ผมเริ่มทำงานมาได้ไม่นานครับ เงินเดือนค่อนข้างดีสำหรับเด็กจบใหม่ ถือว่าผมโชคดีมากที่พื้นฐานที่บ้านคอยสนับสนุนมาตลอด คอนโดก็มีอยู่ รถมีขับ ดังนั้นเงินเดือนที่ได้มาผมสามารถเก็บได้เยอะ เพราะรับผิดชอบแค่ค่าใช้จ่ายค่ากิน ค่าเดินทาง และอื่นๆของตัวเองไม่มากครับ (เลิกขอเงินพ่อแม่แล้ว) ตอนนี้ผมเก็บเงินประมาณ 70% ของเงินเดือน เอาไปลงทุนในหุ้น เงินตราตปท แล้วก็เก็บในบัญชีออมทรัพย์ กำหนดให้ตัวเองเหลือใช้เดือนละ 10,000 บาท ซึ่งในความคิดผมมันต้องเพียงพอ เพราะคนที่ภาระเยอะกว่าผมเค้ายังอยู่กันได้เลย ผมมีเป้าหมายจะเก็บเงินไว้สร้างบ้าน หรือลงทุนในธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นในอนาคตครับ แต่มีเรื่องที่ผมกลุ้มใจคือความคิดของแฟนครับ ที่บ้านแฟนฐานะพอๆกันครับ ไม่จนไม่รวย แฟนไม่ได้ติดหรูอยู่แพงอะไร แต่ยังใช้จ่ายกับของเล็กๆน้อยๆเยอะครับ เครื่องสำอางค์ เสื้อผ้า ของกิน แฟนแทบจะไม่มีเงินเก็บเลยครับ มีเท่าไหร่ใช้เท่านั้น ปัญหาคือหลังเลิกงานเค้าจะนัดเจอกับผมเพื่อกินข้าวบางทีก็กินข้างถนนบ้าง ห้างบ้าง ร้านแพงๆบ้าง มีตั้งแต่มื้อละ 100-1000 บาทเลยครับ ก่อนหน้านี้ตอนขอเงินพ่อแม่ผมชิวมาก ตอนนี้ใช้เงินตัวเองรู้สึกทุกมื้อมันแพงไปหมด เคยเปิดใจคุยกับเค้าว่าเหลือสักอาทิตย์ละ2-3วันได้มั้ย ที่เหลือมาทำกับข้าวกินที่ห้องนะ แฟนก็โอเคนะครับเค้าเข้าใจเป้าหมายในชีวิตผม แต่บางทีเค้าก็ลืมคือเหมือนเค้าไม่ได้รังเกียจของถูกหรือการทำอาหารกินเอง แต่เค้าติดการตามหาของกินตามร้านต่างๆ จากดูในยูทูป ในเพจรีวิวร้านอาหาร เรื่องอื่นๆผมก็รู้สึกพยายามอยู่คนเดียวครับ แฟนผมเค้าเกรดสูงกว่าโปรไฟล์ดูดีกว่า แต่เค้าเฟลที่ผมได้อะไรที่ดีกว่าในชีวิตการทำงานครับ ช่วงแรกเค้ารับไม่ค่อยได้ชอบเอาตัวเองมาเปรียบเทียบกับผม หลังๆมาเค้ารู้แล้วว่าเรียนเก่งไม่ใช่คำตอบทั้งหมดต้องมี soft skill ที่ดีด้วย เค้าเลยปลงๆกลายเป็นว่า เค้าฝากความหวังในการทำงานไว้กับผม แล้วเค้าบอกว่าจะไปทำงานตามความฝันทำงานที่อยู่แล้วสบายใจไม่เบื่อ ไม่สนใจเรื่องเงิน เรื่องความมั่นคง ซึ่งดูเหมือนจะไม่ได้พูดเล่นๆซะแล้วครับ ผมคิดหนักเลยว่าจะทำยังไงต่อไปดี
แฟนไม่มีอารมณ์ร่วมในการออมเงิน ทำยังไงดีครับ