กระทู้นี้แชร์มาจากชีวิตจริงของเรา สิ่งที่เราเจอมาจริงๆ และรู้สึกจริงๆ
เราเรียกสิ่งที่แม่ทำกับเราว่าเป็นการทำร้ายค่ะ เขาไม่ได้ตีเราเพราะอยากให้เราเจ็บเพื่อจะได้รู้ว่าไม่ควรทำอีก แต่เขาตีเราเพราะความอารมณ์ร้อนและบางทีมันไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ตั้งแต่เด็กที่เขาทำร้ายเราแบบนี้ เคยเอาโทรศัพท์ปาใส่หัวเราเพราะเราเแลี่ยนช่องทีวีให้ไม่ทันใจ เคยใช้หมอนข้างฟาดหน้าเราแค่เพราะเราฉี่รดที่นอน หนักสุดก็หลุดพูดออกมาว่า 'กูไม่น่าให้เกิดมาเลย' จากใจเด็กที่อายุประมาณแค่ 7-8 ขวบคือมันจำฝังใจมาจนโต ถ้าเราร้องเขาจะถือไม้ขู่ ถ้าเราไม่หยุดเขาจะตีซ้ำจนกว่าเราจะหยุดร้อง ทุกวันนี้เราร้องไห้ทีไรก็เก็บเสียงตลอดค่ะ ไม่เคยร้องไห้ส่งเสียงออกมา เพราะความทรงจำแย่ๆ ในวัยเด็ก เราเคยไปงานวันแม่ที่บ้านยาย น้องเราคนนึงโดนแกล้งจนร้องไห้ เรานั่งอยู่ข้างๆ น้อง เราเห็นแม่ชี้นิ้วมาทางเราแล้วทำปากด่ามุบมิบหน้าตาน่ากลัว เราร้องไห้โฮออกมาเลยเพราะกลัวแม่มาก จนสุดท้ายอยู่ไม่ทันงานจบโดนแม่ลากกลับบ้านกลางวงญาติ เราเคยโดนไฟลวกที่ขาตอนมาเล่นกับพี่ๆ ที่บ้านยาย แม่มารับเรากลับวันต่อมา แทนที่แม่จะเป็นห่วงเข้ามาถามไถ่อาการเราดีๆ แม่กลับถือไม้เรียวมาด้วยแล้วฟาดเราต่อหน้ายาย ยายพยายามช่วยเราแต่แม่ไม่ยอมหยุด จนสุดท้ายยายต้องพูดขึ้นมาว่า 'กูไม่เคยเลี้ยงแบบที่ทำกับลูก ไปเอานิสัยนี้มาจากไหน' แม่ถึงจะหยุด ตอนเด็กๆ เรากลัวแม่มาก ไม่อยากอยู่บ้านเลยสักวัน ปิดเทอมก็ไปอยู่บ้านยายเพราะคนที่นี่ใจดีแล้วก็มีเพื่อนเล่น หรือไม่ก็ไปอยู่กับอาที่เขารักเราเหมือนลูก เขาไม่เคยด่าเรา ไม่เคยตีเรา ใช้เหตุผลพูดกับเราตลอด แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่แม่มารับกลับเราจะร้องไห้ตลอด เหมือนรู้ว่าต่อไปนี้คงหาความสุขจากที่บ้านไม่ได้อีก
ต่อหน้าญาติแม่จะทำตัวกับเราดีมาก เรียกเราลูกอย่างนั้นลูกอย่างนี้ เราไม่ชอบเหมือนแม่ต้องสร้างภาพตลอดเวลาถ้าอยู่นอกบ้าน เรารู้สึกเจ็บทุกครั้งที่แม่เอาเราไปเทียบกับพี่ชายคนโต พี่ชายเราดีมาก เมื่อก่อนถ้าแม่ออกไปขายของพี่ชายจะหุงข้าวรอแม่ เลี้ยงน้องแทนแม่ เป็นเด็กดีเรียนเก่ง แม่เรารักพี่ชายเรามากที่สุดและแม่ไม่เคยทำร้ายพี่ชายอย่างที่ทำกับเรา
ตอนประถมเราต้องเรียนให้ได้เกรด 4 และต้องที่ 1 เท่านั้น มีอยู่เทอมนึงที่เราได้ที่ 2 เราร้องไห้ไม่อยากกลับบ้านจนสุดท้ายพี่เราต้องโทรไปเคลียร์ให้จนเราแน่ใจแล้วว่าแม่ใจเย็นลงจริงๆ เราถึงจะกลับบ้าน ตอนประถมเราเคยถูกไล่ออกจากบ้าน ตอนนั้นเราเดินขึ้นไปเก็บกระเป๋าแบบจริงจังมาก ในใจคือกูจะไปจากที่นี่กูไม่อยากอยู่แล้ว แต่พี่สาวเราบังคับให้เราขอโทษแม่ เราไม่ขอโทษเพราะเราไม่ได้ทำผิด ตอนนั้นเราโดนตีเพราะแม่หงุดหงิด เราไม่ใช่ต้นเหตุเราผิดตรงไหน สุดท้ายพี่เราก็ว่าๆ เราอกตัญญูขึ้นมา
โตขึ้นมาหน่อยช่วงมอต้น พ่อเราเกษียณจากที่ทำงานต่างจังหวัดแล้วย้ายกลับมาอยู่บ้าน พ่อกับแม่ทะเลาะกันทุกวันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง มีครั้งนึงที่เราทนไม่ไหว เลยตะโกนแทรกไปว่าให้หยุดแบบเสียงดังมากบนโต๊ะกินข้าว แม่เราพูดตัดพ้อมาว่า 'กูพูดอะไรไม่ได้สักอย่าง พูดไปก็ไม่มีใครฟัง' จน

อนไม่คุยกับเรากับพ่อไปสามวัน เราอาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่บ้านติดกับหลังอื่น แม่เราชอบตะโกนเสียงดังโหวกเหวกโวยวายเวลาไม่ได้ดั่งใจ ตะโดนจนลั่นบ้าน ชอบเสียงดังใส่คนอื่นถ้าคนอื่นตะคอกกลับก็ยกเรื่องหนี้บุญคุณมาพูด ตัดพ้อเรื่องเดิมๆ เราเกรงใจเพื่อนบ้าน ถ้าหากว่าบอกให้เขาพูดเบาๆ เขาจะด่า เขาไม่ฟัง ทุกวันนี้ก็ยังเป็นแบบนี้ ล่าสุดทะเลาะกับพ่อเรื่องที่ไม่ยอมซ่อมพัดลมให้ เรานั่งฟังไม่ไหวจึงบอกให้เขาสองคนหยุดทะเลาะกัน แม่เราตะคอกกลับมาว่า จะทำไม ไม่ต้องมา

อยู่เฉยๆ' แต่เราก็ไม่ยอมแล้วพูดตอกกลับไปว่า 'แม่ควรจะพูดเสียงเบาๆ แล้วระงับอารมณ์ซะบ้าง อย่าใช้แต่อารมณ์' เเม่เราเปลี่ยนไปเรื่องอื่น 'ในบ้านก็มีแค่กูนี่แหละที่พูดอะไรไม่ได้เลย พวกถูกกันทุกอย่าง' แล้วเขาก็เงียบไปแล้วก็นั่งกินข้าวต่อ พ่อเราหมดอารมณ์กิน เราก็เช่นกัน แต่เราก็ได้แต่คิดในใจว่า เเค่พูดคำดีๆ ออกมาบ้างนอกจากคำด่าคำหยาบสำหรับแม่มันยากนักหรอ เเค่ไม่ขึ้นเสียงใส่คนอื่นตอนตัวเองโมโหนี่มันยากมากเลยใช่มั้ย สุดท้ายก็โดนงอนใส่ค่ะ
ไม่นานมานี้แม่มาคุยกับเราบอกเราว่าจะไปอยู่กับเราตอนเราเข้ามหาลัย แล้วก็ยกตัวอย่างน้าสาวที่ดูแลยายมาบอกดับเราว่า ลูกคนเล็กต้องเป็นคนดูแลพ่อแม่ เราเอ๋อกินเลยค่ะ แม่เรามีลูก 4 คน ทำไมมีเราคนเดียวที่ดูแลแม่ทำไมพี่ๆ ที่ว่างกว่ามีเวลากว่าไม่มาเเยเเสแม่บ้าง ขนาดลูกชายคนโตยังไม่เคยโผล่หัวมาหา มีแต่แม่ที่ไปหาเวลาเขาป่วย เราไม่อยากให้แม่ไปอยู่กับเราเพราะช่วงเวลาแบบนี้เราควรจะช่วยแหลือตัวเองให้ได้บ้าง เราควรจะบริหารเงินเอง บริหารเวลา ได้ทำนู่นทำนี่อย่างอิสระ เราไม่ต้องการผูกมัดอยู่กับแม่ เพราะเราไม่อยากเหมือนพี่สาวคนกลางที่ถึงจะอายุ 30 แต่ก็ยังขอแม่ใช้อยู่ อีกเหตุผลคือเราอยากมีเวลาเป็ยของตัวเอง อยากมีเซฟโซนแบบคนอื่นบ้าง ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนาให้ติดมหาลัยเร็วๆ จะได้ออกไปจากที่นี่สักที แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่เลี้ยงแม่นะ เราก็เลี้ยงแต่ลูกทุกคนควรทำไม่ใช่เราคนเดียว
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ อาจจะอ่านยากนิดหน่อยเพราะเราพิมพ์ในมือถือ
มีใครที่บ้านไม่ใช่คอมฟอร์ทโซนหรือเซฟโซนสำหรับตัวเองบ้างมั้ยคะ
เราเรียกสิ่งที่แม่ทำกับเราว่าเป็นการทำร้ายค่ะ เขาไม่ได้ตีเราเพราะอยากให้เราเจ็บเพื่อจะได้รู้ว่าไม่ควรทำอีก แต่เขาตีเราเพราะความอารมณ์ร้อนและบางทีมันไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ตั้งแต่เด็กที่เขาทำร้ายเราแบบนี้ เคยเอาโทรศัพท์ปาใส่หัวเราเพราะเราเแลี่ยนช่องทีวีให้ไม่ทันใจ เคยใช้หมอนข้างฟาดหน้าเราแค่เพราะเราฉี่รดที่นอน หนักสุดก็หลุดพูดออกมาว่า 'กูไม่น่าให้เกิดมาเลย' จากใจเด็กที่อายุประมาณแค่ 7-8 ขวบคือมันจำฝังใจมาจนโต ถ้าเราร้องเขาจะถือไม้ขู่ ถ้าเราไม่หยุดเขาจะตีซ้ำจนกว่าเราจะหยุดร้อง ทุกวันนี้เราร้องไห้ทีไรก็เก็บเสียงตลอดค่ะ ไม่เคยร้องไห้ส่งเสียงออกมา เพราะความทรงจำแย่ๆ ในวัยเด็ก เราเคยไปงานวันแม่ที่บ้านยาย น้องเราคนนึงโดนแกล้งจนร้องไห้ เรานั่งอยู่ข้างๆ น้อง เราเห็นแม่ชี้นิ้วมาทางเราแล้วทำปากด่ามุบมิบหน้าตาน่ากลัว เราร้องไห้โฮออกมาเลยเพราะกลัวแม่มาก จนสุดท้ายอยู่ไม่ทันงานจบโดนแม่ลากกลับบ้านกลางวงญาติ เราเคยโดนไฟลวกที่ขาตอนมาเล่นกับพี่ๆ ที่บ้านยาย แม่มารับเรากลับวันต่อมา แทนที่แม่จะเป็นห่วงเข้ามาถามไถ่อาการเราดีๆ แม่กลับถือไม้เรียวมาด้วยแล้วฟาดเราต่อหน้ายาย ยายพยายามช่วยเราแต่แม่ไม่ยอมหยุด จนสุดท้ายยายต้องพูดขึ้นมาว่า 'กูไม่เคยเลี้ยงแบบที่ทำกับลูก ไปเอานิสัยนี้มาจากไหน' แม่ถึงจะหยุด ตอนเด็กๆ เรากลัวแม่มาก ไม่อยากอยู่บ้านเลยสักวัน ปิดเทอมก็ไปอยู่บ้านยายเพราะคนที่นี่ใจดีแล้วก็มีเพื่อนเล่น หรือไม่ก็ไปอยู่กับอาที่เขารักเราเหมือนลูก เขาไม่เคยด่าเรา ไม่เคยตีเรา ใช้เหตุผลพูดกับเราตลอด แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่แม่มารับกลับเราจะร้องไห้ตลอด เหมือนรู้ว่าต่อไปนี้คงหาความสุขจากที่บ้านไม่ได้อีก
ต่อหน้าญาติแม่จะทำตัวกับเราดีมาก เรียกเราลูกอย่างนั้นลูกอย่างนี้ เราไม่ชอบเหมือนแม่ต้องสร้างภาพตลอดเวลาถ้าอยู่นอกบ้าน เรารู้สึกเจ็บทุกครั้งที่แม่เอาเราไปเทียบกับพี่ชายคนโต พี่ชายเราดีมาก เมื่อก่อนถ้าแม่ออกไปขายของพี่ชายจะหุงข้าวรอแม่ เลี้ยงน้องแทนแม่ เป็นเด็กดีเรียนเก่ง แม่เรารักพี่ชายเรามากที่สุดและแม่ไม่เคยทำร้ายพี่ชายอย่างที่ทำกับเรา
ตอนประถมเราต้องเรียนให้ได้เกรด 4 และต้องที่ 1 เท่านั้น มีอยู่เทอมนึงที่เราได้ที่ 2 เราร้องไห้ไม่อยากกลับบ้านจนสุดท้ายพี่เราต้องโทรไปเคลียร์ให้จนเราแน่ใจแล้วว่าแม่ใจเย็นลงจริงๆ เราถึงจะกลับบ้าน ตอนประถมเราเคยถูกไล่ออกจากบ้าน ตอนนั้นเราเดินขึ้นไปเก็บกระเป๋าแบบจริงจังมาก ในใจคือกูจะไปจากที่นี่กูไม่อยากอยู่แล้ว แต่พี่สาวเราบังคับให้เราขอโทษแม่ เราไม่ขอโทษเพราะเราไม่ได้ทำผิด ตอนนั้นเราโดนตีเพราะแม่หงุดหงิด เราไม่ใช่ต้นเหตุเราผิดตรงไหน สุดท้ายพี่เราก็ว่าๆ เราอกตัญญูขึ้นมา
โตขึ้นมาหน่อยช่วงมอต้น พ่อเราเกษียณจากที่ทำงานต่างจังหวัดแล้วย้ายกลับมาอยู่บ้าน พ่อกับแม่ทะเลาะกันทุกวันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง มีครั้งนึงที่เราทนไม่ไหว เลยตะโกนแทรกไปว่าให้หยุดแบบเสียงดังมากบนโต๊ะกินข้าว แม่เราพูดตัดพ้อมาว่า 'กูพูดอะไรไม่ได้สักอย่าง พูดไปก็ไม่มีใครฟัง' จน
ไม่นานมานี้แม่มาคุยกับเราบอกเราว่าจะไปอยู่กับเราตอนเราเข้ามหาลัย แล้วก็ยกตัวอย่างน้าสาวที่ดูแลยายมาบอกดับเราว่า ลูกคนเล็กต้องเป็นคนดูแลพ่อแม่ เราเอ๋อกินเลยค่ะ แม่เรามีลูก 4 คน ทำไมมีเราคนเดียวที่ดูแลแม่ทำไมพี่ๆ ที่ว่างกว่ามีเวลากว่าไม่มาเเยเเสแม่บ้าง ขนาดลูกชายคนโตยังไม่เคยโผล่หัวมาหา มีแต่แม่ที่ไปหาเวลาเขาป่วย เราไม่อยากให้แม่ไปอยู่กับเราเพราะช่วงเวลาแบบนี้เราควรจะช่วยแหลือตัวเองให้ได้บ้าง เราควรจะบริหารเงินเอง บริหารเวลา ได้ทำนู่นทำนี่อย่างอิสระ เราไม่ต้องการผูกมัดอยู่กับแม่ เพราะเราไม่อยากเหมือนพี่สาวคนกลางที่ถึงจะอายุ 30 แต่ก็ยังขอแม่ใช้อยู่ อีกเหตุผลคือเราอยากมีเวลาเป็ยของตัวเอง อยากมีเซฟโซนแบบคนอื่นบ้าง ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนาให้ติดมหาลัยเร็วๆ จะได้ออกไปจากที่นี่สักที แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่เลี้ยงแม่นะ เราก็เลี้ยงแต่ลูกทุกคนควรทำไม่ใช่เราคนเดียว
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ อาจจะอ่านยากนิดหน่อยเพราะเราพิมพ์ในมือถือ