1 ปี เรามี 300+ กว่าวัน ถ้าเราเก็บตามจำนวนวัน
วันที่ 1 ของต้นปีก็ 1 บาท
วันที่ 2 ก็ 2 บาท
วันที่ 10 ก็ออมเงิน 10 บาท
ไล่วันไปเรื่อยๆจนครบ
ถ้าเราเก็บออมเงินตามจำนวนวันครบตามปฏิทินบอกเลยว่า ได้เงินออมเกิน “ครึ่งแสน”
ผมจะอธิบายวิธีการเก็บเงินของผมละกันครับ
ผมจะไม่ถนัดในการปริ้นภาพเอกสารมาแล้วก็ขีดๆเขียนๆนะครับ ผมถนัดทำในคอมพิวเตอร์มากกว่า ก็เลยใช้โปรแกรม Excel ทำตารางเองครับ ภาพนี้คือภาพของปลายเดือน ธันวาคม 2562 นั้นเอง

ใน 1 บรรทัดผมก็จะสร้างตารางไว้จะมี 20 วัน แล้ว 20 วันรวมเป็นเงินได้กี่บาท
แล้วก็จะมีช่องขวาสุด ที่เราออมเงินไป แต่ก็เอาออกมาใช้ ผมก็จะลิสต์ไว้ว่าเอาออกไปใช้อะไรบ้าง
ยอดเงินรวมที่ผมต้องได้ทั้งหมดกี่บาท กับจำนวนตอนนี้ออมเงินไปแล้วกี่บาท
แล้วถ้าหักล้างกันแล้วผมยังต้องออมเพิ่มอีกกี่บาทเพื่อที่ว่าจะได้ครบตามจำนวนวัน
ออมเงินครบเต็มจำนวนวันก็จะเป็นสีเขียว
ออมเงินยังไม่ครบ เช่น วันที่ 200 แต่ผมออมเงินไปแค่ 47 บาท ก็จะเป็นสีแดงไว้เพราะว่ายังออมไม่ครบ
ทำให้ผมไม่อยากใช้กระดาษในการปริ้นออกมาขีดๆเขียนๆ เพราะว่ามันจะเปลืองมากๆ
ผมเขียน รายจ่ายทุกเดือนนะครับว่าเราใช้จ่ายอะไรไปบ้าง
(***ตัวเลขเงินออมไม่ได้เป๊ะตามจำนวนที่นับ***)
รูปนี้คือเดือนแรกเลย คือปลายเดือนมกราคม 2562

ผมออมเงินไปประมาณ 5 พันกว่าบาท ในช่วงเดือนมกราคมนะครับ ออมเกินจำนวนวันด้วยครับ ฟิตๆ
และถัดมา
รูปนี้คือเดือน 6 คือเดือนมิถุนายน 2562

ผมออมเงินไปรวมๆเกือบจะ 20,000 บาท แต่ก็มีการหยิบออกมาใช้นะครับ
ไม่ว่าจะเอาเงินนั้นโอนไปให้พ่อกับแม่ หรือเอาไปซื้อฮาร์ดดิสเพิ่ม รวมๆที่ยืมออกมาก็ 14,000 บาท
และนี้คือเดือน 11 คือเดือนพฤศจิกายน 2562

ผมออมเงินไปแล้วจำนวน 45,000+ กว่าบาท
และก็ยืมออกมาใช้ก็ 26,000 บาท
ยังขาดกับเงินที่ต้องออมทั้งหมด เกือบ 2 หมื่นบาทแน่ะกว่าจะครบ
และนี้เดือนสุดท้ายเลยคือเดือนธันวาคม 2562

สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ ผมทำไม่สำเร็จครับกับเงินให้ได้เกิน “ครึ่งแสน” ซึ่งมันชั่งเยอะซะเหลือเกิน
แต่ผมอยากจะบอกว่า เราไม่จำเป็นที่จะต้องเก็บเงินตามให้มันได้ครบครับ
ขอแค่เราเก็บเงินมันไม่ว่าจะมีน้อยหรือมีมาก มันก็คือเงินเก็บสำรองเอาไว้ใช้จ่ายตอนมีเหตุฉุกเฉิกนั้นเองครับผม
ถ้าใครไม่สะดวกออมเงินตามวันปฏิทินก็ลองเปลี่ยนมาออมเงินวันละแค่ 10 บาท ถึง 100 บาทก็วัน ก็ได้เหมือนกันครับ
10 บาท 1 ปีก็ 3,600 บาท
100 บาท 1 ปีก็ 36,000 บาท

และนี่คือจำนวนเงินที่ผมเก็บมาตลอด 1 ปีนี้นะครับ

และนี่คือผลลัพธ์ของการออมเงินครับ อีกนิดก็จะ “ครึ่งแสน” แล้ว มีน้อยเก็บน้อย มีมากเก็บมาก ไม่มีก็ไม่เก็บ
แล้วผมก็เอาเงินไปเซอร์ไพร์ให้พ่อแม่พี่ชายของผมเองด้วยครับจากเงินเก็บก้อนนี้
ให้ทั้งหมด 20,000 บาทครับ ถือว่าของขวัญปีใหม่จากผมเอง

ผมทำงานประจำเหมือนกันครับ เอาตามตรงงานประจำผมคงไม่สามารถเก็บเงินได้ขนาดนี้แน่นอน เราต้องหาเวลาว่างไปรับงานฟรีแลนซ์ต่างๆหลังเลิกงานครับถึงจะได้ขนาดนี้ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ การเสียสุขภาพ x2 เพราะมันหนักมาก งานประจำก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว เลิกงานมาทำฟรีแลนซ์ต่อ หาเวลาว่างมาตัดคลิปลง Youtube ด้วยอีก หนักหน่วงมากซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมแบ่งเวลาและผ่านมันไปได้ยังไง ฮ่าๆ
เราลองมาเริ่มต้นใหม่ปีนี้ด้วยการออมเงินเก็บกันครับ
ไม่ว่าจะหลักสิบ หลักร้อย หลักพัน หรือหลักหมื่นบาท จะมากหรือน้อยก็ไม่สำคัญเท่ากับมีเงินเก็บสำรองไว้ใช้จ่ายต่างๆนะครับ
สามารถติดตามผมได้ที่ Youtube ได้นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Youtube
หรือว่าอยากดูเฉพาะคลิปออมเงินผมทำคลิปไว้เรียบร้อยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เก็บออมเงิน 1 ปีได้เกือบ "ครึ่งแสน"
- ขอบคุณมากครับที่เข้ามาอ่าน ถ้าหากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ -
ประสบการณ์เก็บเงินได้เกือบถึง “ครึ่งแสน” ภายใน 1 ปี!!!
วันที่ 1 ของต้นปีก็ 1 บาท
วันที่ 2 ก็ 2 บาท
วันที่ 10 ก็ออมเงิน 10 บาท
ไล่วันไปเรื่อยๆจนครบ
ถ้าเราเก็บออมเงินตามจำนวนวันครบตามปฏิทินบอกเลยว่า ได้เงินออมเกิน “ครึ่งแสน”
ผมจะอธิบายวิธีการเก็บเงินของผมละกันครับ
ผมจะไม่ถนัดในการปริ้นภาพเอกสารมาแล้วก็ขีดๆเขียนๆนะครับ ผมถนัดทำในคอมพิวเตอร์มากกว่า ก็เลยใช้โปรแกรม Excel ทำตารางเองครับ ภาพนี้คือภาพของปลายเดือน ธันวาคม 2562 นั้นเอง
ใน 1 บรรทัดผมก็จะสร้างตารางไว้จะมี 20 วัน แล้ว 20 วันรวมเป็นเงินได้กี่บาท
แล้วก็จะมีช่องขวาสุด ที่เราออมเงินไป แต่ก็เอาออกมาใช้ ผมก็จะลิสต์ไว้ว่าเอาออกไปใช้อะไรบ้าง
ยอดเงินรวมที่ผมต้องได้ทั้งหมดกี่บาท กับจำนวนตอนนี้ออมเงินไปแล้วกี่บาท
แล้วถ้าหักล้างกันแล้วผมยังต้องออมเพิ่มอีกกี่บาทเพื่อที่ว่าจะได้ครบตามจำนวนวัน
ออมเงินครบเต็มจำนวนวันก็จะเป็นสีเขียว
ออมเงินยังไม่ครบ เช่น วันที่ 200 แต่ผมออมเงินไปแค่ 47 บาท ก็จะเป็นสีแดงไว้เพราะว่ายังออมไม่ครบ
ทำให้ผมไม่อยากใช้กระดาษในการปริ้นออกมาขีดๆเขียนๆ เพราะว่ามันจะเปลืองมากๆ
ผมเขียน รายจ่ายทุกเดือนนะครับว่าเราใช้จ่ายอะไรไปบ้าง
(***ตัวเลขเงินออมไม่ได้เป๊ะตามจำนวนที่นับ***)
รูปนี้คือเดือนแรกเลย คือปลายเดือนมกราคม 2562
ผมออมเงินไปประมาณ 5 พันกว่าบาท ในช่วงเดือนมกราคมนะครับ ออมเกินจำนวนวันด้วยครับ ฟิตๆ
และถัดมา
รูปนี้คือเดือน 6 คือเดือนมิถุนายน 2562
ผมออมเงินไปรวมๆเกือบจะ 20,000 บาท แต่ก็มีการหยิบออกมาใช้นะครับ
ไม่ว่าจะเอาเงินนั้นโอนไปให้พ่อกับแม่ หรือเอาไปซื้อฮาร์ดดิสเพิ่ม รวมๆที่ยืมออกมาก็ 14,000 บาท
และนี้คือเดือน 11 คือเดือนพฤศจิกายน 2562
ผมออมเงินไปแล้วจำนวน 45,000+ กว่าบาท
และก็ยืมออกมาใช้ก็ 26,000 บาท
ยังขาดกับเงินที่ต้องออมทั้งหมด เกือบ 2 หมื่นบาทแน่ะกว่าจะครบ
และนี้เดือนสุดท้ายเลยคือเดือนธันวาคม 2562
สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ ผมทำไม่สำเร็จครับกับเงินให้ได้เกิน “ครึ่งแสน” ซึ่งมันชั่งเยอะซะเหลือเกิน
แต่ผมอยากจะบอกว่า เราไม่จำเป็นที่จะต้องเก็บเงินตามให้มันได้ครบครับ
ขอแค่เราเก็บเงินมันไม่ว่าจะมีน้อยหรือมีมาก มันก็คือเงินเก็บสำรองเอาไว้ใช้จ่ายตอนมีเหตุฉุกเฉิกนั้นเองครับผม
ถ้าใครไม่สะดวกออมเงินตามวันปฏิทินก็ลองเปลี่ยนมาออมเงินวันละแค่ 10 บาท ถึง 100 บาทก็วัน ก็ได้เหมือนกันครับ
10 บาท 1 ปีก็ 3,600 บาท
100 บาท 1 ปีก็ 36,000 บาท
และนี่คือจำนวนเงินที่ผมเก็บมาตลอด 1 ปีนี้นะครับ
และนี่คือผลลัพธ์ของการออมเงินครับ อีกนิดก็จะ “ครึ่งแสน” แล้ว มีน้อยเก็บน้อย มีมากเก็บมาก ไม่มีก็ไม่เก็บ
แล้วผมก็เอาเงินไปเซอร์ไพร์ให้พ่อแม่พี่ชายของผมเองด้วยครับจากเงินเก็บก้อนนี้
ให้ทั้งหมด 20,000 บาทครับ ถือว่าของขวัญปีใหม่จากผมเอง
ผมทำงานประจำเหมือนกันครับ เอาตามตรงงานประจำผมคงไม่สามารถเก็บเงินได้ขนาดนี้แน่นอน เราต้องหาเวลาว่างไปรับงานฟรีแลนซ์ต่างๆหลังเลิกงานครับถึงจะได้ขนาดนี้ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ การเสียสุขภาพ x2 เพราะมันหนักมาก งานประจำก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว เลิกงานมาทำฟรีแลนซ์ต่อ หาเวลาว่างมาตัดคลิปลง Youtube ด้วยอีก หนักหน่วงมากซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมแบ่งเวลาและผ่านมันไปได้ยังไง ฮ่าๆ
เราลองมาเริ่มต้นใหม่ปีนี้ด้วยการออมเงินเก็บกันครับ
ไม่ว่าจะหลักสิบ หลักร้อย หลักพัน หรือหลักหมื่นบาท จะมากหรือน้อยก็ไม่สำคัญเท่ากับมีเงินเก็บสำรองไว้ใช้จ่ายต่างๆนะครับ
สามารถติดตามผมได้ที่ Youtube ได้นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หรือว่าอยากดูเฉพาะคลิปออมเงินผมทำคลิปไว้เรียบร้อยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ขอบคุณมากครับที่เข้ามาอ่าน ถ้าหากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ -