“ เมื่อความสุขของครอบครัว สำคัญกว่า ความรู้สึกของตัวเอง “
———————————————
#เข้มแข็งแค่ไหน_หัวใจก็ร้องไห้เป็น
ในเรื่องของครอบครัว พ่อแม่มักจะเป็นผู้เสียสละความสุขของตัวเองเพื่อลูก แต่บางครั้งก็เป็นตัวลูกเองที่ทำแบบนั้น
เพื่อให้พ่อแม่และคนในครอบครัวมีความสุข
เหมือนลูกสาวและพี่สาวคนโตอย่าง ‘เพชร’ ตัวละครในซีรีส์ One Year 365 วันบ้านฉันบ้านเธอ

.
# (บทความต่อไปนี้เปิดเผยเรื่องราวในตอนที่ 6 ของซีรีส์)
เพชรคิดว่าเธอควรทำแบบนี้แหละ มันน่าจะดีที่สุดสำหรับทุกคน
เมื่อเพชรไปรักคนที่ไม่ควรจะรักอย่าง ‘บูม’ หลังจากไตร่ตรอง เธอรู้ดีความรักครั้งนี้คงทำให้คนที่เธอรักหลายคนเจ็บปวด
เพชรจึงไม่ลังเลที่จะจบความรักที่เกิดขึ้นลงไป
เรื่องของเรื่องคือ ‘แม่มุก’ แม่ของเพชร กับ ‘ลุงตั้ม’ พ่อของบูม กำลังจะแต่งงานกัน ถ้าเป็นแบบนั้น
เธอกับบูมก็จะกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน แถม ‘ตะวัน’ ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นเหมือนน้องสาวแท้ๆ ก็ดันไปแอบชอบบูมด้วย
ตอนแรกบูมบอกเพชรว่าให้บอกความจริงกับพ่อของเขาและแม่ของเพชร สารภาพไปเลยว่าบูมกับเพชรรักกัน
แล้วเดี๋ยวพ่อแม่คงจะช่วยคิดว่าจะทำยังไงต่อไป
แต่เพชรคงรู้สึกว่าถ้าเป็นแบบนั้น ทั้งแม่ของเธอและพ่อของบูมคงจะอึดอัดใจ กลายเป็นความกระอักกระอ่วนกันไปทุกฝ่าย
ไม่นับที่ตะวันคงจะต้องเสียใจแน่ๆ เกิดว่าลุงตั้มกับแม่ต้องเลิกกันเพราะเรื่องนี้ แม่คงจะเสียใจมาก เธออยากเห็นแม่มีความสุข มีรอยยิ้มแบบนี้ตลอดไป
เมื่อความสุขของครอบครัวสำคัญกว่าความรู้สึกของตัวเอง เพชรเลยตัดสินใจไม่บอกความจริง แถมพูดในสิ่งตรงกันข้าม เธอบอกไปว่าแม่กับลุงตั้มควรแต่งงานกันได้แล้ว ไม่ต้องรออะไรแล้ว ซึ่งการบอกแบบนั้นก็เหมือนเป็นการจบความรักของเธอกับบูมนั่นแหละ
เพชรเสียใจ เจ็บปวด แต่เธอก็คิดว่าแบบนี้มันดีที่สุด
อาจเพราะความเคยชิน ที่ผ่านมาลูกสาวคนโตอย่างเธอทำหน้าที่เป็นผู้นำครอบครัวจนเคยชิน
ทุกเรื่องสำคัญในบ้าน แม่ต้องมอบให้เธอตัดสิน และเธอก็ทำมันได้ดีเสมอมา
เธอไม่ค่อยบ่น ไม่โวยวาย จัดการทุกอย่างดีเยี่ยม เป็นที่ปรึกษาที่ดีของทุกคน
ดังนั้นสุดท้ายสิ่งที่เพชรทำได้คือ ตัดสินใจที่จะเลิกรักบูม อดทนกับความเจ็บปวด สุดท้ายก็มานั่งร้องไห้เงียบๆคนเดียว

.
สำหรับครอบครัว แม้จะเป็นพ่อแม่หรือเป็นลูกก็ตาม ต่างมีความผูกพันและมีความรักให้กัน แต่ละคนอยากให้คนที่เรารักมีความสุข
พร้อมที่จะเสียสละความสุขของตัวเองได้
แต่จริงๆ การมีความสัมพันธ์มาอยู่ด้วยกัน เช่น ครอบครัว เราไม่สามารถแบ่งปันเพียงแค่ความสุขได้ เหมือนคำพูดที่บอกว่า ‘มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน’
เพราะถ้าเราเสียสละความสุขของเราไป โดยที่เรารู้สึกเป็นทุกข์ทรมานใจ คนที่เราเสียสละเพื่อเขาก็คงไม่สบายใจหรอก
โดยเฉพาะเมื่อเป็นคนที่เราอยู่ด้วยในครอบครัวเดียวกัน
ในเวลาที่ใครมีปัญหา ครอบครัวก็ควรจะร่วมกันจัดการแก้ไข ผ่านพ้นเรื่องราวนั้นๆไปด้วยกัน
สุขทุกข์ร่วมกันฟันฝ่ากันไป
อย่าคิดว่าเราเป็นคนเก่ง เป็นคนเข้มแข็ง เลยแบกรับทุกอย่างไว้เอง
ในวันที่เรารักและห่วงใย ปรารถนาดีกับคนรอบข้าง อย่าลืมใส่ใจดูแลความรู้สึกของตัวเราเองด้วย มันมีความสำคัญไม่แพ้กันหรอก
ถ้าเราไม่โอเค มันคงยากที่จะไปทำให้คนอื่นโอเค
การขอความช่วยเหลือ อย่างน้อยก็คุยกับคนที่ไว้วางใจ แม้อาจแก้ปัญหาอะไรให้เราไม่ได้ทันที แต่การที่มีใครให้ระบาย
มีใครสักคนให้กอด ให้ซบไหล่บ้าง ก็น่าจะทำให้ความอึดอัดบรรเทาเบาบางไปบ้าง
หมอคิดว่าสำหรับเพชร จริงๆถ้ามีใครสักคนที่เธอคุยเรื่องนี้ได้ก็คงจะดี ใจคิดว่าน่าจะเป็นพลอย
เพราะพลอยเป็นน้องที่มีความเข้าอกเข้าใจ หมอเป็นห่วงว่าเพชรจะกดดันตัวเองเกินไปหน่อยค่ะ
.
Declaration: ในการเขียนบทความนี้ หมอไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ จากบริษัทหรือผู้เกี่ยวข้องกับซีรีส์
เพียงแต่ได้รับชมและประทับใจ จึงขอเขียนแบ่งปันข้อคิดที่ได้สู่คนอื่นๆค่ะ
#หมอมินบานเย็น
Cr. บทความจาก เพจ เข็นเด็กขึ้นภูเขา
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2813603695345465&id=468898189816039
การตัดสินใจของ เพชร ตัวละครในซีรี่ส์ One year จากเพจ เข็นเด็กขึ้นภูเขา เขียนดีมาก ชอบๆ
———————————————
#เข้มแข็งแค่ไหน_หัวใจก็ร้องไห้เป็น
ในเรื่องของครอบครัว พ่อแม่มักจะเป็นผู้เสียสละความสุขของตัวเองเพื่อลูก แต่บางครั้งก็เป็นตัวลูกเองที่ทำแบบนั้น
เพื่อให้พ่อแม่และคนในครอบครัวมีความสุข
เหมือนลูกสาวและพี่สาวคนโตอย่าง ‘เพชร’ ตัวละครในซีรีส์ One Year 365 วันบ้านฉันบ้านเธอ
.
# (บทความต่อไปนี้เปิดเผยเรื่องราวในตอนที่ 6 ของซีรีส์)
เพชรคิดว่าเธอควรทำแบบนี้แหละ มันน่าจะดีที่สุดสำหรับทุกคน
เมื่อเพชรไปรักคนที่ไม่ควรจะรักอย่าง ‘บูม’ หลังจากไตร่ตรอง เธอรู้ดีความรักครั้งนี้คงทำให้คนที่เธอรักหลายคนเจ็บปวด
เพชรจึงไม่ลังเลที่จะจบความรักที่เกิดขึ้นลงไป
เรื่องของเรื่องคือ ‘แม่มุก’ แม่ของเพชร กับ ‘ลุงตั้ม’ พ่อของบูม กำลังจะแต่งงานกัน ถ้าเป็นแบบนั้น
เธอกับบูมก็จะกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน แถม ‘ตะวัน’ ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นเหมือนน้องสาวแท้ๆ ก็ดันไปแอบชอบบูมด้วย
ตอนแรกบูมบอกเพชรว่าให้บอกความจริงกับพ่อของเขาและแม่ของเพชร สารภาพไปเลยว่าบูมกับเพชรรักกัน
แล้วเดี๋ยวพ่อแม่คงจะช่วยคิดว่าจะทำยังไงต่อไป
แต่เพชรคงรู้สึกว่าถ้าเป็นแบบนั้น ทั้งแม่ของเธอและพ่อของบูมคงจะอึดอัดใจ กลายเป็นความกระอักกระอ่วนกันไปทุกฝ่าย
ไม่นับที่ตะวันคงจะต้องเสียใจแน่ๆ เกิดว่าลุงตั้มกับแม่ต้องเลิกกันเพราะเรื่องนี้ แม่คงจะเสียใจมาก เธออยากเห็นแม่มีความสุข มีรอยยิ้มแบบนี้ตลอดไป
เมื่อความสุขของครอบครัวสำคัญกว่าความรู้สึกของตัวเอง เพชรเลยตัดสินใจไม่บอกความจริง แถมพูดในสิ่งตรงกันข้าม เธอบอกไปว่าแม่กับลุงตั้มควรแต่งงานกันได้แล้ว ไม่ต้องรออะไรแล้ว ซึ่งการบอกแบบนั้นก็เหมือนเป็นการจบความรักของเธอกับบูมนั่นแหละ
เพชรเสียใจ เจ็บปวด แต่เธอก็คิดว่าแบบนี้มันดีที่สุด
อาจเพราะความเคยชิน ที่ผ่านมาลูกสาวคนโตอย่างเธอทำหน้าที่เป็นผู้นำครอบครัวจนเคยชิน
ทุกเรื่องสำคัญในบ้าน แม่ต้องมอบให้เธอตัดสิน และเธอก็ทำมันได้ดีเสมอมา
เธอไม่ค่อยบ่น ไม่โวยวาย จัดการทุกอย่างดีเยี่ยม เป็นที่ปรึกษาที่ดีของทุกคน
ดังนั้นสุดท้ายสิ่งที่เพชรทำได้คือ ตัดสินใจที่จะเลิกรักบูม อดทนกับความเจ็บปวด สุดท้ายก็มานั่งร้องไห้เงียบๆคนเดียว
.
สำหรับครอบครัว แม้จะเป็นพ่อแม่หรือเป็นลูกก็ตาม ต่างมีความผูกพันและมีความรักให้กัน แต่ละคนอยากให้คนที่เรารักมีความสุข
พร้อมที่จะเสียสละความสุขของตัวเองได้
แต่จริงๆ การมีความสัมพันธ์มาอยู่ด้วยกัน เช่น ครอบครัว เราไม่สามารถแบ่งปันเพียงแค่ความสุขได้ เหมือนคำพูดที่บอกว่า ‘มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน’
เพราะถ้าเราเสียสละความสุขของเราไป โดยที่เรารู้สึกเป็นทุกข์ทรมานใจ คนที่เราเสียสละเพื่อเขาก็คงไม่สบายใจหรอก
โดยเฉพาะเมื่อเป็นคนที่เราอยู่ด้วยในครอบครัวเดียวกัน
ในเวลาที่ใครมีปัญหา ครอบครัวก็ควรจะร่วมกันจัดการแก้ไข ผ่านพ้นเรื่องราวนั้นๆไปด้วยกัน
สุขทุกข์ร่วมกันฟันฝ่ากันไป
อย่าคิดว่าเราเป็นคนเก่ง เป็นคนเข้มแข็ง เลยแบกรับทุกอย่างไว้เอง
ในวันที่เรารักและห่วงใย ปรารถนาดีกับคนรอบข้าง อย่าลืมใส่ใจดูแลความรู้สึกของตัวเราเองด้วย มันมีความสำคัญไม่แพ้กันหรอก
ถ้าเราไม่โอเค มันคงยากที่จะไปทำให้คนอื่นโอเค
การขอความช่วยเหลือ อย่างน้อยก็คุยกับคนที่ไว้วางใจ แม้อาจแก้ปัญหาอะไรให้เราไม่ได้ทันที แต่การที่มีใครให้ระบาย
มีใครสักคนให้กอด ให้ซบไหล่บ้าง ก็น่าจะทำให้ความอึดอัดบรรเทาเบาบางไปบ้าง
หมอคิดว่าสำหรับเพชร จริงๆถ้ามีใครสักคนที่เธอคุยเรื่องนี้ได้ก็คงจะดี ใจคิดว่าน่าจะเป็นพลอย
เพราะพลอยเป็นน้องที่มีความเข้าอกเข้าใจ หมอเป็นห่วงว่าเพชรจะกดดันตัวเองเกินไปหน่อยค่ะ
.
Declaration: ในการเขียนบทความนี้ หมอไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ จากบริษัทหรือผู้เกี่ยวข้องกับซีรีส์
เพียงแต่ได้รับชมและประทับใจ จึงขอเขียนแบ่งปันข้อคิดที่ได้สู่คนอื่นๆค่ะ
#หมอมินบานเย็น
Cr. บทความจาก เพจ เข็นเด็กขึ้นภูเขา
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2813603695345465&id=468898189816039