค่ะ (ลืมบอกรถปี2010ค่ะ อายุการใช้งานปี รถเก๋ง 1,800cc)แล้ว จนท.ที่ตรวจสภาพให้ไปจ่ายเงินค่าตรวจสภาพที่ช่องเก็บเงิน 200บาท (ไม่มีใบเสร็จให้นะคะ ซึ่งราคาต่างจากที่เค้าแชร์กันในเน็ตพอสมควรค่ะ มาเอะใจตอนกลับถึงบ้านแล้วจึงโทรไปสอบถามกับคอลเซ็นเตอร์กรมการขนส่ง เค้าบอกขอดูใบเสร็จได้ถ้าขึ้นกับกรมขนส่งต้องมีใบเสร็จ แต่นี่กลับถึงบ้านแล้วใบเสร็จก็ไม่ได้ โง่ไปแล้วอยากกระจ่างจึงโทรไปสอบถามฝ่ายตรวจสภาพขนส่งจังหวัดชัยภูมิอีกรอบ ได้คำตอบว่าค่าธรรมเนียมการตรวจสภาพขึ้นอยู่กับช่างพิจารณาค่ะ ไม่มีค่าธรรมเนียมตายตัว อยู่ที่ช่างพิจารณา สงสัยอยู่เหมือนกันว่าพิจารณาจากอายุการใช้งานรถหรือว่าประเภทรถไม่เกินกี่cc และได้ถามย้ำเกี่ยวกับใบเสร็จรับเงินค่าตรวจสภาพ ว่าเค้าลืมให้ใบเสร็จรึเปล่า ได้รับการยืนยันว่าไม่มีการออกใบเสร็จค่ะ หายสงสัยค่ะ แต่ไม่รู้ที่ขนส่งจังหวัดอื่นจะเหมือนกันรึเปล่า😆)
3. พอจ่ายเงินค่าตรวจสภาพแล้วรอรับเอกสารคืนเพื่อไปยื่นฝ่ายประชาสัมพันธ์เพื่อตรวจเอกสารและตรวจเอกสารอีกครั้งและรับบัตรคิวไปรอยื่นที่ฝ่ายงานทะเบียนค่ะ
4. พอถึงคิวยื่นเอกสาร จ่ายเงินค่าธรรมเนียม ดังนี้
ค่าคำขอ 10บาท
ค่าใบแทนเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปี 20บาท
ค่าโอนทะเบียนรถ 100บาท
ค่าปรับย้ายช้ากว่า 15วัน 200 บาท (กรณีแจ้งย้ายช้าค่ะ เคสนี้ย้ายออกจากจังหวัดเดิมตั้งแต่เดือนกันยา ปี62 ค่ะ มีให้เซ็นต์ยินยอมจ่ายค่าปรับด้วยนะคะ😁)
ค่าแผ่นป้ายทะเบียนใหม่ 200บาท
รวม 530บาท มีใบเสร็จกรมการขนส่งนะคะ)
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดจนเสร็จสิ้นกระบวนการ 790 บาทค่ะ (รวมค่าอากรแสตมป์ที่ติดในใบมอบอำนาจด้วย 60บาท)
5. รับสมุดคู่มือทะเบียนรถใบเสร็จรับเงินและใบแทนเครื่องหมายเสียภาษีประจำปีคืน ก็ไปถอดทะเบียนเก่ามาแลกทะเบียนใหม่ได้เลยเป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ
เขียนบ่นยาวหน่อยนะคะ...ขอจบการแชร์ประสบการณ์โอนรถครั้งแรกในพันทิปไว้เพียงเท่านี้ค่ะ 🙏🏻😁🙏🏻
แชร์ประสบการณ์การโอนรถยนต์แบบแจ้งปลายทางค่ะ (แม่โอนให้ลูก)
(เพิ่งเคยเขียนกระทู้ในพันทิปครั้งแรกค่ะ ผิดถูกประการใด ต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะคะ 😂)
ทำการโอนที่ขนส่งจังหวัดชัยภูมินะคะ
กรณีของ ผู้เขียนกระทู้เป็นคนเตรียมเอกสารให้แฟนค่ะ ผู้รับโอน(คือแฟน) ผู้โอน (แม่ของแฟน) แม่แฟนไม่ได้ไปด้วยนะคะมอบอำนาจให้ลูก(แฟน) ไปทำการโอนค่ะ
เอกสารที่ต้องเตรียม
1. แบบคำขอโอนและรับโอนกรมขนส่ง (โหลดจากเว็ปกรมขนส่งหรือไปขอที่ขนส่งใกล้บ้านได้เลยค่ะ)
2. หนังสือมอบอำนาจกรมขนส่ง กรณีมอบอำนาจ (โหลดจากเว็ปกรมขนส่งหรือไปขอที่ขนส่งใกล้บ้าน)
3. หนังสือคำขออื่นๆ (กรณีแจ้งย้ายปลายทางจากอีกจังหวัดเพื่อเข้าใช้ในจังหวัดชัยภูมิ (เปลี่ยนทะเบียนด้วยค่ะ)
4. สำเนาบัตรประชาชนผู้โอน 1 ชุด
5. สำเนาบัตรประชาชนผู้รับโอน 1 ชุด
6. สำเนาทะเบียนบ้านผู้โอน 1 ชุด
7. สำเนาทะเบียนบ้านผู้รับโอน 1 ชุด
8. สำเนาใบสูติบัตรผู้รับโอน (เพื่อยืนยันความเป็นแม่ลูกกันค่ะ)
9. เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) เช่นใบเปลี่ยนชื่อหรือสกุลค่ะ (เคสนี้เอกสารจะเยอะหน่อยค่ะเพราะเปลี่ยนชื่อทั้งผู้โอนและผู้รับโอน และแม่ลูกคนละนามสกุลอีกต่างหาก 😂)
ปล.สำเนาเอกสารสำคัญทุกใบต้องเซ็นต์รับรองสำเนาทุกแผ่นด้วยนะคะ และพยานที่เซ็นต์เป็นพยานในใบมอบอำนาจไม่ต้องแนบเอกสารของพยานค่ะ
10. อากรแสตมป์30บาท (ใช้ติดในหนังสือมอบอำนาจ ถ้าติดไปเลยก็ดีค่ะ แต่เคสนี้ไม่ได้ซื้อไปด้วย ที่ขนส่งติดให้ คิดราคา60บาทเลย 😭 ราคาสองเท่าเลย)
11. รถยนต์คันที่จะโอน และสมุดคู่มือรถ
ขั้นตอนการโอน
1. อันดับแรกเตรียมเอกสารและกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนนะคะ พอไปถึงขนส่งก็เอารถไปตรวจสภาพพร้อมยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ ที่เป็นผู้ตรวจสภาพรถเลยค่ะ อย่าลืมแจ้งว่าแม่โอนให้ลูกด้วยนะคะ (เคสนี้ยอมรับว่าไม่ได้อ่านป้ายขั้นตอนการเข้าตรวจสภาพค่ะ ตัวหนังสือมันเล็กค่ะ นึกว่าเป็นป้ายวิสัยทัศน์ขององค์กรทั่วไป เห็นเจ้าหน้าที่คนนึงกำลังตรวจสภาพรถคันก่อนหน้าอยู่ ไม่กล้าถามว่าต้องยื่นเอกสารตรงไหน เลยจอดรถแล้วให้แฟนไปต่อคิวตรงช่องจ่ายเงินค่าตรวจสภาพ เพื่อรอถามว่ายื่นเอกสารตรงไหน แต่ยังไม่ถึงคิวถาม เจ้าหน้าที่คนที่ตรวจสภาพรถคันก่อนหน้าเสร็จพอดีเลยมาขอเอกสาร จึงเรียกแฟนที่กำลังจะไปสอบถามอีกที่นึงใกล้ๆกันรีบวิ่งเอาเอกสารมาให้ จนท.เค้าก็ถามเชิงจิกเล็กน้อยว่าไม่เห็นป้ายขั้นตอนการเข้าตรวจสภาพเหรอ หรือว่าตัวหนังสือในป้ายมันตัวเล็ก เชิงบ่นเล็กน้อย...แต่ก็เข้าใจค่ะ เค้าทำงานจุดนั้นก็คงมีหงุดหงิดกันบ้าง เพราะอาจทำให้เค้าเสียเวลาเพิ่มไป20วินาที)
2. เปิดฝากระโปรงหน้ารถ จนท.ก็จะเช็คประเมินด้วยสายตาค่ะ แล้วก็ขูดเลขใต้เบาะข้างคนขับค่ะ (ลืมบอกรถปี2010ค่ะ อายุการใช้งานปี รถเก๋ง 1,800cc)แล้ว จนท.ที่ตรวจสภาพให้ไปจ่ายเงินค่าตรวจสภาพที่ช่องเก็บเงิน 200บาท (ไม่มีใบเสร็จให้นะคะ ซึ่งราคาต่างจากที่เค้าแชร์กันในเน็ตพอสมควรค่ะ มาเอะใจตอนกลับถึงบ้านแล้วจึงโทรไปสอบถามกับคอลเซ็นเตอร์กรมการขนส่ง เค้าบอกขอดูใบเสร็จได้ถ้าขึ้นกับกรมขนส่งต้องมีใบเสร็จ แต่นี่กลับถึงบ้านแล้วใบเสร็จก็ไม่ได้ โง่ไปแล้วอยากกระจ่างจึงโทรไปสอบถามฝ่ายตรวจสภาพขนส่งจังหวัดชัยภูมิอีกรอบ ได้คำตอบว่าค่าธรรมเนียมการตรวจสภาพขึ้นอยู่กับช่างพิจารณาค่ะ ไม่มีค่าธรรมเนียมตายตัว อยู่ที่ช่างพิจารณา สงสัยอยู่เหมือนกันว่าพิจารณาจากอายุการใช้งานรถหรือว่าประเภทรถไม่เกินกี่cc และได้ถามย้ำเกี่ยวกับใบเสร็จรับเงินค่าตรวจสภาพ ว่าเค้าลืมให้ใบเสร็จรึเปล่า ได้รับการยืนยันว่าไม่มีการออกใบเสร็จค่ะ หายสงสัยค่ะ แต่ไม่รู้ที่ขนส่งจังหวัดอื่นจะเหมือนกันรึเปล่า😆)
3. พอจ่ายเงินค่าตรวจสภาพแล้วรอรับเอกสารคืนเพื่อไปยื่นฝ่ายประชาสัมพันธ์เพื่อตรวจเอกสารและตรวจเอกสารอีกครั้งและรับบัตรคิวไปรอยื่นที่ฝ่ายงานทะเบียนค่ะ
4. พอถึงคิวยื่นเอกสาร จ่ายเงินค่าธรรมเนียม ดังนี้
ค่าคำขอ 10บาท
ค่าใบแทนเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปี 20บาท
ค่าโอนทะเบียนรถ 100บาท
ค่าปรับย้ายช้ากว่า 15วัน 200 บาท (กรณีแจ้งย้ายช้าค่ะ เคสนี้ย้ายออกจากจังหวัดเดิมตั้งแต่เดือนกันยา ปี62 ค่ะ มีให้เซ็นต์ยินยอมจ่ายค่าปรับด้วยนะคะ😁)
ค่าแผ่นป้ายทะเบียนใหม่ 200บาท
รวม 530บาท มีใบเสร็จกรมการขนส่งนะคะ)
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดจนเสร็จสิ้นกระบวนการ 790 บาทค่ะ (รวมค่าอากรแสตมป์ที่ติดในใบมอบอำนาจด้วย 60บาท)
5. รับสมุดคู่มือทะเบียนรถใบเสร็จรับเงินและใบแทนเครื่องหมายเสียภาษีประจำปีคืน ก็ไปถอดทะเบียนเก่ามาแลกทะเบียนใหม่ได้เลยเป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ
เขียนบ่นยาวหน่อยนะคะ...ขอจบการแชร์ประสบการณ์โอนรถครั้งแรกในพันทิปไว้เพียงเท่านี้ค่ะ 🙏🏻😁🙏🏻