[CR] ทริปส่งท้ายปีเก่า น่าน-หลวงพระบาง กับเส้นทางสายใหม่


เมื่อปลายปี 62 ที่ผ่านมา ได้วางแผนไปเที่ยวหลวงพระบางโดยอาศัยเส้นทางสายใหม่ที่เขาว่าเพิ่งเสร็จ เป็นเส้นเดินทางครั้งนี้ 
ก็เริ่มจากไปติดต่อธนาคารที่เราไปเช่าซื้อรถไว้กับเขานี่แหละครับ  ไปแจ้งว่าเราอยากจะขับรถออกไปเที่ยวประเทศลาว  แล้วก็เตรียมเอกสารไปให้เขา ก็มี
-สำเนาบัตรประชาชน
-สำเนา Passport
-แบบฟอร์มการขอนำรถยนต์ออกนอกราชอาณาจักร
-ชำระค่าดำเนินการ 900 บาท 
จบ .. รอประมาณ 15 วันครับ จนท.ธนาคารจะติดต่อกลับมาให้ไปรับเอกสาร 
-หนังสือมอบอำนาจจากธนาคาร 2 ชุด (ใช้แทนเล่มทะเบียนรถยนต์ตัวจริง) ใช้ได้สูงสุด 3 เดือน (ภายใน 3 เดือนจะขับออกไปลาวอีกก็ได้ ไม่ต้องไปขอใหม่)
-Passport รถยนต์เล่มม่วง 1 เล่ม
-Sticker ตัว T  2 แผ่น ไว้ติดกระจกหน้ารถ และ หลังรถ ครับ
หมายเหตุ ** ผมไม่ได้ป้ายทะเบียนภาษาอังกฤษ นะครับ อาจจะเป็นเพราะว่ายังผ่อนรถไม่หมด ธนาคารเลยไม่ได้ทำมาให้ มั๊ง (เดาล้วน ๆ)**
อีกอย่างที่ต้องมี ก็คือ ใบขับขี่สากล ซึ่งก็ไม่ยากครับ นำใบขับขี่ตัวจริง  กับ สำเนา Passport  และ รูปถ่าย 2 นิ้ว ไปยื่นเรื่องขอทำที่ขนส่งใกล้บ้าน 1 - 2 ชม. ก็ได้แล้วครับ ( ที่ผมไปทำมานะ ที่อื่นอาจจะเร็วกว่านี้)
เอกสารครบ ก็เตรียมตัวเดินทางได้เลยครับ ..
ครับ ก็เริ่มออกเดินทางจากคลองหลวง วันที่ 27 ธค 2562 ตอนประมาณ 18.00 น. ก็แวะไปเรื่อย ๆ ยืดเส้นยืดสายบ้าง แวะกินกาแฟ เข้าห้องน้ำ จอดนอนบ้างไปเรื่อยเปื่อย  มาถึงน่านตอนประมาณ 7.00 น ของวันที่ 28 ธค 2562 เข้ามาที่ตัวเมืองแวะหาอะไรกิน และถ่ายรูปเล่นรอบ ๆ ระหว่างรอร้านเปิด มาร้านที่เขาแนะนำมา "ข้าวซอยต้นน้ำ"  ร้านเปิด 8.00 น.

มาเช้าเกินไป อดกินเนื้อ มีแต่ข้าวซอยไก่ ... อย่างเดียวนะครับ อย่างอื่นยังไม่เสร็จ คหสต. นะครับ เฉย ๆ กินได้ ไม่ว้าว ครับ ... 6/10
ทานกันพอให้หายหิวแล้ว ก็เริ่มออกเดินทางต่อ จุดหมายปลายทางของวันแรกนี้คือ ขึ้นไปเที่ยว อำเภอบ่อเกลือ แล้วกลับมาเดินเล่นที่ ปัว นอนที่ปัว 1 คืนครับ ขับยาวไปหลวงพระบางเลยน่าจะไม่ไหว 555 


หลังจากขึ้นไปเที่ยวที่บ่อเกลือเรียบร้อย ก็กลับลงมาเพื่อจะเข้าที่พักที่ ปัวครับ ซึ่งตอนแรก จองที่พักไว้ที่ อุ้ยคำ โฮมสเตย์ เป็น โฮมสเตย์ที่อยู่กลางทุ่งนา ด้านหลังของร้านกาแฟไทยลื้อ แต่บังเอิญเกิดความผิดพลาดเล็กน้อยในการรับจอง ครับ จึงทำให้ต้องย้ายที่พัก ซึ่งเจ้าของโฮมเสตย์ น่ารักมากครับ รับผิดชอบหาที่พักให้ใหม่  เลยได้มาพักที่ สวนบ้านเพื่อน โฮมสเตย์ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กับกาแฟไทยลื้อ เลย เป็นอันว่าคืนนี้ได้นอนที่นี่ ห้องโอเคครับ บรรยากาศดี แถมใกล้จุดแลนด์มาร์ค 55
 
หลังจากเข้าที่พักเรียบร้อยก็แวะไปถ่ายรูป ชิมกาแฟไทยลื้อ ซะหน่อย .. ก่อนจะกลับมาพักผ่อนตามอัธยาศัย จนถึงประมาณ 19.00 น. ก็ออกไปเดินถนนคนเดิน ซึ่งที่ปัวนี่จะมีอยู่ 2 -3 จุดนะครับ แต่ผมเลือกมาที่ ถนนคนเดินกาดแลงเมืองปัว (กาดคนเดินวัดปรางค์)  ดินเนอร์ใต้แสงไฟ นั่งขันโตก เคล้าเสียงเพลง และเสียงตบยุง 55 แนะนำเลยครับมาต้องมาแวะกันให้ได้นะครับ ของกินเพียบ..
 
หมดแรงแระครับวันนี้ พักผ่อนพรุ่งนี้เตรียมตัวเดินทางข้ามไปต่างประเทศ..

29 ธค 2562 เช้าวันใหม่ สดใสเริงร่า เพื่อฝูงมากัน ยินดีปรีดา ... เฮ้ยย .. เข้าเรื่องเถอะ .. เริ่มออกตัวตอนประมาณเกือบ ๆ  7.30 น. หลังจากเบรคฟัด กันเรียบร้อยแล้ว ขับรถประมาณ 1 ชม. ก็ไปถึงด่านห้วยโก๋น เราก็หาจอดรถริมทางแถว ๆ นั้น ก็ตามที่คาดการณ์ไว้ คนค่อนข้างเยอะ แต่ไม่ได้เยอะจนแน่น เมือไปถึงนะครับ ให้นำเอกสาร ..... หาอ่านเอาในพันทิพย์ นะครับ 555 ส่วนผมดิ่งตรงไปที่ร้าน ตอนแรกแค่จะไปถามเรื่องซื้อประกันลาว สรุปให้เขาดำเนินการให้หมดเลย เสียเงินค่าดำเนินการ 250 บาท และ ค่าประกันภัยลาว 200 บาท ระหว่างรอให้เขาดำเนินการผมก็พาทุกคนไปทำเรื่องผ่านแดนออกสำหรับคน แล้วเดินกลับมารอเอกสารรถ   เสร็จสรรพทุกอย่างที่ด่านไทย ก็ประมาณเกือบ 1 ชม.


ก็เคลื่อนตัวมาที่ฝั่งลาว มาที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง .. อันนี้แหละ เฮือกก สวดยอด คนต่อแถวยาวมากที่ด่านลาวจะมี 2 ตึกนะครับคนที่ทำเรื่องผ่านด่านรถ มาที่ตึกแรก ขาว ๆ ใหม่ ๆ มายื่นทำเรื่องรถก่อนเลย จ่ายเงิน 140 บาท (แถวสั้นกว่า) ผมทำเรื่องรถเสร็จเรียบร้อย ได้ stamp บนเอกสาร ก็รีบวิ่งไปที่ตึกทำเรื่องคนเข้าเมืองใกล้ ๆ กัน เกือบ ๆ ถึงคิวพอดี พอได้ stamp Passport คน และ รถ ก็จ่าย 60 บาท สำหรับคนที่ขับรถมา (ปกติ 40 บาท) เสร็จแล้วก็ต้องเดินกลับมาที่ตึกเดิม เพื่อให้เขา Stamp ที่เอกสารที่เราได้มาจากฝั่งไทยอีก 1 ที ( ทั้งหมดต้องมี 3 Stamp นะครับ สำหรับรถ)  หมายเหตุ *ถ้าคนน้อย แนะนำให้ไปทำเรื่อนคน และ รถ ที่ฝั่งคนเข้าก่อนนะครับจะได้ไม่ต้องเดินหลายรอบ*

(ลืมไปว่าเขาห้ามถ่ายรูป .... ขออภัยจริง ๆ )
กว่าจะเสร็จจากตรงนั้น หึ หึ ..  11.00 น  นิด ๆ  จุดหมายต่อไป คาเฟ่อเมซอน หงสา เติมน้ำมันรถ  เติมกาแฟคน ... ขับตามเส้นทาง ตามป้ายมาเรื่อย ๆ นะครับ ผ่าน โรงไฟฟ้าหงสา ตั้งตะหง่านอยู่กลางทุ่งนา ควันโขมงโฉงเฉง .. จอดถ่ายรูปสักเล็กน้อยก่อนจะไปต่อ ประมาณเกือบ ๆ  1 ชม จากด่าน มาถึง ปตท หงสา แวะกินกาแฟ เติมน้ำมันสักพัก แล้วก็ไปต่อครับ ..


จาก ปตท หงสา ก็จะวิ่งเข้าหมู่บ้าน มาเรื่อย ๆ จะมีป้ายบอกทางไปไซยะบุรี  หลวงพระบาง ผมวิ่งไปทางเส้นใหญ่ทางแย่มากว่าแล้วเชียวรถที่มาด้วยกันไปไหนหมดมันจะมีอีกเส้นทางนึงต้องสังเกตให้ดีครับ จะเป็นแยกทางซ้ายขับรถออกมาจาก ปตท หงสา ไม่ไกล ขากลับผมกลับมาทางนี้ทางดีกว่าเป็นหลุมเป็นบ่อน้อยกว่าครับ

จากนั้นพอเริ่มพ้นหมู่บ้านมาขับมาสักพักใหญ่จะเจอ สามแยก จะมีป้ายบอกทางไป หลวงพระบาง 115 กม. เริมจากตรงนี้เลยครับ 3 ชม.แห่งการขับรถ ขับ ขับ ขับ แล้ว ก็ขับ ..... ขึ้นขัน ๆ โค้ง ๆ ความเร็วตอนลงเยี่ยงนั่งรถไฟเหาะ บอกเลยว่าต้องค่อนข้างมีสมาธิตลอด  555 เป็นเส้นทางที่ไม่มีอะไรให้แวะได้เลย นอกจากว่าเราจะหาไหล่ทางกว้าง ๆ จอด ถ่ายรูปเล่นเอง หรือ แวะร้านขายของชำของชาวบ้านตามหมู่บ้านต่าง ๆ ที่เราจะต้องขับผ่านในเส้นทางนี้ มีสัก 4 – 5 หมู่บ้านได้มั๊ง  แต่สิ่งที่ต้องระวังนะครับ จะมีคนเดินริมถนนเป็นระยะ ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก ๆ เหมือนมาเดินเล่นห่างหมู่บ้านเป็น กิโล สองกิโล เฮือก... พอเราขับผ่านเขาก็จะยืนโบกมือบาย ๆ เราน่ารักเชียว 55  และก็หินที่ตกมาอยู่กับพื้นถนนก้อนค่อนข้างใหญ่ตลอดเส้นทาง ขับมาครบ 3 ชม ก็จะมาเจอสี่แยกมีป้ายบอก หลวงพระบาง เลี้ยวขวาก็ตามป้ายไปเลยครับ ประมาณ 7 กิโล ก็จะถึงท่าเรือเฟอรี่เพื่อนำรถข้ามไปหลวงพระบาง 




16.00 น โดยประมาณ หลังจากต่อคิว นำรถขึ้นเรือข้ามฝั่งมาเรียบร้อย หลวงพระบางจ๋า พี่มาแล้วจ้ะ ตะละล้า พอ.. น่าจะไปไหนไม่ได้แล้วครับเลยขับไปเช็คอินที่พักก่อน อยู่ใกล้ ๆ กับท่าเรือ ชื่อ จัสมิน วิวล์ บาย มายลาวโฮมส์  อันนี้ให้ 8/10 เลยครับ ตัด 2 คะแนน เรื่องจอดรถ กับ เรื่องทางเข้า 55 การจอดรถนี่ ตรงไหนก็ได้เลยริมถนนในหลวงพระบาง (แต่ดูให้ดีก่อนนะครับ บางที่ก็ห้ามแต่น้อยมากที่ห้ามจอด) จอดได้ทั้งวันทั้งคืน หลังจากเช็คอินแล้ว ก็ออกมาขับรถวน ๆ สำรวจในเมืองหาข้าวกิน ราคาอาหารที่นี่ใช้ได้เลยครับ กิน 4 คน ข้าว 5 จาน ต้มซดน้ำ 1 ชาม เครื่องดืมคนละขวด เฉียด 800 บาท แล้วก็เอารถไปจอดให้ใกล้ที่พักที่สุด แล้วเดินย้อนกลับมาเดินตลาดมืด (ถนนคนเดินหลวงพระบาง) ซึ่งก็อยู่ใกล้ที่พักอีกนั่นแหละ ของกิน ของใช้ ก็ธรรมดาครับ คล้าย ๆ บ้านเรา ราคาก็แล้วแต่พ่อค้าแม่ค้าเขาเลย จะมีก็น่าสนใจคือ ผ้าถุงเสื้อผ้า ถ้าใครอยากแต่งชุดแบบลาวให้เข้าบรรยากาศก็หาซื้อได้ที่นี่เลยครับ ลงทุนไม่กิน 300 บาท เลือกดูละกันนะ .... แต่แนะนำให้แลกเงินลาวใช้ดีที่สุดนะครับ ถ้าแลกตู้แถวนั้น 30 บาท แลกได้ 10000 กีบ แต่ถ้าเราซื้อของ 10000 กีบ แล้วใช้เงินไทยพ่อค้าแม่ค้าเค้าจะคิดเรา 40 บาท  เท่าก็บว่าเราจะเสีย 10 บาทฟรี ๆ ทุก 10000 กีบ นะครับ (แต่ถ้าเป็นร้านอาหารใหญ่ ๆ หรือ ปั๊ม ปตท ที่หงสา เค้าจะคิดเรท ปัจจุบัน ตอนผมไป อยู่ที่ 28.50 ต่อ 10000 กีบ)  ซื้อของกิน ของใช้ เดินเที่ยวสักพัก ก็กลับที่พัก  จบวันนี้หมดแรง .. โดน เบยลาวไปสองขวด หลับเป็นตาย..
ชื่อสินค้า:   น่าน หลวงพระบาง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่