หลังจากจบทริป อ่าวไทยไปอันดามันครั้งแรกไปแล้ว
( https://pantip.com/topic/39508443 ) ติดใจอยากลุยต่ออีก แต่ หลังจากที่เที่ยวไม่หยุดหย่อนปีที่แล้วรู้ตัวอีกทีคือตอนนี้จนแล้ว > < เลยได้แต่นั่งหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวจากเว็ปต่างๆปักหมุดไว้ก่อน พร้อมทั้งสร้างเส้นทางและหาที่พักแบบแน่นมาก อีกซักพักใหญ่ๆ ใหญ่มากกกกถึงจะไปจ้า
เอาละ.. รอบนี้เราเลื่อน google map ลงมาล่างๆหน่อย (Random อีกแล้ว) การตัดสินใจว่าจะเที่ยวที่ไหนส่วนใหญ่อันดับแรกมาจากการดู google map ซูมๆเขี่ยๆมันเข้าไป ที่ไหนมีโฮมสเตย์ มีอุทยานแห่งชาติ ธรรมชาติ เราเจาะเลยจ้ะ อันดับที่สองคืออ่านรีวิวตามเว็ปต่างๆ
และแล้วแผนการนี้ก็ถูกสร้างขึ้น...สงขลา-สตูล 6-7วัน เช่ามอไซค์เหมือนเดิม ระยะทางทั้งทริปราวๆ 600-700 km. ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเที่ยวทริปนี้มากสุดคือช่วง มกราคม-พฤษภาคม
โอเครรร..ในส่วนแรกๆนี้ เป็นที่ๆเราปักหมุดไว้พร้อมข้อมูลที่อิงจากเว็ปต่างๆ ส่วนข้อมูลโฮมสเตย์ ที่พัก และแผนการเดินทางแบบฉบับของเราเองจะอยู่ส่วนล่างๆเลยนู้นนเด้อ แผนการนี้ถ้าใครสนใจก็เอาไปใช้ได้เลยจ้า ถ้ามันดูขับยาวไป Adaptเอาโลด
DAY1...
เกาะยอ สงขลา
เกาะยอ ตั้งอยู่ที่ บ้านท้ายเสาะ ตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เป็นหมู่บ้านที่โอบล้อมไปด้วยทะเลสาบสงขลา และเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองทะเลสาบได้ชัดเจน มีธรรมชาติที่สวยงาม ในบริเวณตรงนั้นมีการทำประมงของคนที่อาศัยอยู่และยังมีอาหารทะเลที่สด มีที่พักให้นักท่องเที่ยวได้พักด้วย และยังมีปลาประพงขาวซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ บริเวณท้ายเกาะจากทางเข้าสะพานติณสูลานนท์ สามารถชมวิวเมืองใหญ่ 2 ทะเล คือ ทะเลใน (ทะเลสาบสงขลา) และ ทะเลนอก(ทะเลอ่าวไทย)
หาดสมิหลา
จุดชมวิวที่มีทิวทัศน์สวยงามมีปฏิมากรรมรูปนางเงือกนั่งอยู่บนโขดหิน รูปปั้น“นางเงือกทอง” สัญลักษณ์อันโดดเด่นของจังหวัดสงขลาตั้งอยู่บริเวณปลายแหลมสมิหลา นางเงือกทองถูกสร้างขึ้นตามนิยายของไทยโบราณ ซึ่งขุนวิจิตรมาตรา(สง่า กาญจนาคพันธ์) ได้บอกเล่าไว้ว่า ในวันดีคืนดีนางเงือกจะมานั่งหวีผมบนชายหาดด้วยหวีทองคำ วันหนึ่งบังเอิญว่ามีชายชาวประมงเดินผ่านมา ทำให้นางเงือกตกใจ รีบหนีลงทะเลไปโดยลืมหวีทองคำไว้ ฝ่ายชาวประมงเห็นดังนั้นก็เก็บหวีทองคำไว้และเฝ้าคอยนางเงือกที่หาดนั้นเสมอ แต่นางเงือกก็ไม่เคยปรากฏกายให้เห็นอีกเลย
หาดสะกอม
หาดสะกอม ชายหาดที่มีทรายขาวสะอาดแห่งนี้ อยู่ห่างจากตัวเมืองสงขลาตามเส้นทางสงขลา-จะนะ-เทพาประมาณ 53 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่เป็นที่รู้จักของคนในท้องถิ่น มีลักษณะชายหาดทอดตัวยาวจากเหนือจรดใต้ น้ำทะเลใส ที่สำคัญ หาดสะกอม ยังเป็นหาดที่ยังคงอบอวลไปด้วยวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านและการทำประมงท้องถิ่น เราจึงยังคงเห็นเรือประมงทั้งลำน้อยลำใหญ่ ทั้งแล่นอยู่ในทะเลและจอดอยู่ตามชายฝั่งตลอดแนวชายหาด
เขาล้อน
เจดีย์หัวเขาเขียว หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “หัวเขาร้อน” บ้างก็เรียก”หัวเขาล้อน” ซึ่งจะมาจากคําวํา ล้อน หรือ โล้น มากกว่า ร้อนเพราะบนเขามีต้นไม้เล็ก ๆ อยู่เป็นหย่อมๆเท่านั้นไม่มีไม้ใหญ่ลมจะพัดแรงตลอดเวลาแต่บางคนก็ให้เหตุผลว่าชื่อเขาร้อนนั้นเพราะกว่าจะเดินทางไปถึงนั้นต้องใช้เวลานาน เดินจนเข่าอ่อน (ชาวบ้านเรียกว่า หัวเข่าร้อน เพราะเดินจนเมื่อย)
DAY2...
อุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง
ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน เป็นแนวยาวจรดพรมแดนประเทศมาเลเซีย มีเขาควนสยา และควนเขาไหม้ เป็นยอดเขาสำคัญ โดยมียอดเขาน้ำค้าง เป็นยอดเขาที่สูงที่สุด สูง 648 เมตรจากระดับน้ำทะเล พื้นที่ป่าส่วนใหญ่จะเป็นป่าดงดิบชื้น เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสายทั้งคลองนาทวี คลองปริก คลองทับช้าง คลองทรายขาว ฯลฯ ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ และยังเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นฐานที่มั่นของโจรจีนคอมมิวนิสต์
เบอร์ติดต่อ 0 7480 5342
เปิด 8.00-16.30 น.
ค่าเข้า ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
ที่มาข้อมูลและรูปภาพ :
คลิกที่นี่(ท่องทั่วไทย.com) /
คลิกที่นี่2 (สำนักอุทยานแห่งชาติ)
อุโมงค์ประวัติศาสตร์เขาน้ำค้าง
มีลักษณะเป็นถ้ำหรืออุโมงค์ธรรมชาติที่ใหญ่ และมีความวิจิตรพิสดารของธรรมชาติ เป็นแหล่งสะสมอาวุธยุทโธปกรณ์และเสบียงอาหารที่สำคัญ และทางทิศตะวันออกของอุโมงค์ มีน้ำตกพรุชิงที่สวยงามด้วยด้านหน้าก่อนเดินเข้าไปชมภายในอุโมงค์จะมีนิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมา ข้อมูล และภาพถ่ายให้ได้ชมกัน บริเวณอุโมงค์ในอดีตเป็นหมู่บ้านคอมมิวนิสต์ หลังจากการสู้รบกับฝ่ายรัฐบาลเกือบ 40 ปี พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ประกาศยุติการสู้ เข้าร่วมเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเมื่อปี พ.ศ. 2530 อุโมงค์นี้เป็นอุโมงค์ดินเหนียวมีขนาดใหญ่และยาวที่สุดในประเทศไทย ขุดด้วยกำลังคนใช้เวลาประมาณ 2 ปี ภายในแบ่งเป็น 3 ช่องทาง ลึก 3 ชั้น มีช่องทางเข้า-ออก 16 ช่อง มีบันไดเชื่อมระหว่างชั้น ความยาวคดเคี้ยวขึ้นลงภายในอุโมงค์ยาว 1 กิโลเมตร ภายในอุโมงค์แบ่งเป็นห้อง ๆ เช่น ห้องประชุม ห้องพยาบาล ห้องวิทยุ ห้องครัว สนามซ้อมยิงปืน เป็นต้น
เปิดเวลา 8-17.00 น.
ค่าเข้า ราคา 40 บาท
เบอร์ติดต่อ 074-531840, 074-531841
ที่มารูปภาพและข้อมูล :
คลิกที่นี่(thailandtourismdirectory.go.th)
DAY3...สงขลา-สตูล
ยอดเขาสองแผ่นดิน จ.สงขลา
ดินแดนแห่งพหุวัฒนธรรม ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองปาดังเบซาร์ได้ทั้งเมืองและยังสามารถมองเห็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงคือประเทศมาเลเซียได้อีกด้วย เพียงเดินเท้าขึ้นไปประมาณ 500 เมตร จะถึงจุดชมวิวจุดแรก ที่มีมุมสำหรับถ่ายภาพสวยๆ มุมห้อยขาจิบกาแฟแลหมอก ชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า และชมวิวทิวทัศน์รอบตัวเมืองปาดังเบซาร์ และหากเดินขึ้นเขาไปจนถึงยอดเขาด้านบน จะถึงจุดชมวิวยอดเขาสองแผ่นดินที่สามารถมองเห็นเมืองปาดังเบซาร์ของไทยและมาเลเซียได้ ที่สำคัญ จุดชมวิวเขาสองแผ่นดิน มีความพิเศษแตกต่างจากยอดเขาทั่วไปตรงที่จะมีกำแพงสูงกั้นระหว่างแผ่นดินไทยและแผ่นดินมาเลเซียไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพ และมีหลักเขตแดนสยามเก่าแก่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของประเทศไทยด้วย
อุทยานแห่งชาติทะเลบัน จ.สตูล
พื้นที่ป่าทางด้านทิศใต้ติดกับรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย ความสมบูรณ์ของผืนป่าแห่งนี้ เมื่อรวมเข้ากับความงามของเขามดแดงกับเขาจีนที่เป็นภูเขาหินปูนแกรนิตด้วยแล้ว อุทยานฯ ทะเลบัน จึงมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติน่าสนใจมากมายทั้ง ถ้ำโตนดิน อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 1.5 กิโลเมตร ภายในถ้ำลึก 700 เมตร เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย และยังมีเครื่องมือขุดแร่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หลงเหลืออยู่ด้วย บึงทะเลบัน บึงน้ำจืดขนาดใหญ่มีเนื้อที่ประมาณ 125 ไร่ เกิดจากการยุบตัวของแผ่นดินกลางหุบเขาของเทือกเขาจีนและเขาวังประ เทือกเขาจีนยังเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารสำคัญมากมายทั้ง คลองกลางบ้าน คลองยาโรย และคลองตูโย้ะ ทำให้เกิดน้ำตกสวยงามมีชื่อเสียงอย่างน้ำตกยาโรย และน้ำตกโตนปลิว ไม่เพียงเท่านี้คุณยังสามารถพบสภาพป่าหลากหลายเช่น ป่าดงดิบที่เป็นที่อยู่ของชาวซาไกหรือเงาะป่า
เบอร์ติดต่อ 0 74 750 757
เปิด 8.00-16.30 น.
ค่าเข้า ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
อ่าวไทยไปอันดามัน2 ตอน : ปักหมุดที่เที่ยวสงขลา-สตูล พร้อมแผนการเดินทางสายลุย
เปิด 8.00-16.30 น.
ค่าเข้า ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
ที่มาข้อมูลและรูปภาพ : คลิกที่นี่(ท่องทั่วไทย.com) / คลิกที่นี่2 (สำนักอุทยานแห่งชาติ)
เปิดเวลา 8-17.00 น.
ค่าเข้า ราคา 40 บาท
เบอร์ติดต่อ 074-531840, 074-531841
ที่มารูปภาพและข้อมูล : คลิกที่นี่(thailandtourismdirectory.go.th)
DAY3...สงขลา-สตูล