สวัสดีค่าเพื่อน ๆ เรื่องอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อถ้าไม่ทันระวัง แค่เผลอเดินเหม่อสะดุดของล้มหน้าคะมำ หัวก็แตกได้ หรือบางทีถ้าเจอคนเป็นลมหมดสติต่อหน้าขึ้นมาจะทำไง เราล่ะคนหนึ่งที่ทำอะไรไม่ถูกแน่ ๆ เพราะมัวแต่ตกใจ เผลอ ๆ สติกระเจิง พลอยจะทำให้สถานการณ์แย่ขึ้นไปอีกแน่ ๆ


แต่เราจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นค่ะ! ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าแอบดีใจที่โรงงานของเราได้จัดให้พนักงานได้เข้าอบรมหลักสูตรนี้ หลังเรียนจบแอบมีความมั่นใจมากเพราะความรู้ที่ได้ในห้องเรียน ยังไงต้องขอขอบพระคุณบริษัทฯ ที่เห็นความสำคัญในการจัดฝึกอบรมด้านความปลอดภัยในการทำงานให้กับพนักงานได้เข้าเรียนหลักสูตรดีดีแบบนี้ด้วยนะคะ

วันนี้เราก็เลยจะมาบอกเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ได้เข้าอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้น ที่ได้ใช้บริการจาก บริษัท เซฟสิริ (ประเทศไทย) ซึ่งต้องบอกเลยว่าการอบรมครั้งนี้สนุกและได้ความรู้แน่นมาก ไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะกับพนักงานสายโรงงานอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์กับประชาชนทุกคนทั่ว ๆ ไปด้วย เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นมา หากไม่ได้อบรมวิธีการปฐมพยาบาลที่ถูกต้องมา เชื่อเลยว่าหลายคนทำอะไรไม่ถูก

สำหรับหลักสูตรที่เราเลือกอบรมให้กับพนักงานที่น่ารักของเราในครั้งนี้ คือ อบรม ปฐมพยาบาลเบื้องต้น เป็นหลักสูตรอินเฮ้าส์เทรนนิ่ง อบรมภายในบริษัท  1 วัน ใช้เวลาอบรมทั้งสิ้น 6 ชั่วโมง รวมภาคปฏิบัติช่วงบ่าย จำนวนผู้เข้าอบรมต่อรุ่นไม่เกิน 40 คน หลังจากที่อบรมเสร็จแล้ว ทางเซฟสิริยังมอบใบรับรองหลักสูตรให้กับคนที่เข้ารับการอบรมทุกคนด้วยค่ะ (ค่าใช้จ่ายต่อการอบรม จะอยู่ที่ประมาณ 12,500 บาท / 1รุ่นค่ะ)

การอบรมครั้งนี้จะมีวิทยากรมืออาชีพมาให้คำแนะนำ และสอนการปฏิบัติอย่างละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ พนักงานที่เข้าอบรมได้ลงมือปฏิบัติจริงกับอุปกรณ์มาตรฐานสากลครบทุกคนเลยทีเดียว เรียนตั้งแต่หลักพื้นฐานทั่วไปในการปฐมพยาบาล, การประเมินสภาพผู้ป่วย, ขั้นตอนการปฐมพยาบาลในแบบต่างๆ เรียนรู้ชนิดของบาดแผล การห้ามเลือด รวมไปถึงวิธีการทำ CPR (การปั๊มหัวใจ) และ ใช้วิธีการใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจไฟฟ้า (AED)

เมื่อผู้เข้าอบรมพร้อม วิทยากรจากเซฟสิริก็พร้อมแล้ว!  

เรามาเริ่มต้นการเข้าอบรมหลักสูตรปฐมพยาบาลไปพร้อม ๆ กัน เริ่มแรกพี่วิทยากรจะเข้ามาอธิบายเกี่ยวกับความหมาย และอธิบายความสำคัญของการปฐมพยาบาล เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันก่อน ต้องบอกว่าวิทยากรที่มาให้ความรู้ในวันนี้ เป็นวิทยากรมืออาชีพ ใจดี เป็นกันเองมาก บรรยากาศการอบรมสนุกสนาน สบาย ๆ ไม่ซีเรียสเลย


หลังจากนั้นทางพี่วิทยากรจะให้ความรู้ เกี่ยวกับวิธีการประเมินสถานการณ์ ของผู้บาดเจ็บเพื่อเตรียมพร้อมรับมือได้อย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นการประเมินอาการผู้ป่วยหมดสติ เรียกแล้วรู้สึกตัวหรือไม่รู้สึกตัว, การหาตำแหน่งจุดวัดชีพจรในร่างกาย และให้ข้อมูลอัตราการแสดงการหายใจในแต่ละช่วงอายุเพื่อที่จะได้ตรวจหาชีพจรให้ถูกต้องได้ บอกเลยว่าข้อมูลแน่นมาก


เข้าสู่พาร์ทต่อไป การปฐมพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน พวกเราทุกคนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับภาวะอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินซึ่งเกิดจากการได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการเจ็บป่วยกระทันหัน

ซึ่งทางพี่วิทยากรสุดหล่อยังได้อธิบายถึงลักษณะอาการของผู้ป่วยฉุกเฉิน และ การโทรศัพท์แจ้งเหตุด่วน ต่าง ๆ เบอร์ 1669 (สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ)  เช่น อุบัติเหตุ, หมดสติ, ช็อค, สะลืมสะลือ เรียกไม่รู้ตัว, เจ็บหน้าอก, ปวดท้องรุนแรง ฯลฯ  พร้อมกับขั้นตอนการแจ้งเหตุฉุกเฉิน เมื่อเจอสถานการณ์คับขันด้วยค่ะ


ทีนี้มาดู การปฐมพยาบาลผู้ป่วยเป็นแผลขนาดต่าง ๆ กันบ้างค่ะ พี่วิทยากรจะบรรยายชนิดของบาดแผลที่เกิดขึ้นกับร่างกายในส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบาดแผลบริเวณศรีษะ, บาดแผลบริเวณแขน ขา และการประเมินอาการของลักษณะการเจ็บปวด เช่น แผลฟกช้ำ, ห้อเลือด หรือข้อเคล็ด

ต่อด้วยพาร์ทนองเลือด! ให้รู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการห้ามเลือดที่เกิดกับบาดแผลต่าง ๆ ว่าจะต้องทำเช่นไร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเคสที่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ เหมือนกันนะคะ โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานกับพวกเครื่องจักร หรือเครื่องไม้เครื่องมือมีคมทั้งหลาย  ไม่ว่าจะเป็น

วิธีการห้ามเลือดในกรณีที่เกิดบาดแผลที่ถูกแทงด้วยของมีคม ทางพี่วิทยากรเค้าจะเปิดภาพตัวอย่างมาให้เราได้เห็นกันแบบสด ๆ เช่น ภาพตอนที่คนถูกมีดปักบริเวณหลัง พี่วิทยากรก็จะอธิบายว่าห้ามดึงของมีคมออกทันที ให้ยึดวัสดุนั้นอยู่กับที่ แล้วห้ามเลือดโดยใช้ผ้าปิดแผลหนา ๆ ปิดให้รอบวัสดุ (ภาพปลากรอบนี้เราไม่ขอเอาออกอากาศ เพราะภาพจริงหวาดเสียวมากค่ะคุณผู้ชม)  

วิธีการห้ามเลือดในกรณีบาดแผลที่เกิดจากการตัดขาด และไม่ถูกตัดขาดจากของมีคม รวมถึงข้อห้ามต่าง ๆ เช่น ให้ปิดผ้าพันแผลด้วยผ้าสะอาดหลาย ๆ ชั้นเพื่อห้ามเลือด แล้วหาวัสดุดามไว้(หากแผลไม่ขาด) จากนั้นให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันทีค่ะ


นอกจากนั้นเรายังได้เรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และข้อควรระวังในกรณีเกิดการบาดเจ็บอื่น ๆ เช่น แผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ ผึ้งต่อย แมลงต่อย หรือแมลงปล่อยกรด และกรณีถูกงูกัดอีกด้วยค่ะ


หลังจากได้เรียนรู้การห้ามเลือดกันไปแล้ว พาร์ทต่อไปพี่วิทยากรจะมาสาธิตการปฐมพยาบาลอาการบาดเจ็บที่เกิดกับกระดูกและข้อ ไม่ว่าจะเป็นกรณีแขนหัก, ขาหัก รวมถึงกระดูกสันหลังส่วนคอหัก การใช้อุปกรณ์เพื่อเข้าเฝือกแขนท่อนล่าง, การเข้าเฝือกข้อศอกหัก, การเข้าเฝือกแขนท่อนบนหัก, การเข้าเฝือกขาหัก และการปฐมพยาบาลเบื้องต้นในกรณีกระดูกไหปลาร้าหัก


วิทยากรจากเซฟสิริยังได้สาธิตวิธีการเข้าเฝือกชั่วคราว ให้พวกเราดูกันทีละขั้นตอน ต้องบอกเลยว่าพี่เค้าอธิบายได้ละเอียดมาก ๆ เลย ตั้งแต่เทคนิคการมัดยึดข้อต่อกับกระดูกด้วยผ้าบริเวณที่บาดเจ็บ ต้องพันแบบไหนแล้วผู้ป่วยจะไม่เจ็บ และไม่ให้อาการแย่ลง


มาถึงการปฐมพยาบาลกรณีที่เราเจอคนจมน้ำ หรือมีคนตกน้ำค่ะ พี่วิทยากรเค้าจะสาธิตวิธีการปฐมพยาบาลตั้งแต่การประเมินสถานการณ์ ซึ่งพี่เค้าบอกว่าสิ่งสำคัญก็คือเรื่องของสติ!  เพราะจะทำให้เรารู้ว่าจะช่วยคนตกน้ำแบบไหนให้ปลอดภัยกันทั้งหมด

และพี่เค้ายังได้อธิบายเรื่องวิธีการลากผู้ป่วยขึ้นจากน้ำ และวิธีช่วยหายใจที่ถูกต้อง (หรือที่เรียกว่าการรักษาระดับออกซิเจนให้เพียงพอ) เพื่อช่วยคงอาการของผู้ป่วยไม่ให้หมดสติไปก่อนด้วยค่ะ


แล้วถ้าเกิดเราเจอคนที่กำลังถูกไฟฟ้าช็อตล่ะ? ในส่วนนี้จะเป็น การช่วยเหลือผู้ป่วยไฟฟ้าช็อต หรือไฟฟ้าดูด ซึ่งพี่วิทยากรจะสาธิตวิธีการปฏิบัติ และข้อควรระวังเมื่อเจอคนถูกไฟฟ้าช็อตในแต่ละขั้นตอนเรียกได้ว่าเป็นอีกเรื่องใกล้ตัวของหลาย ๆ คนที่ทำงานในโรงงานเลยก็ว่าได้ เพราะต้องคลุกคลีกับอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งขนาดใหญ่ และขนาดเล็กอยู่ตลอดเวลา


ต่อมาจะเป็น การใช้อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น  พาร์ทนี้เราจะได้เรียนรู้การใช้อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น การใช้ผ้าสามเหลี่ยมหรือผ้ายืด (EB) สำหรับคล้องแขนในกรณีกระดูกหัก, การเลือกใช้อุปกรณ์ในชุดทำแผลที่ถูกต้อง, การใช้ผ้าก็อตในการห้ามเลือด หลังจากที่เราได้อบรมแล้ว จะทำให้เราเลือกใช้อุปกรณ์ปฐมพยาบาลได้ถูกกับลักษณะของอาการบาดเจ็บมากขึ้นค่ะ


มาถึงช่วงหลักสำคัญของการอบรม นั่นก็คือ การช่วยฟื้นคืนชีพ CPR และการใช้เครื่อง AED กระตุ้นหัวใจกันค่ะ ในส่วนนี้ทางวิทยากรจะให้ความรู้และอธิบายหลักการทำ CPR ซึ่งจะใช้ปฏิบัติในการช่วยยื้อชีวิตของผู้ป่วยในภาวะที่หัวใจหยุดเต้นกระทันหัน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยผู้ป่วยหลังจากการจมน้ำ ไฟฟ้าช็อต หรือหมดสติจาการขาดออกซิเจนเป็นเวลานาน ๆ

ระหว่างที่วิทยากรอธิบายข้อมูล และสาธิตการทำ CPR ก็จะให้พวกเราได้ทดลองทำไปพร้อม ๆ ตั้งแต่อธิบายท่าทางที่ถูกต้องในการทำ CPR ช่วยเหลือผู้ป่วย




วิทยากรจะแบ่งให้พวกเราได้ลองฝึกปั๊มหัวใจผู้ป่วยอย่างถูกวิธีเป็นกลุ่ม ตั้งแต่วิธีตรวจความรู้สึกตัว และการใช้มือทำ CPR สลับกันไปจนพนักงานได้ลองทำครบทุกคนค่ะ  


พี่วิทยากรยังได้แทรกความรู้ และเทคนิคเล็ก ๆ ในการทำ CPR อย่างมีประสิทธิภาพให้กับพวกเราด้วย เช่น การวางมือบนร่างกายของผู้ป่วยให้ถูกวิธี, ไม่ปล่อยมือหลังกดอก, ห้ามกดแรงหรือ หลักการ กดลึก กดร้อย อย่าหยุดกด ซึ่งเราต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากค่ะ ก็คนมันตื่นเต้นตามประสามือใหม่หัดขับ


หลังจากเราได้ลองฝึกการทำ CPR กันหลายครั้งจนคล่องแล้ว วิทยากรก็ได้นำเครื่อง AED มาให้เราได้ฝึกใช้งานควบคู่ไปด้วย  ซึ่งเจ้าตัว AED เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจนี้ เป็นเครื่องที่มีขนาดเครื่องไม่ใหญ่มาก ตัวเครื่องใช้ระบบปฏิบัติการอิเล็กทรอนิกส์แบบพกพา เอาไว้ใช้งานควบคู่กับการทำ CPR กับผู้ป่วยที่เกิดสภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะเฉียบพลัน และอันตรายถึงชีวิต ซึ่งจะสามารถช่วยเพิ่มโอกาสให้หัวใจกลับมาเต้นเป็นปกติอีกครั้งได้ค่ะ

แนะนำให้สถานประกอบกิจการอื่น ๆ ได้เรียนนะคะสำคัญมาก ๆ เลย ซึ่งคนที่จะสามารถใช้เครื่อง AED ได้ก็ต้องผ่านการอบรม เพื่อเรียนรู้ขั้นตอนวิธีการใช้งานที่ถูกต้องปลอดภัย ก่อนใช้เครื่องมือนี้ช่วยเหลือผู้ป่วยค่ะ


พี่วิทยากรได้สาธิตขั้นตอนและรายละเอียดการใช้เครื่อง AED ให้กับพวกเราทีละคนแบบละเอียดยิบ ตั้งแต่การเปิดเครื่อง การติดแผ่นนำไฟฟ้าบริเวณตำแหน่งสำคัญของร่างกาย รวมไปถึงการฝึกทำตามคำแนะนำของเครื่องควบคู่ไปกับการทำ CPR ไปจนกว่าพนักงานกู้ชีพจะมาถึงค่ะ

หลังจากที่เราได้ลองฝึกใช้เครื่อง AED จะบอกว่าวิธีใช้ไม่ยากอย่างที่คิดเลยค่ะ ฝึกใช้หลาย ๆ รอบเราก็สามารถใช้งานเองได้อย่างถูกต้องแล้ว ต่อไปนี้ถ้าเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นจริง ๆ เราก็มั่นใจว่าจะสามารถใช้เจ้าเครื่องนี้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บได้แน่นอน