หลายๆ คนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวก็คงหมายมั่นปั้นมือว่าจะได้สัมผัสประสบการณ์หิมะ เราก็เป็นหนึ่งในนั้น ลานสกีที่เราเลือกไปคือ
“คันนาเบะ (Kannabe Highlands)” ด้วยเหตุผลที่ว่าอยู่ใกล้ทั้งโอซาก้า เกียวโต โกเบ และย่านคิโนะซากิออนเซ็น ของเมืองโทโยโอกะตามแพลนที่วางไว้ อีกทั้งคันนาเบะเป็นสกีรีสอร์ทที่ใช้หิมะจริงๆ ต่างจากหลายๆ ที่ที่ใช้หิมะเทียม (อย่างเช่นที่สกีรีสอร์ทบนเขา Rokko) เปิดให้บริการช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนมีนาคม เราตั้งใจไว้แล้วว่าจะไปลองเรียนสกี (ครั้งแรก) และนี่ก็เป็นการเจอหิมะเป็นครั้งแรกของเราด้วย ตื่นเต้นมาก เฮ้!
เราเดินทางจากโอซาก้าค่ะ โดยการนั่ง Zentan Bus จาก Hankyu Highway Bus Osaka-Umeda Terminal บริเวณสถานีรถไฟอุเมดะ ไปลงที่ป้าย Hidaka Shokokaitatemae ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง บนรถมี Wifi ให้พร้อม ราคา 3,350 เยนต่อคน ซึ่งเท่าที่เราหาข้อมูลมานี่เป็นวิธีการเดินทางที่ประหยัดและสะดวกที่สุด ถ้าใครนั่งรถไฟก็ให้ไปลงที่สถานี Ebara ได้เหมือนกันค่า แต่ต้องเปลี่ยนสายเยอะหน่อย
ลงบัสแล้วให้ไปต่อรถบัสท้องถิ่นที่ป้าย Ebara เพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังคันนาเบะ ไฮแลนด์ (Kannabe Highlands) โดยต้องซื้อตั๋วโดยสารเพิ่มภายในรถบัสอีก 200 เยนต่อคน หรือจะเช่ารถขับเองก็ได้เหมือนกันนะคะ ลานสกีจะเปิดให้บริการตลอดช่วงฤดูหนาวตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนมีนาคม
ปักหมุดลิสต์กิจกรรมและสถานที่ที่เราไป
1.เรียนสกีครั้งแรกและเล่นหิมะที่อัพคันนาเบะ (Up Kannabe)
2.เดินเขาหิมะ กินฟองดูท่ามกลางวิว 360 องศาบนภูเขาคันนาเบะ (Mt.Kannabeyama)
3.แช่ออนเซ็นคลายหนาวที่ยุโทโรงิ (Kannabe Onsen Yutorogi)
4.เล่น Banana Ski ที่โอคุคันนาเบะ (Oku Kannabe)
5.พักที่เรียวกังริมลานสกี ตื่นเช้ามาเจอหิมะที่คันนาเบะ ไฮแลนด์ (Kannabe Highland Hotel)
1. เรียนสกีครั้งแรกและเล่นหิมะที่อัพคันนาเบะ (Up Kannabe)
ลานสกีแรกที่เราไปคือ “อัพคันนาเบะ (Up Kannabe : アップかんなべ)” ให้นั่งบัสไปลงที่ป้าย Kannabe Onsen Yutorogi-mae เพราะที่นี่มีจุดเล่นสกี 4 จุด ซึ่งรองรับตั้งแต่มือสมัครเล่นไปจนถึงมืออาชีพ ข้อดีของลานสกีนี้จะมีคลาสเรียนสกีกับครูที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ เราไม่ได้เตรียมอุปกรณ์อะไรไปเลย ที่นี่จะมีให้เช่าทั้งหมดตั้งแต่เสื้อ กางเกง รองเท้า ถุงมือ ไม้สกี ไม้สต็อก สิ่งที้ต้องบอกให้เจ้าหน้าที่ทราบก็คือส่วนสูงและความยาวเท้าของเราเป็นเซนติเมตร เราจำราคาแน่นอนไม่ได้ แนะนำไปสอบถามที่ลานสกี แต่เราว่าไม่แพงเลย ถ้าเทียบกับลานสกีที่ฮอกไกโดหรือนีงาตะ


โดยครูจะพาเราไปที่ลานสกีสำหรับเด็ก (เขินนิดหน่อย) มันไม่ชันมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่เคยเล่นมาก่อนเลยเหมือนเรา เริ่มต้นด้วยการวอร์มอัพ จากนั้นครูจะสอนเราตั้งแต่วิธีการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ไปจนถึงวิธีเดินบนหิมะและวิธีชะลอหยุด วิธีเดินบนไม้สกีเนี่ยยากกกกกมากกกกก เพราะมันหนักและมันจะลื่นไหนตลอดถ้าอยู่บนหิมะ ครูแนะนำว่าให้เราเดินเป็นให้แผ่นไม้สกีเป็นแนวนอน กดเท้าเอียงให้จมลงหิมะนิดหน่อยเพื่อไม่ให้ลื่น ใช้แรงค่อนข้างเยอะมากค่ะทุกคน ฮือ ส่วนวิธีชะลอหยุดคือค่อยๆ หันปลายเท้าด้านหน้าชิดเข้าหากัน ส้นแยกออก ให้เป็นทรงสามเหลี่ยม (/\) จากนั้นเค้าก็จะปล่อยให้เราลอง แต่ไม่ต้องกลัวนะคะ ครูประกบข้างตลอดเลย ตอนแรกเราหยุดไม่ค่อยได้ ลื่นล้มก้นจ้ำเบ้าตลอดเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ สนุกและปวดขามากค่ะ



วันที่สองพอเราเริ่มเล่นเป็นแล้ว เค้าจะพาขึ้นไปยังจุดที่ชันขึ้น ต้องนั่งลิฟท์เก้าอี้ลอยฟ้าขึ้นไปด้านบน จุดนี้ก็น่าหวาดเสียวอยู่นะคะ เนื่องจากนังเก้าอี้นี่ไม่หยุดจอดนะคะ มันหมุนเรื่อยๆ ฮือออออ เราต้องไถสกีเพื่อกะให้ตรงเก้าอี้ตอนขึ้น และตอนลงก็ต้องกะจังหวะโดดลงเก้าอี้พร้อมไถสกีลงมา จุดนี้ต้องรีบๆ หุบปลายเท้าเพื่อชะลอด้วยนะ เดี๋ยวเลยไปไกล แล้วค่อยสกีลงมาด้านล่าง วันนี้เราเรียนการเลี้ยวเพิ่มเติมนะคะ ล้มบ่อยกว่าเดิมอีก เวลาลุกให้ตะแคงสกีไปทางเดียวกัน ซ้ายหรือขวา ลักษณะเหมือนนั่งพับเพียบ แล้วใช้ไม้ค้ำพยุงตัวเองลุกขึ้น พูดเหมือนง่ายแต่จริงๆ ทำยากมากก ใครที่ยังไม่เคยเล่น แนะนำว่าต้องมาลองสักครั้ง เหนื่อยจนลืมหนาวไปเลยค่ะ
ส่วนใครที่พาลูกเด็กเล็กแดงไปด้วย บริเวณนี้ยังมีสวนสนุกยังมีสไลเดอร์บนหิมะที่นุ่มๆ ม้าหมุน, รถลากหิมะ ฯลฯ ลานสกีอัพคันนาเบะนี้เปิดตั้งแต่ 8:30-21:30 น. เลย สำหรับราคาตั๋ว 1 วัน: จ.-ศ. 3,500 เยน, ส.-อา. 4,500 เยน (ผู้ใหญ่) / ทุกวัน 2,800 เยน (เด็ก), Nighter Lift Ticket (18:00-21:30 น.) 2,500 เยน
2. เดินเขาหิมะ กินฟองดูท่ามกลางวิว 360 องศาบนภูเขาคันนาเบะ (Mt.Kannabeyama)
ใกล้ๆ กับอัพคันนาเบะมีกิจกรรมน่าสนใจอีกซึ่งก็คือ “การเดินเขาหิมะ (Snow Trekking)” เพราะตรงนี้มีภูเขาคันนาเบะ (Mt.Kannabeyama) ค่ะซึ่งมี Kannabe Nature School เปิดให้ผู้สนใจติดต่อขึ้นไปเดินเขา จากคนที่ไม่ออกกำลังกาย อยู่ไทยก็เลี่ยงการปีนเขา แล้วต้องมาสโนว์เทรกกิ้งที่ภูเขาหิมะ แต่ก็นั่นแหละค่ะมาทั้งทีต้องเอาให้คุ้มเนอะ
การเดินเขาหิมะจะมีอุปกรณ์พิเศษคือรองเท้าเดินหิมะ (Snowshoe) ทรงแปลกตา เราแนะนำให้เช่าสตาฟนำทางไปด้วย เพราะจะได้ไปยังเส้นทางลับ เช่น รอบปากปล่องภูเขาไฟ จากพื้นขึ้นไปถึงปากปล่องภูเขาไฟคันนาเบะเป็นเส้นทางการเดินเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะหนานุ่ม ทางชันอยู่นะ คือเราเหงื่อออกอะทั้งๆ ที่อยู่ท่ามกลางหิมะ เราทำได้แค่ตะโกน yukkuri (ช้าๆ ค่า) สลับกับ tsukareta (หนูเหนื่อยยย) บอกคนนำตลอดทาง ฮ่าๆๆ
สุดท้ายก็ได้ฟองดู กล้วยจิ้มช็อคกินคู่กับบิสกิต ชาส้มแมนดารินจากคนนำทาง และวิวดีๆ ปลอบใจแหละ ฮือออ ถ้ามีโอกาสอยากให้ทุกคนมาลองกันนะคะ สตาฟหนุ่มพูดภาษาอังกฤษได้ค่า สนนราคา 5,500 เยน/คน (ราคารวมชุดและคนนำทาง)
(เดี๋ยวมาต่อในคอมเมนต์นะคะ)
[CR] KANNABE : รีวิวเรียนสกีครั้งแรก เดินเขาหิมะครั้งแรกที่ “คันนาเบะ” สกีรีสอร์ทวิวสวยฝั่งคันไซ!
1.เรียนสกีครั้งแรกและเล่นหิมะที่อัพคันนาเบะ (Up Kannabe)
2.เดินเขาหิมะ กินฟองดูท่ามกลางวิว 360 องศาบนภูเขาคันนาเบะ (Mt.Kannabeyama)
3.แช่ออนเซ็นคลายหนาวที่ยุโทโรงิ (Kannabe Onsen Yutorogi)
4.เล่น Banana Ski ที่โอคุคันนาเบะ (Oku Kannabe)
5.พักที่เรียวกังริมลานสกี ตื่นเช้ามาเจอหิมะที่คันนาเบะ ไฮแลนด์ (Kannabe Highland Hotel)
1. เรียนสกีครั้งแรกและเล่นหิมะที่อัพคันนาเบะ (Up Kannabe)
ลานสกีแรกที่เราไปคือ “อัพคันนาเบะ (Up Kannabe : アップかんなべ)” ให้นั่งบัสไปลงที่ป้าย Kannabe Onsen Yutorogi-mae เพราะที่นี่มีจุดเล่นสกี 4 จุด ซึ่งรองรับตั้งแต่มือสมัครเล่นไปจนถึงมืออาชีพ ข้อดีของลานสกีนี้จะมีคลาสเรียนสกีกับครูที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ เราไม่ได้เตรียมอุปกรณ์อะไรไปเลย ที่นี่จะมีให้เช่าทั้งหมดตั้งแต่เสื้อ กางเกง รองเท้า ถุงมือ ไม้สกี ไม้สต็อก สิ่งที้ต้องบอกให้เจ้าหน้าที่ทราบก็คือส่วนสูงและความยาวเท้าของเราเป็นเซนติเมตร เราจำราคาแน่นอนไม่ได้ แนะนำไปสอบถามที่ลานสกี แต่เราว่าไม่แพงเลย ถ้าเทียบกับลานสกีที่ฮอกไกโดหรือนีงาตะ
ใกล้ๆ กับอัพคันนาเบะมีกิจกรรมน่าสนใจอีกซึ่งก็คือ “การเดินเขาหิมะ (Snow Trekking)” เพราะตรงนี้มีภูเขาคันนาเบะ (Mt.Kannabeyama) ค่ะซึ่งมี Kannabe Nature School เปิดให้ผู้สนใจติดต่อขึ้นไปเดินเขา จากคนที่ไม่ออกกำลังกาย อยู่ไทยก็เลี่ยงการปีนเขา แล้วต้องมาสโนว์เทรกกิ้งที่ภูเขาหิมะ แต่ก็นั่นแหละค่ะมาทั้งทีต้องเอาให้คุ้มเนอะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้