สวัสดีค่ะ หลังจากที่ไปได้เที่ยวเมืองจีนครั้งแรกก็ได้เวลามาเขียนรีวิวแล้วค่ะ .... หลังจากดองไว้นานเลย โดยเนื้อหาจะเน้นไปเมืองฮาร์บินเป็นหลักค่ะ เนื่องจากตอนเราจะไปข้อมูลยังน้อยๆ เลยตั้งใจเขียนแชร์ให้กับเพื่อนๆที่สนใจจะไปเที่ยวเมืองดตู้เย็นนี้กันค่ะ
เริ่มแรกของการเดินทางเกิดจากเพื่อนอยากไปชมอากาศหนาวส่วนเราอยากไปดูหิมะ เลยเกิดทริปเร่งด่วนนี้ขึ้นตัดสินใจกดจองตั๋วเดินทางจาก ar-pea.com ของสายการบิน Xiamen airline แล้วจัดการจองเพิ่มเพราะมีการขยายแพลนเดินทางมาเที่ยว Dineyland Shanghai เพิ่มด้วย สุดท้ายทริปนี้เลยเกิดจากความตั้งใจของ 2 คนที่อยากไปแม้ว่าความชอบในการเดินทางท่องเที่ยวจะแตกต่างกัน แต่เราก้นำผสมและปรับให้พอดีกับ Lifestyle ของเรา
**ในรีวิวใช้ภาษาฮาเฮสักหน่อยเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านนะคะ**


หลังจากกดจองตั๋วเครื่องเรียบร้อยเราก่ร่างแพลนต่างๆ ว่าจะไปที่ไหนบ้างกำหนดเวลาที่มีการเผื่อในกรณีเจอสภาพอากาศแย่หรือตกนัดการจองล่วงหน้าของสถานที่ต่างๆที่ ก้ได้แพลนคร่าวๆ
29/11/62 ออกจากสุวรรณภูมิโดย Xiamen airline flight NO.MF 854 เวลา 12.05 น.ถึง Xiamen 17.00 น.
รอ Transit ไป Harbin ถึงเวลา 22.50 น. เข้าที่พัก
30/12/62 เดินเที่ยวรอบๆแม่น้ำซงหัว ขึ้นกระเช้าข้ามไป Sun island แล้วชม Russia village
บ่ายข้ามมาทานอาหารกลางวัน แล้วเดินทางไป Siberia tiger
เย็น ไปซงหยางเดินชม Saint Sophia cathedral กลับที่พัก
01/12/62 เดินทางไป Volga manor เที่ยวทั้งวัน
เย็น กลับมาซงหยาง ชมอนุสารีย์ Stalin และเดินชมซงหยางรอบค่ำ
02/12/62 ไปสนามบินเดินทางมา Shanghai เข้าที่พักแล้วเข้าเมือง ชม Nanging Rd., Starbucks Reserve Roasery,
The bund กลับเข้าที่พัก
03/12/62 Check out ฝากกระเป๋าแล้เดินทางไป Disney land Shanghai
รับกระเป๋าเดินทางกลับบ้านโดย Juneyao airline flight HO1357 21.05 ถึงไทย 00.50 น.(เวลาท้องถิ่น)
แล้ววันเดินทางก็มาถึงงงง Let GOOOOO!!!
การเดินทางไปประเทศจีนต้องมีการทำวีซ่าทุกกรณี โดยความขึ้นชื่อของการขอเป็นเรื่องของรูปภาพที่นำไปติดเอกสาร เราจึงแฝงตัวตามกระทู้ต่างๆเพื่อหาร้านถ่ายรูปที่ถ่ายได้ตามข้อกำหนดจึงได้ข้อมูลเป็นร้าน Galaxy ^^ หลังจากถ่ายเสร็จแล้ว เราก็แอบกระซิบถามพนักงานอีกครั้งว่ารูปถูกต้องตามข้อกำหนดนะถ้าต้องมีการถ่ายใหม่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใช่ไหม ทางร้านก้แจ้งว่าใช่ค่ะส่วนข้อกำหนดหรืออาคารที่ตั้งสามารถดูรีวิวของท่านอื่นๆได้เลยนะคะ หลังจากนั้น 3 วันนำใบนัดไปรับ Passport เราคืนพร้อมชำระค่าธรรมเนียมได้เลย โดยวีซ่าจะพิมพ์ลงในหน้า Passport เราไม่ต้องกลัวหล่นหายเลยค่ะ
*ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าคนละ 1650 บาท ชำระวันรับวีซ่าครั้งเดียว
**การไปทำใช้เวลาเร็วมากก บริการดี พื่นที่สะอาดค่ะ อย่าลืมประทับตราจอดรถจะได้เสียค่าจอดไม่แพงนะคะ จอดฟรี 15 นาที… จนท. ทำเอกสารเร็วจนเราไม่ต้องเสียค่าที่จอดรถ
และวันเดินทางก้มาถึง เราเตรียมแลกเงินสดไป 10000 บาท คิดเป็น 2500 หยวนแลกที่ superrich พร้อมจัดกระเป๋าเดินทาง 1 ใบแน่นๆ มีเสื้อโค๊ทกับ heattech ไปกันจร้า (เรทเงิน ณ วันที่แลก 4.3 บาท = 1 หยวน) ค่ะ
วันที่ 29/11/62 
สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Xiamen airline ไฟท์ MF 854 ออก 12.55 น. ถึง Xiamen 16.55 น.(เวลาท้องถิ่น) Transit ไฟท์ MF 8342 ถึง Harbin เวลา 22.40 น.(เวลาท้องถิ่น) เข้าที่พัก Joy Boutique Hotel
เราเดินทางมาถึงสนามบินเวลาประมาณ 09.30 น.ลงประตู 5 จะสามารถเข้ามาเจอเคาท์เตอร์เช็คอินเลย แต่เคาท์เตอร์เปิดทำการประมาณ 10.30 น. คนไม่เยอะค่ะ มาเร็วเลยไม่เจอทัวร์จีน จนท.น่ารัก ช่วยเหลือให้คำแนะนำดีมาก สามารถเลือกที่นั่งได้
ซึ่งเราจะได้ตั๋วมา 2 ใบซึ่งเลือกที่นั่งมาตั้งแต่สุวรรณภูมิและสัมภาระเราก้จะ Check through ไปที่ Harbin เลยค่ะ มีความสะดวกสบายและได้รับสัมภาระพร้อมเราลงเครื่องพอดี

หลังจาก check in แล้วก้เข้ามาเดินเล่นและรับสินค้าที่ King power ก่อนจะไปขึ้นเครื่องบิน ซึ่งเราได้ที่นั่ง 41A-42B ไม่ติดปีกเครื่องบิน บรรยายกาศบนเครื่องใหม่และสะอาด เบาะกว้างนั่งสบายค่ะ เพื่อนเราสูง 180 cm ไม่บ่นเมื่อยเลยค่ะตลอดการเดินทาง ไฟท์ที่บินรวม transit มีอาหารแบบฟลูคอร์สทั้งคู่นะคะไม่ต้องกลัวหิวเลยแถมยังมีถั่วถุงเล็กๆให้ขบเคี้ยวอีกด้วแต่เพื่อนร่วมเดินทางอันนี้แล้วแต่ดวงค่ะ ของเราทั้งลำเงียบมากคนจีนไม่คุยเสียงดังหรือลุกเดินไปมา แต่เราเจอเพื่อนร่วมทางเป็นหวัดนั่งไอไม่ปิดหน้ากากด้วย อีกรอบเจอคุณป้าดันเบาะกระแทกตลอดทางก็เป็นประสบกาณ์แปลกๆ แต่โดยรวมเรารู้สึกว่าสายการบินดีมากเลยค่ะ กัปตัน Landing นิ่มมากๆทุกรอบอันนี้ประทับใจมากกกกก ส่วนการเจอผู้โดยสารอันนี้แล้วแต่ดวงหละกัน ไม่เกี่ยวกับสายการบินนะ 5555555

บรรยายกาศภายในเครื่อง มีช่องด้านหน้าเหลือสภาพใหม่ละสะอาดมากๆนะคะไม่มีแจกชุดหมอน ผ้าห่มแต่แอบเห็นในแถวด้านหน้าถัดจาก Bussiness มีแจกค่ะ ส่วนของ Bussiness มีทั้ง 8 ตัวอยู่หน้าสุดค่ะ ปล.ขึ้นเครื่องช้าเลยถ่ายไม่ทันค่ะ ^^
ถั่วที่แจกพร้อมเครื่องดื่มให้เลือกได้หลายอย่างมี coca cola น้ำผลไม้(ส้ม,มะนาว,มะพร้าว,แอ๊ปเปิ้ล) ชา กาแฟ น้ำเปล่า แถมเติมได้ตลอดๆการเดินทางเลยค่ะ ถั่วจะมีเกลือคั่ว เค็มๆเคี้ยวเพลินดีค่ะ

มีชุดหูฟังแจกตั้งแต่ขึ้นเครื่องเสียบกับแจ็คด้านข้างเพื่อฟังจอรวมที่เปิดเป็นภาพยนตร์ค่ะ ส่วนอันนี้เป็นผ้าร้อนแอร์จะแจกก่อนทานอาหารจับดีๆนะคะเพราะร้อนมากแต่ก็เย็นเร็วมากเช่นกันค่ะ

เมนูอาหารมี 2 รายการนะคะอันบนเป็นข้าวผัดกับไก่รสชาติออกเปรี้ยวหวานแต่ไม่จัดจ้านค่ะ ส่วนอีกอันเป็นก๋วยเตี๋ยวผัดซีฟู๊ด(มีแต่กุ้งนะคะ)รสชาติธรรมดาค่อนไปจืดชืด ส่วนขนมหวานคล้ายๆขนมหม้อแกงบ้านเราค่ะขนมปังมาพร้อมเนยเนื้อขนมปังแน่นอร่อยค่ะ

ขอจิบน้ำส้มพร้อมกับดูบรรยากาศไปด้วย เจอแต่เมฆค่อนข้างอ้วนตลอดการเดินทางเลยค่ะตอนนี้อากาศยังไม่เย็นมากนะคะ หลุมอากาศไม่เยอะค่ะ ทานเสร็จก็หลับพักผ่อนต่อ

เราถึงเมือง Xiamen เวลา 17.00 น. หลังจากลงเครื่องแล้วเราจะไปทำ Transfer ต่อไปเมือง Harbin ไฟท์ในประเทศเวลา 18.45 น. ซึ่งหลังจากเราลงเครื่องจะต้องไปรอในจุดที่รอต่อเครื่องโดย จนท.แจ้งว่าจะต้องรอตรวจสอบสัมภาระเช็คอินของเราก่อนว่าเรียบร้อยจึงจะให้เราไปเช็คอินในไฟท์ต่อไปได้ โดยตอนที่เราเช็คอินที่สุวรรณภูมิเขาจะให้สติกเกอร์สีฟ้าวงกลมมาแปะที่หน้าอกเพื่อให้ จนท.ที่ Xiamen ทราบ ซึ่งเราว่าเป็นการจัดการที่ง่ายและได้ผลดีเพราะ จนท.ทีนี่สื่อสารภาษาจีนนักท่องเที่ยวจะสอบถามยาก ถ้าเขาเห็นสติกเกอร์แล้วในกรณีเราต่อไฟท์ไม่ทันเขาจะช่วยอำนวยความสะดวกให้เราก่อน

พื้นที่นั่งรอ Transfer ค่ะทุกคนจะมีสติกเกอร์แปะหน้าอกเพื่อให้ จนท.ทราบว่าเราเป็นนักเดินทางที่ต้องมีไฟท์บินไปต่อ

หลังจากที่สัมภาระเราตรวจสอบว่าเรียบร้อยแล้วเราก้เดินไปตามทาง Transfer ได้เลยโดยเราจะทำการผ่าน ตม. เข้าประเทศจีนที่เมือง Xiamen การผ่านก็ไม่มีเรื่องน่ากลัวเพราะข้อมูลของเราถูกสกรีนตั้งแต่ตอนขอวีซ่าไว้แล้ว ดังนั้น จนท.อาจจะถามว่าเรากี่วันและพักที่ไหนเท่านั้น พอผ่าน ตม.แล้วเราก็ไปที่ Gate เพื่อเตรียมเดินทางอีกครั้งสู่เมือง Harbin จร้า

ในไฟท์นี้เราจะต้องรอขึ้นเป็น Bus gate จะบินนี้ออกจาก Xiamen เวลา 18.45 น.แต่เกิดการ delay เครื่องออกจริงประมาณ 19.30 น. เมื่อขึ้นเครื่องมาสักพักแล้วกำหนดเดินทางเปลี่ยน เราเลยถามถึงปัญหาซึ่ง จนท.บริการก็น่ารักมากแจ้งว่าทางกัปตันยังไม่ได้แจ้งกำหนดเวลาเดินทางที่ชัดเจนและเขาก็บอกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ ต้องขอโทษมากๆจริงซึ่งถ้าผู้โดยสารจะขอความช่วยเหลือแจ้งได้ตลอดหลังจากนั้นก็แจกเครื่องดื่มให้ผู้โดยสารทั้งหมดซึ่งเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีมากๆนะคะ เราชื่นชมมากๆค่ะแอร์สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีเพียงบางท่านด้วยค่ะ ดังนั้นเราต้องเตรียมตัวในเรื่องภาษาไปด้วยนะ

ที่เบาะมีด้ายลุ่ยนิดนึงแต่โดยรวมก็สะอาดและใหม่มากค่ะ บรรยากาศภายในเครื่องจะเหมือนกับเที่ยวมาจากสุวรรณภูมิ มีชั้น Business จำนวน 8 ที่ และชั้น Economy เรียงเบาะแบบ 3-3 ซึ่งไฟท์นี้ส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนเกือบทั้งหมด มีความวุ่นวายแบบเล็กน้อย เสียงดัง ลุกเดินทั้งไฟท์ ซึ่งเราไม่ค่อยรำคาญอะไรเพราะนั่งติดหน้าต่างและไม่ลุกไปห้องน้ำอยู่แล้วค่ะ ไฟท์นี้ก็มีการแจกอาหารแบบชุดใหญ่เหมือนกันนะคะเมนูคล้ายๆไฟท์ที่แล้วในส่วนของก๋วยเตี๋ยวผัดทะเล แต่รอบนี้เราเลือกข้าวเป็นข้าวผัดไก่อร่อยกว่ามื้อที่แล้วค่ะ

ในไฟท์นี้ไม่มีการแจกหูฟังและผ้าห่มนะคะเบาะกว้างนั่งสบายเหมือนเดิม แต่พอใกล้จะถึง Harbin ที่หน้าต่างเริ่มมีน้ำแข็งเกาะและกระจกมีความเย็นแล้วค่ะ ตอนรอขึ้นเครื่องที่นี่อุณหภูมิอยู่ที่ 12 องศามีคราบหิมะนิดหน่อยค่ะ
มีถั่วให้เคี้ยวแก้เหงอีกแล้ว อร่อยและเคี้ยวมันส์มากค่ะ555555
ห่อนี้เรากับเพื่อนก็เดาว่าจะเป็นอะไร พอลองชิมเป็นหัวไช้เท้าดองฝอยอร่อยมากค่ะทานเพิ่มรสชาติให้อาหารอร่อยขึ้น หลังทานเรียบร้อยก็เก็บถุงเปล่าใส่กล่องคืนแอร์

เราลงเครื่องประมาณ 22.30 น. Delay จากกำหนดประมาณ 40 นาที หลังจากลงเครื่องแล้วเราก็มารอรับกระเป๋าได้เลยเพราะทำเรื่องผ่าน ตม.มาแล้ว ระบบลำเลียงกระเป๋าค่อนข้างเร็ว ที่จอสายพานจะเป็นกล้อง
[CR] รีวิวเที่ยวฮาร์บิน เซี่ยงไฮ้แบบคนมึนที่รวบรัด 5 วัน 4 คืน
เริ่มแรกของการเดินทางเกิดจากเพื่อนอยากไปชมอากาศหนาวส่วนเราอยากไปดูหิมะ เลยเกิดทริปเร่งด่วนนี้ขึ้นตัดสินใจกดจองตั๋วเดินทางจาก ar-pea.com ของสายการบิน Xiamen airline แล้วจัดการจองเพิ่มเพราะมีการขยายแพลนเดินทางมาเที่ยว Dineyland Shanghai เพิ่มด้วย สุดท้ายทริปนี้เลยเกิดจากความตั้งใจของ 2 คนที่อยากไปแม้ว่าความชอบในการเดินทางท่องเที่ยวจะแตกต่างกัน แต่เราก้นำผสมและปรับให้พอดีกับ Lifestyle ของเรา
**ในรีวิวใช้ภาษาฮาเฮสักหน่อยเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านนะคะ**
หลังจากกดจองตั๋วเครื่องเรียบร้อยเราก่ร่างแพลนต่างๆ ว่าจะไปที่ไหนบ้างกำหนดเวลาที่มีการเผื่อในกรณีเจอสภาพอากาศแย่หรือตกนัดการจองล่วงหน้าของสถานที่ต่างๆที่ ก้ได้แพลนคร่าวๆ
29/11/62 ออกจากสุวรรณภูมิโดย Xiamen airline flight NO.MF 854 เวลา 12.05 น.ถึง Xiamen 17.00 น.
รอ Transit ไป Harbin ถึงเวลา 22.50 น. เข้าที่พัก
30/12/62 เดินเที่ยวรอบๆแม่น้ำซงหัว ขึ้นกระเช้าข้ามไป Sun island แล้วชม Russia village
บ่ายข้ามมาทานอาหารกลางวัน แล้วเดินทางไป Siberia tiger
เย็น ไปซงหยางเดินชม Saint Sophia cathedral กลับที่พัก
01/12/62 เดินทางไป Volga manor เที่ยวทั้งวัน
เย็น กลับมาซงหยาง ชมอนุสารีย์ Stalin และเดินชมซงหยางรอบค่ำ
02/12/62 ไปสนามบินเดินทางมา Shanghai เข้าที่พักแล้วเข้าเมือง ชม Nanging Rd., Starbucks Reserve Roasery,
The bund กลับเข้าที่พัก
03/12/62 Check out ฝากกระเป๋าแล้เดินทางไป Disney land Shanghai
รับกระเป๋าเดินทางกลับบ้านโดย Juneyao airline flight HO1357 21.05 ถึงไทย 00.50 น.(เวลาท้องถิ่น)
แล้ววันเดินทางก็มาถึงงงง Let GOOOOO!!!
การเดินทางไปประเทศจีนต้องมีการทำวีซ่าทุกกรณี โดยความขึ้นชื่อของการขอเป็นเรื่องของรูปภาพที่นำไปติดเอกสาร เราจึงแฝงตัวตามกระทู้ต่างๆเพื่อหาร้านถ่ายรูปที่ถ่ายได้ตามข้อกำหนดจึงได้ข้อมูลเป็นร้าน Galaxy ^^ หลังจากถ่ายเสร็จแล้ว เราก็แอบกระซิบถามพนักงานอีกครั้งว่ารูปถูกต้องตามข้อกำหนดนะถ้าต้องมีการถ่ายใหม่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใช่ไหม ทางร้านก้แจ้งว่าใช่ค่ะส่วนข้อกำหนดหรืออาคารที่ตั้งสามารถดูรีวิวของท่านอื่นๆได้เลยนะคะ หลังจากนั้น 3 วันนำใบนัดไปรับ Passport เราคืนพร้อมชำระค่าธรรมเนียมได้เลย โดยวีซ่าจะพิมพ์ลงในหน้า Passport เราไม่ต้องกลัวหล่นหายเลยค่ะ
*ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าคนละ 1650 บาท ชำระวันรับวีซ่าครั้งเดียว
**การไปทำใช้เวลาเร็วมากก บริการดี พื่นที่สะอาดค่ะ อย่าลืมประทับตราจอดรถจะได้เสียค่าจอดไม่แพงนะคะ จอดฟรี 15 นาที… จนท. ทำเอกสารเร็วจนเราไม่ต้องเสียค่าที่จอดรถ
และวันเดินทางก้มาถึง เราเตรียมแลกเงินสดไป 10000 บาท คิดเป็น 2500 หยวนแลกที่ superrich พร้อมจัดกระเป๋าเดินทาง 1 ใบแน่นๆ มีเสื้อโค๊ทกับ heattech ไปกันจร้า (เรทเงิน ณ วันที่แลก 4.3 บาท = 1 หยวน) ค่ะ
วันที่ 29/11/62
สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Xiamen airline ไฟท์ MF 854 ออก 12.55 น. ถึง Xiamen 16.55 น.(เวลาท้องถิ่น) Transit ไฟท์ MF 8342 ถึง Harbin เวลา 22.40 น.(เวลาท้องถิ่น) เข้าที่พัก Joy Boutique Hotel
เราเดินทางมาถึงสนามบินเวลาประมาณ 09.30 น.ลงประตู 5 จะสามารถเข้ามาเจอเคาท์เตอร์เช็คอินเลย แต่เคาท์เตอร์เปิดทำการประมาณ 10.30 น. คนไม่เยอะค่ะ มาเร็วเลยไม่เจอทัวร์จีน จนท.น่ารัก ช่วยเหลือให้คำแนะนำดีมาก สามารถเลือกที่นั่งได้
ซึ่งเราจะได้ตั๋วมา 2 ใบซึ่งเลือกที่นั่งมาตั้งแต่สุวรรณภูมิและสัมภาระเราก้จะ Check through ไปที่ Harbin เลยค่ะ มีความสะดวกสบายและได้รับสัมภาระพร้อมเราลงเครื่องพอดี
หลังจาก check in แล้วก้เข้ามาเดินเล่นและรับสินค้าที่ King power ก่อนจะไปขึ้นเครื่องบิน ซึ่งเราได้ที่นั่ง 41A-42B ไม่ติดปีกเครื่องบิน บรรยายกาศบนเครื่องใหม่และสะอาด เบาะกว้างนั่งสบายค่ะ เพื่อนเราสูง 180 cm ไม่บ่นเมื่อยเลยค่ะตลอดการเดินทาง ไฟท์ที่บินรวม transit มีอาหารแบบฟลูคอร์สทั้งคู่นะคะไม่ต้องกลัวหิวเลยแถมยังมีถั่วถุงเล็กๆให้ขบเคี้ยวอีกด้วแต่เพื่อนร่วมเดินทางอันนี้แล้วแต่ดวงค่ะ ของเราทั้งลำเงียบมากคนจีนไม่คุยเสียงดังหรือลุกเดินไปมา แต่เราเจอเพื่อนร่วมทางเป็นหวัดนั่งไอไม่ปิดหน้ากากด้วย อีกรอบเจอคุณป้าดันเบาะกระแทกตลอดทางก็เป็นประสบกาณ์แปลกๆ แต่โดยรวมเรารู้สึกว่าสายการบินดีมากเลยค่ะ กัปตัน Landing นิ่มมากๆทุกรอบอันนี้ประทับใจมากกกกก ส่วนการเจอผู้โดยสารอันนี้แล้วแต่ดวงหละกัน ไม่เกี่ยวกับสายการบินนะ 5555555
บรรยายกาศภายในเครื่อง มีช่องด้านหน้าเหลือสภาพใหม่ละสะอาดมากๆนะคะไม่มีแจกชุดหมอน ผ้าห่มแต่แอบเห็นในแถวด้านหน้าถัดจาก Bussiness มีแจกค่ะ ส่วนของ Bussiness มีทั้ง 8 ตัวอยู่หน้าสุดค่ะ ปล.ขึ้นเครื่องช้าเลยถ่ายไม่ทันค่ะ ^^
ถั่วที่แจกพร้อมเครื่องดื่มให้เลือกได้หลายอย่างมี coca cola น้ำผลไม้(ส้ม,มะนาว,มะพร้าว,แอ๊ปเปิ้ล) ชา กาแฟ น้ำเปล่า แถมเติมได้ตลอดๆการเดินทางเลยค่ะ ถั่วจะมีเกลือคั่ว เค็มๆเคี้ยวเพลินดีค่ะ
มีชุดหูฟังแจกตั้งแต่ขึ้นเครื่องเสียบกับแจ็คด้านข้างเพื่อฟังจอรวมที่เปิดเป็นภาพยนตร์ค่ะ ส่วนอันนี้เป็นผ้าร้อนแอร์จะแจกก่อนทานอาหารจับดีๆนะคะเพราะร้อนมากแต่ก็เย็นเร็วมากเช่นกันค่ะ
เมนูอาหารมี 2 รายการนะคะอันบนเป็นข้าวผัดกับไก่รสชาติออกเปรี้ยวหวานแต่ไม่จัดจ้านค่ะ ส่วนอีกอันเป็นก๋วยเตี๋ยวผัดซีฟู๊ด(มีแต่กุ้งนะคะ)รสชาติธรรมดาค่อนไปจืดชืด ส่วนขนมหวานคล้ายๆขนมหม้อแกงบ้านเราค่ะขนมปังมาพร้อมเนยเนื้อขนมปังแน่นอร่อยค่ะ
ขอจิบน้ำส้มพร้อมกับดูบรรยากาศไปด้วย เจอแต่เมฆค่อนข้างอ้วนตลอดการเดินทางเลยค่ะตอนนี้อากาศยังไม่เย็นมากนะคะ หลุมอากาศไม่เยอะค่ะ ทานเสร็จก็หลับพักผ่อนต่อ
เราถึงเมือง Xiamen เวลา 17.00 น. หลังจากลงเครื่องแล้วเราจะไปทำ Transfer ต่อไปเมือง Harbin ไฟท์ในประเทศเวลา 18.45 น. ซึ่งหลังจากเราลงเครื่องจะต้องไปรอในจุดที่รอต่อเครื่องโดย จนท.แจ้งว่าจะต้องรอตรวจสอบสัมภาระเช็คอินของเราก่อนว่าเรียบร้อยจึงจะให้เราไปเช็คอินในไฟท์ต่อไปได้ โดยตอนที่เราเช็คอินที่สุวรรณภูมิเขาจะให้สติกเกอร์สีฟ้าวงกลมมาแปะที่หน้าอกเพื่อให้ จนท.ที่ Xiamen ทราบ ซึ่งเราว่าเป็นการจัดการที่ง่ายและได้ผลดีเพราะ จนท.ทีนี่สื่อสารภาษาจีนนักท่องเที่ยวจะสอบถามยาก ถ้าเขาเห็นสติกเกอร์แล้วในกรณีเราต่อไฟท์ไม่ทันเขาจะช่วยอำนวยความสะดวกให้เราก่อน
พื้นที่นั่งรอ Transfer ค่ะทุกคนจะมีสติกเกอร์แปะหน้าอกเพื่อให้ จนท.ทราบว่าเราเป็นนักเดินทางที่ต้องมีไฟท์บินไปต่อ
หลังจากที่สัมภาระเราตรวจสอบว่าเรียบร้อยแล้วเราก้เดินไปตามทาง Transfer ได้เลยโดยเราจะทำการผ่าน ตม. เข้าประเทศจีนที่เมือง Xiamen การผ่านก็ไม่มีเรื่องน่ากลัวเพราะข้อมูลของเราถูกสกรีนตั้งแต่ตอนขอวีซ่าไว้แล้ว ดังนั้น จนท.อาจจะถามว่าเรากี่วันและพักที่ไหนเท่านั้น พอผ่าน ตม.แล้วเราก็ไปที่ Gate เพื่อเตรียมเดินทางอีกครั้งสู่เมือง Harbin จร้า
ในไฟท์นี้เราจะต้องรอขึ้นเป็น Bus gate จะบินนี้ออกจาก Xiamen เวลา 18.45 น.แต่เกิดการ delay เครื่องออกจริงประมาณ 19.30 น. เมื่อขึ้นเครื่องมาสักพักแล้วกำหนดเดินทางเปลี่ยน เราเลยถามถึงปัญหาซึ่ง จนท.บริการก็น่ารักมากแจ้งว่าทางกัปตันยังไม่ได้แจ้งกำหนดเวลาเดินทางที่ชัดเจนและเขาก็บอกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ ต้องขอโทษมากๆจริงซึ่งถ้าผู้โดยสารจะขอความช่วยเหลือแจ้งได้ตลอดหลังจากนั้นก็แจกเครื่องดื่มให้ผู้โดยสารทั้งหมดซึ่งเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีมากๆนะคะ เราชื่นชมมากๆค่ะแอร์สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีเพียงบางท่านด้วยค่ะ ดังนั้นเราต้องเตรียมตัวในเรื่องภาษาไปด้วยนะ
ที่เบาะมีด้ายลุ่ยนิดนึงแต่โดยรวมก็สะอาดและใหม่มากค่ะ บรรยากาศภายในเครื่องจะเหมือนกับเที่ยวมาจากสุวรรณภูมิ มีชั้น Business จำนวน 8 ที่ และชั้น Economy เรียงเบาะแบบ 3-3 ซึ่งไฟท์นี้ส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนเกือบทั้งหมด มีความวุ่นวายแบบเล็กน้อย เสียงดัง ลุกเดินทั้งไฟท์ ซึ่งเราไม่ค่อยรำคาญอะไรเพราะนั่งติดหน้าต่างและไม่ลุกไปห้องน้ำอยู่แล้วค่ะ ไฟท์นี้ก็มีการแจกอาหารแบบชุดใหญ่เหมือนกันนะคะเมนูคล้ายๆไฟท์ที่แล้วในส่วนของก๋วยเตี๋ยวผัดทะเล แต่รอบนี้เราเลือกข้าวเป็นข้าวผัดไก่อร่อยกว่ามื้อที่แล้วค่ะ
ในไฟท์นี้ไม่มีการแจกหูฟังและผ้าห่มนะคะเบาะกว้างนั่งสบายเหมือนเดิม แต่พอใกล้จะถึง Harbin ที่หน้าต่างเริ่มมีน้ำแข็งเกาะและกระจกมีความเย็นแล้วค่ะ ตอนรอขึ้นเครื่องที่นี่อุณหภูมิอยู่ที่ 12 องศามีคราบหิมะนิดหน่อยค่ะ
เราลงเครื่องประมาณ 22.30 น. Delay จากกำหนดประมาณ 40 นาที หลังจากลงเครื่องแล้วเราก็มารอรับกระเป๋าได้เลยเพราะทำเรื่องผ่าน ตม.มาแล้ว ระบบลำเลียงกระเป๋าค่อนข้างเร็ว ที่จอสายพานจะเป็นกล้อง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้