รีวิวการเตรียมตัวสอบ IELTS แบบจุกๆ ฉบับต้องเตรียมตัวภายใน 2 อาทิตย์

Background: พื้นเพภาษาอังกฤษอยู่ในระดับกลางๆ ครับ สอบได้ TOEIC 800-850 มาตลอด โดยจขกท มีแพลนจะไปเรียนต่อปี 2020 แต่เรื่องดันเกิดเพราะ จขกท เข้าใจผิดเกี่ยวกับวันปิดรับสมัครของมหาลัยนึงที่จขกท สนใจ ซึ่งกว่าจะรู้ เวลาก็ล่วงเลยมาถึงต้นเดือน ธค 2019 แล้ว ทำให้ต้องรีบเตรียมตัวอ่าน IELTS อย่างไม่คาดคิด (ตอนแรกตั้งใจจะสอบเดือน มค 2020 แต่สุดท้ายต้องไปสอบวันที่ 23 ธค 2019 เพื่อให้ได้ผลทันส่งมหาลัย T.T)

ส่วนการรีวิวครั้งนี้ จะขอแบ่งเป็น 2 พาร์ท คือ 1) การเตรียมตัวและเทคนิคต่างๆ และ 2) สถานที่สอบ 

1) การเตรียมตัว
หลักๆ จขกท ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ IELTS ผ่านทาง pantip เนี่ยแหละครับ ซึ่งหลังจากจขกท อ่านกระทู้ทั้งหมดแล้ว จะขอย่อยให้ดังนี้

1.1 ภาพรวมเกี่ยวกับ IELTS - จขกท ใช้หนังสือ The Official Cambridge Guide to IELTS (ถ้าทุนน้อย แนะนำว่าซื้อมือสองหรือหาบนอินเทอร์เน็ตได้ครับ) และเว็บไซต์ https://www.ieltsadvantage.com/ielts-preparation/ รวมไปถึง https://ieltsliz.com/ ซึ่งจะบอกทุกอย่างตั้งแต่ภาพรวมว่า IELTS คืออะไร มีกี่แบบ จุดประสงค์ของการทดสอบ ข้อสอบมีกี่พาร์ท และแต่ละพาร์ทมีโจทย์และตัวเลือกแบบไหนบ้าง ซึ่งจขกท คิดว่าด้วยเวลาอันจำกัด แหล่งข้อมูลเหล่านี้ถือว่าสรุปมาให้ดีมากๆ ครับ (จริงๆ จขกท โหลดพวก Cambridge IELTS practice test มาด้วยครับ แต่ไม่ได้ใช้เลย 55555 แต่ถ้าเพื่อนๆ คนไหนมีเวลา ก็แนะนำให้ลองฝึกทำนะครับ เริ่มจากเวอร์ชั่น 12 แล้วไล่ย้อนขึ้นไปเวอร์ชั่นก่อนหน้าเรื่อยๆ)



1.2 Listening มีทั้งหมด 40 ข้อ (เวลา 40 นาทีสำหรับเปเปอร์ และ 30 นาทีสำหรับ computer) แบ่งเป็น 4 section ครับ
Section 1 - Conversation ระหว่าง 2 คน เช่น จองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ส่งของ
Section 2 - Monolouge หรือการบรรยาย อธิบาย ในเรื่องทั่วไปครับ เช่น ทัวร์เที่ยวต่างประเทศ เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ (ส่วนนี้อาจจะมีการให้ใส่สถานที่ในแผนที่ด้วยครับ)
Section 3 - Conversation ตั้งแต่ 2-3 คน เกี่ยวกับการศึกษาและการเรียนครับ เช่น การค้นคว้าหาข้อมูล การตัดสินใจเรียนต่อ
Section 4 - Lecture ในคลาสเรียนต่างๆ มีหลาย topics เลย ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ โบราณคดี เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์

เทคนิคและแหล่งข้อมูล:
- จขกท ไปอ่านเทคนิคที่เว็บนี้ครับ https://www.ieltsadvantage.com/ielts-listening-2/ ส่วนการเตรียมตัวอื่นๆ จะใช้วิธีฟัง podcast เช่น Harvard Business Review [หรือช่องอื่นๆ ที่เราชอบ เช่น การ์ตูน ทอร์คโชว์ สารคดี] ความเร็ว 1.2x รวมถึงหนังและซีรี่ส์ต่างๆ แบบ sub eng/no sub
- ก่อนฟังทุกครั้ง แนะนำว่าให้อ่านโจทย์ให้ละเอียดว่าให้ตอบคำถามอย่างไร เช่น 1 word only หรือ 1 word or/and a number [เช่น dentist หรือ 2 dentists หรือ 2]
- นอกจากนี้ ก่อนฟังจะมีเวลาให้อ่านคำถาม ซึ่งควรจะดูบริบทและคำตอบคร่าวๆ ครับว่า part of speech ควรเป็นอะไร เช่น adj, adv, plural or single noun
- ระหว่างที่ทำข้อสอบฟัง ควรฝึกโน๊ตด้วยครับ อาจจะเป็น key words ที่เราได้ยิน แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นคำตอบที่ถูกหรือไม่ 
- ถ้าฟังไม่ทัน แนะนำให้ข้ามไปเลยครับ ตัดใจทิ้งแล้วตั้งใจฟังคำตอบถัดไป (จขกท หลุดบ่อยมากวันสอบจริง คะแนนหายไปพอสมควรครับ)
- ทั้งนี้ จขกท ฝึกทำ listening test ทุกวัน วันละ 1 test เพื่อให้เราคุ้นสำเนียงและชินกับข้อสอบครับ
- ถ้าสอบแบบ Computer แนะนำให้ใช้หูฟังธรรมดาในการลองทำข้อสอบครับ ส่วนตัวจขกท ใช้หูฟัง in ear แบบ wireless ซึ่งคุณภาพดีพอสมควร พอไปสอบจริง จะเป็นหูฟังมีสาย ซึ่งเสียงแย่กว่าหูฟังส่วนตัว และการมีสายทำให้จขกท รู้สึกรำคาญหน่อยๆ อย่างไรก็ตาม เวลาสอบจริง เราสามารถทดสอบและเปลี่ยนหูฟังได้ครับ ซึ่งจขกท ไม่ได้เปลี่ยน เพราะขี้เกียจและมั่นหน้าว่าเราน่าจะฟังได้แหละ [ซึ่งจะขอเล่ารายละเอียดในอีกพาร์ทนึง]
- ถ้าสอบแบบ Computer จะไม่มีเวลาเพิ่มอีก 10 นาที (จาก 30) ดังนั้น ตอนสอบควรจะพิมพ์คำตอบหลังจากที่ฟังเลยครับ (ยกเว้นไม่แน่ใจจริงๆ) โดยแต่ละ section จะมีเวลาให้ตรวจคำตอบประมาณ 1-2 นาทีครับ

1.3 Reading มีทั้งหมด 40 ข้อ (เวลา 1 ชั่วโมง ทั้งสอบแบบเปเปอร์และ computer) แบ่งเป็น 3 articles ครับ
Article 1 - สั้นๆ แบบเอเชีย มี 1-2 paragraph
Article 2 - ยาวกว่า แบบคอเคเชี่ยน 3-4 paragraph 
Article 3 - ยาวสุด แบบ African 1-2 A4 pages

เทคนิคและแหล่งข้อมูล:
- ใช้แหล่งข้อมูลเว็บเดิมครับ แต่เปลี่ยนลิงก์เป็น https://www.ieltsadvantage.com/ielts-reading-2/
- สิ่งที่คิดว่าสำคัญคือ ต้องทำความเข้าใจว่าโจทย์มีกี่แบบครับ ซึ่งหลักๆ แล้ว จะแนะนำให้ทำส่วนที่เรียกว่า matching heading ก่อน เนื่องจากสามารถ skim + scan แล้วได้ข้อมูลคร่าวๆ ว่า บทความพูดถึงอะไร ส่วนสิ่งที่ควรทำลำดับสุดท้ายคือ matching information (โจทย์จะให้ paraphasing sentences มา แล้วให้เราเลือกจับคู่ paragraph ว่า ประโยคหรือข้อความที่ให้อยู่ในพารากราฟไหน ซึ่งหากเราทำ task อื่นๆ ก่อน จะสามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลตอบส่วนนี้ได้ง่ายขึ้นครับ) 
- โจทย์ส่วนใหญ่จะถามโดยเรียงลำดับคำตอบในพารากราฟต่างๆ เช่น ข้อ 1-7 อาจจะถามแค่ข้อมูลในพารากราฟที่ 1-2 ของบทความนั้น และเราสามารถอ่านไปเรื่อยๆ พร้อมตอบเรียงข้อได้เลย ยกเว้นโจทย์แบบ matching heading ที่จะสลับลำดับ ต้องอ่านวกไปวกมา
- โจทย์ที่ถามก็สำคัญอีกเช่นเคย ควรดูว่า โจทย์ถามอะไร และคำตอบที่ต้องการควรเป็นอย่างไร เช่น sentence completion ให้เติมคำในช่องว่าง แค่ one word/words จาก paragraph
- เทคนิคส่วนตัวคือ อ่านคำถามแล้วไปหาว่าสิ่งที่โจทย์ถามอยู่ในพารากราฟไหน จากนั้นสลับไปดูคำถามใหม่อีกรอบ ทำแบบนี้ซ้ำๆ ครับ ส่วนคนอื่นๆ อาจจะถนัดการอ่านบทความก่อนแล้วตอบคำถามทีเดียวก็ได้เช่นกันครับ
- เวลาอ่าน แนะนำให้โน๊ต ขีดเส้น หรือไฮไลท์ ชื่อทุกอย่างที่บทความกล่าวถึงครับ เช่น ชื่อคน ชื่อโครงการ ชื่อสถานที่ 

- ถ้าเข้าใจทุกอย่าง ตามด้านบนแล้ว แนะนำให้ลองทำข้อสอบจริง 1 ชุดครับ แล้วดูว่าเราผิดพาร์ทไหน เช่น True/False/Not Given หรือ matching headings ซึ่งจุดนี้สำคัญมาก ทำให้เราปิด weakness ของเราได้ดียิ่งขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่ จะผิดและเจ็บซ้ำๆ ที่เดิมครับ 
- ความรู้ในด้าน part of speech ก็สามารถช่วยได้ในพาร์ทนี้ครับ เวลามีโจทย์ให้เติมคำในช่องว่าง เราจะเดาคำตอบได้ดียิ่งขึ้นครับ
- การทำ reading ให้ได้คะแนนดีต้องมีคลังคำศัพท์ที่ดีด้วย แนะนำให้ใช้หนังสือ Collins COBUILD Keywords for IELTS ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 เล่มครับ แบ่งตามระดับภาษา (และเช่นเคย ใครไม่มีทุนทรัพย์เยอะ แนะนำโหลดทางอินเทอร์เน็ตครับ) ซึ่งจขกท ก็หลวมตัวซื้อ แต่แทบไม่ได้เปิดอ่านเลย ไม่รู้จะซื้อทำไม 5555555

- การเตรียมตัวอื่นๆ จะใช้วิธีอ่าน articles ใน flipboard.com ซึ่งเป็นแหล่งรวม magazine/newspaper รวมทั้งสามารถเลือก topics ได้เองครับ เช่น การเมือง อาหาร เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ โดยการอ่านวันละ 2-5 บทความ พร้อมทั้งจดคำศัพท์ที่เราไม่รู้และจดจำให้ได้ทุกวันครับ (มีงานวิจัยบอกว่า ปกติแล้ว คนเราจะจำศัพท์ใหม่ๆ ได้แค่วันละ 5-10 คำเท่านั้น ดังนั้น วันถัดไปของการจดคำศัพท์ ต้องจดศัพท์ใหม่พร้อมทั้งจำศัพท์เก่าให้ได้ครับ)
- การฝึกทำข้อสอบบ่อยๆ จะทำให้เรารู้ว่า 1) โจทย์แบบไหนที่เราผิดบ่อย 2) สาเหตุที่เราทำผิดคืออะไร เช่น ไม่รู้คำศัพท์ การทำบ่อยๆ ทำให้จขกท รู้ว่า คลังคำศัพท์ในหมวดวิธีการทำอาหาร และประวัติศาสตร์ของจขกท ต่ำต้อยมาก แต่ flipboard ช่วยคุณได้ อิอิ
- ถ้าสอบแบบ Computer แนะนำให้ฝึกทำจริงก่อนครับ (เช่น ข้อสอบจริงจะต้องคลิกขวาเพื่อไฮไลท์ซึ่ง จขกท คิดว่าแปลกพอสมควร) วาร์ปคือ https://www.ieltsessentials.com/about/computer-delivered-ielts/get-familiar ทั้งนี้สอบแบบคอมพิวเตอร์คือ ถ้าจ้องนานๆ ปวดตาครับ แต่เราสามารถปรับขนาดตัวอักษรได้ด้วย

1.4 Writing มีทั้งหมด 2 ข้อ (เวลา 1 ชั่วโมง ทั้งสอบแบบเปเปอร์และ computer) แบ่งเป็น 
1.4.1 Task 1 - เขียนอธิบายกราฟเส้น บาร์ชาร์ท แผนที่ กระบวนการต่างๆ (เช่น สร้างหิน สร้างปูน ผลิตกระดาษ)
1.4.2 Task 2 - เขียน essay โดยแบ่งได้ง่ายๆ 4 ประเภท
1. Advantages vs Disadvantages เช่น 
2. Opinion
3. Agree vs Disagree
4. Direct question
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่