(รบกวนผู้รู้ทุกท่านครับ ผมได้ลองศึกษาค้นคว้าเหตุการณ์ต่างที่เกิดขึ้น อันนำไปสู่ความขัดแย้งจนประทุเป็นสงครามโลกครั้งที่ 2 ในยุโรป ไม่แน่ใจว่ามีจุดที่จากตกหรือผิดในเรื่องข้อมูลหรือลำดับขั้นตอนหรือไม่ประการใด ชี้แนะได้นะครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ)
“สรุปไทม์ไลน์สภาวการณ์ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1”
1815 นโปเลียนนำพาฝรั่งเศสพ่ายแพ้ อังกฤษจึงผงาดเป็นมหาอำนาจหนึ่งเดียวที่ไร้ใครเทียบเทียม
1830 อังกฤษที่ได้ครอบงำอินเดีย และรัสเซียที่พยายามแผ่อิทธิพลลงมายังอัฟกานิสถานและตะวันออกกลาง เพื่อหาทางออกทะเลทางใต้ เกิดความหวาดระแวงกันและแข่งขันชิงไหวพริบในการขยายอิทธิพลในภูมิภาคดังกลาว ซึ่งเรียกต่อมาว่า “เกมอันยิ่งใหญ่ (The Great Game)” ซึ่งเป็นสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่าง 2 จักรวรรดิที่ยาวนานหลายสิบปี
1870 ฝรั่งเศสพ่ายแพ้ปรัสเซีย(เยอรมัน) สร้างความอัปยศแก่ฝรั่งเศสที่เคยเป็นมหาอำนาจเบอร์ต้นในภาคพื้นยุโรป
แถมฝรั่งเศสยังโดยโดดเดียวทางการทูต ไร้พันธมิตร จากการดำเนินทางการทูตของปรัสเซียภายใต้การนำของบิสมาร์ค ที่ทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับศัตรูเก่าของฝรั่งเศส คือ อิตาลี-สเปน-ออสเตรีย-รัสเซีย ครั้นสองไปที่อังกฤษ เพื่อนรักเพื่อนแค้น อังกฤษก็กำลังดำเนินนโยบาย “โดดเดี่ยวอย่างสง่างาม” ไม่ข้องแวะกับสงครามฝ่ายอื่นใดอีก
ด้วยสภาวะการณ์นี้ ฝรั่งเศสจึงต้องผลักดันตัวเองสู่เกมล่าอาณานิคม เพื่อกอบกู้เกียรติภูมิของชาติกลับคืนมา
1871 ปรัสเซียสถาปนา “จักรวรรดิเยอรมัน” ปฏิรูปจักวรรดิจนทันสมัย และเพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูเก่าอย่างฝรั่งเศสเข้ามายุ่งกับกิจการทางฝั่งยุโรปตะวันออก จึงชักชวนจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี และจักรวรรดิรัสเซีย เข้ามาเป็นพันธมิตรแนบแน่น
แต่ออสเตรีย-ฮังการี กับรัสเซีย ไม่ลงรอยกันจากศึกการแข่งกันแผ่อำนาจเข้าไปในคาบสมุทรบอลข่าน (แถวกรีซและประเทศรอบๆในปัจจุบัน) ทำให้ “สันนิบาตสามจักรวรรดิ” ที่เยอรมันปรารถนาก่อตั้งไม่ประสบความสำเร็จ
อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ให้เกิดสภาวะ “ศึกสองด้าน” เยอรมันนำโดย “บิสมาร์ค” จึงพยายามประคับประคองเป็นพันธมิตรกับรัสเซียต่อไป อันเรียกว่าสนธิสัญญาประกันพันธไมตรีเยอรมัน-รัสเซีย
- อังกฤษปล่อยให้เยอรมัน ซึ่งตอนนี้เป็นพันธมิตรกับออสเตรีย-ฮังการี และสนับสนุนให้ญี่ปุ่นพัฒนาประเทศในการปฏิรูปเมจิจนเติบใหญ่ เพื่อให้เป็นหอกข้างแคร่กันการขยายตัวของรัสเซียทางตะวันตกและตะวันออก เนื่องจากอังกฤษและรัสเซียขัดแย้งกันจากความพยายามแข่งขันแพร่อำนาจในตะวันออกกลาง -
1882 เยอรมัน ออสเตรีย-ฮังการี อิตาลี จัดตั้ง “ไตรพันมิตร”
1890 สนธิสัญญาประกันพันธไมตรีระหว่างเยอรมันและรัสเซียหมดอายุลง เยอรมันหลังปลดบิสมาร์กจากตำแหน่งผู้นำฯ จักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2แห่งเยอรมัน ทรงเปลี่ยนท่าทีทางการทูต เพราะเชื่อว่าการดำรงความสัมพันธ์ทางการทูตที่ใกล้ชิดกับรัสเซียจะชักนำให้อังกฤษซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งกับรัสเซียใน “เกมอันยิ่งใหญ่” เข้ามาข้องเกี่ยวกับการขยายอำนาจของเยอรมันเช่นกัน จึงไม่ต่อสนธิสัญญาประกันพันธไมตรีกับรัสเซีย
1892 รัสเซียที่ต้องการหาพันธมิตรหลังจากโดนเยอรมันเลิกการประกันพันธไมตรี จึงเข้าหา “ฝรั่งเศส” จัดตั้ง “พันธมิตรรัสเซีย-ฝรั่งเศส”
เป็นเหตุให้ฝรั่งเศสหลุดพ้นจากสภาวะโดดเดี่ยวทางการทูตได้ในที่สุด
1905 รัสเซียพ่ายแพ้ญี่ปุ่น ซึ่งอังกฤษก็แอบข่วยอ้อมๆ เช่น ขัดขวางการเดินทางของเรือรบรัสเซียจากฝั่งยุโรป สู่ฝั่งเอเชียตะวันออก โดยการปิดไม่ให้รัสเซียใช้คลองสุเอซ และแบนไม่ให้เรือรบรัสเซียเติมถ่านหินตามท่าสถานีของอังกฤษ
- เยอรมันผงาดขึ้นมา กลายเป็นมหาอำนาจที่เจริญทั้งทางด้านการค้า (ส่งออกอันดับ 2 ของโลกรองตากอังกฤษ อุตสาหกรรมสีย้อม 90%ของโลก) ด้านเทคโนโลยี (ชาวเยอรมันกวาดรางวัลโนเบลได้ 1/3 ทุกปี) ฯลฯ -
1907 อังกฤษที่เริ่มเห็นว่าเยอรมันเติบโตเกินกว่าที่คาดการณ์ จึงได้ร่วมมือกันเป็น “ภาคีอังกฤษ-รัสเซีย” เพื่อสกัดกั้นการเติบโตของเยอรมัน
และต่อมา “ภาคีอังกฤษ-รัสเซีย” ก็ได้บรรลุข้อตกลงในการผนวก “พันธมิตรรัสเซีย-อังกฤษ” รวมเป็น “ไตรภาคี” เพื่อค้านอิทธิพลของ “ไตรพันธมิตร” ต่อไป
ไตรภาคี และ ไตรพันธมิตร จึงกลายเป็นสองขั้วอำนาจที่จะพัฒนาขัดแย้งไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 ในที่สุด
**ผิดถูกอย่างไรขออภัยล่วงหน้านะครับ**
**ขอบคุณที่ชี้แนะครับ**
สรุปไทม์ไลน์ก่อนเกิด WW1 เช่นนี้ถูกต้องไหมครับ
“สรุปไทม์ไลน์สภาวการณ์ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1”
1815 นโปเลียนนำพาฝรั่งเศสพ่ายแพ้ อังกฤษจึงผงาดเป็นมหาอำนาจหนึ่งเดียวที่ไร้ใครเทียบเทียม
1830 อังกฤษที่ได้ครอบงำอินเดีย และรัสเซียที่พยายามแผ่อิทธิพลลงมายังอัฟกานิสถานและตะวันออกกลาง เพื่อหาทางออกทะเลทางใต้ เกิดความหวาดระแวงกันและแข่งขันชิงไหวพริบในการขยายอิทธิพลในภูมิภาคดังกลาว ซึ่งเรียกต่อมาว่า “เกมอันยิ่งใหญ่ (The Great Game)” ซึ่งเป็นสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่าง 2 จักรวรรดิที่ยาวนานหลายสิบปี
1870 ฝรั่งเศสพ่ายแพ้ปรัสเซีย(เยอรมัน) สร้างความอัปยศแก่ฝรั่งเศสที่เคยเป็นมหาอำนาจเบอร์ต้นในภาคพื้นยุโรป
แถมฝรั่งเศสยังโดยโดดเดียวทางการทูต ไร้พันธมิตร จากการดำเนินทางการทูตของปรัสเซียภายใต้การนำของบิสมาร์ค ที่ทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับศัตรูเก่าของฝรั่งเศส คือ อิตาลี-สเปน-ออสเตรีย-รัสเซีย ครั้นสองไปที่อังกฤษ เพื่อนรักเพื่อนแค้น อังกฤษก็กำลังดำเนินนโยบาย “โดดเดี่ยวอย่างสง่างาม” ไม่ข้องแวะกับสงครามฝ่ายอื่นใดอีก
ด้วยสภาวะการณ์นี้ ฝรั่งเศสจึงต้องผลักดันตัวเองสู่เกมล่าอาณานิคม เพื่อกอบกู้เกียรติภูมิของชาติกลับคืนมา
1871 ปรัสเซียสถาปนา “จักรวรรดิเยอรมัน” ปฏิรูปจักวรรดิจนทันสมัย และเพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูเก่าอย่างฝรั่งเศสเข้ามายุ่งกับกิจการทางฝั่งยุโรปตะวันออก จึงชักชวนจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี และจักรวรรดิรัสเซีย เข้ามาเป็นพันธมิตรแนบแน่น
แต่ออสเตรีย-ฮังการี กับรัสเซีย ไม่ลงรอยกันจากศึกการแข่งกันแผ่อำนาจเข้าไปในคาบสมุทรบอลข่าน (แถวกรีซและประเทศรอบๆในปัจจุบัน) ทำให้ “สันนิบาตสามจักรวรรดิ” ที่เยอรมันปรารถนาก่อตั้งไม่ประสบความสำเร็จ
อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ให้เกิดสภาวะ “ศึกสองด้าน” เยอรมันนำโดย “บิสมาร์ค” จึงพยายามประคับประคองเป็นพันธมิตรกับรัสเซียต่อไป อันเรียกว่าสนธิสัญญาประกันพันธไมตรีเยอรมัน-รัสเซีย
- อังกฤษปล่อยให้เยอรมัน ซึ่งตอนนี้เป็นพันธมิตรกับออสเตรีย-ฮังการี และสนับสนุนให้ญี่ปุ่นพัฒนาประเทศในการปฏิรูปเมจิจนเติบใหญ่ เพื่อให้เป็นหอกข้างแคร่กันการขยายตัวของรัสเซียทางตะวันตกและตะวันออก เนื่องจากอังกฤษและรัสเซียขัดแย้งกันจากความพยายามแข่งขันแพร่อำนาจในตะวันออกกลาง -
1882 เยอรมัน ออสเตรีย-ฮังการี อิตาลี จัดตั้ง “ไตรพันมิตร”
1890 สนธิสัญญาประกันพันธไมตรีระหว่างเยอรมันและรัสเซียหมดอายุลง เยอรมันหลังปลดบิสมาร์กจากตำแหน่งผู้นำฯ จักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2แห่งเยอรมัน ทรงเปลี่ยนท่าทีทางการทูต เพราะเชื่อว่าการดำรงความสัมพันธ์ทางการทูตที่ใกล้ชิดกับรัสเซียจะชักนำให้อังกฤษซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งกับรัสเซียใน “เกมอันยิ่งใหญ่” เข้ามาข้องเกี่ยวกับการขยายอำนาจของเยอรมันเช่นกัน จึงไม่ต่อสนธิสัญญาประกันพันธไมตรีกับรัสเซีย
1892 รัสเซียที่ต้องการหาพันธมิตรหลังจากโดนเยอรมันเลิกการประกันพันธไมตรี จึงเข้าหา “ฝรั่งเศส” จัดตั้ง “พันธมิตรรัสเซีย-ฝรั่งเศส”
เป็นเหตุให้ฝรั่งเศสหลุดพ้นจากสภาวะโดดเดี่ยวทางการทูตได้ในที่สุด
1905 รัสเซียพ่ายแพ้ญี่ปุ่น ซึ่งอังกฤษก็แอบข่วยอ้อมๆ เช่น ขัดขวางการเดินทางของเรือรบรัสเซียจากฝั่งยุโรป สู่ฝั่งเอเชียตะวันออก โดยการปิดไม่ให้รัสเซียใช้คลองสุเอซ และแบนไม่ให้เรือรบรัสเซียเติมถ่านหินตามท่าสถานีของอังกฤษ
- เยอรมันผงาดขึ้นมา กลายเป็นมหาอำนาจที่เจริญทั้งทางด้านการค้า (ส่งออกอันดับ 2 ของโลกรองตากอังกฤษ อุตสาหกรรมสีย้อม 90%ของโลก) ด้านเทคโนโลยี (ชาวเยอรมันกวาดรางวัลโนเบลได้ 1/3 ทุกปี) ฯลฯ -
1907 อังกฤษที่เริ่มเห็นว่าเยอรมันเติบโตเกินกว่าที่คาดการณ์ จึงได้ร่วมมือกันเป็น “ภาคีอังกฤษ-รัสเซีย” เพื่อสกัดกั้นการเติบโตของเยอรมัน
และต่อมา “ภาคีอังกฤษ-รัสเซีย” ก็ได้บรรลุข้อตกลงในการผนวก “พันธมิตรรัสเซีย-อังกฤษ” รวมเป็น “ไตรภาคี” เพื่อค้านอิทธิพลของ “ไตรพันธมิตร” ต่อไป
ไตรภาคี และ ไตรพันธมิตร จึงกลายเป็นสองขั้วอำนาจที่จะพัฒนาขัดแย้งไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 ในที่สุด
**ผิดถูกอย่างไรขออภัยล่วงหน้านะครับ**
**ขอบคุณที่ชี้แนะครับ**