กว่ามีเจ้าของทีมที่ชื่อ จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี่
- กล่าวย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 สถานการณ์ภายในสโมสรของลิเวอร์พูลตอนนั้นต้องบอกว่า โคม่าถึงขั้นที่น่าตกใจมาก เมื่อมีการเปิดเผยว่าทางสโมสรใกล้จะกลายเป็นทีมล้มละลาย ด้วยปัญหาทางการเงินของสโมสร ที่ 2 เจ้าของทีม ทอม ฮิกส์ กับ จอร์จ ยิลเล็ตต์ สร้างหนี้มูลค่ามหาศาล มากถึง 237 ล้านปอนด์ โดยประมาณ
- แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่าการเป็นหนี้มูลค่ามหาศาล คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากล้มละลายคือ ลิเวอร์พูลจะถูกปรับให้ลงไปเล่นในระดับที่ต่ำกว่าพรีเมียร์ลีกถึงระดับ ดิวิชั่น 3 เลย ทางเดียวที่จะทำให้ ลิเวอร์พูล รอดพ้นจากการลงโทษครั้งนี้คือ ต้องขายทีมเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ก้อนโตนี้ให้ทันเวลาที่ทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษกำหนด ซึ่งตอนนั้นเท่าที่ผมจำได้ข่าวหลุดออกมาว่า มีกลุ่มทุน 2 กลุ่มที่ให้ความสนใจในการเทคโอเวอร์สโมสรอน่างจริงจัง
- เมื่อมีวิกฤติย่อมมีคนมองเห็นโอกาส ข่าวการเข้าสู่สภาวะใกล้ล้มละลายของลิเวอร์พูล ถูกเชื่อมโยงกับกลุ่มทุน 2 กลุ่ม
- กลุ่มแรกคือกลุ่มทุนจากจีน โดยมีมหาเศรษฐีชื่อ เคนนี หวง เป็นหัวเรือใหญ่ ที่พร้อมยื่นข้อเสนอในราคาหนี้ทั้งหมดของลิเวอร์พูลทันที ที่จำนวน 237 ล้านปอนด์ โดย เคนนี หวง ให้เวลากับ 2 เจ้าของทีม ทอม ฮิกส์ กับ จอร์จ ยิลเล็ตต์ ตัดสินใจภายใน 10 วัน หาก 2 เศรษฐีอเมริกันไม่ให้คำตอบตามที่กำหนดเวลาไว้ ทางทีมงานของ เคนนี หวง จะถอนสมอในการเทคโอเวอร์ครั้งนี้ทันที
- กลุ่มที่สองคือกลุ่มทุนจากอเมริกา ที่ชื่อ เฟนเวย์ สปอร์ต ที่มีหัวเรือใหญ่คือ จอห์น เฮนรี่ ซึ่งถ้าผมไล่ลำดับเหตุการณ์ไม่ผิด จอห์น เฮนรี่ น่าจะเขามาในช่วงระยะเวลา 10 วัน ที่ทาง เคนนี หวง ขีดเส้นตายเอาไว้ให้กับ จอร์จ ยิลเล็ตต์ และ ทอม ฮิกส์ ซึ่งทางด้านกลุ่มทุนของ จอห์น เฮนรี่ พร้อมจ่ายมากกว่าทางด้านของ เคนนี หวง ที่ราคา 300 ล้านปอนด์
- แน่นอนว่าสุดท้ายแล้ว 2 เศรษฐีชาวมะกันจะต้องขายทีมให้ทันเวลาที่ทาง สมาคมฟุตบอลอังกฤษกำหนดไว้ค่อนข้างชัวร์ แต่เมื่อมีตัวเลือก 2 ตัวเลือก พวกเขาย่อมเลือกทางที่ให้ประโยชน์กับพวกเขามากที่สุดคือ การขายทีมให้กับ จอห์น เฮนรี่ ที่เสนอราคาให้สูงกว่าแน่นอน
- ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นไปอย่างราบรื่น เมื่อ 2 เศรษฐีมะกันตกลงตั้งโต๊ะเจรจากับ จอห์น เฮนรี่ แต่ก็ไม่วายที่ ทอม ฮิกส์ และ จอร์จ ยิลเล็ตต์ จะพยายามดึงเช็งยื่อ ไว้จนนาทีสุดท้าย เพื่อผลประโยชน์ของฝั่งตัวเองให้ได้มากที่สุด ด้วยการยอมรับข้อเสนอของ จอห์น เฮนรี่ ที่ราคา 300 ล้านปอนด์ ก็จริง แต่พวกเขายังต้องการถือหุ้นบางส่วนในสโมสรต่อไป จนเป็นเหตุให้ต้องขึ้นศาลฟ้องร้องกันจนเกือบจะถึงระยะเวลา ที่ทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษกำหนดเส้นตายเอาไว้แค่ไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทุกอย่างจึงแล้วเสร็จ โดยศาลตัดสินให้ฝ่ายของ จอห์น เฮนรี่ เป็นฝ่ายชนะแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
- จนวันที่ 6 ตุลาคม 2010 เป็นวันแรกที่นับปฏิทินเข้าสู่ยุคของเจ้าของสโมสรคนใหม่ ของสโมสรฟุตบอล ลิเวอร์พูล และพาทีมผ่านมรสุมก้าวขึ้นมายืนเด่นสง่าบนเวทีโลกในปัจจุบันนี้ เขาคือ จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี่
#LIVERPOOLSUPPORTERONLY
กว่ามีเจ้าของทีมที่ชื่อ จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี่
- แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่าการเป็นหนี้มูลค่ามหาศาล คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากล้มละลายคือ ลิเวอร์พูลจะถูกปรับให้ลงไปเล่นในระดับที่ต่ำกว่าพรีเมียร์ลีกถึงระดับ ดิวิชั่น 3 เลย ทางเดียวที่จะทำให้ ลิเวอร์พูล รอดพ้นจากการลงโทษครั้งนี้คือ ต้องขายทีมเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ก้อนโตนี้ให้ทันเวลาที่ทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษกำหนด ซึ่งตอนนั้นเท่าที่ผมจำได้ข่าวหลุดออกมาว่า มีกลุ่มทุน 2 กลุ่มที่ให้ความสนใจในการเทคโอเวอร์สโมสรอน่างจริงจัง
- เมื่อมีวิกฤติย่อมมีคนมองเห็นโอกาส ข่าวการเข้าสู่สภาวะใกล้ล้มละลายของลิเวอร์พูล ถูกเชื่อมโยงกับกลุ่มทุน 2 กลุ่ม
- กลุ่มแรกคือกลุ่มทุนจากจีน โดยมีมหาเศรษฐีชื่อ เคนนี หวง เป็นหัวเรือใหญ่ ที่พร้อมยื่นข้อเสนอในราคาหนี้ทั้งหมดของลิเวอร์พูลทันที ที่จำนวน 237 ล้านปอนด์ โดย เคนนี หวง ให้เวลากับ 2 เจ้าของทีม ทอม ฮิกส์ กับ จอร์จ ยิลเล็ตต์ ตัดสินใจภายใน 10 วัน หาก 2 เศรษฐีอเมริกันไม่ให้คำตอบตามที่กำหนดเวลาไว้ ทางทีมงานของ เคนนี หวง จะถอนสมอในการเทคโอเวอร์ครั้งนี้ทันที
- กลุ่มที่สองคือกลุ่มทุนจากอเมริกา ที่ชื่อ เฟนเวย์ สปอร์ต ที่มีหัวเรือใหญ่คือ จอห์น เฮนรี่ ซึ่งถ้าผมไล่ลำดับเหตุการณ์ไม่ผิด จอห์น เฮนรี่ น่าจะเขามาในช่วงระยะเวลา 10 วัน ที่ทาง เคนนี หวง ขีดเส้นตายเอาไว้ให้กับ จอร์จ ยิลเล็ตต์ และ ทอม ฮิกส์ ซึ่งทางด้านกลุ่มทุนของ จอห์น เฮนรี่ พร้อมจ่ายมากกว่าทางด้านของ เคนนี หวง ที่ราคา 300 ล้านปอนด์
- แน่นอนว่าสุดท้ายแล้ว 2 เศรษฐีชาวมะกันจะต้องขายทีมให้ทันเวลาที่ทาง สมาคมฟุตบอลอังกฤษกำหนดไว้ค่อนข้างชัวร์ แต่เมื่อมีตัวเลือก 2 ตัวเลือก พวกเขาย่อมเลือกทางที่ให้ประโยชน์กับพวกเขามากที่สุดคือ การขายทีมให้กับ จอห์น เฮนรี่ ที่เสนอราคาให้สูงกว่าแน่นอน
- ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นไปอย่างราบรื่น เมื่อ 2 เศรษฐีมะกันตกลงตั้งโต๊ะเจรจากับ จอห์น เฮนรี่ แต่ก็ไม่วายที่ ทอม ฮิกส์ และ จอร์จ ยิลเล็ตต์ จะพยายามดึงเช็งยื่อ ไว้จนนาทีสุดท้าย เพื่อผลประโยชน์ของฝั่งตัวเองให้ได้มากที่สุด ด้วยการยอมรับข้อเสนอของ จอห์น เฮนรี่ ที่ราคา 300 ล้านปอนด์ ก็จริง แต่พวกเขายังต้องการถือหุ้นบางส่วนในสโมสรต่อไป จนเป็นเหตุให้ต้องขึ้นศาลฟ้องร้องกันจนเกือบจะถึงระยะเวลา ที่ทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษกำหนดเส้นตายเอาไว้แค่ไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทุกอย่างจึงแล้วเสร็จ โดยศาลตัดสินให้ฝ่ายของ จอห์น เฮนรี่ เป็นฝ่ายชนะแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
- จนวันที่ 6 ตุลาคม 2010 เป็นวันแรกที่นับปฏิทินเข้าสู่ยุคของเจ้าของสโมสรคนใหม่ ของสโมสรฟุตบอล ลิเวอร์พูล และพาทีมผ่านมรสุมก้าวขึ้นมายืนเด่นสง่าบนเวทีโลกในปัจจุบันนี้ เขาคือ จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี่
#LIVERPOOLSUPPORTERONLY